ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1004 บุชผู้พิสูจน์ตัวเอง

บูลทายไม่ผิด ปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่เขาดึงขึ้นมาก็มีขนาดความยาวถึง 3.7 เมตร เมื่อลองชั่งน้ำหนักดู ก็หนักถึงแปดร้อยกว่าปอนด์เต็มๆ ถึงแม้ว่าจะเล็กกว่าปลาตัวที่ฉินสือโอวตกขึ้นมาได้อยู่นิดหน่อย แต่ก็สามารถเรียกมันว่าเป็นปลาใหญ่ได้อย่างแน่นอน
มองดูปลาใหญ่ตัวนี้ บูลก็หน้าบานด้วยความปีติยินดี เขาโบกกำปั้นพร้อมกับร้องตะโกนว่า “ดีจริงๆ บูลน้อยของฉันมีเงินพอที่จะซื้อนมผงแล้ว แถมยังซื้อหลุยส์ วิตตองให้แอนนี่ได้อีกหนึ่งชุดด้วย ส่วนเงินที่เหลือก็เอาไปตกแต่งบ้านของพวกเรา!”
เมื่อมีแรงกระตุ้นจากฉินสือโอวกับบูล ก็สามารถปลุกเร้าคนอื่นๆ ที่เหลือให้มีกำลังใจที่จะโปรยปลาแฮร์ริ่งที่เป็นเหยื่อลงไปในน้ำ
ฉินสือโอวไม่ได้ห่วงว่าจะเป็นการสิ้นเปลืองเหยื่อตกปลา ตอนนี้ที่ฟาร์มปลามีฝูงปลาอยู่นับไม่ถ้วน ถึงแม้ว่าปลาทูน่าจะไม่ได้กินเหยื่อพวกนี้ แต่ปลาตัวอื่นๆ ก็ได้กินอยู่ดี
ทว่าชิ้นเนื้อปลาที่เหล่าชาวประมงโปรยออกไปกลับไปดึงดูดนกนางนวลเข้ามาเสียก่อน นกชนิดนี้มีแหล่งอาหารที่มีขอบเขตกว้างขวางเป็นอย่างยิ่ง พวกมันสามารถกินปลา กินหมึก และสัตว์ที่มีลำตัวนิ่มทุกชนิดเป็นอาหารได้ และยังกินซากนกเป็นอาหารด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่พวกมันโปรดปรานที่สุดก็คือเศษเนื้อปลา
ด้วยเหตุนี้ จึงมักจะเห็นเงาร่างของพวกมันในน่านน้ำที่มีฉลามว่ายน้ำผ่านอยู่เสมอๆ พวกมันจะคอยเก็บกินเนื้อปลาที่ยังเหลืออยู่จากปากของฉลาม
เมื่อก่อนตอนที่ฉินสือโอวไปตกปลาที่ชายหาดน้ำตื้นจอร์จ เขาก็เคยเผชิญความยากลำบากจากพวกนกนางนวลมาก่อนเหมือนกัน นกพวกนี้ฉลาดปราดเปรื่องไม่มีใครเทียบ ชิ้นเนื้อปลาที่ถูกโยนลงไปยังไม่ทันจะจมน้ำก็ถูกพวกมันงมขึ้นมาเสียแล้ว อีกทั้งกฎหมายยังกำหนดไว้ว่าไม่อนุญาตให้ฆ่านกนางนวล ดังนั้นพวกชาวประมงจึงหมดปัญญาที่จะจัดการกับฝูงนกนางนวล
นกนางนวลแค่ไม่กี่ตัวไม่ได้ทำให้เกิดการคุกคาม แต่นกพวกนี้มักจะปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันเป็นฝูง บางครั้งนกหลายร้อยตัวก็เข้ามาหาพร้อมๆ กัน มืดฟ้ามัวดินจนทำให้พวกชาวประมงหมดอาลัยตายอยาก ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ชาวประมงทุกคนที่ไม่ใส่ใจเศษเงินเล็กน้อยอย่างฉินสือโอว
ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว พอฉินสือโอวผิวปากออกไป นิมิตส์ก็ลอยตัวร้องเสียงแหลมสูงอยู่บนอากาศ มันบินวนเรือตกปลาอยู่หนึ่งรอบ นกนางนวลที่กำลังแย่งชิงชิ้นเนื้อปลาก็ตกใจจนบินหนีไปคนละทิศคนละทาง
ทว่าอำนาจคุกคามของนกโจรสลัดก็มีอยู่ไม่มาก พวกนกนางนวลยังคงแอบตามเรือตกปลาอย่างลับๆ ล่อๆ ถ้าบุชอยู่ที่นี่ ด้วยอารมณ์ที่รุนแรงและท่าทางดุร้ายของนกอินทรีหัวขาว นกนางนวลพวกนี้คงจะบินหนีไปไกลแล้วแน่ๆ
ฟาร์มปลามีเนื้อที่ที่ทั้งยาวและกว้างใหญ่ขนาดนี้ อัตราความเป็นไปได้ที่ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือก็จะถูกเนื้อปลาล่อลวงมาก็มีอยู่ไม่มาก ฉินสือโอวกระจายพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนไว้ในพื้นที่ตรงนี้ แบบนี้ถึงจะมีแรงดึงดูดต่อปลาทูน่าที่มากพอ
หลังจากเหล่าปลาทูน่ามาถึงที่ตรงนี้แล้ว ฉินสือโอวก็ควบคุมจำนวนของพวกมัน เหลือปลาทูน่าไว้แค่ตัวสองตัวที่นานๆ ครั้งจะว่ายผ่านเข้ามาใต้เรือ พวกชาวประมงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นความแรงปรารถนาอย่างแรงกล้าก็ถึงกับร้องโหวกเหวกขึ้นมา พวกเขาแทบจะกระโดดลงจากเรือเพื่อไปจับปลาขึ้นมาอยู่แล้ว
เรือตกปลาลอยอยู่บนท้องทะเลตั้งแต่เช้าถึงเย็น จนถึงตอนที่พระอาทิตย์ตกลงบนผิวน้ำ ฉินสือโอวถึงเพิ่งจะสั่งให้กลับไปที่ท่าเรือ
พวกชาวประมงยังเต็มไปด้วยเลือดที่กำลังระอุ ความตื่นเต้นที่มาจากเงินตราทำให้พวกเขาไม่อยากตัดอกตัดใจ หลังจากนั้นภายใต้การควบคุมดูแลของฉินสือโอว พวกเขาก็ตกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือขึ้นมาได้อีกสองตัว และยังเป็นปลาใหญ่ขนาดเจ็ดร้อยแปดร้อยปอนด์ทั้งคู่
แน่นอนว่า การควบคุมของฉินสือโอวก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ปลาทูน่าถูกตกขึ้นมา ไม่เช่นนั้นแล้วถ้าพลังของจิตสำนึกแห่งโพไซดอนดึงดูดปลาฝูงใหญ่ให้มาที่นี่ บ่ายวันนี้พวกชาวประมงคงจะตกปลาทูน่าได้ถึงสี่สิบตัว
ปลาสองตัวนี้แบ่งเป็นปลาที่ชาร์คกับเบิร์ดตกขึ้นมา ฉินสือโอวรับปากว่าจะแบ่งกำไรให้พวกเขาคนละ 5% เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อให้เป็นคนที่ปกติแล้วสุขุมเยือกเย็น ไม่แสดงอารมณ์ดีร้ายผ่านสีหน้าอย่างเบิร์ดก็แย้มรอยยิ้มอย่างมีความสุขออกมาให้เห็นเช่นกัน
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือที่มาจากฟาร์มปลาต้าฉินมีคุณภาพดีที่สุด ปลาขนาดแปดร้อยปอนด์หนึ่งตัวต่อให้ไม่นำไปประมูล ก็สามารถขายออกไปในราคาสองแสนดอลลาร์ได้อย่างง่ายดาย ห้าเปอร์เซ็นต์ของเงินจำนวนนี้ก็เท่ากับหนึ่งหมื่นดอลลาร์
ถ้านำไปประมูล เช่นนั้นแล้วเงินที่พวกเขาจะได้รับก็เป็นเงินที่มากพอดูเลยทีเดียว ปลาตัวหนึ่งอาจจะสามารถขายได้ในราคาสองล้านดอลลาร์แคนาดาเลยก็ได้
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนพลบค่ำคลื่นทะเลค่อยๆ สาดซัดขึ้นมาอย่างช้าๆ เรือตกปลาท่ามกลางคลื่นที่ซัดสาดโคลงเคลงไปมาไม่หยุด บูลยืนอยู่บนหัวเรือ เขาร้องตะโกนออกมาว่า “ฉันจะไม่ยอมก้มหัวให้กับธรรมชาติ! พระเจ้า ผมเคารพท่านเหมือนพ่อแท้ๆ ได้โปรดอวยพรและมอบความกล้าหาญให้ลูกด้วย!”
ฉินสือโอวจึงถามด้วยความประหลาดใจว่า “บูลกำลังพูดอะไรอยู่เหรอ? เป็นธรรมเนียมอะไรสักอย่างอีกแล้วหรือเปล่า?”
แลนซ์พ่นควันบุหรี่ออกมาเป็นรูปวงกลมแล้วแบะปากพร้อมกับพูดว่า “เรื่องงี่เง่าครับ เขากำลังหาแรงกระตุ้นให้ตัวเองอยู่…”
เรือตกปลาลอยไปบนผิวน้ำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่อาทิตย์อัสดงจะหายลับไป จุดสีดำที่หันหลังให้พระอาทิตย์ยามเย็นก็บินเข้ามาด้วยความเร่งรีบ ดูราวกับเครื่องบินรบซูเปอร์พาวเวอร์ ระหว่างที่กำลังส่งเสียงร้องคำรามแหลมสูงจากจุดสีดำๆ ก็กลายมาเป็นเงาสีดำแทน ต่อจากนั้นเงาร่างของบุชก็ปรากฏขึ้น
“ดูที่ใต้กรงเล็บของมันสิ!” นีลเซ็นตะโกน
ฉินสือโอวเห็นว่าใต้กรงเล็บของบุชมีอะไรสักอย่างอยู่ด้วยจริงๆ รอจนมันบินเข้ามาใกล้กับด้านบนของเรือถึงจะดูออก ว่านั่นคือปลากระโทงร่มตัวยาวๆ หนึ่งตัว น่าจะมีความยาวราวๆ ครึ่งเมตร อ้วนท้วนสมบูรณ์เป็นอย่างมาก คาดว่าน่าจะหนักหลายสิบกิโล
บุชบินดิ่งลงมาราวกับเครื่องบินทิ้งระเบิด หลังจากบินผ่านหัวเรือมาแล้วมันก็ทิ้งปลาลงบนดาดฟ้าเรือพร้อมกับส่งเสียงร้องต่ำๆ ออกมา ‘แควก’
ปลากระโทงสีน้ำเงินเป็นปลาที่มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งจริงๆ หลังของมันถูกกรงเล็บแหลมคมของนกอินทรีหัวขาวจิกจนทะลุ ไม่รู้ว่ามันถูกพาขึ้นมาจากทะเลนานแค่ไหนแล้ว ทว่าหลังจากที่ร่วงลงมาบนดาดฟ้าเรือ มันก็ยังสามารถดีดสะบัดตัวได้อยู่
หลังจากที่บุชทิ้งปลากระโทงสีน้ำเงินตัวนี้ลงมาข้างล่างแล้ว มันก็บินร่อนอย่างช้าๆ อีกสองรอบแล้วถึงจะบินร่อนลงมาข้างล่าง ที่ด้านหน้าของฉินสือโอวโดยตรง คลายกรงเล็บทั้งสองข้างออก มันก้าวย่างด้วยท่าทางองอาจอย่างนกอินทรีเดินเข้ามาตรงด้านหน้าของฉินสือโอวแล้วส่งเสียงร้องแควกๆ ออกมา
นีลเซ็นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูสิครับ บอส มันประท้วงคุณด้วยล่ะ เมื่อเช้าคุณทำลายความเคารพในตัวเองของมัน”
“ไม่ใช่ มันไม่ได้ประท้วง มันกำลังพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ว่าตัวเองไม่ได้ดีแต่หาเรื่องทะเลาะต่อยตีอย่างเดียว แต่ยังจับปลาได้ด้วย แถมยังจับปลาตัวใหญ่ได้อีกต่างหาก” ฉินสือโอวพูดยิ้มๆ
เขาอุ้มบุชขึ้นมาไว้ในอ้อมอก ตอนนี้มันตัวโตขึ้นแล้ว ถึงแม้ว่าจะเก็บปีกทั้งสองข้างเข้าหากัน แต่เวลาอุ้มมันฉินสือโอวก็รู้สึกเหนื่อยอยู่เหมือนกัน ไม่ใช่เพราะหนัก แต่เพราะมันตัวใหญ่
โชคดีที่บุชเชื่องมาก หลังจากถูกอุ้มไว้ในอ้อมกอดมันก็ส่งเสียงร้อง ‘กูวๆ’ อย่างเบาๆ ทั้งยังไม่ขยับตัว
ฉินสือโอวสางขนให้มัน เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง ไม่รู้ว่าบุชบินอยู่นานแค่ไหนถึงจะสามารถหาปลาดีๆ แล้วจับมาให้เขาได้
และก็เป็นเพราะมันเป็นนกอินทรีหัวขาว ถ้าเป็นนกชนิดอื่นแม้แต่นกอินทรีทอง ก็ไม่สามารถจับปลาใหญ่หนักกว่าสิบกิโลกรัมมาได้ไกลขนาดนี้
แต่ฉินสือโอวคิดว่า ต่อให้เป็นบุชที่องอาจกล้าหาญ ก็คงจะเหนื่อยจนแทบแย่แล้วเหมือนกัน
และก็เป็นอย่างที่คิดว่าขณะที่เขากำลังสางขนอยู่นั้น บุชร้องกูวๆ ด้วยความสบายตัวอยู่ไม่กี่ครั้ง หลังจากนั้นมันก็ค่อยๆ หลับตาทั้งสองข้างแล้วนอนหลับไป
นอนยาวจนกลับมาถึงท่าเรือของฟาร์มปลา ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ฉินสือโอวปล่อยบุชลงมันถึงเพิ่งจะลืมตา สะบัดปีกแล้วบินขึ้นมาอีกครั้ง
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือทั้งสี่ตัวที่แช่เย็นไว้ถูกนำไปวางไว้ในห้องแช่เย็นด้วยความระมัดระวัง ฉินสือโอวโทรศัพท์ไปหาบัตเลอร์ บอกให้เขาหาเวลามารับปลาใหญ่ทั้งสี่ตัว
เมื่อได้ยินว่าฉินสือโอวจับปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือตัวใหญ่ที่รวมกันแล้วมีน้ำหนักมาถึงสามพันห้าร้อยปอนด์ขึ้นมาได้ บัตเลอร์ที่เพิ่งจะเอนตัวลงก็กระโดดขึ้นมาทันที เขาถึงกับร้องเสียงหลงว่า “สามพันห้าร้อยปอนด์? เพื่อน? นายไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม ปลาสี่ตัวหนักสามพันห้าร้อยปอนด์? นี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งเกินไปแล้วจริงๆ!”
ฉินสือโอวบอกเขาว่าถ้าคุณบินมาดูเดี๋ยวคุณก็รู้เองนั่นแหละ บัตเลอร์ก็ตอบเขากลับมาทันทีว่าเขาจะไปถึงตอนวันพรุ่งนี้ หลังจากนั้นก็จะรีบนำปลาออกไปส่งขายในตลาด
หลังจากกลับมาถึงบ้าน ฉินสือโอวก็เข้าไปดูลูกน้อยเสี่ยวเถียนกวาที่อยู่ในห้องนอนตามปกติที่เขาเคยทำ เด็กน้อยยังไม่หลับ ดวงตาสีดำแวววาวจดจ้องขณะที่กำลังเล่นกับนิ้วโป้งด้วยความสนอกสนใจ หลังจากที่ฉินสือโอวเข้ามาใกล้ๆ เธอก็ยื่นมืออ้วนๆ ป้อมๆ อันน้อยแล้วทำท่าว่าจะจับเขา
คลอดออกมาได้ครึ่งค่อนเดือนแล้ว ผิวของเด็กน้อยเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้ดูดำปิ๊ดปี๋อีกต่อไปแล้ว หากแต่ขาวและนุ่มขึ้นมาก เมื่อเอามือเขาไปลูบก็ให้ความรู้สึกราวกับว่ากำลังลูบผ้าซาติน ที่นุ่มลื่นไม่สะดุดมือ
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset