ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1006 คุณพ่อแข่งขันเพื่อการกุศล

ส่งปลาทั้งสี่ตัวให้บัตเลอร์ไปแล้ว แบ่งตามที่ฉินสือโอวเคยกำชับไว้อยู่เสมอๆ เมื่อก่อนหน้านี้ “ห้ามยอมรับกับคนนอกเด็ดขาดว่าปลาพวกนี้เป็นปลาที่จับมาจากฟาร์มปลาของฉัน ห้ามทำเด็ดขาดเลยนะ”
บัตเลอร์ใช้สายตาอย่างคนโง่เซ่อมองไปที่เขา แล้วพูดว่า “นายล้อฉันเล่นหรือเปล่า? ถ้าไม่ติดแบรนด์ต้าฉิน แล้วจะขายได้ราคาสูงได้ยังไง? จะเก็งกำไรได้ยังไงกันล่ะ?”
ฉินสือโอวเล่าเรื่องเทซึกะ โกดะให้เขาฟังคร่าวๆ แล้วพูดอย่างจนปัญญาว่า “เขาทำให้ฉันกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้เลย ถ้าเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากให้เขารู้ว่าฟาร์มปลาของฉันเริ่มส่งออกปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือแล้ว”
บัตเลอร์จึงพูดกับเขาอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจ “มันเกี่ยวอะไรกันด้วยเหรอ? เอาล่ะ ฟาร์มปลาของนายมีปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ คราวนี้มีคนอยากมาซื้อปลาของนาย แต่นายไม่อยากขายใช่ไหม? แล้วยังไงต่อล่ะ? นายปฏิเสธไปก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”
ฉินสือโอวถอนหายใจพูดว่า “นายไม่รู้หรอก เพื่อน เทซึกะ โกดะแสดงตัวเป็นมิตรที่ดีกับฉันมากเกินไป ฉันลำบากใจที่จะปฏิเสธเขา”
บัตเลอร์กล่าวว่า “ไม่ ไม่ ฉิน ธุรกิจก็คือธุรกิจ แล้วธุรกิจก็เป็นเพียงแค่ธุรกิจ นายต้องทำเรื่องนี้ให้มันชัดเจน ดังนั้น ถ้าเขาส่งของขวัญมาให้นาย ถ้าอย่างนั้นนายก็แค่ส่งของขวัญกลับไปให้เขา เขามีไมตรีจิตให้นาย นายก็มีไมตรีจิตกลับไปให้เขา เท่านี้ก็พอแล้ว!”
เมื่อเห็นว่าฉินสือโอวยังอยากจะพูดอะไรสักอย่าง บัตเลอร์ก็ส่ายหัวแล้วพูดต่ออีกว่า “น้องชาย นายต้องเข้าใจเรื่องจริงอย่างแจ่มแจ้งเสียก่อน เทซึกะ โกดะเป็นนักธุรกิจที่นายรู้จัก พวกนายมีความสัมพันธ์ต่อกันเพียงเท่านี้!”
ฉินสือโอวขมวดคิ้วเข้าหากัน ใช่แล้ว เขากับเทซึกะ โกดะไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันแบบนั้นถึงจะถูก เพราะแนวคิดเรื่องน้ำใจที่มีต่อผู้อื่นของชาวจีนเป็นเหตุ เทซึกะ โกดะมีน้ำใจไมตรีกับเขาสารพัดอย่าง ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจที่ไม่ได้ช่วยอะไรอีกฝ่าย
แท้จริงแล้วการที่เขาทำเช่นนี้ก็เสแสร้งมากพอแล้ว ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือในฟาร์มเพาะเลี้ยงที่ญี่ปุ่นเขาก็เป็นคนทำลายมันทั้งนั้น ถ้าเทซึกะ โกดะรู้เรื่องนี้เข้า ก็คงมีความคิดที่อยากจะฆ่าเขาให้ตาย
พอบัตเลอร์พูดอย่างนี้ ฉินสือโอวก็รู้สำนึกได้ในที่สุด ใช่แล้ว ธุรกิจก็เป็นแค่ธุรกิจ เขาจะคิดมากไปทำไมกัน?
ส่งบัตเลอร์กับปลาทูน่าอีกสี่ตัวเสร็จแล้ว เมื่อฉินสือโอวก็กลับเข้ามา เหมาเหว่ยหลงมาหาเขาแล้วบอกว่า “ฉินโซ่ว พวกเราเองก็เตรียมตัวจะกลับกันแล้ว มาอยู่กับแกที่นี่นานพอแล้ว คาดว่าที่ฟาร์มของพวกเราก็น่าจะยุ่งวุ่นวายพอสมควรแล้วแหละ ถึงเวลาที่จะต้องกลับไปจัดการแล้ว”
ตอนนี้ไม่มีความกดดันทางด้านการเงิน ฉินสือโอวชอบวันเวลาที่ได้อยู่ด้วยกันกับพวกเพื่อนๆ จริงๆ เมื่อเหมาเหว่ยหลงจะกลับเขาก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์อยู่เล็กน้อย ถึงการที่พวกเขาอยู่ที่นี่จะมีปัญหาเรื่องความแออัด แต่บรรยากาศในบ้านกลับดีไม่น้อย
เขารั้งให้อยู่ต่ออีกสักพัก เหมาเหว่ยหลงเลยอธิบายว่า “ถึงฤดูใบไม้ผลิแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องเพาะปลูกพืชพันธุ์การเกษตรในฟาร์มแล้ว อีกทั้งก่อนหน้านี้ฉันทำเรื่องขอกู้เงินไปจำนวนหนึ่ง เพิ่งจะเข้าบัญชีเมื่อสองวันก่อน ปีนี้ฉันวางแผนว่าจะเลี้ยงโคเนื้อสักฝูงหนึ่ง ถ้ามีเวลาว่างก็มาช่วยฉันดูหน่อยไหมล่ะ?”
ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ฉินสือโอวก็ไม่มีเหตุผลที่จะรั้งเขาให้อยู่ต่อแล้ว เขาพูดอย่างสบายๆ ว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ได้ พวกแกกลับไปก่อน ก่อนจะซื้อวัวค่อยโทรมาหาฉัน ฉันจะไปช่วยแกดูเอง จะได้ไม่ต้องถูกหลอก แบบนั้นมันไม่ใช่แค่น่าขายหน้าอย่างเดียว ถ้าเสียเงินสิเรื่องใหญ่”
เหมาเหว่ยหลงยิ้มพร้อมกับทุบเขาเข้าให้หนึ่งหมัด บอกว่าแกช่วยพูดกับฉันให้มันน่าฟังหน่อยได้ไหม ต่อจากนั้นก็กลับไปเก็บข้าวของ
บอกว่าจะกลับก็กลับ เหมาเหว่ยหลงจัดการเรื่องอย่างรวดเร็ว ช่วงบ่ายเก็บของเสร็จเรียบร้อยแล้วเขาก็ซื้อตั๋วเครื่องบินรอบเช้าของวันถัดไปไว้แล้ว
ฉินสือโอวไปส่งเหมาเหว่ยหลง อารมณ์ของเขาเศร้าซึมอยู่พักหนึ่ง เขามองดูฟาร์มปลาแล้วก็รู้สึกว่าคนที่เคยอยู่ที่นี่หายไปหลายคนในเวลาแค่แป๊บเดียว
วินนี่อุ้มเสี่ยวเถียนกวาเข้ามาดูเขา เธอพูดว่า “เป็นอะไรไปคะ? ทำไมถึงดูเศร้าขนาดนี้?”
ฉินสือโอวถอนหายใจออก “งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แต่คนอย่างผมทนรับเหตุการณ์แบบนี้ไม่ไหวจริงๆ”
วินนี่ร้องเสียงต่ำด้วยความไม่พอใจแล้วพูดว่า “ฉันว่าคุณอดทนกับช่วงเวลาที่ไม่มีคนให้ออกไปเที่ยวเล่นด้วยไม่ไหวมากกว่า เอาล่ะ จะบอกข่าวดีให้คุณฟังหนึ่งอย่างแล้วกันนะคะ เมื่อกี้ตอนที่คุณไปส่งพวกโคโกโร่ที่สนามบิน โรงพยาบาลแม่และเด็กซานตามาเรียโทรศัพท์มาบอกว่าเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ดกับรัฐนิวบรันสวิกจะจัดการแข่งขันเพื่อการกุศล เป็นการแข่งขันว่ายน้ำข้ามช่องแคบประจำฤดูใบไม้ผลิ เลยมาเชิญพวกเราให้เข้าร่วมด้วย”
ฉินสือโอวจึงพูดกับเธอว่า “พวกเราจะไปแข่งอะไรพวกนี้ทำไมล่ะครับ? เพื่อบริจาคเงินเหรอ?”
วินนี่เลยอธิบายว่า “ไม่ใช่การบริจาคเงินง่ายๆ อย่างนั้นนะคะ แน่นอนล่ะว่าจุดประสงค์ในการรวบรวมเงินเพื่อการกุศล แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นก็คือการมีส่วนร่วมนะคะ ในฤดูใบไม้ผลิของทุกๆ ปีช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์จะจัดการแข่งขันว่ายน้ำประจำฤดูใบไม้ผลิ แต่ละปีจะมีหัวข้อหลักที่แตกต่างกันออกไป ปีนี้เป็นการรวบรวมเงินเพื่อนำไปบริจาคให้เด็กแรกเกิดที่มีอาการเจ็บป่วย ดังนั้นจึงได้เชิญพ่อแม่หลายคนให้มาเข้าร่วมการแข่งขันด้วย”
ความคิดที่ว่าดูท่าจะไม่ดีปรากฏขึ้นในจิตใจของฉินสือโอว เขาถามเธอว่า “เชิญให้ผมไป ไม่ใช่เพื่อให้ไปบริจาคเงิน แต่ให้ไปว่ายน้ำใช่ไหม?”
วินนี่ยักไหล่ แล้วถามเขากลับไปว่า “คุณไม่สนใจเหรอคะ?”
ฉินสือโอวยิ้มเจื่อนๆ “ไม่สนใจก็ต้องไปอยู่ดี ถึงยังไงคุณก็ลงชื่อให้ผมแล้ว”
วินนี่เบะปากด้วยความโกรธเคือง พูดกับเขาว่า “ใครบอกคะว่าฉันลงชื่อให้คุณแล้ว?”
ฉินสือโอวเข้าไปบีบแก้มเธอหนึ่งที แล้วพูดอย่างยิ้มๆ ว่า “ไม่ต้องแกล้งทำแล้วล่ะ จากที่ผมรู้จักหม่ามี๊ของลูกสาวตัวเอง ตอนนี้ก็น่าจะกำลังหลอกคุณพ่อของเธอเล่นอยู่ ใช่ไหมล่ะครับ?”
แค่แป๊บเดียววินนี่ก็ยิ้มออกมา ดวงตาทั้งสองข้างโค้งเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว เธอหัวเราะคิกคัก พร้อมกับพูดว่า “เอาล่ะ คุณรู้จักฉันดีจริงๆ ฉันยอมรับว่าที่จริงฉันลงชื่อให้คุณไปแล้ว”
ผ่านไปสักพัก บูลก็วิ่งเข้ามาหาอย่างคึกคักดีใจ แล้วตะโกนว่า “กัปตัน ผมจะเรียนรู้จากคุณ ผมก็ลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันว่ายน้ำครั้งใหญ่ประจำฤดูใบไม้ผลิของช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์เหมือนกัน ถึงตอนนั้นคุณต้องปรานีผมด้วยนะ อย่าชนะผมไปไกลนัก”
ฉินสือโอวกล่าวว่า “นายก็สมัครเข้าร่วมการแข่งขันเหมือนกันเหรอ? โอ้ พ่อบูล นายช่างกระตือรือร้นจริงๆ เลยนะ”
บูลยิ้มซื่อๆ พร้อมกับพูดว่า “สิ่งที่ผมทำมันคือการตอบรับการขอความร่วมมือของผู้นำไม่ใช่เหรอครับ”
ฉินสือโอวพูดอย่างตกตะลึงว่า “ใครเป็นคนสอนประโยคนี้ให้นายกัน?”
บูลพูดอย่างแน่นอนว่า “ผมดูช่องทีวีภาษาจีนที่บ้านของคุณทุกวันๆ ประโยคนี้ผมเรียนรู้มาตั้งนานแล้ว!”
“เอาล่ะ นับว่านายหัวแหลมนะ” ฉินสือโอวตบไหล่ของเขาแปะๆ พร้อมกับพูดว่า “ทำได้ดีมาก ผู้นำของนายเห็นมันแล้ว ถ้ามีโอกาสฉันจะมอบภาระหนักให้นายอย่างแน่นอน”
ช่องแคบนอร์ทัมเบอร์แลนด์ตั้งอยู่ระหว่างรัฐนิวบรันสวิกกับเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด ในช่วงฤดูใบไม้ผลิของทุกปี ที่นี่จะจัดการแข่งขันว่ายน้ำเพื่อการกุศลประจำฤดูใบไม้ผลิขึ้นหนึ่งครั้ง ปีที่แล้วเป็นการจัดงานเพื่อรวบรวมเงินเพื่อนำไปบริจาคให้กับผู้ป่วยโรคเอชไอวีและเรียกร้องให้ทุกๆ คนปฏิบัติต่อผู้ป่วยโรคเอชไอวีด้วยจิตใจที่เป็นปกติ ส่วนหัวข้อหลักในปีนี้ก็คือ ‘ใส่ใจสุขภาพของลูกรัก ให้ทูตแห่งสวรรค์ตัวน้อยได้กางปีกบิน’
ฉินสือโอวเข้าไปค้นหาข่าวที่เกี่ยวข้องจากอินเทอร์เน็ต การแข่งขันจะเปิดตัวจากทางฝั่งแหลมจอริเมนในรัฐนิวบรันสวิก และขึ้นฝั่งที่บอร์เดนคาร์ลตันบนเกาะพรินซ์เอ็ดเวิร์ด ระยะทางทั้งหมดราวๆ 15 กิโลเมตร
แชมป์ของปีที่แล้วคือผู้ป่วยโรคเอชไอวีหญิงคนหนึ่งที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ชื่อว่าซาราคลิน สาวน้อยผู้กล้าหาญคนนี้ใช้เวลาในการว่ายน้ำข้ามฝั่งเพียงสี่ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ในตอนนั้นเงินบริจาคบรรลุถึง 142,000 ดอลลาร์แคนาดา ในจำนวนนั้นมีเงินบริจาคภายใต้ชื่อของซาราคลิน 1,600 ดอลลาร์แคนาดา
ในอดีตหลายๆ ครั้งผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่ได้รับเชิญจะมีอายุค่อนข้างมาก อายุน้อยที่สุดเพียงแค่สี่สิบปี ส่วนผู้เข้าร่วมการแข่งขันที่มีอายุมากที่สุดก็คือผู้สูงอายุวัยเจ็ดสิบปีท่านหนึ่ง การแข่งขันปีนี้จะทรหดยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากทุกคนที่ได้รับเชิญมาล้วนแต่เป็นผู้ชายที่เพิ่งจะกลายเป็นพ่อคน ที่มีอายุตั้งแต่ยี่สิบและมีอายุมากสุดสี่สิบปี
หลังจากได้ทำความรู้จักการแข่งขันเพื่อการกุศลในครั้งนี้แล้ว ฉินสือโอวก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา เนื่องจากแชมป์ของการแข่งจะได้รับสิทธิ์ในการตั้งชื่อรางวัลการกุศล เขาจึงอยากชนะเพื่อลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นแชมป์ให้ได้
……………………………………………….

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset