ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 148 เหยี่ยวดารา

บทที่ 148 เหยี่ยวดารา

-นั่นมัน…เหยี่ยวดารา”

เหยี่ยวดาราโดยปกติจะใช้ชีวิตอยู่บนหน้าผาสูง พวกมันสามารถบินได้สูงถึงระดับพันเมตรในอากาศ

ในขณะเดียวกัน ดวงตาของมันนั้นเฉียบคมอย่างที่สุด ต่อให้พวกมันอยู่บนอากาศนับพันเมตร มันก็ยังมองเห็นความเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่อยู่บนพื้นดิน

และในตอนนี้ เหยี่ยวดาราคู่หนึ่งได้ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำตรงหน้าของเขา นี่ช่างน่าแปลกนัก

เฉินเฉียงลองฟังสิ่งที่พวกมันพูดคุยอยู่พักหนึ่งจึงได้เข้าใจ

เหยี่ยวดาราสองตัวนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่มีสติปัญญาและพวกมันอยู่ในระดับนายพลวิญญาณขั้นต้น

หลังจากที่พวกมันถูกจับมาที่นี่ พวกมันรู้ดีว่าต้องกลายเป็นเพียงเป้าฝึกซ้อมฝีมือของมนุษย์

เพื่อที่จะหลบเลี่ยงการเป็นเป้าหมายของศิษย์สำนักที่ถูกส่งเข้ามาจากสี่สำนัก พวกมันจึงคิดจะใช้ความแข็งแกร่งของพวกมันในการปกป้องสมุนไพรระดับสองกว่าสองร้อยต้นที่อยู่ในถ้ำแห่งนี้

ในถ้ำนี้มีสมุนไพรระดับสองอยู่ถึงสองร้อยต้น

เมื่อเฉินเฉียงได้ยินแบบนี้ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ในทันที

หากเขาสามารถหลอมยาพวกนี้เป็นยาเสริมจิตวิญญาณได้หมดละก็ อย่างน้อยๆค่าพลังจิดของเขาต้องเพิ่มเป็นสองเท่า

อย่างไรก็ตาม ในตอนที่เขานั้นกำลังจะแอบเข้าไปเงียบๆ เขาก็พบว่าเหยี่ยวดาราในถ้ำนั้นรู้ถึงการคงอยู่ของเขาและรีบบินออกมาจากถ้ำในทันที

และในทันทีที่พวกมันออกมาจากถ้ำและอยู่ห่างจากเฉินเฉียงสิบเมตรเห็นจะได้ มันได้กรีดร้องด้วยเสียงที่แหลมคมออกมา

“แกว๊กกกกก”

ที่ด้านนอกถ้ำนั้น เฉินเฉียงเองได้หยิบดาบดั้นเมฆขึ้นมาไว้ในมือและเตรียมที่จะเข้าปะทะ

แต่ด้วยเสียงที่แหลมคมนี้ได้โจมตีโสตประสาทและจิตสำนึกของเขาจนแทบระเบิดออก และนี่ทำให้ตัวเขานั้นนิ่งชะงักไปชั่วขณะ

มันเป็นทักษะโจมตีทางจิตวิญญาณ

ยังดีที่ค่าพลังจิตของเขานั้นสูงล้ำ เพียงครึ่งชั่วลมหายใจเขาก็ได้กลับสู่สภาวะปกติ เป็นตอนนี้ที่ เหยี่ยวดาราทั้งสองได้กางกรงเล็บหมายจะโฉบตัวเขา เขาก็ได้ดำดินโดยทักษะขุดรูในทันที

เหยี่ยวดาราทั้งสองตัวนี้เมื่อพุ่งตัวออกจากถ้ำแล้ว มันก็ได้บินขึ้นสูงไปยังท้องฟ้ากว่าห้าร้อยเมตรในทันที

ด้วยระยะความสูงระดับนี้ ต่อให้ศิษย์จากสี่สำนักนั่นมาเห็นเข้าก็ยังต้องทำได้เพียงปล่อยวาง

หลังจากเฉินเฉียงดำดิ่งลงไปใต้ดินกว่าร้อยเมตร เขาก็ได้กลับขึ้นมาบนดินอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เขาพบว่าเหยี่ยวดาราทั้งสองยังคงวนเวียนอยู่บนท้องฟ้า

และเป็นตอนนี้ที่เหยี่ยวทั้งสองได้พบเห็นเฉินเฉียงผู้ซึ่งพึ่งขึ้นมาจากดิน

“ฟิ้วววว”

เหยี่ยวทั้งสองได้โฉบลงมาอย่างรวดเร็วประดุจลูกกระสุนปืนใหญ่ เมื่อเห็นพวกมันอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงร้อยเมตร เขาจึงทำได้เพียงดำดินลงไปอีกครั้ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินเฉียงได้ต่อสู้กับสัตว์ประหลาดที่มีสติปัญญาระดับสูง โดยเฉพาะพวกมันยั้งเป็นสัตว์ประหลาดระดับนายพลวิญญาณซะอีก

อย่างไรก็ตาม เขาเองก็รู้ดีว่าการโจมตีทางจิตวิญญาณนั้นต้องอยู่ในระยะที่เหมาะสม

ยิ่งเขาอยู่นอกระยะหวังผลมากเท่าไหร่ พลังทำลายของการโจมตีทางจิตวิญญาณก็จะลดน้อยถอยลงไปมากขึ้นเท่านั้น

หากดูจากการที่เขาต้านการโจมตีทางจิตวิญญาณของเหยี่ยวดาราที่เขาโดนไปก่อนหน้านี้ เขาคำนวณออกมาว่าหากอยู่ห่างจากพวกมันอย่างน้อยยี่สิบเมตร เขาจะปลอดภัย หลังจากลองทำตามที่คิดดูแล้ว เขาก็พบว่าเหยี่ยวดาราสองตัวนี้ค่อนข้างแตกต่างจากเหยี่ยวดาราที่อยู่บนโลกภายนอก

อย่างไรก็ตาม เฉินเฉียงก็ได้เข้าไปในถ้ำได้ในที่สุด

เขาไม่แปลกใจเลยจริงๆว่าทำไมเหยี่ยวดาราสองตัวนี้ถึงได้ต้องมาเฝ้าที่นี่ เขาเชื่อว่าพวกมันใช้สมุนไพรกว่าสองร้อยต้นนี้ในการบ่มเพาะของพวกมัน

เมื่อคิดได้ดังนี้ เฉินเฉียงที่ค่อยๆดำดินลึกเข้าไปในถ้ำก็ได้กระโดดออกมาจากพื้นดิน

สมุนไพรดารานั้นส่องแสงระยิบระยับประดุจดั่งแสงดาว เขารู้สึกได้เลยว่าถ้ำแห่งนี้เหมาะสมแล้วที่พวกมันจะเก็บตัวบ่มเพาะ

ด้วยการที่เวลามีไม่มาก เฉินเฉียงจึงรีบจัดการสมุนไพรเหล่านี้ในทันที

เป็นตอนนี้ที่แต้มคะแนนบนบัตรประจำตัวของเขาได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม หลังจากเก็บสมุนไพรได้ราวๆร้อยต้น เฉินเฉียงก็ได้หยุดมือก่อนที่จะคิดอะไรได้จึงรีบวิ่งไปที่ปากถ้ำและตะโกนออกมา

“เฮ้…….ไอ้นกหน้าโง่งงงงงง ข้าอยู่นี่……”

เฉินเฉียงได้เงยหน้าขึ้นฟ้าและตะโกนไปยังเหยี่ยวดาราทั้งสองตัวที่กำลังมองหาเขาอยู่

ในตอนนี้เขาคิดว่าจะใช้แก่นคริสตัลจากเหยี่ยวสองตัวนี้ในการปรุงยา นี่น่าจะทำให้เขานั้นได้รับยาเสริมจิตวิญญาณที่มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้นคือเหยี่ยวดาราสองตัวนี้มีค่าคะแนนเท่ากับยี่สิบแต้ม เขาจะปล่อยพวกมันไปง่ายๆได้ยังไง

ตราบใดที่เขาล่อมันมาในถ้ำได้ เขาก็มีวิธีการฆ่าพวกมัน

เมื่อเหยี่ยวดาราทั้งสองเห็นรังของตัวเองถูกรุกราน พวกมันก็โกรธถึงขีดสุด และรีบพุ่งลงมาอย่างสุดกำลัง

อย่างไรก็ตาม เหยี่ยวดาราสองตัวนี้มีความฉลาดมากกว่าปกติ พวกมันนั้นมีสติปัญญาเทียบเท่ากับสัตว์ประหลาดระดับนายพลวิญญาณขั้นสูง

เมื่อพวกมันมาถึงหน้าถ้ำ หนึ่งในพวกมันได้รออยู่หน้าถ้ำ ในขณะที่อีกตัวได้เข้าไปในถ้ำ

ถ้ำนี้มีความลึกกว่าสามร้อยเมตร ในทันทีที่เหยี่ยวดาราบินเข้าไปข้างใน มันได้ใช้คลื่นพลังจิตของมันนั้นกวาดไปทั่วบริเวณ ไม้เว้นแม้แต่ใต้ดินที่ลึกกว่าสิบเมตร

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ามันจะเข้าไปลึกขนาดไหนก็ตาม มันก็ยังหาเฉินเฉียงไม่พบอยู่ดี และเมื่อมันได้เห็นว่าดงสมุนไพรดาราจันทราของมันนั้นหายไปกว่าครึ่งพร้อมทั้งรูโหว่หนึ่งบนพื้นดิน มันเข้าใจว่านี่คือช่องทางที่เฉินเฉียงหนีไป และนี่ทำให้มันต้องด่าสบถสาปแช่งออกมา

กรี้ซซซซ

เหยี่ยวดาราได้ร้องออกมาอย่างดังลั่น พอจะแปลออกมาได้ว่า “ไอ้มนุษย์เวรตะไล ถ้าข้าจับแกได้เมื่อไหร่ ข้าจะถลกหนังแกออกมา คอยดูเถอะ”

“โฮ่….เรียกข้างั้นเหรอออออ”

ในระยะห้าเมตรตรงหน้าเหยี่ยวดาราผู้โชคร้าย เฉินเฉียง ผู้ซึ่งซ่อนอยู่ในดงสมุนไพรดาราจันทราในสภาวะไร้ตัวตนได้ยืนขึ้นมาพร้อมเผยรอยยิ้มอันน่าสยดสยอง

การปรากฏตัวของเฉินเฉียงทำให้เหยี่ยวดาราตึกตะลึง และในตอนที่มันกำลังจะกรีดร้องเพื่อใช้การโจมตีทางจิตวิญญาณของมันอีกครั้ง มันนึกไม่ถึงว่าเฉินเฉียงจะเป็นฝ่ายโจมตีมันก่อน เขาได้ใช้เคล็ดวิชาสะกดข่มวิญญาณมารสวรรค์ในทันที

เมื่อเฉินเฉียงได้เห็นสายตาที่เลื่อนลอยของเหยี่ยวดารา เขาก็ได้ดึงดาบดั้นเมฆออกมา ก่อนที่จะสะบั้นไปที่คอของเหยี่ยวดาราในทันที

ด้วยการที่ดาบดั้นเมฆเล่มนี้นั้นถูกปรับแต่งโดยราชาสวรรค์ และนี่ทำให้มันมีความคมเหนือคณานัก ต่อให้ร่างกายของเหยี่ยวดาราจะมีชั้นพลังงานเคลือบร่างอยู่ แถมยังมีขนนกที่แข็งราวกับเหล็กกล้า แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าดาบดั้นเมฆ แล้ว พวกมันก็ไม่ได้ต่างจากปุยนุ่น

มันทำไม่ได้แม้แต่จะส่งเสียงร้องออกมาก่อนที่หัวของมันจะลอยออกจากร่างเสียด้วยซ้ำ

หลังจากเสร็จแล้ว เฉินเฉียงไม่ได้คิดรีบดูดกลืนพลังจากซากร่างของเหยี่ยวดาราแต่อย่างใด กลับกัน เขาได้ตะโกนออกไปบอกเหยี่ยวดาราตัวที่อยู่ข้างนอกในทันที “ไอ้มนุษย์ตัวเหม็นนี่ถูกข้าฆ่าแล้ว เข้ามาได้”

หลังจากพูดจบ เฉินเฉียงก็ได้ไปแอบซ่อนอยู่หลังร่างเหยี่ยวดาราที่ไร้หัว ก่อนที่จะเก็บดาบดั้นเมฆ และนำธนูดำมาไว้ในมือ

ไม่นาน หลังจากที่เหยี่ยวดาราที่อยู่ด้านนอกได้ยิน มันก็รีบบินเข้ามา

ในขณะที่มันอยู่ห่างเฉินเฉียงประมาณห้าสิบเมตร ลูกธนูพลังงานของเฉินเฉียงที่ง้างรอไว้แล้วก็ได้ถูกปล่อยออกไป

เหยี่ยวดาราที่กำลังบินเข้ามานั้น ในตอนนี้มันตรวจพบธนูพลังงานที่กำลังพุ่งเข้ามาหามันแล้ว แต่ในตอนนี้มันสายเกินไปที่จะหันหลังกับ มันจึงทำได้เพียงเบี่ยงตัวออกข้าง

อย่างไรก็ตาม ธนูพลังงานของเฉินเฉียงนั้นได้ถูกเปลี่ยนวิธีการยิงด้วยพลังจิตของเขา ตราบใดที่ไม่ได้อยู่นอกพ้นระยะพลังจิตของเขา ธนูของเขานั้นย่อมไม่พลาดเป้า

ถึงแม้ว่าทักษะการยิงของโฮ่วอี้ที่เขามีนั้นจะอยู่เพียงระดับเรียนรู้ แต่ด้วยพลังงานสายเลือดของเขานั้นแข็งแกร่ง นี่ทำให้มันแตกต่างจากธนูพลังงานสีอื่น

ถึงแม้ว่าเหยี่ยวดาราตัวนี้จะรวดเร็วจนเมื่อธนูพลังงานที่ไร้สีของเขานี้สัมผัสขนของมันจะยกปีกของมันมาบังไว้ได้ก็ตาม

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เหยี่ยวดาราตัวนี้โชคดีพอที่จะทำให้มันได้บินกลับบินขึ้นฟ้าอีกครั้งได้แต่อย่างใด

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจ ว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset