ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 975 หญิงเหล็กแห่งเกาะแฟร์เวล

ฉินสือโอวยื่นนิ้วลูบไล้บนใบหน้าของวินนี่พร้อมพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณไม่กินน้ำส้มสายชูใช่ไหม?”
“ถ้าฉันชอบกินน้ำส้มสายชูขนาดนั้น ครั้งนี้คงได้ลูกชายแน่ๆ กินเปรี้ยวได้ลูกชายกินเผ็ดได้ลูกสาวใช่ไหมคะ?” วินนี่ยิ้มออกมา พูดถึงเรื่องลูกแล้วเหล่าว่าที่คุณแม่ก็มักจะมีท่าทีสุขใจ
ฉินสือโอวอธิบายโดยไม่ต้องให้วินนี่ถาม “โทรศัพท์จากเจ้าหญิงน้อยแห่งดูไบ สาวน้อยที่แสนโดดเดี่ยว” เขาคิดแล้วพูดเสริม “เด็กกว่าเชอร์ลี่ย์อีก”
พอกลับถึงบ้านแล้วฉินสือโอวก็ไปอาบน้ำ แบบนี้ทำให้เขาคิดถึงเกรตแบร์ริเออร์รีฟอยู่บ้าง การอาบน้ำที่เกรตแบร์ริเออร์รีฟสามารถใส่ชุดคลุมอาบน้ำเดินเตร่ไปทั่วลาน ส่วนที่นิวฟันด์แลนด์เป็นการอาบน้ำในห้องกระจกอาบเสร็จแล้วพอออกมาจากห้องน้ำก็อาจจะหนาวจนตัวสั่นได้
ฉินสือโอวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วไปที่ห้องรับแขก จึงเห็นว่าในบ้านมีข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารรัฐวางเรียงรายอยู่
เขาพลิกขึ้นมาดูเป็นลายมือของวินนี่และมีการเน้นข้อความสำคัญและจดสรุปไว้หลายที่
ฉินสือโอววางลงอย่างประหลาดใจแล้วถาม “เฮ้ที่รัก ทำไม่อยู่ๆ คุณก็สนใจเรื่องพวกนี้ขึ้นมาล่ะ?”
วินนี่ถามพร้อมอมยิ้ม “คุณทายดูสิคะ?”
ฉินสือโอวยักไหล่พร้อมพูดออกมาเรื่อยเปื่อย “หรือว่าบ้านเราจะมีบารอเนสแทตเชอร์?”
“สำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษน่ะฉันไม่สนใจหรอก ที่ฉันสนใจคือตำแหน่งนายกเทศมนตรีต่างหาก ในประวัติศาสตร์ของเกาะแฟร์เวลยังไม่เคยมีนายกเทศมนตรีหญิงเลยนะคะ” วินนี่หยิบสมุดบันทึกหนังสีดำขึ้นมาสะบัดไปมาแล้วเปิดดู
ฉินสือโอวเข้าใจเจตนาของเธอแล้วก็ตะลึง “ที่รัก คุณไม่ได้คิดจะลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีของเกาะแฟร์เวลหรอกใช่ไหม?”
วินนี่ดีดนิ้วยักคิ้วพร้อมพูดด้วยยิ้มอ่อนๆ “บิงโก คุณทายถูกค่ะ!”
ฉินสือโอวขำอย่างกลั้นไม่อยู่ เขารับสมุดของวินนี่พลางจูงมือเธอแล้วพูด “อย่าทำอย่างนี้สิ ผมเข้าใจคุณนะที่รัก ที่จริงผมก็ไม่ได้สนใจข้อเสนอของแฮมเล็ต ผมแค่เป็นพวกขี้กลัวที่กลัวว่าจะมีคนมาทำลายฟาร์มปลาของพวกเรา ความจริงแล้วผมรู้ว่านี่มันเป็นไปไม่ได้”
ก่อนหน้านี้วินนี่ไม่เคยแสดงท่าทีว่าสนใจเรื่องการปกครองและการบริหารเลย อยู่ๆ ตอนนี้ก็สนใจขึ้นมาแน่นอนว่าต้องอยากช่วยแบ่งเบาความลำบากของเขา
หลังจากฉินสือโอวคุยกับแฮมเล็ตแล้วที่จริงเขาก็มีความคิดเกี่ยวกับการลงเลือกตั้งนายกเทศมนตรีของเกาะแฟร์เวลอยู่บ้าง แต่เขาคิดว่าการเป็นนายกเทศมนตรีแค่ออกคำสั่งก็พอแล้วซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นแบบนั้น
ไม่ต้องพูดไปไกลดูแค่ใกล้ๆ อย่างเรื่องที่เครื่องทำความร้อนของเมืองมีปัญหาประชาชนถึงกับจะไปประท้วงในเมือง ถึงเวลานั้นความกดดันก็คงตกอยู่ที่นายกเทศมนตรี
เขามาที่เกาะแฟร์เวลาเพื่อมีความสุขกับชีวิตไม่ได้มาลำบากลำบนสร้างเมือง
ดังนั้นเมื่อเข้าใจสถานการณ์ของนายกเทศมนตรีแล้ว เขาก็ไม่มีความสนใจในอาชีพนี้อีกต่อไป เพราะเขารู้ว่าเมื่อเป็นนายกเทศมนตรีเขาก็จะไม่มีเวลาและกำลังในการบริหารฟาร์มปลา
วินนี่เองก็เข้าใจเหตุผลข้อนี้เธอจึงอยากทำให้ความปรารถนาของฉินสือโอวให้สำเร็จ เธอจะลงเลือกตั้งและเธอเองก็ได้รับความนิยมในเมือง ถ้าเธอลงสมัครเลือกตั้งไม่แน่ว่าอาจจะกวาดคะแนนได้ทั้งหมด
ฉินสือโอวไม่อยากให้วินนี่ต้องมาลำบากอย่างนี้
วินนี่ลูบมือปลอบเขาแล้วพูดอย่างอ่อนโยน “ที่จริงแล้วงานของนายกเทศมนตรีไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คุณคิดหรอก เข้าใจยากแต่ทำง่ายพอทำแล้วคุณก็จะพบว่ามันง่ายมาก ฉันเคยไปดูตอนแฮมเล็ตเป็นนายกเทศมนตรี ในหนึ่งสัปดาห์เขาทำงานไปยี่สิบห้าชั่วโมงได้!”
“สั้นขนาดนั้นเชียว ไม่ใช่มั้ง?” ฉินสือโอวถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ ยี่สิบห้าชั่วโมงวันหนึ่งทำงานไม่ถึงสี่ชั่วโมงก็พอแล้ว
วินนี่เสยผมอย่างภูมิใจพลางพูด “ฉันอาจจะโดดเด่นกว่าเขาก็ได้! คอยดูเถอะบางทีหลายปีผ่านไปผู้คนอาจจะเรียกฉันว่าหญิงเหล็กแห่งเกาะแฟร์เวลก็ได้นะ?”
ฉินสือโอวหัวเราะเขารู้นิสัยวินนี่ที่เป็นคนอ่อนนอกแข็งในถ้าเกิดแข็งขึ้นมาจริงๆ เขาก็ต้องยอมให้ ในเมื่อเธอตัดสินใจว่าอยากลองบริหารรัฐก็ให้เธอลองดูแล้วกัน เขาเชื่อว่าผู้หญิงอีคิวสูงอย่างวินนี่จะสามารถแบ่งสันเวลาทำงานและการใช้ชีวิตได้
การเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองที่แคนาดาไม่นับว่าเป็นการเข้าสู่เวทีการเมือง พูดได้แค่ว่าเป็นส่วนงานบริหารรัฐเท่านั้น
ฉินสือโอวเป็นคนเตรียมอาหารเย็น เขาเข้าไปดูที่โรงเรือนปลูกผัก แตงกวาที่เพิ่งออกดอกเมื่อฤดูใบไม้ร่วงตอนนี้ออกผลแล้ว ผลแตงกวาสีเขียวเข้มแต่ละลูกแขวนอยู่บนคานอย่างเงางาม
ปกติแล้วแตงกวาจะปลูกในช่วงฤดูใบไม้ผลิแล้วเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง แต่อย่างไรเสียพอถึงตอนที่อุณหภูมิต่ำโรงเรือนก็จะเพิ่มอุณหภูมิขึ้น โรงเรือนเทคโนโลยีระดับสูงบวกกับพลังแห่งโพไซดอนเป็นองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ
เก็บฟักไปลูกหนึ่งก็กินไปได้หลายมื้อแล้ว ฉินสือโอวเตรียมทำต้มฟักกระดูกหมู ตุ๋นแล้วใส่ฟักลงไปเหมาะที่จะให้วินนี่ดื่มเป็นที่สุด
ปอหลัวเดินตามหลังฉินสือโอวมาอย่างสบายใจเห็นอะไรน่ากินก็อ้าปากกว้างๆ กินเข้าไป
เพราะในโรงเรือนปลูกเบอร์รีพุ่มเล็กอย่างพวกสตอว์เบอร์รีไว้ ฉงต้าเลยรู้สึกน้ำลายไหลตอนที่มาที่นี่ตลอด แต่ฉินสือโอวไม่อนุญาตให้มันเข้ามา เจ้านี่ตัวใหญ่ขนาดนี้ พุ่งเข้ามาอย่างไม่ระวังไปเหยียบผักหรือแตงเข้ายังพอว่า แต่ถ้ามันพังโรงเรือนขึ้นมาจะทำยังไง?
ฉงต้าปีนมาที่ประตูกะว่าจะลองเข้ามาแต่ปอหลัวเห็นเข้าเลยวิ่งไปอย่างรีบร้อนแล้วเอาเขากดที่พื้นดันฉงต้าไปด้านนอกราวกับเครื่องดันดิน
ฉงต้าหมอบอยู่ที่ประตูอย่างดื้อด้าน ตบอุ้งเท้าอย่างแรงเพื่อจะผลักปอหลัวออกไป ฉินสือโอวออกมาแล้วตีก้นมันไปสองครั้งพร้อมออกคำสั่ง “รอที่ประตู ห้ามเข้า!”
ฉงต้าย่นจมูกนั่งหันหลังให้ฉินสือโอวอย่างไม่พอใจ มองเทือกเขาเคอร์บัลอย่างเจ็บปวด ท่าทางอยากจะกลับบ้าน
ฉินสือโอวกลับไปเก็บแตงกวามาหนึ่งเถาและสตรอว์เบอร์รีอีกหนึ่งกำมือ ฉงต้ามุดหัวอยู่ในอ้อมแขนกินอย่างสำราญใจ ลืมเรื่องที่ฉินสือโอวตีสองครั้งไปสนิท
“จำแค่เรื่องกิน ไม่ต้องจำเรื่องตีนะ!” นายท่านฉินตบหน้าผากด้วยความปวดหัว ฉงต้าตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็สั่งสอนยากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
สัตว์ก็มีช่วงดื้อรั้นเหมือนคนตัวอย่างเช่นแลบราดอร์ ช่วงดื้อรั้นของพวกมันอยู่ที่ประมาณหนึ่งขวบครึ่งซึ่งก็คือตอนนี้ ช่วงดื้อรั้นของหมีสีน้ำตาลอยู่ที่สองถึงสามขวบ ตอนนี้ฉงต้ายังอยู่ในช่วงว่านอนสอนง่ายรอให้มันถึงช่วงดื้อรั้นก็จะสูงใหญ่พอๆ กับฉินสือโอวแล้ว!
ความปวดหัวของฉินสือโอวในตอนนี้ก็คือในตอนนั้น
พาปอหลัวกลับเข้ามาด้านในฉินสือโอวอยากขุดมันฝรั่งเลยชี้ไปที่พื้น ปอหลัวใช้จมูกดมพอเจอหัวมันฝรั่งก็ใช้เขาขุดลงไปแล้วเงยหัวขึ้นช้าๆ เอามันฝรั่งขึ้นมา
ฉินสือโอวลูบที่หัวของมันแล้วพูด “ไม่เลว นับว่ายังมีประโยชน์หน่อย”
ฉินสือโอวได้ความคิดจากวิธีขุดมันฝรั่ง เขาพาปอหลัวเข้าไปด้านในอยากได้อะไรก็ชี้ให้ปอหลัวดู ฟันหน้าของกวางอูฐแหลมคมมากเพราะพวกมันต้องกัดรากหญ้ากินอยู่บ่อยๆ ดังนั้นปอหลัวจึงเป็นมือดีในการเก็บผลแตง
ผลไม้หรือแม้แต่เถาองุ่นหลัวปอก็เข้าไปเก็บอย่างระวัง พอขบฟันได้พอดีก็จะมีแตงกวาหรือมะเขือเทศหล่นลงมา จากนั้นมันก็เอาส่งให้ฉินสือโอวอย่างนุ่มนวล แบบนี้แบ่งเบางานของนายท่านฉินไปได้เยอะทีเดียว!
…………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset