ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา – ตอนที่ 1055 กรอกบัญชีใหม่

แม้ว่ามิเชลจะอยู่แค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แต่ความเหลื่อมล้ำของอัจฉริยะกับคนธรรมดาไม่ใช่เรื่องที่อายุจะสามารถเติมเต็มได้
แม้ว่าเพื่อนร่วมทีมที่พาไปจะเป็นเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ดี มิเชลก็ยังแสดงสัญชาตญาณนักฆ่าแบบสัตว์ประหลาดของเขาออกมา
อีกฝ่ายครองบอลและวิ่งเข้ามา ในเส้นโค้งเส้นที่ 3 หลังจากนั้นเขาถอยไปก้าวหนึ่งและกระโดดชูตลูก…
ฝ่ายตรงข้ามทำผิดพลาด โจแย่งลูกบาสได้สำเร็จ มิเชลกับเขาเล่นร่วมมือกันและทำแต้มที่หน้าเขตโทษของสนาม อีกฝ่ายจ้องที่คน มิเชลต้องการให้บอลพุ่งไปและกระแทกที่บอร์ดก่อนจะลงตะกร้าเพื่อทำแต้ม…
ฝ่ายตรงข้ามชูตไม่ลง มิเชลก็กระโดดขึ้นไปรีบาวด์และโต้กลับอย่างรวดเร็ว เขาเลย์อัพอีกครั้งอย่างราบรื่นในเวลาเดียวกันอันธพาลของฝ่ายตรงข้ามก็ทำฟาวล์ แต้ม 2 บวก 1 ได้ 3 แต้ม…
แน่นอนว่านี่เป็นแค่การแข่งขันที่ระดับต่ำเผชิญหน้ากัน ทั้งสองฝ่ายรวมถึงมิเชลทุกคนทำผิดขั้นพื้นฐานเยอะมาก เช่น ส่งลูกพลาด บุกแล้วเสียลูก ทำผิดกฎ 24 วินาที ไม่สามารถผ่านครึ่งสนามใน 6 วินาทีภายใต้แรงกดดันได้เป็นต้น แต่นี่ไม่สามารถปกปิดพรสวรรค์ที่โดดเด่นของมิเชลได้
เมื่อสิ้นสุดการต่อสู้อย่างหนักหน่วง ทีมของเด็กประถมยังคงได้รับชัยชนะ 45 ต่อ 30 พวกเขาคว้าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ได้ในที่สุด
สำหรับอาจารย์กับนักเรียนของโรงเรียนประถมแกรนท์ การแข่งสนามนี้ไม่มีความหมายอะไร นอกจากมิเชล
มิเชลที่ไม่เป็นที่รู้จักในโรงเรียนมาโดยตลอด ครั้งนี้ดูเหมือนว่าเด็กชายที่ขี้อายเหมือนกับเด็กผู้หญิงจะแสดงให้เพื่อนร่วมชั้นและอาจารย์เห็นอีกด้านหนึ่งของเขาแล้ว การชูตระยะไกลที่เห็นเลือดปิดคอ การส่งระยะกลางที่คมเหมือนกับมีด การโจมตีอย่างรวดเร็วด้วยพละกำลังที่เหมือนกับฟ้าร้อง การบุกที่ว่องไวเหมือนกับสุนัขจิ้งจอก และยังมีความมุ่งมั่นในการป้องกันที่ไม่สามารถต้านทานได้ สรุปแล้ว นั่นก็คือดาวรุ่งบาสเกตบอลคนใหม่ที่กำลังตื่นขึ้นมาอย่างช้าๆ!
มิเชลใช้แค่การแข่งขันสนามเดียวก็คว้าฉายานี้มาได้ แบนชีฉายานี้ดูเหมือนความหมายจะเป็นการดูถูก แต่กลับแสดงถึงการยอมรับที่ผู้ชมมีต่อเขาและก็แสดงถึงความกลัวของฝ่ายตรงข้ามตอนที่เผชิญหน้ากับเขาเหมือนกัน
เขาคือแบนชีที่อยู่บนสนาม เขาจะทำทุกอย่างที่เขาต้องการและจะไม่มีใครสามารถหยุดเขาได้ การแข่งขันสนามนี้ทำได้ทั้งหมด 45 แต้ม สุดท้ายแต้มที่เพิ่มขึ้นมา มิเชลทำไปแล้ว 34 แต้มซึ่งมากกว่าแต้มรวมของฝ่ายตรงข้ามด้วยซ้ำ! สำหรับเด็กหนุ่มคนนี้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของอาชีพบาสเกตบอลที่รุ่งโรจน์!
การแข่งไม่ได้นับการแอสซิสต์ การบล็อกและการรีบาวด์ แต่ฉินสือโอวประเมินว่า นอกจากการแอสซิสต์ สถิติอื่นมิเชลก็เป็นอันดับหนึ่งเหมือนกัน แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามที่เผชิญหน้าด้วยจะสูงถึง 190 เซนติเมตรก็ตาม ตอนที่แย่งด้วยการรีบาวด์เขาก็ยังแย่งได้สำเร็จ
การเปลี่ยนแปลงของพลังโพไซดอนต่อมิเชลเป็นสิ่งที่คนนอกพวกนี้ไม่เข้าใจ ร่างกายที่เด็กคนนี้ถอดเสื้อให้เห็น คือลายกล้ามเนื้อที่สวยงามเหมือนกับฉินสือโอว แม้ว่าเขาจะผอม แต่ก็ไม่มีไขมันส่วนเกินเก็บไว้ ถ้าให้องค์กรที่เชี่ยวชาญมาวัดเปอร์เซ็นต์ไขมันของเขา มันจะต่ำจนทำให้คนทึ่งอย่างแน่นอน!
ข้อได้เปรียบที่มิเชลพกมาในสนามบาสเกตบอลด้วยก็คือ ความเร็วที่เร็วกว่า พละกำลังที่แข็งแกร่งกว่า พลังทำลายที่น่ากลัวกว่า ความอดทนที่มากกว่า ความเร็วในการชูตที่เร็วกว่า ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามที่เผชิญหน้าจะแข็งแกร่งหรือว่องไวกว่าเขา เขาก็มีพลังที่จะสู้เสมอ!
เมื่อการแข่งขันสิ้นสุดลง ฮิวจ์คนน้องเดินเข้ามาตบไหล่ของฉินสือโอวและพูดอย่างสงสาร “ฉันรู้สึกเสียใจกับนายจริงๆ ฉิน นายต้องพามือใหม่แบบนี้ไปชิงแชมป์งั้นเหรอ? งั้นนายต้องเอายาคลายกล้ามเนื้อหัวใจที่ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วไปด้วย ฉันกลัวจริงๆ ว่านายจะหัวใจวายอยู่ข้างสนาม”
ฉินสือโอวศอกใส่เขาและพูดอย่างมีความหวัง “นายเปลี่ยนไปมองอีกมุมก็จะพบว่า เด็กพวกนี้ทุกคนเต็มไปด้วยความสามารถ ดังนั้นฉันจะทำให้มือใหม่พวกนี้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไร้คู่ต่อสู้บนสนามและทำลายไม่ได้ นั่นเป็นเรื่องที่ทำให้ฉันรู้สึกถึงความสำเร็จ”
เมื่อเห็นฉินสือโอวที่มั่นใจในตัวเองแบบนี้ ฮิวจ์คนน้องก็ส่ายหัว “นายกำลังปลอบใจตัวเองอยู่สินะ มันจะเป็นไปได้อย่างไร?”
ฉินสือโอวชี้ไปที่มิเชลที่กำลังช่วยอาจารย์เก็บสกอร์บอร์ดกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการแข่งอยู่ไกลๆ “มีเขาอยู่ จะมีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ล่ะ? ฉันกล้าพนันเลย อย่างมากที่สุด 5 ปี โรงเรียนที่มีชื่อเสียงของเอ็นซีเอเอจะต่อสู้กันเพื่อแย่งเด็กคนนี้!”
ฮิวจ์คนน้องเงียบกริบไม่พูดอะไร ฉินสือโอวพูดว่า “นายเคยเห็นเด็กแบบนี้ไหม? ชนะคนทั้งสนามด้วยแต้มที่สูงที่สุด แต่เมื่อแข่งจบเขากลับช่วยเจ้าหน้าที่เก็บกวาดสนามก่อนและไม่ไปหาสาวๆ เพื่อโอ้อวดหรือคุยโม้กับพวกเพื่อนๆ ถ้าพรุ่งนี้นายตื่นเช้า นายก็จะเห็นว่าเด็กคนนี้ตื่นเช้ามาก็เริ่มซ้อมแล้ว!”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ฮิวจ์คนน้องเงยหน้าขึ้นมาในทันทีและพูดว่า “โอเค เพื่อน ฉันคิดว่าเรื่องที่นายพูดถูกต้อง งั้นฉันจะเป็นผู้ช่วยของนายเอง!”
ฉินสือโอวจ้องไปที่เขา “อะไร? ผู้ช่วยอะไร? ใครบอกว่าฉันต้องการผู้ช่วย?”
ฮิวจ์คนน้องพูดไปตามเหตุตามผลว่า “นายต้องการผู้ช่วยแน่นอน ถ้าโค้ชหลักไม่มีผู้ช่วย มันจะเสียหน้าแค่ไหนกัน?”
คนที่ปลุกใจเขาจริงๆ คือมิเชล เหมือนที่ฉินสือโอวพูด มิเชลเด็กคนนี้ไม่ได้แสดงทักษะบาสเกตบอลทั่วๆ ไปออกมา หลังจากผ่านการฝึกซ้อมโดยผู้เชี่ยวชาญ เขาเป็นคนที่อาจจะกลายเป็นแชมป์ของเอ็นบีเอคนที่ 2 ในแคนาดา
ถ้าตัวเองสามารถมีส่วนร่วมในการฝึกซ้อมแชมป์ของเอ็นบีเอ นั่นจะเป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ผู้คนภาคภูมิใจ ฮิวจ์คนน้องรู้สึกว่าเขาจะโอ้อวดชีวิตครึ่งหลังของตัวเองได้ เขาต้องพึ่งมิเชลแล้ว
หลังจากกลับบ้าน ฉินสือโอวพลิกสมุดโทรศัพท์ของเขาเพื่อหาช่องทางการติดต่อของเคอร์รี พอล เวดผู้เป็นที่นิยมของเอ็นบีเอ เขาลองคิดคิดดูและโทรหาบัตเลอร์ก่อน
บัตเลอร์รับสายและพูดว่า “เงินค่าปลาทูน่ายังไม่เข้าบัญชี ไม่ใช่ว่าพวกเรายังมีอีก 2 ตัวที่ยังไม่ได้ขายเหรอ? ฉันจะตรวจดูว่าสามารถขายให้อิสึซาโอะ อาโอยาม่าได้ไหม ถ้าได้เงินมาฉันจะรีบโอนให้นาย”
ฉินสือโอวพูดว่า “ไม่ใช่เรื่องเงิน นายบอกว่านายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเวดที่เป็นกองหลังของทีมฮีตใช่ไหม?”
บัตเลอร์ตอบว่าใช่และถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น
จิตวิญญาณของฉินสือโอวลุกโชนขึ้นมาในทันที “นายรู้จักมิเชลใช่ไหม? เด็กที่เหมือนกับเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ฉันเล่าให้นายฟัง เขาเป็นอัจฉริยะด้านบาสเกตบอลที่สุดยอดมาก ฉันอยากเปลี่ยนระบบให้เขา ฝึกซ้อมบาสเกตบอลแบบมืออาชีพ ฉันควรจะทำอย่างไรดี?”
บัตเลอร์หัวเราะออกมาเสียงดัง “เรื่องแบบนี้นายไปหาดเวน เวดก็ไม่มีประโยชน์ เขาจะเอาเวลาไหนไปซ้อมให้นักเรียน? ถ้านายอยากได้การแนะนำจากโค้ชส่วนตัวที่เหมาะสม งั้นฉันมีทางเลือกที่ดีกว่าดเวน เอาล่ะ นายบอกลักษณะกับเทคนิคของเด็กคนนี้มาให้ฉัน ฉันจะเลือกโค้ชที่ยอดเยี่ยมให้นายเอง”
เมื่อได้รับคำรับประกันของบัตเลอร์ ฉินสือโอวก็วางใจ เขาวางสายและจัดเตรียมข้อมูลของมิเชล โดยเฉพาะศักยภาพของชูตเตอร์กับด้านสมรรถภาพทางกายที่โดดเด่น หลังจากแนะนำอย่างเข้มข้น เขาก็ส่งไปที่อีเมลของบัตเลอร์
ช่วงต้นเดือนเมษายน งานประมูลฤดูใบไม้ผลิปีนี้ของบริษัทจัดประมูลริชชี่ก็เริ่มขึ้นในที่สุด โทรศัพท์ของฉินสือโอวดังขึ้นไม่หยุดหย่อนตั้งแต่เช้าตรู่ เบลคส่งข่าวงานประมูลมาให้เขาอย่างต่อเนื่อง
“เครื่องประดับไข่มุกสีดำของนายกลายเป็นดาราไปแล้ว ปีนี้ดูเหมือนมันคุ้มค่าที่จะทำ นายรอข่าวดีจากฉัน…”
“เหรียญทองรุ่นแรกประมูลออกไป 2 แสน 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ! แต่นี่เป็นเหรียญที่สภาพดีที่สุด ราคาอื่นก็ต่ำกว่ามาก โชคดีที่เสนอลดราคาลง รวมกับเหรียญเงิน 825 เหรียญ ทั้งหมดเป็น 38 ล้าน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ!”
“เครื่องประดับไข่มุกสีดำ 8 เส้นที่นายส่งมาเริ่มประมูลแล้ว บ้าเอ๊ย ตอนนี้มีคนรวยเยอะจริงๆ…โอเค จบละ ชิ้นหนึ่งยังไม่ได้ทำสัญญาอย่างสมบูรณ์ ราคาที่สูงที่สุดคือ 1 ล้าน 5 แสนดอลลาร์สหรัฐ ราคาที่ต่ำที่สุดคือ 4 แสน 4 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งหมดคือ 6 ล้าน 6 แสนดอลลาร์สหรัฐ!”
“ถึงตาเครื่องประดับไข่มุกสีดำของนายประมูลแล้ว ดุเดือดมากจริงๆ! ชุดเครื่องประดับสไตล์อเมริกาใต้ถูกคนรวยชาวอาร์เจนตินาประมูลไป และเครื่องประดับสไตล์จีนก็ถูกชาวจีนโพ้นทะเลคนหนึ่งประมูลไป รวมทั้งหมดเข้าบัญชี 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ!”
“ในที่สุดก็ถึงการประมูลเครื่องเสาหัวเรือ! บ้าเอ๊ย การแสดงกำลังจะเปิดฉากแล้ว เร็วๆๆ เปิดแอปพลิเคชันวิดีโอ ฉันจะถ่ายทอดสดให้นายดูเอง!”
…………………………………………………

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ผมนี่แหละเจ้าแห่งฟาร์มปลา

ชีวิตบัดซบของ ‘ฉินสือโอว’ เริ่มต้นด้วยการถูกใส่ร้ายว่ายักยอกเงินและถูกให้ออกจากบริษัท หนำซ้ำยังต้องชดใช้จนไม่มีแม้แต่เงินจ่ายค่าเช่าห้อง แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรืออะไร เขาพบว่าคุณปู่รองได้ทิ้งพินัยกรรมมูลค่าหลายร้อยล้านไว้ให้ นั่นคือฟาร์มปลาที่แคนาดา แต่ที่นั่นกลับโกโรโกโสทรุดโทรม ปลาสักตัวก็แทบไม่มี นอกจากนั้นยังต้องเสียภาษีการยืนยันพินัยกรรมจำนวนมากอีก จากที่ตอนแรกเขากะจะขายฟาร์มแล้วหอบเงินกลับประเทศจีน กลับต้องฟื้นฟูกิจการฟาร์มปลาเพื่อหาเงินไปจ่ายค่าภาษี ไม่งั้นจะต้องยอมเสียฟาร์มให้ทางการไป ทว่าระหว่างที่สำรวจทะเลสาบในเกาะ เขาถูกปลาทำร้ายจนเลือดที่คางหยดลงไปบนจี้รูปหัวใจสีน้ำเงินที่มีชื่อว่า ‘หัวใจโพไซดอน’ ทำให้ตัวจี้หลอมเข้าไปในตัวเขา จากนั้นมา… จิตสำนึกของเขาก็สามารถสำรวจและควบคุมท้องน้ำรวมถึงทำการเยียวยาและรักษาสิ่งมีชีวิตในทะเลได้ และนี่ คือหนทางกอบกู้ฟาร์มมรดกของเขา!

Options

not work with dark mode
Reset