ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1054 แบนชีมิเชล

พวกเด็กๆ ของโรงเรียนประถมแกรนท์ไม่ได้สนใจการแข่งขันบาสเกตบอลจริงๆ เพราะไม่ว่าการแข่งขันระดับไหน โรงเรียนของพวกเขาก็อยู่ 3 อันดับสุดท้ายของรัฐนิวฟันด์แลนด์เสมอ…
ฉินสือโอวเชิญพวกนักกีฬาบาสเกตบอลที่อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 มาเป็นคู่ต่อสู้ เงื่อนไขคือจะให้เสื้อนักกีฬาตัวจริงของทีมโทรอนโตแร็ปเตอร์กับเด็กๆ ทุกคนที่รับเงื่อนไขนี้ เด็กพวกนั้นที่เดิมทีไม่เต็มใจก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที
และเพื่อดึงดูดผู้ชม ฉินสือโอวก็มีวิธีเหมือนกัน เขาซื้อเครื่องดื่มกับของว่างมาเยอะมากและเช่าเครื่องทำป๊อปคอร์นมาเครื่องหนึ่ง ผู้ชมสามารถกินได้ตามที่ต้องการ ถ้ากังวลว่าแบบนี้จะยังไม่ได้ผล ฉินสือโอวจึงทำแผงจับฉลากขึ้นมาอีก ของรางวัลเป็นของเล็กๆ น้อยๆ เช่นกำไลแอปเปิลซึ่งสามารถดึงดูดพวกเด็กๆ ได้มาก
วันศุกร์หลังเลิกเรียนแบบนี้ ผู้คนจำนวนมากกรูกันเข้ามาในโรงยิมเล็กๆ แห่งนี้ทันที พวกนักเรียนเกือบทั้งหมดวิ่งเข้ามาและเบียดกันอยู่บนที่นั่งแบบขั้นบันไดจนเต็ม คนอื่นก็เลยต้องนั่งบนพื้นบริเวณรอบๆ
นอกจากนักเรียน อาจารย์ที่ไม่มีงานทำก็มากันทุกคน แน่นอนว่ามีอาจารย์สาวอกโตอย่างอาจารย์เชอริลด้วย ฉินสือโอวเห็นอาจารย์สาวที่สวมชุดสไตล์ทำงานของโอแอล ในใจของเขาก็รู้สึกเสียใจนิดหน่อย ถ้าไม่มีวินนี่ เขาคงจะไปตามจีบสาวสวยคนนี้แล้ว
น่าเสียดาย ตอนนี้เขาเป็นพ่อคนแล้ว
แต่เรื่องที่น่าแปลกใจคือ ฉินสือโอวคิดได้ในทันทีว่า การแต่งงานกับเชอริลมีข้อดีมากกว่าวินนี่ข้อหนึ่ง นั่นก็คือเขาสามารถประหยัดเงินค่านมผงได้…
กรรมการคือฉินสือโอวเองอย่างแน่นอนอยู่แล้ว และเขายังเรียกฮิวจ์คนน้องให้มาช่วยงานอีกด้วย ผลคือเมื่อชายคนนี้เห็นเชอริล ดวงตาของเขาก็จับจ้องและมองตามซ้ายขวาเหมือนกับสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ฉินสือโอวที่เห็นก็รู้สึกปวดหัวอย่างไม่มีสิ้นสุด
ผู้เล่นตัวจริงที่ฉินสือโอวส่งออกไปคือ วอล์กเกอร์เป็นตำแหน่งเซนเตอร์ แซมเป็นตำแหน่งเพาเวอร์ฟอร์เวิร์ด ตำแหน่งสมอลฟอร์เวิร์ดคือลิสเตอร์ อ็อกเดน และกองหลังอีกสองคนคือโจ ฮูเอลกับมิเชล ในกลุ่มนี้มิเชลจะเล่นเป็นคอมโบการ์ดและทำคะแนนไปด้วยพร้อมๆ กัน
ในมือของเขาไม่มีคนที่สามารถใช้งานได้อยู่จริงๆ วอล์กเกอร์ดูเหมือนจะไม่เลว เขาทั้งสูงและแข็งแรง แต่ไม่ได้สนใจบาสเกตบอลเลยสักนิด ทักษะพื้นฐานด้านบาสเกตบอลยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เขาไม่สามารถชูตลูกบาสลงห่วงได้ แม้ว่าหัวเขาแทบจะชนบอร์ดแล้วก็ตาม
เขาจนปัญญามาก ฉินสือโอวไม่สามาiถใช้เกรย์ได้จริงๆ ใช่ไหม? เด็กคนนั้นอ้วนเกินไป หลังจากลงสนามคาดว่าเขาคงตามจังหวะการแข่งขันไม่ทัน
โชคดีว่าเรื่องที่ทำให้ฉินสือโอวหมดห่วงคือ นักกีฬาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 3 ก็ถูกดึงออกมาจากในกลุ่มเด็กที่ตัวเล็กเหมือนกัน ลักษณะของแต่ละคนนั้นดูขี้เหร่ เขาเห็นก็รู้ว่าไม่มีนักกีฬาบาสเกตบอลมืออาชีพเลย
วอล์กเกอร์กับเด็กที่สวมเสื้อบาสหมายเลข 23 จะกระโดดแย่งลูกบาสกัน คนหลังนั้นอายุมากกว่าและสูงประมาณ 190 เซนติเมตรซึ่งสูงกว่าวอล์กเกอร์คืบหนึ่ง
ฉินสือโอวคิดว่ากระโดดแย่งลูกบาสกันแบบนี้ วอล์กเกอร์คงแพ้แน่ เมื่อฮิวจ์คนน้องโยนลูกบาสขึ้นไป เด็กหนุ่มร่างใหญ่ทั้งสองคนกระโดดก็ขึ้นไปทันที แต่ก็ไม่มีใครตีลูกบาสโดนเหมือนกัน…
ฮิวจ์คนน้องมองเขาอย่างสิ้นหวัง ฉินสือโอวเกาจมูกอย่างเก้ๆ กังๆ “เสิร์ฟลูก เสิร์ฟลูกอีกครั้ง”
ลูกบาสถูกโยนขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง ครั้งนี้ยังดี สุดท้ายหมายเลข 23 เล็งลูกบาสที่ตกลงมาและตบมันออกไปได้ในทันที
ฉินสือโอวเป่านกหวีดเสียงดัง การแข่งเริ่มขึ้นแล้ว!
แม้ว่าพวกเด็กนักเรียนจะไม่ชอบการแข่งขันบาสเกตบอล แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกสนใจการแข่งขัน โดยเฉพาะตอนนี้พวกเขากินของว่างของฉินสือโอวและดื่มเครื่องดื่มที่เขาจัดไว้ให้ พวกเขาปรบมือและส่งเสียงเชียร์ด้วยกันอย่างสามัคคี
“แซม กันไว้! กันไว้!”
“ชัค เลี้ยงลูกบาสและวิ่งไปเร็วๆ สร้างสีสันให้ผู้หญิงพวกนี้ที่อยู่ชั้นต่ำกว่าดูหน่อย!”
“เฮ้ เกิดอะไรขึ้น ใครเอาช็อกโกแลตของฉันไป? อย่าให้ฉันรู้นะ ไม่งั้นฉันจะเอาลูกบาสยัดเข้าไปในตูดของแก!”
ลูกบาสถูกเด็กเกรดสูงคว้าไว้และโยนไปที่กองหลังของพวกเขา แต่ชูตติ้งการ์ดหมายเลข 24 คนนั้นความจริงเขาไม่คู่ควรกับหมายเลขที่อยู่บนหลังของเขาเลยจริงๆ เขารับลูกบาสตามใจชอบมากเกินไป มิเชลที่อยู่ด้านหลังยื่นมือไปแย่งลูกบาสมาอย่างรวดเร็ว
โจวิ่งเข้ามาพอดี เขาจับลูกบาสด้วยตัวเองเพราะอยากวิ่งไปข้างหน้า ตอนแรกเขาเลี้ยงลูกบาสได้ไม่เลว ฉินสือโอวให้เขาลงเล่นก่อนก็ตัดสินจากความสามารถในการเลี้ยงลูกบาสของเขา โดยไม่คำนึกถึงสถานการณ์ที่ต้องเผชิญหน้า เทคนิคของเขาก็ไม่เลว
แต่เรื่องที่น่าเสียดายมากที่สุดระหว่างการแข่งขันก็คือการเผชิญหน้า เซนเตอร์หมายเลข 23 กลับมาป้องกันและกางแขนทั้งสองข้างขวางด้านหน้าของเขาเอาไว้ ทันใดนั้นโจก็ตื่นตระหนกขึ้นมา จิตใต้สำนึกของเขาอยากเร่งความเร็ว ผลก็คือคนผ่านไปได้แต่เสียลูกบาสไป…
ร่างที่ตามมาจากด้านหลัง เซนเตอร์หมายเลข 23 สามารถก้มตัวหลบได้ทันเวลา แต่ลูกบาสถูกคนแย่งไปแล้ว!
เมื่อคว้าลูกบาสได้และลุกขึ้นจากพื้น เขางอแขนอย่างอิสระและสั่นข้อมือเบาๆ ลูกบาสสีส้มลอยข้ามไปในอากาศโค้งเหมือนกับสายรุ้ง เสียง ‘ฟุบ’ ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน ฝั่งหนึ่งชูตลงห่วงแล้ว!
มิเชลลงถึงพื้นในตอนนี้ เขายกแขนขึ้นเพื่อให้สัญญาณและวิ่งกลับไปด้วยสีหน้าที่สงบ
ฉินสือโอวระบุว่า 2 แต้มนั้นมีผล เชอริลช่วยเพิ่มแต้มเป็น 2 ต่อ 0
พวกนักเรียนคิดไม่ถึงว่ามิเชลจะเป็นคนแรกที่ทำแต้มได้ เสียงพูดคุยดังมากยิ่งขึ้น
“เห้ย มิเชลที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เก่งจริงๆ อย่าเห็นว่าปกติเขาเหมือนเด็กผู้หญิง แต่เวลาสำคัญๆ เขาไม่อ่อนข้อเลยแฮะ”
“คนนี้เป็นคนขี้โกงแน่ๆ ชัคเก่งที่สุดและชัคจะเตะก้นเขาในภายหลัง!”
“ฟัค โค้กของฉันถูกใครเอาไปอีกแล้ว? ไม่เพียงแค่เอาช็อกโกแลตของฉันไป ยังเอาเครื่องดื่มของฉันไปอีก อย่าให้ฉันรู้นะว่าใครเป็นคนทำ!”
ทีมของเด็กมัธยมเสิร์ฟลูก ทักษะของพวกเขาก็ไม่ได้ดีเท่าไรเหมือนกัน หลังจากที่ลูกบาสย้ายไปมาหลายครั้ง พวกกองหลังยังไม่มีโอกาสบุกเลย เซนเตอร์หมายเลข 23 ต้องการครอบครองบอลไว้ที่ตัวเองเพียงคนเดียว
การใช้พละกำลังที่แข็งแรงกว่ากับความสูงที่สูงกว่า หลังจากหมายเลข 23 คว้าบอลได้ก็บุกเข้าไปต่อจากนั้นและชนแซมผู้น่าสงสารจนตัวลอย เขาหมุนตัวกระโดดโยนบอลออกไปจากมือ
“ปัง!” เสียงดังก้องไปทั่ว ร่างหนึ่งกระโดดตามขึ้นมาด้วยจากด้านข้างอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือตบที่ลูกบาสอย่างหนักแน่น เขาตบลูกบาสลอยออกไปในทันที…
เป็นมิเชลอีกแล้ว!
แซมรับบอลและส่งต่อให้มิเชล มิเชลคว้าบอลราวกับกระสุนปืนใหญ่ที่พุ่งออกมา เขาก้มตัวและเร่งความเร็ว มือขวาเดาะบอลอย่างรวดเร็ว เขานำเพื่อนร่วมทีมพุ่งไปข้างหน้าของสนาม
สมรรถภาพทางกายของฝั่งเด็กมัธยมเหนือชั้นกว่า พวกเขากลับมาป้องกันเร็วมาก กองหลังหมายเลข 1 จ้องไปที่มิเชลและคิดจะแย่งบอล การเผชิญหน้ากับแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้าม ใบหน้าของมิเชลแสดงถึงความเย็นชาไปจนถึงความเลือดเย็น เขาเลี้ยงลูกบาสลอดใต้ระหว่างขาทั้งสองข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการแย่งและหมุนตัวในทันทีหลังจากนั้น เขายังคงเร่งความเร็วและพุ่งไปข้างหน้า!
เมื่อพุ่งเข้าไปถึงเส้นโค้งที่ 3 เด็กมัธยม 2 คนก็ตามมาประกบจากทั้งสองด้าน มิเชลกระโดดขึ้นไปอย่างไม่ลังเลและเหวี่ยงแขนด้วยความเร็วสูง เขาชูตลูกแต้มพิเศษอย่างว่องไว ผู้เล่นบนสนามแค่รู้สึกถึงดอกไม้ที่กำลังลอยอยู่ตรงหน้า ลูกบาสสีส้มก็ถูกชูตออกไปแล้ว
‘ปัง!’ เสียงดังก้องขึ้นมาอีกครั้งและลูกบาสก็ลงไปตรงกลางห่วงอีกครั้ง!
4 ต่อ 0 มิเชลเหลือบมองแต้มและวิ่งกลับไปป้องกัน การแสดงออกทางสีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยตั้งแต่ต้นจนจบ
เด็กๆ ที่ดูการแข่งขันบนสนามลุกเป็นไฟ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นว่ารอบๆ ตัวมีคนทำแต้มที่เก่งขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ พวกเขาเคยเห็นนักกีฬาเก่งๆ เยอะมาก แต่นั่นเป็นฝ่ายตรงข้ามทุกคน ตอนนี้มิเชลแสดงถึงความโดดเด่นอย่างนั้น มันจึงดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ในทันที
“เกิดอะไรขึ้นกับมิเชลที่อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5? พระเจ้า เขาเหมือนกับรูนีย์ที่เตะบอลเข้าประตูได้อย่างแม่นยำ!”
“ไอโง่ เขาคือโคบี้ ไบรอันต์! ดูสิ เขาคนเดียวทำให้ชัคกับเจ้าพวกนั้นร้องไห้ได้เลย!”
“ฉันแค่อยากรู้ว่า ที่คาดผมที่ฉันเพิ่งจะจับรางวัลได้มาถูกใครเอาไปอีกแล้ว? ฉันจะตามไปเล่นงานพวกแก!”
“ก่อนหน้านี้พวกนายเรียกมิเชลว่าอะไรนะ? สาวน้อยใช่ไหม? พวกนายเคยเห็นสาวน้อยที่แข็งแกร่งขนาดนี้ไหม?!”
“แต่มิเชลเป็นชื่อของเด็กผู้หญิงนะ เขาขี้อายขนาดนั้นอีก! งั้นไม่เรียกเขาว่าสาวน้อยแล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ?”
“ดูสไตล์การเล่นของเขาสิ เขาเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ! หลังจากนี้ฉันจะเรียกเขาว่าแบนชี! สู้เขา แบนชี! สู้เขา มิเชล!”
เสียงเชียร์ดังขึ้นมา เส้นทางบาสเกตบอลของแบนชีได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset