ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1014 กองทุนเถียนกวา

ฉินสือโอวไม่ต้องการถูกผู้คนมองว่าเป็นตัวประหลาด ดังนั้นต่อมาเขาจึงลดความเร็วในการว่ายน้ำลง เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันที่อยู่ข้างหลังเข้าใกล้เขาได้อีกสักนิด
บางทีอาจเป็นเพราะแรนส์ วันนี้ฉินสือโอวถึงอยู่ในสภาพที่ดีอย่างผิดปกติ แน่นอนว่านี่ยังเกี่ยวกับคลื่นลมที่ค่อนข้างเบาในนอร์ทัมเบอร์แลนด์ ความเร็วของเขาเร็วกว่าตอนฝึกซ้อมอย่างน้อย 20% ถ้าเขาพุ่งตัวด้วยกำลังทั้งหมด สิบห้ากิโลเมตรภายในเวลาสามชั่วโมงกว่าก็ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อได้รับผลกระทบจากเขา หู่จือและเป้าจือก็พยายามอย่างสุดความสามารถ พวกมันคุ้มกันทั้งสองด้านของฉินสือโอวตลอดทาง คล้ายกับเจ้าสุนัขตัวเล็กที่เล่นอย่างสนุกสนาน
การรวมกันของคนหนึ่งคนและสุนัขอีกสองตัวเป็นสิ่งที่สะดุดตาจริงๆ โดยเฉพาะฉินสือโอวที่ยังคงเปลือยท่อนบน ทำให้ดึงดูดความสนใจของสื่อทุกสำนักได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากฉินสือโอวว่ายน้ำได้สิบกิโลเมตร เรือคายัคขนาดเล็กห้าถึงหกลำและเรือลำเล็กอีกสองลำได้ล้อมรอบเขาไว้ ซึ่งบนเรือมีคนถือกล้องถ่ายรูปกำลังถ่ายภาพเขาตลอดทางและยังมีนักข่าวตัวน้อยกำลังพูดคุยกันอย่างตื่นเต้นไปทั่วทุกที่
เสียงคลื่นซัดของน้ำทะเล ทำให้ฉินสือโอวได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกันไม่ค่อยชัด เขารู้สึกแค่ว่ามันต้องดีมากแน่ๆ
ตอนนี้หู่จือและเป้าจือกำลังทำตัวไม่ดีกับปอหลัว เมื่อเห็นคนคลั่งไคล้ ดูเหมือนว่าพวกมันจะรู้ประโยชน์ของการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายรูป พวกมันจึงแสดงท่าทางห้าวหาญและมีพละกำลังมาก เดิมทีเจ้าสองตัวนี้รู้สึกเหนื่อยอยู่บ้างเล็กน้อย ฉินสือโอวจึงลดความเร็วก็เพื่อที่จะดูแลพวกมัน
แต่ต่อมาก็พบว่ามีกล้องถ่ายรูปกำลังหันมาที่ตัวเอง จึงหุบปากลงพร้อมกับเบิ่งตาทันที ใบหน้าเล็กๆ จึงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึมและเอาลีลาการวางมาดของสุนัขแลบราดอร์ที่มีชื่อเสียงออกมา
ในช่วงห้ากิโลเมตรสุดท้าย ความเร็วของฉินสือโอวก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เพื่อให้คนที่อยู่ข้างหลังได้มีโอกาสเข้ามาใกล้ได้มากขึ้น เมื่อเห็นชายหาดที่แหลมจอริเมนในรัฐนิวบรันสวิก เซลต้าที่อยู่อันดับที่สองก็อยู่ห่างจากฉินสือโอวไม่ถึงสองร้อยเมตรแล้ว
ถ้าเป็นการวิ่งบนพื้นดินธรรมดา ระยะทางสองร้อยเมตรปัญหาจะอยู่ที่ลมหายใจ แต่ถ้าอยู่ในน้ำและต้องว่ายสิบห้ากิโลเมตร สองร้อยเมตรนี้จะเป็นระยะทางเท่ากับคูน้ำตามธรรมชาติ เซลต้าแทบจะไม่ให้ตัวเองตกแถวและต้องการแซงฉินสือโอวเพื่อขึ้นเป็นลำดับที่หนึ่ง ซึ่งเป็นไปไม่ได้
ฉินสือโอวก็พยายามจะทำให้สำเร็จภายในรวดเดียว เขาพุ่งตัวออกไปอย่างสุดกำลัง เมื่อวิ่งไปถึงฝั่ง ขาทั้งสองข้างเหยียบลงบนชายหาด เขายกแขนทั้งสองข้างขึ้นสูงพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปข้างหน้า
พนักงานบริการที่รออยู่จุดหมายปลายทางก็ส่งเสียงต้อนรับเขา มีการจัดวางการยิงสลุตแปดนัดบนชายหาดและมีเสียงดังขึ้นในเวลาเดียวกัน เพนท์บอลที่อยู่ใต้พื้นดินก็ระเบิดเสียงดังขึ้น เศษกระดาษหลากสีก็ตกใส่เต็มตัวของฉินสือโอวทันที
บางคนเอาผ้าห่มมาเตรียมไว้ให้กับฉินสือโอวคลุม บางคนก็ส่งน้ำกลูโคสร้อนให้เขาและบางคนก็แขวนเหรียญทองขนาดเล็กไว้ที่คอของเขา สรุปคือทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามทางของเขาที่วางไว้
นักข่าวคนหนึ่งจึงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “คุณตอร์ปิโดตะวันออก คุณรู้ไหมว่าคุณใช้เวลาไปทั้งหมดเท่าไร?”
ถึงแม้ว่าตอนนี้ฉินสือโอวจะไม่ได้รู้สึกเหนื่อยจนเดินไม่ไหว แต่เขาก็ล้ามาก เขาแอบบ่นความไร้สาระของนักข่าวคนนี้ในใจ เขาเปลือยท่านบนลงน้ำไม่มีทั้งโทรศัพท์ไม่มีทั้งนาฬิกา แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองใช้เวลาไปเท่าไร?
แต่เขาก็ยังไม่ได้พูดอะไร ก็มีขึ้นตอบแทนเขาขึ้นมาว่า “เขาใช้เวลาไปสามชั่วโมงห้าสิบสองนาที! ยังไม่ถึงสี่ชั่วโมงด้วยซ้ำ! คุณฉิน คุณได้สร้างสถิติในการแข่งขันครั้งนี้ คุณทิ้งตำนานไว้ คุณยอดเยี่ยมมาก!”
กล้องและไมโครโฟนที่อยู่ต่อหน้า ฉินสือโอวจึงรีบแสดงท่าทางอันสง่างามของเขาออกมา “เป็นสิ่งที่เหลือเชื่อมากจริงๆ! เดิมทีผมคาดไว้ว่าตัวเองอาจจะเสียเวลาไปประมาณสี่ชั่วโมงยี่สิบนาที แต่คิดไม่ถึงว่าจะเข้าเส้นชัยภายในสี่ชั่วโมงสุดท้าย ขอบคุณพระเจ้า! ขอบคุณภรรยาและครอบครัว! และต้องขอบคุณลูกชายทั้งสองที่คอยร่วมทางไปกับผม!”
ฉินสือโอวหันกลับมา หู่จือและเป้าจือที่กำลังสะบัดขนอยู่บนชายหาดก็มองไปที่เขาแล้วกางแขนออกแล้ววิ่งไปหาเขาอย่างมีความสุขและกระโดดขึ้นไปเกาะบนตัวเขา มือข้างหนึ่งของเขาก็อุ้มแลบราดอร์ทั้งสองไว้ในอ้อมแขนและใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข
ตากล้องกดชัตเตอร์รัวๆ เสียงจากแฟลชกล้องก็ดังขึ้น ‘แชะแชะ’ ในขณะถ่ายภาพของคนหนึ่งคนกับสุนัขสองตัวกอดกันที่กำลังอย่างมีความสุขจากมุมต่างๆ
จากนั้นเซลต้าก็ตามเขามาติดๆ เขาเดินอย่างโซซัดโซเซและเหนื่อยล้าจากการแช่แข็งมานาน ใบหน้าดำมืดของเขาซีดเล็กน้อย จึงมีคนส่งน้ำกลูโคสร้อนให้เขา แม้ว่าอุณหภูมิจะค่อนข้างสูง แต่เขาก็ยังกรอกลงไปในปาก แล้วตะโกนว่า “ขอบคุณพระเจ้า! ฉันมีชีวิตรอดมาถึงฝั่งแล้ว!”
ฉินสือโอวเดินไปกอดเขาและถามอย่างตั้งใจว่า “เฮ้ คุณ คุณเห็นผู้ชนะเลิศของเราแล้วหรือยัง?”
“คุณจะบอกว่าเขาคือแรนส์ เคลวินเหรอ?” เซลต้าเข้าใจความหมายของเขา “อ้อ ชายผู้น่าสงสารคนนั้น เหมือนว่าเขาจะไม่ติดสามอันดับแรกเลยด้วยซ้ำ ผมคิดว่าเขาคงไม่ได้รับเหรียญรางวัล นี่มันช่างน่าเสียดายจริงๆ! แต่การจัดอันดับก็ไม่สำคัญ ไม่ใช่เหรอ?”
ฉินสือโอวชูเหรียญทองของตัวเองขึ้นพร้อมกับยิ้มไปด้วย เซลต้าก็ลูบที่เหรียญเงินของตัวเองและยิ้มด้วยเช่นเดียวกัน
อันที่จริงฉินสือโอวค่อนข้างใช้แผนสกปรก เพราะเขาเพิ่งปล่อยจิตสำนึกแห่งโพไซดอนในขณะที่ว่ายน้ำไปด้วย หลังจากเห็นแรนส์จึงสร้างคลื่นใต้น้ำและบังเอิญไปตรงข้ามกับทิศทางการว่ายน้ำของเขาพอดี ดังนั้นแรนส์จึงได้ผลไม่คุ้มกับแรงที่เสียไป เขาว่ายน้ำได้ไม่ไกลมากนักก็รู้สึกเหนื่อยแล้ว จึงทำได้เพียงต้องหยุดพักตลอดเวลา
แรนส์ผู้น่าสงสารยังคงไม่รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน เขาคิดว่าเป็นเพราะตัวเองอายุมากแล้ว กำลังแรงของตัวเองจึงลดลงเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นคนธรรมดาทั่วไปแต่ละคนไล่ตามตัวเองทัน เขาก็ยิ่งรู้สึกท้อใจมากขึ้นเรื่อยๆ เขาว่ายน้ำได้แค่ครึ่งทาง คิดไม่ถึงว่าต้องยอมแพ้และขึ้นเรือไปพัก!
ถ้ามองจากจุดนี้ การที่แรนส์ไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพการงานก็มีส่วนเช่นกัน สภาพจิตใจภายในของเขาไม่แข็งแกร่งพอที่จะต่อสู้กับลมพายุ
เมื่อรอเรือคายัคที่รับผิดชอบด้านการพยาบาลจอดเทียบฝั่งหมดแล้ว ก็มีคนเริ่มเช็กจำนวนผู้เข้าแข่งขัน ฉินสือโอวถูกกลุ่มนักข่าวล้อมรอบอย่างฮึกเหิม เขากอดวินนี่และลูกสาวของเขาพร้อมกับรับสัมภาษณ์ด้วยกัน เขาหันกลับไปมองเห็นแรนส์ที่อยู่ไม่ไกลและกำลังมองเขาอย่างหดหู่
ฉินสือโอวรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้โกรธแค้นอะไรแรนส์ เขาไม่รู้ว่าทำไมผู้ชายคนนี้ถึงต่อต้านเขาตั้งแต่แรก ในตอนนั้นที่ให้สัมภาษณ์อยู่ เขาก็แสดงออกอย่างค่อนข้างเงียบ แต่แรนส์เริ่มกัดเขาแล้วทำตัวเป็นเหมือนกับหมาบ้า
บางทีถ้าเป็นเมื่อสองปีก่อน ฉินสือโอวอาจจะไปโอ้อวดต่อหน้าแรนส์แล้วก็ได้ แต่ตอนนี้เขาไม่ได้มีความคิดนั้นอีกแล้ว
ทั้งสองอยู่คนละโลกกัน เมื่อพูดถึงคำนี้ก็ทำให้แรนส์รู้สึกสิ้นหวัง ฉินสือโอวไม่เคยมองว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้เลย
ถ้าฉินสือโอวดุร้ายจริงๆ เขาสามารถควบคุมฉลามขาวยักษ์และเฮยป้าหวังโดยตรงได้ พวกมันสามารถกลืนแรนส์เข้าไปได้ในครั้งเดียว แต่ในความเป็นจริงตั้งแต่ได้รับหัวใจโพไซดอนมา ฉินสือโอวก็ไม่เคยคิดที่จะทำร้ายใครรวมถึงอัลเบิร์ตด้วย
แรนส์ที่กำลังมองดูฉินสือโอวอยู่ไม่ไกลนัก ก็มีนักข่าวพูดถึงเรื่องความขัดแย้งของทั้งสองคนขึ้น และถามฉินสือโอวว่าเขาคิดอย่างไรกับเรื่องนี้
พอฉินสือโอวกำลังจะพูด วินนี่ก็ดึงแขนของเขาไว้ก่อนและยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับนักข่าว แล้วพูดว่า “นั้นมันก็เป็นแค่เพียงการทดสอบฝีมือก่อนการแข่งขันระหว่างนักว่ายน้ำฝีมือดีทั้งสองคนเท่านั้นเอง ซึ่งก็เป็นเหมือนกับตอนที่นักมวยอยู่บนสังเวียนกำลังพ่นคำดูถูกเหยียดหยามใส่กัน ความจริงแล้วพวกเขาต่างชื่นชมกันและกันและมีความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายมาก”
และไม่ใช่นักข่าวทุกคนที่ต้องการซักถามหรือประดิษฐ์กับดักภาษาเพื่อให้เป็นข่าวใหญ่ เมื่อฟังคำพูดของวินนี่ นักข่าวหลายคนในที่เกิดเหตุนั้นก็มองเธอด้วยสายตาเคารพนับถือ จากนั้นก็เปลี่ยนประเด็นถาม
ประเด็นต่อมาเกี่ยวข้องกับกองทุนของฉินสือโอว ซึ่งเขาได้คิดถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว จึงพูดออกไปว่า “ผมจะตั้งมูลนิธิเล็กๆ ที่เรียกว่า ‘กองทุนเถียนกวา’ ซึ่งคาดว่าเงินทุนในการลงทุนครั้งแรกนี้จะอยู่ที่ห้าแสนดอลลาร์แคนาดา ผมหวังว่ามันจะช่วยเด็กๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือได้”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น นักข่าวและผู้เข้าชมต่างค่อยๆ ปรบมือให้เขาและการแข่งขันการกุศลในครั้งนี้มีการบริจาคเงินถึงครึ่งล้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก!
…………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset