ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 972 ปรมาจารย์

การปรากฏตัวของปลากระเบนน้ำจืดทำให้การผจญภัยในป่าฝนของพวกเขามีสีสันขึ้นมา เดิมทีพวกเขามาที่นี่ก็เพื่อผจญภัย ถ้าหากว่าเจอแค่นกแคสโซวารีกับนกอีเสือ แบบนั้นจะน่าเบื่อแค่ไหนกันเชียว?
แม้ว่าตอนนั้นมันจะน่ากลัวมาก และพวกเขาทั้งกลุ่มจะตกใจกลัว แต่ว่าเมื่อมองกลับไป พวกเขากลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
โดยเฉพาะชากูนิส เขามาพูดกับฉินสือโอวหลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว คาริสนำบรั่นดีมาให้เขาหนึ่งแก้ว จากนั้นความตื่นตระหนกของเขาก็หายไป และแทนที่ด้วยความตื่นเต้นแทน
“ตอนนั้นผมคิดเพียงว่าอยากจะจับปลาตัวเล็กๆ อย่างปลาเก๋าหยกให้ได้สักตัวเท่านั้น ดังนั้นผมเลยเลือกใช้เอ็นแปดปอนด์ หลังจากที่โยนเหยื่อลงไปแล้ว ผมรู้สึกว่ามีปลาเข้ามาติดเบ็ด ทุกคน ผมสามบานต่อพระเจ้าเลย ตอนนั้นไม่ใช่ปลาตัวใหญ่นั้นแน่นอน เป็นแค่ปลาตัวเล็กๆ เท่านั้น และอาจจะเป็นปลากะพงอะไรพวกนั้น”
“หลังจากนั้นผมก็เตรียมดึงเบ็ด ปรากฏว่าจากนั้นก็เกิดแรงดึงมหาศาล ผมไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ ได้ แรงมหาศาลนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเกินไป ขนาดที่ว่าเส้นเอ็นขาดแล้ว แต่ผมก็ยังคงถูกดึงลงน้ำไป”
บิลลี่เอ่ยขัดจังหวะขึ้นมาว่า “อาจจะพูดได้ว่า คุณและปลากระเบนตัวนั้นน่าจะเลือกเหยื่อตัวเดียวกัน พวกคุณเลยต้องแข่งกันชักเย่อ โชคไม่ดี ที่คุณแพ้!”
“อ้อ เพื่อนยาก คุณน่าจะรู้นะว่า การแข่งกันชักเย่อแบบนี้ไม่ยุติธรรม พวกเราเห็นว่าปลากระเบนตัวนั้นมีขนาดใหญ่มากแค่ไหน ปีกของมันยาวถึงห้าเมตร ใช่ไหม?” บอดี้การ์ดคนหนึ่งส่ายหัวพลางพูดกลั้วหัวเราะ
เบลคพูดออกมาอย่างเสียดายว่า “ตอนนั้นพวกเราควรจะถ่ายรูปไว้นะ มันจะต้องเป็นอะไรที่น่าจดจำมากแน่ๆ ปัจจุบันพบเจอปลากระเบนได้ยากแล้ว ยิ่งปลากระเบนตัวใหญ่ขนาดนี้…”
เขาพูดพลางส่ายหัวไปมา ท่าทางบ่งบอกว่าสายเกินไปแล้ว
คาริสตบเข้าที่แผงวงจรที่อยู่บริเวณกระดุมเสื้อตรงหน้าอก “พวกเราเก็บเรื่องทั้งหมดที่เราพบเจอที่นี่ไว้ในนี้เถอะ กลับไปก็เปิดดูในคอมพิวเตอร์ได้ ผมจะคัดลอกส่งให้พวกคุณทุกคน”
แบรนดอนที่นั่งอยู่ข้างๆ ชากูนิสหัวเราะขึ้นมาเสียงดัง “แต่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการจะเห็นภาพเหตุการณ์นั้นแน่นอน”
ชากูนิสพูดออกมาด้วยความเหนื่อยใจว่า “เอาล่ะ พวก ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมตกใจกลัว! แต่ว่าผมน่ะถูกพวกคนเลวอย่างคุณทำให้กลัว ท่าทางของพวกคุณตอนนั้น ราวกับว่ามีไดโนเสาร์กำลังยืนอยู่ข้างหลังผมเลย! ไม่สิ น่าจะเป็นมนุษย์ต่างดาวมากกว่า เวลามนุษย์ต่างดาวปรากฏตัวในหนัง ท่าทางอยากตายของนักแสดงพวกนั้นเหมือนกับพวกคุณเลย!”
ในตอนที่พูด เขาก็ทำตัวแข็ง เบิกตาและอ้าปากกว้างแสดงท่าทางออกมาเกินความเป็นจริงไปมาก
ทุกคนพากันหัวเราะขึ้นมา คาริสพูดขึ้นด้วยความกลัวว่า “ผมกลัวจริงๆ นะ พวก หากว่าคุณต้องถูกฝังอยู่ที่นี่ เกรงว่าชั่วชีวิตผมคงไม่มีงานทำแล้วเป็นแน่!”
“ดังนั้นพวกเราควรขอบคุณฉิน ใช่ไหม?” เบลคลุกขึ้นพูด “ท่าทางของฉินในตอนนั้น ทำให้ผมตกใจมากเลยนะ! ใครกันที่เลือกจะลงน้ำเป็นคนแรก? ใครกันที่ไปช่วยเพื่อนร่วมทีมของเราเป็นคนแรก?”
ทุกคนชี้มาที่ฉินสือโอว จากนั้นฉินสือโอวลุกขึ้นแล้วโค้งตัวให้ แล้วพูดเล่นออกมาว่า “แล้วแบบนี้ผมต้องกล่าวคำขอบคุณด้วยหรือเปล่า?”
“ต้อง!” “จำเป็น!” “จัดมาสักหน่อย!”
มีคนสองสามคนร้องขึ้นมาพร้อมกัน ฉินสือโอวให้ความร่วมมือกับพวกเขา อีกอย่างก็เพื่อทำให้ทุกคนสนุกสนานด้วย
หลังจากที่รู้ว่าในแม่น้ำมีปลากระเบนตัวใหญ่อยู่ ก็ไม่มีใครกล้าไปตกปลาที่ริมแม่น้ำอีกเลย แม้จะไปตักน้ำก็ไปตักอย่างระมัดระวัง
อาวุธโจมตีของปลากระเบนคือหางที่อยู่ด้านหลัง หนามที่อยู่ด้านบนหางมีพิษอยู่ แม้ว่าเมื่อโดนแทงแล้วจะไม่ได้ฆ่าคนให้ตายได้ แต่ก็เป็นอัมพาตไปแล้วครึ่งร่าง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าใครจะรู้ว่าในน้ำนั้นซ่อนงูน้ำอะไรไว้อีกหรือไม่? งูในออสเตรเลียทุกสายพันธุ์เป็นงูที่มีพิษ อีกทั้งยังเป็นพิษต่อระบบประสาท หลังจากโดนกัดอาจถึงตายได้เลย!
อันที่จริงแล้วปลากระเบนเป็นสัตว์น้ำที่ค่อนข้างเชื่อง ตั้งแต่มีการค้นพบสัตว์ชนิดนี้ ยังไม่มีการรายงานการตายของมนุษย์ที่เกิดจากการโดนปลากระเบนแทงเลยสักครั้ง ตรงกันข้ามกับแมงกะพรุนที่สวยงาม ที่มีรายงานการตายของคนจากพวกมันทุกปีปีละหลายสิบคน
แต่จิตสำนึกของคนเรานั้นก็แปลก พวกเขามีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งมีชีวิตหรืออะไรก็ตามที่ดูดุร้ายและอันตราย แต่กลับมองข้ามสิ่งมีชีวิตน่ารักมีเสน่ห์ทั้งที่ความจริงแล้วพวกมันเป็นสายพันธุ์ที่ดุร้าย
จากจุดนี้เราจะเห็นเรื่องความสำคัญของรูปลักษณ์ภายนอก…
หลังจากที่ทานอาหารเสร็จ พวกเขาก็ดับไฟ จากนั้นก็เดินย้อนกลับทางเดิม
เดิมทีมีการวางแผนว่าจะใช้เส้นทางอื่นในการกลับ แต่ว่าเมื่อเจอเรื่องปลากระเบนเข้าก็ทำให้เหล่าบอดี้การ์ดระมัดระวังมากขึ้น พวกเขาพยายามที่จะลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุให้น้อยที่สุด
เมื่อขับผ่านบ้านร้างแห่งหนึ่งฉินสือโอวก็หยุดรถแล้วลงจากรถมา เขาเดินเข้าไปสำรวจ แล้วหยิบอิฐออกมาสองสามก้อน
คนบนรถแปลกใจว่าทำไมเขาต้องเอาอิฐกลับมาด้วย ฉินสือโอวทำเพียงหัวเราะแต่ไม่ได้อธิบายอะไร
เมื่อกลับมาถึงรีสอร์ต การกระทำของฉินสือโอววันนี้ก็ค่อยๆแพร่กระจายออกไปเป็นวงแคบๆ โมล ซิต เคอร์ และคนอื่นๆ พากันโทรมาหาเขา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเหตุการณ์ในตอนนั้น หลังจากนั้นพวกเขาก็เอ่ยชมฉินสือโอว
ตกเย็นไวส์ก็รีบมาหาฉินสือโอว เขาถามขึ้นว่า “อะจารย์ มีคนบอกว่าคุณฆ่าฉลามตัวใหญ่ในป่า ใช่ไหมครับ? คุณใช้พลังอะไรงั้นเหรอ? ใช่สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรไหม?”
ฉินสือโอวอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา นี่เป็นการบิดเบือนความจริงชัดๆ ตอนนี้ไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่ออกมาจากปากของเด็กคนนี้จะกลายเป็นเรื่องอะไรไปแล้วบ้าง กิจกรรมที่รีสอร์ตจะมีมากมาย แต่หัวข้อบทสนทนานั้นมีน้อย เขาในตอนนี้เหมือนกลายเป็นเครื่องสร้างบทสนทนาไปแล้ว
ฉินสือโอวอธิบายออกมาว่าพวกเขาไม่ได้เจอกับฉลาม พวกเขาเจอเพียงปลากระเบนหนึ่งตัวเท่านั้น เขาไม่ได้ฆ่าปลาตัวนั้นตาย เพียงแค่ไปช่วยคนจมน้ำขึ้นมาก็เท่านั้น
ไวส์ผิดหวังนิดหน่อย ฉินสือโอวลูบหัวของเขา แล้วพาเขาเดินตามตัวเองออกประตูมาข้างนอก
นอกประตูมีชั้นวางของที่ทำจากเหล็กอยู่อันหนึ่ง และมีอิฐสีแดงวางอยู่บนนั้นหนึ่งก้อน
ฉินสือโอวถูมือทั้งสองข้าง แสดงท่าทางให้ไวส์มองไปยังอิฐก้อนนั้น เขายืนกางขาทั้งสองข้างอยู่ในท่าหม่าปู้ เขาหายใจเข้าลึกเสียงดัง แล้วฝ่ามือของเขาก็ฟันลงไปยังอิฐก้อนนั้น
‘แคร็ก’ เกิดเสียงแตกดังขึ้น อิฐแตกออกเป็นสองส่วนง่ายดาย เศษผงอิฐกระจายไปทั่ว!
เมื่อเห็นภาพนั้น ไวส์ก็หน้าแดงขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นทันที เขาปรบมือเล็กของตัวเองเสียงดัง พลางพูดออกมาว่า “สุดยอด! อะจารย์คุณสุดยอดมาก!”
เสียงปรบมือดังขึ้นมาจากทั่วทุกทิศทาง บิลลี่และคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ พากันผิวปากส่งเสียงเชียร์ออกมา ที่ด้านข้างยังมีคนปรบมือเสริมอีกด้วย พี่น้องฮิลตันที่บังเอิญอยู่ด้านนอก ก็ปรบมือให้เขาด้วยเช่นกัน และนิกกี้ก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพไว้
ฉินสือโอวที่เป็นปรมาจารย์ฮวงเฟยหงรุ่นแรกชูหมัดขึ้นแล้วยิ้มไปรอบๆ เขาพูดขึ้นว่า “เกินไปแล้ว เกินไปแล้ว!”
ไวส์วิ่งมาหยิบก้อนอิฐทั้งสองส่วนขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้น หลังจากนั้นเขาก็เงยหน้าตาโตขึ้นมาถามว่า “อะจารย์ เมื่อไหร่คุณจะแสดงการฟันก้อนหินก้อนใหญ่ให้แตกเป็นเสี่ยงๆ บนหน้าอกให้ผมดูเหรอครับ?”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มของฉินสือโอวซึมลงทันที!
การฟันอิฐด้วยมือข้างเดียวหนึ่งก่อนนี้ ก็ทำเอาฉินสือโอวหมดแรงแล้ว แม้ว่าอิฐที่เขาเลือกก้อนนี้จะมีรอยต่อตรงกลาง แน่นอนว่าช่องว่างนั้นค่อนข้างเล็ก เย็นแล้วแสงจากดวงไฟทำให้สังเกตเห็นได้ยาก
เรื่องฟันหินลงบนหน้าอกเขาไม่ได้กดดันมาก แต่ว่านั่นมันลำบากเกินไป เขาไม่ได้เป็นนักแสดงข้างถนนเสียหน่อย!
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ไวส์ก็ไม่ยอมกลับไปนอน เขาอยากนอนที่ห้องของอาจารย์ จอร์จก็ไม่ได้บังคับเขาเช่นกัน หลังจากกำชับไวส์ว่าต้องห่มผ้าตอนนอนแล้วเขาก็กลับไป
ฉินสือโอวถ่ายทอดพลังโพไซดอนให้ไวส์อีกนิดหน่อย หลังจากนั้นก็สอนไทเก๊กให้เขาอย่างช้าๆ ตอนนั้นไม่ว่าไวส์จะเข้าร่วมกิจกรรมอะไรก็ไม่เป็นปัญหาแล้ว
สองสามวันถัดมาไม่ได้มีอะไรมากมาย มีเพียงงานเลี้ยงสังสรรค์ตอนเย็นเท่านั้น ทุกคนมาที่นี่ก็เพื่อขยายความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ พวกเขาไม่ปล่อยโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์แบบนี้หลุดลอยไปแน่นอน
ฉินสือโอวมีท่าทีสงบลงและทำเพียงพูดคุยเล็กๆ น้อยๆ คนที่เขาควรรู้จักก็ได้รู้จักแล้ว คนที่ควรสานสัมพันธ์ด้วยก็ได้ทำแล้ว แบบนี้เขาเลยคิดอยากจะกลับบ้านใจจะขาด จึงตัดสินใจว่าจะกลับก่อนกำหนด
………………………………………..

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset