ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 16 มีมด(คน)โกหก

บทที่ 16 มีมด(คน)โกหก

แม้ว่าจะอยู่ในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยเสียงมากมายแบบนี้ เฉินเฉียงก็ยังยินดีที่จะเปิดใช้การตรวจจับด้วยเสียงในทันที

ถึงแม้การใช้ทักษะนี้ในสถานการณ์ตอนนี้อาจจะส่งผลให้จิตวิญญาณเขาเสียหาย แต่เทียบกับการเสียชีวิตแล้ว แค่จิตวิญญาณเสียหายเล็กน้อยไม่ได้ถือเป็นเรื่องสำคัญแต่อย่างใด

หลังจากเขาพบศพของนักรบที่ตกตายแล้ว เฉินเฉียงในตอนนี้ระวังตัวแบบสุดๆและไม่คิดที่จะเข้าไปในอาณาเขตการค้นหาของคนอื่นอีกต่อไป

เวลาภารกิจผ่านไปแล้วครึ่งทาง อีกเพียงสองวันเท่านั้นเขาก็จะได้กลับบ้าน มาถึงตอนนี้ เขาได้พบกับโขดหินที่น่าจะปลอดภัย จึงได้ไปนั่งบนนั้น

ด้วยการที่เขานั้นมีระดับบ่มเพาะอยู่ที่ระดับทหารขั้นกลางแล้ว การนอนหลับสำหรับเขาไม่ได้สำคัญแต่อย่างใด เขาแค่เพียงให้ร่างกายของเขาได้หยุดพักบ้างก็พอ และในตอนนี้เฉินเฉียงได้หลับตาลงพร้อมทั้งทำการบ่มเพาะเคล็ดวิชาหลอมเลือดทำลายล้างในระหว่างหยุดพัก

ด้วยการที่เขาในตอนนี้สามารถเปิดจุดชีพจรได้เพียงสองจุดด้วยการชี้แนะจากผู้อาวุโสซุนเท่านั้น เขาเองยังไม่เคยที่จะลองฝึกเองมาก่อนเลยสักครั้งเดียว

สำหรับนักรบสายเลือดระดับทหารขั้นกลางนั้น บางคนสามารถเปิดจุดชีพจรได้สี่จุดแล้ว ทั้งๆที่ตัวเขายังติดอยู่ที่สองจุดแบบนี้

ตามคำชี้แนะของผู้อาวุโสซุนที่ได้ทิ้งไว้ให้เขานั้น หากว่าเขานั้นต้องการจะเปิดจุดชีพจรเพิ่มขึ้น ควรต้องยกระดับเป็นนักรบ สายเลือดระดับทหารขั้นสูงให้ได้เสียก่อน และเมื่อเปิดจุดชีพจรทั้งสี่ได้แล้ว พลังสายเลือดที่ไหลบ่าเข้าสู่จุดชีพจรทั้งสี่ หากว่ามีพลังสายเลือดภายในจุดชีพจรได้ประมาณกึ่งหนึ่ง เมื่อนั้น พลังสายเลือดก็จะยกระดับเป็นระดับสูงได้

ส่วนการจะเป็นนักรบสายเลือดระดับนายพลได้นั้นจำเป็นต้องปลุกพลังจุดชีพจรได้ทั้งหมดแปดจุด และต้องมีพลังสายเลือดไหลเวียนอยู่ในจุดชีพจรไม่น้อยกว่าห้าส่วน

แต่สำหรับเฉินเฉียงในตอนนี้นั้น ในการยกระดับสายเลือด ถึงแม้ว่าเขานั้นจะมีความต้องการจุดชีพจรเพียงพอตามหลักการแล้วก็ตาม แต่หากนำไปเทียบกับจุดชีพจรหลักแล้ว ในตอนนี้ตัวเขานั้นเปิดได้เพียงจุดเส้าอินหัวใจเท่านั้น โดยจุดต่อไปที่เขาต้องเปิดนั้นเทียบกันแล้วจะเปรียบได้ดั่งจุดไท่อินปอด

ในตอนนี้เขาทำได้เพียงกะเทาะออกได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ยังไม่สามารถเปิดจุดที่สามนี้ได้

ถึงแม้การเปิดจุดชีพจรนี้จะเรียกได้ว่าเจ็บปวดอย่างที่สุด แต่ด้วยการที่เขาเปิดจุดชีพจรได้แล้วสองจุด ทำให้เริ่มคุ้นชินกับความเจ็บปวดนี้อยู่บ้าง ส่วนหนึ่งนั้นก็เป็นเพราะว่าค่าความอดทนของเขาในตอนนี้ถือได้ว่าสูงพอสมควร

เฉินเฉียงได้ส่ายหัวไปมาก่อนที่จะลองดูใหม่อีกครั้ง

“ฮื้ม?”

เฉินเฉียงในตอนนี้เปิดตาขึ้นมาเล็กน้อย เขาหรี่ตามองบางสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ห่างจากเขาไปสองเมตรนั้นมีมดขนาดเท่าฝ่ามือของเขาอยู่ มันวนไปมารอบตัวเขาราวกับแมลงวันตัวหนึ่ง

มดตัวนี้เป็นสัตว์ประหลาดที่อยู่ในระดับทหารขั้นต่ำเท่านั้น ถ้าเทียบกับระดับห่วงโซ่อาหารแล้วสมควรจะเป็นอาหารของสัตว์ประหลาดตัวอื่น

เจ้ามดยักษ์ตัวนี้เองสมควรจะพลัดหลงมาจากฝูงของมัน และได้เข้ามาก่อกวนเขาระหว่างการบ่มเพราะ

เหอะ

เฉินเฉียงเขวี้ยงมีดสั้นใส่อย่างไม่ใส่ใจ

ที่เขาไม่ใช้ดาบดั้นเมฆนั้นเป็นเพราะว่าการจัดการสัตว์ประหลาดตัวเล็กๆแบบนี้จะให้เขาใช้ดาบดั้นเมฆก็จะดูจริงจังเกินไป

เจ้ามดยักษ์นั่นดีดดิ้นตัวเองไปมาอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะแน่นิ่งไป

เฉินเฉียงได้เดินไปที่มดตัวนี้เพื่อเก็บมีดกลับมา แล้วในจังหวะที่เขาดึงมีดออกมาจากมดนั้น มือของเขาก็ได้ไปสัมผัสซากร่างของมดตัวนี้เข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ

นี่ทำให้เขานึกก่นด่าออกมาไม่ได้ว่ากับแค่สิ่งมีชีวิตไร้ประโยชน์ตัวเดียวต้องใช้พลังงานถึง 10 หน่วย

ติ้ง

ตรวจพบเป้าหมายที่ใช้ประโยชน์ได้

มดยักษ์ระดับทหารขั้นต่ำ ย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์

ชื่อ เฉินเฉียง
ระดับ: นักรบสายเลือดทหารระดับกลาง
ค่าพลังงาน:90
ค่าการใช้ประโยชน์:1
ค่าความอดทน:22
ค่าพลังชีวิต:28
ค่าความแข็งแกร่ง:46
ค่าความเร็ว:35
ค่าพลังจิต:24
วิธีการบ่มเพาะ: หลอมเลือดทำลายล้างระดับต้น
ทักษะ: ไร้ตัวตน
ทักษะ: การตรวจสอบด้วยเสียง
ทักษะ: เพลิงดาบสายฟ้าทำลายวิญญาณระดับต้น
ทักษะ: ก้าวย่างสวรรค์ระดับเริ่มเรียนรู้
ทักษะ: ภาษาสัตว์
ทักษะ: แกะรอยด้วยกลิ่น
ทักษะ: ขุดรูระดับสุดยอด
ทักษะ: สื่อสารไร้สาย
สายเลือด พิษเพลิงระดับต่ำ
สายฟ้าระดับกลาง
เจ้าแห่งสายลมระดับเริ่มต้น
ประกายสายฟ้าระดับสูง
ปฐพีระดับสูง

“เจ้ามดยักษ์ตัวนี้ทำให้ข้านั้นต้องสูญเสียพลังงานไปเปล่าประโยชน์ 10 หน่วยตามที่ข้าคาดเอาไว้จริงๆว่าแต่ แล้วอะไรคือสื่อสารไร้สายกันล่ะหว่า”

ในขณะที่เฉินเฉียงกำลังสงสัยอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาในจิตใจของเขา

“มดงานทั้งหลาย เฉียงน้อยพบเวสเซลกลิ่นไหม้สภาพใกล้ตาย พวกเรารีบไปร่วมสนุกกับอาหารมื้อนี้กันเร็วเข้า”

“รับทราบ พวกเราจะไปด้วยกัน ดื่มด้วยกัน กินด้วยกัน”

“ฮื้มมมม ฮืมมม พวกเราเหล่ามดยักษ์… อาณาจักรอันยิ่งใหญ่… หากเราสู้ไม่ไหว ก็สู้ด้วยกัน มีเพียงสิ่งเดียวคืออาณาจักรของเราต้องแข็งแกร่ง”

“ไปกันไปกัน ไปดื่มเลือดเวสเซลตัวเหม็นด้วยกัน”

“ไปกัน ไปกัน ไปยังเนินเขา เพื่อดื่ม และกิน”

“หนึ่งวันผ่านไป แล้วพวกเราหัวเราะดังลั่นนนนน”

“หากไม่มีอะไรจะทำ ก็แค่ดื่มและกินนนนน”

“สานสัมพันธ์แห่งชีวิต ให้ สวยงาม”

เมื่อเขาหันไปทางทิศทางของเสียที่สัมผัสได้นั้น ห่างจากเขาไปห้าสิบเมตร มีมดยักษ์จำนวนสองร้อยถึงสามร้อยตัวที่รวมกลุ่มกันมุ่งตรงกลับรังของมันไป

-ไอ้ฉิบบบ….-

-การสื่อสารไร้สายเป็นทักษะการสื่อสารของพวกมดยักษ์-

เฉินเฉียงในตอนนี้ได้หันหลังกลับและนั่งลงบนโขดหินในทันที แต่เมื่อเขานึกได้ว่ามดพวกนี้พวกมันน่าจะอยู่ในอาณาเขตนี้มานานแล้ว เป็นไปได้รึเปล่าว่าพวกมันจะรู้ที่อยู่ของผลกระจ่างจิต

เมื่อคิดได้ดังนั้นทำให้เฉินเฉียงไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้อีกต่อไป เขาค่อยๆติดตามมดยักษ์พวกนั้น และเปิดใช้งานการสื่อสารไร้สายในทันที

“เพื่อนตัวน้อย พวกนายเคยเห็นผลกระจ่างจิตบ้างรึเปล่า”

“ผลกระจ่างจิตเหรอ ออผลไม้พวกนั้นไม่อร่อยเลยสักนิด อีกอย่าง พวกเราคือมดยักษ์ที่ดื่มและกินเพียงเลือดเท่านั้น พวกเราจะเก็บของแบบนั้นมาทำไม”

เมื่อได้ยินดังนั้น เฉินเฉียงก็อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้

ยังมีหนทาง

แต่คำถามคือ เขาจะขอข้อมูลจากมดยักษ์เกี่ยวกับผลกระจ่างจิตมาได้ยังไง

เขารู้ดีว่าเขานั้นไม่ควรถามพวกมันได้ตรงๆ เพราะในตอนนี้เขาคุยกับพวกมันในฐานะมดตัวหนึ่งเท่านั้น หากว่าเขาบอกไปว่าอยากลองกินดูบ้าง พวกมันคงจะหัวเราะเยาะเขาซะมากกว่า

หลังจากใช้สมองอย่างหนัก ในที่สุดเฉินเฉียงก็ได้เอ่ยปากพูดออกมา

“แน่นอนว่าผลไม้นั่นไม่อร่อย แต่ข้าอยากรู้ว่ามันอยู่ที่ไหนเพราะได้ยินมาว่าที่ที่ผลกระจ่างจิตอยู่นั้นจะมีไส้เดือนร้อยขาอยู่ ไส้เดือนร้อยขานั่นต่างหากที่น่าสนใจ เลือดของมันนั้นอร่อยมากมาก”

เพียงสิ้นสุดคำพูดของเฉินเฉียง เสียงฮือฮาได้ดังก้องพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในทันที

“ไส้เดือนร้อยขาเหรอ ข้าเคยกินนะ เลือดมันอร่อยมากจริงๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากเลยนะ รสชาติของมันยังติดอยู่ในปากข้าอยู่เลย”

“น่าเสียดายจริงๆ ข้าไม่เคยเห็นผลนั่นมาก่อน ไม่อย่างนั้นข้าต้องไปที่นั่นอย่างแน่นอน”

“อย่าพูดไร้สาระน่า ขอบอกไว้เลยนะว่าข้าเคยเห็นผลนั่นมาแล้ว ที่นั่นข้าไม่เห็นไส้เดือนร้อยขาเลยนะ กลับกันตรงนั้นเป็นรังของเม่นเกราะต่างหาก”

“เม่นเกราะเหรอ เล่นด้วยยากเลยนะนั่น หนังมันโคตรจะหนา แถมยังมีหนามเกือบทั้งตัวด้วย ช่างมันดีกว่า ไปดื่มเลือดเวสเซิลตัวเหม็นกันดีกว่าน่า”

ในที่สุด เฉินเฉียงก็ได้ร่องรอยของผลไม้กระจ่างจิตจากพวกมดยักษ์จนได้ มีหรือที่เขาจะยอมถอยง่ายๆ

หลังจากคิดอีกพักหนึ่งเขาจึงได้พูดต่อ

“ฮึ่มมมม เจ้านั่นแหละที่พูดไร้สาระ เจ้าต้องไม่เคยเห็นผลกระจ่างจิตแน่ๆ บอกมาตรงๆกันดีกว่า เจ้าโกหกว่าเคยเห็นใช่ไหมล่า ไม่สิ ข้าว่าเจ้าโกหกเรื่องเม่นนั่นเพื่อจะเก็บไส้เดือนร้อยขาไว้กินตัวเดียวมากกว่า ถ้าเจ้าไม่ได้โกหกก็บอกมาสิว่ามีเม่นเกราะอยู่กี่ตัว แล้วผลกระจ่างจิตอยู่ไหนจะได้ไปพิสูจน์กันเลย”

“ข้า…ข้าไม่ได้โกหกจริงๆนะ ข้าเคยเห็นผลไม้นั่นจริงๆ”

“หมอนั่นพูดถูกนะ ถ้าเจ้าเคยเห็นจริงก็บอกหน่อยสิ ข้าจะได้ลองไปดูว่าเป็นอย่างที่เจ้าว่ารึเปล่า ว่าแต่เจ้าเห็นเม่นเกราะกี่ตัวกันล่ะ”

“ข้าไม่รู้หรอกว่าพวกมันมีอยู่เท่าไหร่ แต่จากขนาดของรังมันแล้วข้าว่าอย่างน้อยๆไม่สี่ก็ห้าตัวนะ”

เฉินเฉียงได้ทำการหลอกล่อพวกมันอีกครั้ง “ต้องใช่แน่ๆ ข้าได้ยินมาว่าไอ้พวกเม่นนั่นชอบกินไส้เดือนร้อยขาแบบสุดๆ ข้าว่าไส้เดือนร้อยขาต้องถูกกินด้วยเม่นเกราะน่ารังเกียจหมดแล้วแน่ๆ ไม่สิ ข้าว่าพวกมันต้องเก็บไว้ในถ้ำพวกมันไม่ให้พวกเราเห็น”

“แต่เม่นเกราะโคตรน่ากลัวเลยนะ”

มดยักษ์ตัวหนึ่งพูดออกมาเสียงอ่อยๆ และนี่เองทำให้มดยักษ์ทุกตัวเห็นด้วยในทันที

เฉินเฉียงเมื่อมาถึงตอนนี้ทำได้เพียงเกาหัวแกรกๆไม่รู้จะพูดยังไงต่อดีเหมือนกัน แต่ในตอนนั้นเขาก็มีความคิดหนึ่งขึ้นมา และรีบพูดออกมาผ่านระบบสื่อสารไร้สาย

“ไอ้ตัวหนามแบบนั้นจะยอมให้มาเอาเปรียบพวกเราได้ยังไงกัน”

“พวกเม่นเกราะนั่นแย่งไส้เดือนร้อยขาที่ควรเป็นของพวกเราไปนะ แล้วถ้าเราไม่ทำอะไรเลยแล้วพวกมันเกิดได้ใจขึ้นมาและกวาดล้างพวกเราล่ะ”

“ที่เผ่าพันธุ์มดยักษ์อันยิ่งใหญ่ของเรานั้นทำได้เพียงดื่มกันเลือดของเวสเซลเหม็นๆนั่นเป็นเพราะมดขี้ขลาดอย่างเจ้า”

“ถ้าพวกมันมีเพียงแค่ห้าตัวจริงล่ะก็ พวกเรามีกันเป็นร้อยจะกลัวไอ้ตัวหนามนั่นไปทำไมกัน”

“ตราบใดที่พวกเราสามัคคีกัน ทำงานด้วยกัน ไอ้ตัวหนามแค่ห้าตัวแบบนั้นต้องฉี่ราดกลัวพวกเราแน่ๆเมื่อได้เห็นกองทัพของพวกเรา”

“จริงด้วย พวกเรามีจำนวนเยอะกว่า แล้วพวกเราจะไปกลัวเม่นเกราะแค่ไม่กี่ตัวไปทำไม”

“เพื่อให้ได้กินเลือดไส้เดือนร้อยขาที่แสนอร่อยนั่น พวกเราไปกินไปดื่มกันทั้งหมดนี่แหละ”

เฉินเฉียงปลุกระดมขึ้นมา จนในที่สุดแล้วก็เริ่มมีมดยักษ์ที่เกิดฮึกเหิมและเห็นด้วยในทันที

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่ามีมดที่ยอมไปมากพอ เฉินเฉียงจึงได้พูดออกมา “เพื่อนเอ๋ย ในครั้งนี้พวกเราจะไม่เพียงดื่มเลือดที่แสนอร่อยของไส้เดือนร้อยขา พวกเราในวันนี้จะได้ดื่มเลือดของศัตรูอย่างเม่นเกราะอีกด้วย”

“ข้าได้ยินมาว่าเลือดของเม่นเกราะนั่นดีมากๆ มันต้องช่วยยกระดับอาณาจักรมดยักษ์ของเราให้แข็งแกร่งขึ้นได้อย่างแน่นอน”

“และเมื่อพวกเราแข็งแกร่งแล้ว ไม่เพียงแต่เลือดของเม่นเกราะ สัตว์ประหลาดทั้งหลายจะถูกพวกเราดื่มเลือดกันจนหมด”

“ไอ้ตัวหนามนั่นเป็นเพียงแค่เป้าหมายเล็กๆเท่านั้น แต่เป้าหมายสูงสุดของพวกเราคือเหยียบย่ำรังของไอ้พวกลูกหมาสีเงินนั่น”

“วันใดก็ตามที่พวกเราเหยียบย่ำและดื่มกินพวกหมาป่าสีเงินจันทราได้ พวกเราจะกลายเป็นที่สุดแห่งอาณาจักรมดยักษ์”

“ถูกต้องงงงง อาณาจักรมดยักษ์ต้องยิ่งใหญ่ที่สุด รังหมาป่าสีเงินก็แค่แท่นยืนของพวกเรา….”

“ข้าไม่กินเลือดไอ้ตัวเหม็นนั่นอีกแล้ว ข้าจะกินเลือดไส้เดือนร้อยขานั่น ข้าจะกินเลือดไอ้ตัวหนามหนังหนานั่น ข้าจะแข็งแกร่งที่สุด”

“ข้าจะกินเลือดลูกหมาสีเงิน”

ชายคนหนึ่งได้พูดออกมาอย่างฮึกเหิมด้วยเหมือนกัน ทั้งๆที่ตัวเขานั้น ไม่ได้เกี่ยวพัน(สายพันธุ์)กับมดพวกนี้เลยแม้แต่น้อย

Related

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจ ว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset