ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 978 วิกฤตของเมือง

โรบินสันยิ้มอ่อน “คุณผู้หญิงคนนี้พูดถูก พวกเราเป็นพนักงานของบริษัทดาวเคมิคอล คือแบบนี้ครับ พวกเรา…”
ฉินสือโอวมองพ่อแม่แล้วพูดตัดบท “ตอนนี้พวกเรากินข้าวกันอยู่ ไว้ค่อยคุยหลังกินเสร็จ โอเค?”
คนของบริษัทดาวเคมิคอลพยักหน้าแล้วจากไป สุดท้ายเขาก็ไม่ได้อยู่กินข้าวที่ร้านของลุงฮิคสัน ชายชราหัวแข็งไม่ต้อนรับพวกเขา
อาหารมาเสิร์ฟแล้ว ฉินสือโอวให้วินนี่กินข้าวเป็นเพื่อนพ่อกับแม่ ส่วนเขาไปหาลุงฮิคสันเพื่อถาม “เฮ้ เรื่องอะไรกันครับ? บริษัทดาวเคมิคอลมาตั้งแต่เมื่อไร?”
ชายชราส่งเสียงเหอะแล้วพูด “เมื่อเช้าก็เพิ่งมา ก่อนหน้านี้พวกเขามาครั้งหนึ่ง อยากจะให้ตัวแทนนายกเทศมนตรีฮานี่ย์อนุญาตให้สร้างโรงงานเคมีบนเกาะ แต่ฮานี่ย์ไม่เห็นด้วย ปัดตกไปด้วยการเอาประชาชนมาเป็นเหตุผล ไอ้พวกนี้ไม่ถอดใจเลยมากันอีกแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้คนของบริษัทดาวเคมิคอลมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พวกเขาเปลี่ยนวิธีการโดยที่ไม่ไปยุ่งกับฮานี่ย์แล้ว แต่มาเข้าทางชาวเมืองแทน ทำตามคำที่ว่า ‘ป้อมปราการที่แข็งแกร่งมักจะถูกโจมตีจากด้านใน’
หลังกินข้าวเสร็จฉินสือโอวก็ไม่ได้กลับไป เขาอยู่ตระเวนต่อในเมืองเพื่อดูว่าบริษัทดาวเคมิคอลจะทำอะไร
เขาไปที่ร้านขายของชำซึ่งด้านในมีเพียงจางเผิงคนทำบัญชีคนใหม่ที่กำลังทำบัญชีอยู่ พอเห็นฉินสือโอวเขาก็ยืนขึ้นแล้วพูดด้วยความเคารพ “บอสมาแล้ว มีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”
ฉินสือโอวโบกมือแล้วถาม “ฮิวจ์คนน้องล่ะ?”
จางเผิงพูด “คุณฮิวจ์ไปหาพี่ชายครับ เขาบอกว่าพวกบริษัทดาวเคมิคอลทุเรศมาก ต้องรีบหาทางไล่พวกเขาไป”
ฉินสือโอวไปที่ร้านสะดวกซื้อของฮิวจ์ ฮิวจ์คนน้องอยู่ที่นี่จริงๆ และนอกจากเขาแล้วก็ยังมีวัยรุ่นสวมเสื้อยีนดูท่าทางกระฉับกระเฉงที่เป็นชาวเมืองอีกไม่กี่คน ในมือพวกเขาถือพวกไม้เบสบอลไม้กอล์ฟและกระบองอยู่
เห็นแบบนี้แล้วฉินสือโอวก็ส่ายหัวอย่างจนใจ “เฮ้ ฉันว่านะพวก พวกนายจะทำอะไร? ห้ะ? ไปตีกัน? แล้วสุดท้ายก็ถูกจับเหรอ?”
ฮิวจ์คนน้องแววตาเป็นประกายแล้วชูกำปั้นพร้อมตะโกน “เวรเอ๊ย! ไอ้สารเลวพวกนั้นมันกวนบาทา! ฉันบอกพวกมันไปตั้งกี่ร้อยรอบแล้วว่าเกาะแฟร์เวลไม่ต้องรับพวกมัน ถ้ามาอีกฉันจะเตะก้นซะ วันนี้พวกมันก็มากันอีก ฉันก็ต้องสั่งสอนพวกมันสักหน่อยสิ!”
ฮิวจ์ผลักเขาไปทีหนึ่งแล้วพูดอย่างโมโห “เมื่อไรแกจะโตสักที? เอาแต่มีเรื่องไปวันๆ! แกคิดว่าแกเป็นมาเฟียเหรอไง? ไอ้น้องเวร!”
ด่าน้องชายเสร็จเขาก็หันมามองฉินสือโอวพร้อมยิ้มอย่างผ่อนคลาย “ฉิน ดีมากเลยที่นายกลับมาที่เมือง ไม่กี่วันก่อนฉันไปหานายที่ฟาร์มปลาวินนี่บอกว่านายยังไม่มีกำหนดกลับ ดี นายกลับมาพวกเราจะได้มีผู้นำ”
“ผู้นำขับไล่บริษัทดาวเคมิคอลเหรอ?” ฉินสือโอวยิ้มอ่อนแล้วนั่งลง
ฮิวจ์คนน้องยังมีท่าทีโมโห เขาได้แต่บีบมือเป็นสัญญาณว่าเขาก็เอาด้วย “มีใครเล่ารายละเอียดให้ฉันฟังได้บ้าง? ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวเท่าไรนัก”
ฮิวจ์ทำกาแฟให้เขาแก้วหนึ่งแล้วพิงเคาน์เตอร์พลางเล่าเรื่องราวให้เขาฟัง
บริษัทดาวเคมิคอลเป็นอุตสาหกรรมเคมีที่ใหญ่อันดับสองของโลก เป็นรองแค่บริษัทดูปองท์ของอเมริกา พวกเขาพัฒนาและผลิตผลิตภัณฑ์ทางเคมี ผลิตภัณฑ์พลาสติกและการเกษตร ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง บำบัดน้ำ การทำกระดาษ ยา การขนส่ง อาหารและบรรจุภัณฑ์อาหาร ของใช้ในบ้านและของใช้ส่วนตัว
ตอนนี้บริษัทเคมีใหญ่ๆ ต่างก็เริ่มทำการแปรรูปกากและของเสียในอุตสาหกรรมจากธัญพืช ถั่วเหลืองและพวกข้าวสาลีเพื่อวิจัยและผลิตผลิตภัณฑ์เคมีอินทรีย์ตามกระแสเคมีชีวภาพ
แคนาดาเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีผลิตผลคุณภาพดีและเป็นแนวหน้าระดับโลกในด้านนี้ แต่บริษัทดาวเคมีคอลค่อนข้างอ่อนแอในด้านนี้ โดยเฉพาะที่แคนาดายังไม่มีสายการผลิตที่เกี่ยวข้องคล้ายๆ แบบนั้น พวกเขาเลยอยากจะเข้ามาทำอุตสาหกรรมด้านนี้เป็นเจ้าแรก
สำนักงานใหญ่ของบริษัทดาวเคมิคอลแคนาดาตั้งอยู่ที่รัฐออนแทรีโอ แต่มาขยายการทำเคมีชีวภาพแถวๆ โทรอนโต ที่นี่เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของแคนาดาและเป็นที่ที่คนมีความสามารถรวมตัวกันอยู่ การทำเคมีชีวภาพต้องการคนที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก
สำนักงานใหญ่ของพวกอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพใหญ่ๆ อย่างไบเออร์ บริษัทเคมีบีเอเอสเอฟประเทศเยอรมัน บริษัทดูปองท์แคนาดาและบริษัทยูนิลีเวอร์ล้วนกระจายกันอยู่ที่รัฐโทรอนโต
บริษัทดาวเคมิคอลอยากเข้ามาแบ่งชิ้นเค้ก บริษัทพวกนี้ก็ย่อมต่อต้านเป็นธรรมดา พวกเขาเลยเข้าไปในเมืองโทรอนโตไม่ได้
นอกจากรัฐออนแทรีโอและเมืองโทรอนโตแล้วที่แคนาดาก็ยังมีเมืองมอนทรีออลและเอ็ดมันตัน ซึ่งธุรกิจเคมีในสองเขตนี้เจริญรุ่งเรืองมาก
ที่เมืองมอนทรีออลมีการทำวิศวกรรมเคมีก็เพราะที่นี่มีแหล่งพลังงานที่หลากหลายและราคาถูก มีการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเลียม มีโรงกลั่นปิโตรเลียมและท่าเรือขนส่งน้ำมัน หลักๆ จะจัดการด้านการผลิตพวกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมขั้นต้น แอลคีนและอโรมาติก
อุตสาหกรรมเคมีที่เมืองเอ็ดมันตันและเขตรอบๆ ประกอบด้วยอุตสาหกรรมหลักๆ สี่แห่ง อุตสาหกรรมปิโตรเลียม ปุ๋ยเคมี ผลิตภัณฑ์เคมีอนินทรีย์ เคมีภัณฑ์ชั้นดีและสำหรับใช้เฉพาะทาง
แบบนี้ก็ไม่ต้องสงสัยเลย ถ้าบริษัทดาวเคมิคอลอยากจะทำด้านเคมีชีวภาพก็จะไม่สามารถทำได้ที่เมืองมอนทรีออลและเอ็ดมันตัน และพวกเขาก็ไม่มีทางเข้าไปในเขตเมืองโทรอนโตได้ด้วย แบบนี้ถ้าอยากจะขยายสายการผลิตใหม่ก็ทำได้แค่ออกไปด้านนอกเท่านั้น
เหตุผลที่ไม่มีทางเข้ามาได้ก็คือเทคโนโลยีในการทำเคมีชีวภาพยังไม่เจริญเต็มที่และระบบการประเมินก็ยังไม่สมบูรณ์จึงไม่มีเมืองไหนยอมให้สายการผลิตแบบนี้เข้าไป รวมถึงสำนักงานใหญ่รัฐออนแทรีโอของบริษัทดาวเคมิคอลด้วย
ดังนั้นบริษัทดาวเคมิคอลเลยตั้งใจมาที่พื้นที่ห่างไกลและคิดจะใช้กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง เพราะแบบนี้เกาะแฟร์เวลจึงเป็นที่หมายตาของพวกเขา
ฮิวจ์เล่าเรื่องราวออกมาอย่างออกรส ฉินสือโอวดื่มกาแฟและก็พอจะเข้าใจสถานการณ์แล้ว
ครุ่นคิดสักครู่เขาก็ถามขึ้นมาว่า “อย่างนั้นพวกเรามีความจำเป็นอะไรจะต้องรีบร้อน? คนในเมืองคงไม่เห็นด้วยกับการที่มีคนมาสร้างโรงงานเคมีอยู่แล้ว ให้พวกเขาเสียแรงเปล่าไปก็ได้ พวกนายจะโมโหกันไปทำไม?”
ฮิวจ์ถอนหายใจ “ตอนนี้คนพวกนั้นคิดจะใช้เงินแก้ปัญหา พวกเขาจะสร้างชุมชนที่นครเซนต์จอห์นไม่กี่แห่งเพื่อให้คนในเมืองย้ายไป นายก็รู้ว่าที่จริงแล้วคนในเมืองก็หวังว่าจะได้ไปอยู่ที่นครเซนต์จอห์น”
เกาะแฟร์เวลก็เคยประสบวิกฤตคนย้ายออกเหมือนที่เกาะไอซ์ไฟเออร์แต่เพราะที่นี่มีคนเหลืออยู่เยอะกว่า มีสาธารณูปโภคพื้นฐานที่สมบูรณ์มากกว่าและฟาร์มปลารอบๆ ก็มีปริมาณปลาที่น่าพอใจ บวกกับความน่าเชื่อถือของแฮมเล็ต เกาะแฟร์เวลถึงยังอยู่มาได้ในช่วงหลายปีนี้
และที่เกาะแฟร์เวลยังไม่มีปัญหาเรื่องประชากรย้ายออกก็เพราะรัฐบาลนครเซนต์จอห์นไม่มีงบประมาณให้สำหรับค่าย้ายที่อยู่อาศัย
ตามที่ฮิวจ์รู้ครั้งนี้บริษัทดาวเคมิคอลทุ่มสุดตัวเพื่อความต้องการที่จะเปิดสายการผลิตในเกาะแห่งนี้ พวกเขาไม่เสียดายที่จะทุ่มเงินจำนวนมากในการสร้างเขตชุมชนที่แผ่นดินใหญ่เพื่อให้คนย้ายออกไป
ในความเป็นจริงถ้าไม่ใช่เพราะฉินสือโอวเปิดช่องทางพัฒนาเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว บริษัทดาวเคมิคอลคงไม่ต้องส่งคนมาเพื่อโน้มน้าวคนในเมือง แค่ตกลงเรื่องค่าชดเชยกันได้ คนในเมืองก็คงยินดีย้ายออกไปจากเกาะเอง
ก็เหมือนกับที่โรบินสันพูด การอยู่บนเกาะเล็กๆ นี้จะไปซื้อของหรือไปรักษาพยาบาลก็ไม่สะดวก นี่เป็นจุดที่เราปิดตาตัวเองทำเป็นมองข้ามกันไป
…………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset