ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 999 การส่งมอบเรือยักษ์

สองวันหลังคลอด วินนี่ไม่ได้นอนอยู่บนเตียงอีกต่อไปแล้ว เธอลุกจากเตียงแล้วยืดเอวเพื่อทำท่าโยคะแบบง่ายๆ
พ่อแม่ของฉินสือโอวมองกันตากระตุก แม่ของฉินสือโอวไปหาฉินสือโอวอย่างเงียบๆ แล้วพูดว่า “ลูกพูดกับวินนี่ให้หน่อยสิ นี่เพิ่งจะคลอดลูกเอง ทำไมถึงได้ลงมาจากเตียงแล้วล่ะ? ให้เธออยู่เดือนเพื่อรักษาตัวสิ ถ้าไม่อย่างนั้นร่างกายจะเจ็บป่วยขึ้นมาอีก นั่นอาจจะเกิดอะไรร้ายแรงได้นะ”
จุดนี้คือความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมจีนและต่างชาติ ผู้หญิงจีนจะคุ้นเคยกับการอยู่เดือนหลังจากที่คลอดบุตรแล้ว แต่ผู้หญิงต่างชาติโดยเฉพาะผู้หญิงยุโรปและอเมริกาจะไม่ให้ความสนใจในจุดนี้เลย พวกเธอคิดว่าการออกกำลังกายทางวิทยาศาสตร์จะสามารถฟื้นฟูสภาพร่างกายหลังคลอดได้ง่ายกว่า ในทางตรงกันข้ามการนั่งเซ็งๆ อยู่ในห้องห้องหนึ่งนั้นกลับไม่ดีต่อสุขภาพเอาเสียเลย
เมื่อฉินสือโอวนำความคิดของพ่อแม่ไปบอกกับวินนี่ วินนี่ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วบิดเอวที่อวบอั๋นเพราะการตั้งครรภ์พร้อมทั้งพูดด้วยท่าทางไม่พอใจว่า “แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะคะ? คุณสามี…”
คำว่าคุณสามีคำนี้ถูกพูดยืดยาวออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
พอได้ยินคำนี้ความรู้สึกของฉินสือโอวก็ประดังเข้ามาจนยุ่งเหยิงไปหมด แม่เจ้า เมื่อเร็วๆ นี้ตัวเองได้เดินมาถึงจุดสูงสุดของชีวิตแล้ว ไม่เพียงแต่ในฐานะพ่อเท่านั้นแต่ยังรวมถึงในฐานะสามีด้วย เขาคบกับวินนี่มาสองปีแล้ว วินนี่จะเรียกเขาว่าที่รักเท่านั้น ไม่เคยเรียกเขาว่าสามีเลย วันนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกเขาเช่นนี้
แต่ฉินสือโอวรู้ว่าคำว่าสามีคำนี้ยากที่จะรับได้ เพราะว่าวินนี่กำลังให้เขาเลือกคำตอบของปัญหานี้ออกมา
โชคดีที่ท่านชายฉินก็เป็นคนฉลาดหลักแหลมเหมือนกัน ก่อนที่จะมาที่นี่เขาเคยคิดถึงปัญหานี้แล้ว เขาจึงพูดออกมาว่า “มันง่ายมากเลยนะ ทำตามที่พ่อกับแม่ผมบอก คุณก็นั่งดื่มน้ำซุปอย่างว่านอนสอนง่ายไปก่อน พอพ่อแม่ผมไม่อยู่ คุณก็เล่นโยคะได้ตามสบายเลย เป็นยังไงบ้าง?”
วินนี่เหลือบมองเขาด้วยความรักแล้วพูดด้วยความหงุดหงิดว่า “ทำไมตอนนี้คุณถึงฉลาดขนาดนี้แล้วล่ะ? คุณคิดวิธีดีๆ แบบนี้ออกมาได้ยังไง?”
ฉินสือโอวหัวเราะแหยๆ แล้วพูดว่า “นั่นมันก็เลี่ยงไม่ได้ ตั้งแต่วันนั้นที่ผมตัดสินใจจีบคุณผมก็เริ่มนึกถึงปัญหาเหล่านี้แล้ว”
วินนี่พยักหน้าไปมาแล้วพูดว่า “โอเคค่ะ งั้นก็ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ว่าแต่คุณสามี คุณจะคอยช่วยปิดบังให้ฉันได้ไหมคะ? ทำให้ฉันได้อยู่กับพ่อแม่ให้น้อยที่สุดด้วยนะ”
ฉินสือโอวมองซ้ายมองขวาว่าไม่มีใครแล้ว ก็แสดงสีหน้าที่ลามกออกมา แล้วพูดว่า “รอดูการแสดงของคุณในตอนเย็นแล้วกัน”
การตั้งครรภ์ในครั้งนี้ของวินนี่ได้พรากชีวิตของเขาไปแล้วโดยสิ้นเชิง ในช่วงแรกๆ ก็ยังโอเคดี ทั้งสองคนระมัดระวังสักหน่อยก็พอแล้ว ต่อมาท้องของวินนี่ยิ่งนับวันก็ยิ่งใหญ่โตขึ้น เขาก็เลยทำได้แค่กลับไปใช้ชีวิตธรรมดาๆ แบบในเมืองไหเต่าเหมือนเดิม
หลังจากที่วินนี่ลุกขึ้นมาจากเตียงแล้ว ทั้งสองคนก็ไปดูลูกสาวด้วยกัน ในขณะที่ยืนดูเด็กน้อยๆ ที่กำลังดิ้นดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ในตู้อบ รอบๆ ดวงตาของวินนี่เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที เธอเข้าไปพิงในอ้อมอกของฉินสือโอวและเกือบจะร้องไห้ออกมา
ฉินสือโอวจึงพูดปลอบใจเธอว่า “ไม่เป็นไรนะที่รัก ผู้หญิงโตขึ้นแล้วก็จะเปลี่ยนไปมาก พอลูกโตขึ้นมาก็จะสวยเองนั่นแหละ”
วินนี่เงยหน้าขึ้นแล้วถามด้วยความงงว่า “คุณพูดอะไรคะ?”
ฉินสือโอวถอนหายใจ แล้วพูดว่า “คุณไม่ได้ร้องไห้เพราะว่าลูกขี้เหร่หรอกเหรอ? จริงสิ คุณพูดว่าพวกเราสองคนก็นับว่าเป็นหนุ่มหล่อสาวสวยทั้งคู่ แล้วทำไมเถียนกวาเด็กคนนี้ถึงได้ขี้เหร่ขนาดนี้ล่ะ? คงไม่ได้โตขึ้นมาแล้วกลายเป็นฟักทองหรอกใช่ไหม?”
เสียงของเขาเบาลงเรื่อยๆ เพราะดวงตาทั้งสองข้างของวินนี่กำลังแผ่กระจายรังสีอำมหิตออกมาฆ่าเขาแล้ว
“ที่ฉันร้องไห้ เป็นเพราะว่าฉันตื้นตันใจต่างหากล่ะ!” วินนี่กัดฟันเน้นคำอย่างชัดเจน แล้วพูดอีกว่า “คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะรังเกียจที่ลูกสาวเราขี้เหร่จริงๆ เหรอเนี่ย?! ให้อภัยไม่ได้จริงๆ !”
เหงื่อเย็นๆ ของฉินสือโอวไหลออกมาทันที เขาจึงรีบเปลี่ยนเรื่องด้วยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
ชีวิตของเขาช่างดีจริงๆ พอเผชิญหน้ากับวิกฤตกาลที่อันตราย ความช่วยเหลือก็มาถึงในทันที โทรศัพท์ของเขาดังขึ้นมา เป็นสายของแฮงค์ บรูวเวอร์จากอุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนนครเซนต์จอห์นที่โทรเข้ามา
เขาจึงรีบถือโทรศัพท์ออกไปจากห้องควบคุมอุณหภูมิ ฉินสือโอวเพิ่งจะรับสาย พยาบาลคนหนึ่งก็เดินเข้ามาบอกว่า “คุณผู้ชายคะ โรงพยาบาลของเราต้องการความเงียบสงบ ถ้าคุณจะโทรศัพท์ กรุณาออกไปข้างนอกนะคะ ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือค่ะ”
ฉินสือโอวก็เลยต้องวิ่งออกไป แล้วจึงรับสายอีกครั้ง
พนักงานขายของบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่เหล่านี้ล้วนมีความสามารถมาก แฮงค์ถามไถ่เรื่องการเกิดของลูกฉินสือโอว เขาพูดขึ้นมาทันทีเมื่อรับสายว่า “ยินดีกับคุณด้วยนะครับ คุณฉิน ยินดีด้วยที่จะได้เป็นพ่อคนแล้ว ความรู้สึกที่ได้เป็นพ่อคนมันไม่เลวเลยใช่ไหมครับ?”
ฉินสือโอวกล่าวขอบคุณ ยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เลวจริงๆ ครับ แต่ผมไม่มีประสบการณ์อะไรเลย สิ่งที่จะต้องเรียนรู้ยังมีอีกมาก หวังว่าพระเจ้าจะช่วยผมได้นะครับ”
แฮงค์จึงช่วยเขาออกความคิด “มันไม่ยากหรอกคุณฉิน ที่เซนต์จอห์นมีหลักสูตรเร่งรัดสำหรับการฝึกอบรมคุณพ่ออยู่ คุณก็สามารถไปสมัครได้นะครับ แต่ผมคิดว่าคุณคงไม่จำเป็นหรอก วินนี่จะต้องเป็นแม่ที่ดีได้อย่างแน่นอน พ่อที่ดีอย่างคุณออกไปพิชิตมหาสมุทรเถอะครับ ผมขอแสดงความยินดีกับคุณด้วย คุณมีลูกเกิดขึ้นมาอีกหนึ่งคนแล้วนะครับ”
พอเขาพูดจบ  ฉินสือโอวก็เข้าใจที่เขาพูดอย่างแจ่มแจ้งแล้ว จึงพูดด้วยความประหลาดใจว่า “เรือยักษ์ของผมทำงานสำเร็จลุล่วงแล้วหรือครับ?”
แฮงค์ยิ้มแล้วพูดว่า “ใช่ครับ การทำงานสำเร็จอย่างราบรื่นมากเลยล่ะครับ จริงๆ แล้วมันเสร็จสิ้นตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่เราต้องเอาลงไปในน้ำเพื่อทำการทดสอบ ผลการทดสอบยอดเยี่ยมมากเลยครับ ดังนั้นผมเลยอดใจรอไม่ไหวอยากจะมาแจ้งข่าวนี้ให้คุณได้ทราบอย่างไรล่ะครับ”
เรือยักษ์ของเขาก็คือเรือขุนพลเคลย์ตันนั่นเอง เรือกลไฟกึ่งเรือรบที่ได้มาจากเงื้อมมือของกลุ่มอันะพาลอิตาลี ก่อนหน้านี้เขาให้อุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนรื้ออุปกรณ์ทั้งหมดที่อยู่ภายในออกมาแล้วออกแบบใหม่ ติดตั้งใหม่ เหมือนไวน์ใหม่ในขวดเก่า ทำให้มันเกิดใหม่อีกครั้ง
ตอนนั้นฉินสือโอวคิดว่าการเปลี่ยนอุปกรณ์จะรวดเร็วมาก เนื่องจากเขาอยากจะออกทะเลรอบหนึ่งเพื่อไปหาปลาจำพวกปลาโอแถบกับปลากระโทงสีน้ำเงินสักหน่อยก่อนที่วินนี่จะคลอดลูก แต่ความรวดเร็วของอุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนนั้นไม่ได้รวดเร็วเหมือนอย่างที่เขาคิดเอาไว้ ตอนนี้วินนี่คลอดลูกแล้ว เรือประมงกลับเพิ่งจะลงน้ำ
แฮงค์ถามฉินสือโอวว่าจะมาดูเรือเมื่อไหร่ ประจวบเหมาะกับตอนนี้เขายังอยู่ที่เซนต์จอห์นก็เลยบอกให้เขารอสักครู่ วันนี้เขาจะพาคนไปหาเขาด้วย
พอวางสายโทรศัพท์แล้ว ฉิวสือโอวจึงบอกให้เบิร์ดบอกพวกชาร์คกับแลนซ์ให้ตรวจสอบเรือประมงก่อนที่จะรับมา และนี่คือเรือที่ใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้
หลังจากนั้นพวกชาวประมงก็มาถึง ฉินสือโอวกับวินนี่ได้พูดคุยกันสักพัก แล้วคนกลุ่มหนึ่งก็ไปที่ท่าเทียบเรือของอุตสาหกรรมต่อเรือโพไซดอนอย่างคึกคัก
เมื่อมองจากที่ไกลๆ ก็สามารถมองเห็นรูปร่างขนาดใหญ่มหึมาตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล อู่ต่อเรือได้ทำการทาสีใหม่ให้เรือขุนพลเคลย์ตันไปแล้วหนึ่งรอบ ซึ่งเป็นสีที่ป้องกันการกัดกร่อนและป้องกันสนิม PHP ที่ล้ำสมัยที่สุดในตอนนี้ โดยการพ่นในหนึ่งรอบต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงินห้าหมื่นหยวน
เมื่อก้าวขึ้นไปเหยียบบนเรือเหล็กยักษ์ลำนี้ เหล่าชาวประมงก็ส่งเสียงร้องตะโกนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวราวกับทหารที่รักและหวงแหนปืนของตัวเอง เหล่าชาวประมงมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าของเรือประมงลำนี้อยู่มาก การที่ได้มีเรือลำใหญ่เช่นนี้ไว้ในครอบครอง สำหรับชาวประมงแล้วถือเป็นความฝันที่มีมาหลายชั่วอายุคนเลยทีเดียว
ฉินสือโอวเดินเข้าไปในห้องขับเรือ มันไม่ทรุดโทรมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ไฮเทคมากมายจนละลานตา มีไฟสีแดงและสีเขียวจำนวนหนึ่งกำลังกะพริบ เรดาร์ หางเสืออัตโนมัติ และอุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียม ทั้งหมดล้วนเป็นอุปกรณ์ที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกยุคปัจจุบัน
แฮงค์ชี้ไปที่อุปกรณ์สื่อสารผ่านดาวเทียมแล้วพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “นี่คือเครื่องล่าสุดที่ผลิตโดยบริษัทโบลล์ในเยอรมัน สุภาพบุรุษทุกท่าน ขอเพียงแค่เรือของพวกคุณอยู่บนน้ำ ต่อให้อยู่ในมหาสมุทรใดในโลกนี้ก็จะสามารถรับสัญญาณได้!”
พอดูห้องขับเรือแล้วฉินสือโอวก็ไปดูห้องโดยสารอื่นๆ อีก ตอนนี้เรือลำนี้มีรูปลักษณ์ที่ใหม่เอี่ยม บนพื้นฐานของการบำรุงรักษากระดูกงูเดิมแม้แต่ห้องโดยสารก็ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ให้ทันสมัยขึ้น นี่จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิ้นเปลืองเวลาไปนานขนาดนี้
ห้องโดยสารของลูกเรืออยู่ใกล้มาก มันอยู่ระหว่างห้องขับเรือกับห้องบรรทุกสินค้า ทั้งหมดมียี่สิบแปดห้อง สามารถรองรับลูกเรือได้มากกว่าห้าสิบคน
พอฉินสือโอวเปิดเข้าไปดูห้องโดยสารของลูกเรือ ก็เห็นในห้องมีทีวีติดผนัง เครื่องเล่นเกมและดีวีดีทุกห้อง
แฮงค์แนะนำว่า “ทีวีเหล่านี้ใช้สัญญาณดาวเทียมบนเรือ ผมกล้ารับประกันเลยว่าพวกคุณจะได้รับชมสถานีโทรทัศน์มากกว่าบนบกเลยทีเดียว บางทีคุณอาจจะยังสามารถได้รับชมรายการตอนเที่ยงคืนวาบหวิวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ดังนั้นพวกคุณต้องดูแลไตและอวัยวะภายในของตัวเองให้ดีๆ นะครับ”
……………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset