ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก – ตอนที่ 78 หลอมรวมสายเลือด

ที่ผ่านมา ตอนที่เขาได้ทักษะการขุดรูระดับสูงสุดนี้มาผ่านระบบย่อยสลายซากมานั้น เขาไม่ได้สนใจมันสักเท่าไหร่

เหตุผลก็คือหนึ่ง ชื่อทักษะมันน่าอาย อีกหนึ่งก็คือเขาไม่รู้จะใช้มันทำอะไรดี

แต่ในช่วงสองวันที่ผ่านมานี้เขาได้ใช้ทักษะขุดรูนี้เอาชีวิตรอดมาจากโม่เสี่ยวจวงและพวกมาได้ นี่เองทำให้เขานั้นเข้าใจได้ในทันทีว่าทักษะนี้มีความมหัศจรรย์แค่ไหน

และในคืนนี้ เมื่อตอนที่เขาใช้ทักษะนี้เป็นครั้งที่สองตอนที่พยายามหนีจากถูหมั่นเถียนทำให้เขาเข้าใจถ่องแท้เกี่ยวกับทักษะนี้มากยิ่งขึ้นสมกับที่เป็นทักษะการขุดรูขั้นสูงสุด

ตามทฤษฎีแล้ว การขุดรูการถือการทะลวงผ่านทุกสิ่งทุกอย่างผ่านผิวหน้าทะลวงสู่ภายใน

และเมื่อในตอนนี้ ทักษะนี้อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว แรงทะลวงที่ใช้จะมีความทรงพลังอย่างที่สุด และนี่ทำให้เขานึกถึงสิ่งที่อาจารย์ของเขาเคยพูดกับเขาไว้ในสำนักเรื่องหนึ่ง นั่นคือเรื่องความสุดยอดของพลังจักรพรรดิ

และเมื่อคิดได้ว่าทักษะขุดรูของเขาเองก็อยู่ในระดับสูงสุดแล้ว เฉินเฉียงรู้สึกว่าสิ่งนี้มีความคล้ายคลึงกับพลังจักรพรรดิที่อาจารย์ของเขาเคยบอกกับเขา

ในเมื่อเป็นแบบนั้นแล้ว ทำไมเขาจะไม่ลองดูล่ะ

เว่ยฉิงเชินในตอนนี้นั้นตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายสุดขีด เฉินเฉียงในตอนนี้เองก็ได้ถือดาบดั้นเมฆไว้ด้วยสองมือ พลางใช้ทักษะขุดรูขั้นสูงสุด และนี่เองทำให้เขานั้นพุ่งเข้าใส่ถูหมั่นเถียนอย่างรวดเร็วราวกับกระสุนปืน

ถูกต้องแล้ว

เขาต้องการขุดรูบนร่างของถูหมั่นเถียน

เว่ยฉิงเชินในตอนนี้ต่อสู้กับถูหมั่นเถียนมาร่วมชั่วโมงแล้ว พลังสายเลือดของเธอนั้นร่อยหรอไปอย่างมาก อีกทั้งเธอไม่มีเวลาจะได้พักเพื่อฟื้นฟูเลยแม้แต่น้อย

ส่วนถูหมั่นเถียนนั้นเปรียบได้ดั่งเครื่องจักรที่สู้ได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยังคงสู้ด้วยเรี่ยวแรงที่เต็มร้อย

และนี่ทำให้กรงเล็บหมาป่ามือของเขานั้นเริ่มส่งผลต่อชั้นพลังสายเลือดที่เว่ยฉิงเชินใช้ป้องกันตัวเอาไว้

หากเธอไม่สามารถหาจังหวะฟื้นฟูพลังสายเลือดได้ล่ะก็ เกรงว่าเธอคงทำได้เพียงแค่หนีไปเท่านั้น

ที่เธอมาที่นี่เพื่อสู้กับถูหมั่นเถียนนั้นเป็นเพราะเธอโกรธเลือดขึ้นหน้าจนเกินไป

นั่นก็เพราะเธอได้ยินมาว่าตึกจอมพลเมืองเหมันต์จันทราและตึกจอมพลแดนใต้ได้ส่งคนมาจัดการที่นี่หลายครั้ง แต่ในทุกๆครั้งก็ไม่อาจทำลายกองโจรได้ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่คุ้นชินกับภูมิประเทศและติดอยู่ในกับดักของกองโจร

และหลังจากที่เธอก้าวเข้าสู่ระดับนายพลวิญญาณขั้นกลาง เมื่อเธอได้ยินข่าวนี้จึงรู้สึกอดรนทนไม่ได้จึงได้แอบพ่อของเธอมาที่นี่เพื่อจะกวาดล้างกองโจรด้วยตนเอง

เธอไม่คิดว่าเมื่อเธอมาถึง เฉินเฉียงจะทำการกวาดล้างกองโจรเขตแดนหมอกโลหิตไปแล้วเกินครึ่งด้วยตัวคนเดียว

และนั่นเป็นตอนที่เธอมาถึงแล้วช่วยเฉินเฉียงเอาไว้

เมื่อเธอได้รับรู้ว่าเฉินเฉียงนั้นบุกถล่มกวาดล้างกองโจรนี้ด้วยตัวคนเดียวทั้งๆที่อยู่ในระดับทหารขั้นสูงได้ นี่ทำให้เธอยิ่งมั่นใจว่าจะชนะ

และนี่ทำให้เธอเกิดความคิดที่ว่า ขนาดอีแค่นักรบสายเลือดระดับทหารขั้นสูงเพียงคนเดียวยังสามารถกวาดล้างกองโจรนี้ได้ แล้วเธอ ผู้ซึ่งอยู่ในระดับนายพลวิญญาณขั้นกลางจะไม่สามารถชนะถูหมั่นเถียนได้โดยง่ายได้อย่างไร

แต่เมื่อเธอต่อสู้กับถูหมั่นเถียนแล้วทำให้เธอได้รู้ซึ้งแล้วว่าเธอนั้นทั้งดูถูกคู่ต่อสู้และมั่นใจในตัวเองมากเกินไป

ถึงแม้ถูหมั่นเถียนจะอยู่ในระดับนายพลวิญญาณขั้นกลางเช่นเดียวกับเธอ แต่เขาเองก็มีประสบการณ์ในการต่อสู้ที่มากมาย รวมถึงจิตใจที่โหดร้ายและโหดเหี้ยมนี้ ในที่สุด เธอก็ไม่ใช่คู่มือของเขา

แต่เมื่อเธอมาที่นี่และแสดงความมั่นหน้าแถมยังพูดออกมาว่าจะสังหารถูหมั่นเถียนให้จงได้ หากอยู่ๆเธอหนีไปก็ออกจะน่าอายเกินไป อีกอย่างหนึ่งคือในระหว่างที่ต่อสู้กันนั้น เฉินเฉียงกลับอาศัยจังหวะนี้ แทนที่จะหนี เขากลับไปกวาดล้างโจรคนอื่นต่อ นี่ทำให้เธอรู้สึกอับอายหากต้องหนีไป

จะบอกว่าในตอนนี้เธอต่อสู้ได้ด้วยแรงใจเท่านั้นก็ว่าได้

แต่คิดไม่ถึงว่าหลังจากถูหมั่นเถียนเห็นว่าลูกน้องทั้งหมดโดนฆ่าจะยิ่งบ้าคลั่งและโจมตีเธออย่างดุร้ายมากยิ่งขึ้น และเว่ยฉิงเชินเห็นแล้วว่าในตอนนี้ เธอ แทบจะไม่เหลือพลังงานสายเลือดที่ใช้ป้องกันแล้ว หากเธอไม่หนีตอนนี้ เธออาจไม่มีโอกาสอีก

“ฮี่ฮี่ฮี่ คุณหนูตัวน้อย คิดจะหนีหรือจ๊ะ ช้าไปแล้ว อ้ะ แต่ไม่ต้องกังวลนะ พี่ชายคนนี้จะไม่ฆ่าคุณหนูง่ายๆหรอก”

ถูหมั่นเถียนยังคงสู้ไปและพูดก่อกวนเว่ยฉิงเชินต่อไป “ตราบใดที่พี่ชายคนนี้มีอะไรกับน้องได้นี่ อย่างน้อยๆพ่อของน้องก็คงจะมอบตำแหน่งนายพลให้พี่สักตำแหน่งกระมัง”

เมื่อเห็นว่าความอดกลั้นของเว่ยฉิงเชินเริ่มหมดลง ถูหมั่นเถียนก็อดที่จะหัวเราะอย่างหื่นกระหายไม่ได้ ในตอนนี้เรี่ยวแรงของเขายังไม่ลดน้อยถอยลงแม้แต่น้อย มีหรือที่เขาจะไม่สังเกตประกายแสงที่กำลังพุ่งตรงมาที่เอวของเขา

เขาเห็นแต่ไม่แยแสเลยสักนิด

นั่นก็เพราะกับอีแค่ระดับทหารขั้นสูงนั้นมันขยะเกินที่จะทำอะไรเขาได้ ต่อให้เขาอยู่เฉยๆ ไอ้หนูเวรตะไรนี้ยังไงก็ไม่สามารถเจาะทะลุชั้นพลังสายเลือดของเขาได้อย่างแน่นอน

แต่ในครั้งนี้เขาคิดผิดไป

ในขณะที่ถูหมั่นเถียนกำลังใช้กรงเล็บทั้งสองมุ่งหมายในการทะลวงการป้องกันของเว่ยฉิงเชินอยู่นั้น เขาไม่คิดว่าอยู่ๆเฉินเฉียงจะใช้ทักษะการขุด เปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นให้หมุนวนเหมือนสว่าน

เสียงจะทะลวงที่ดังขึ้นราวกับเข็มเหล็กทิ่มลูกโป่งได้ดังขึ้นมา ดาบดั้นเมฆที่หมุนวนอย่างรวดเร็วเจาะทะลวงชั้นพลังสายเลือดที่ถูหมั่นเถียนเคลือบร่างเอาไว้อย่างง่ายดาย และนี่ทำให้พลังสายเลือดที่เคลือบเอาไว้บ่นร่างของถูหมั่นเถียนได้ละเบิดออกอย่างไม่มีชิ้นดี

เมื่อเห็นแบบนี้ เฉินเฉียงไม่ได้หยุดยั้งตัวเองแม้แต่น้อย เขายังพุ่งตรงต่อไป และหยุดหลังพุ่งผ่านไปได้ร่วมร้อยเมตรแล้วเท่านั้นจึงได้หันกลับมามอง

เมื่อได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาเองก็ยังต้องตกตะลึง

หากไม่ใช่ว่าถูหมั่นเถียนเร็วพอล่ะก็ บั้นเอวของเขาทั้งหมดคงจะหายไปแล้ว

แต่ต่อให้โดนทะลวงไปได้เพียงครึ่งเดียว แต่ทั้งเลือดและอวัยวะภายในของเขาก็หล่นร่วงมากองอยู่กับพื้น

ถูหมั่นเถียนที่เป็นหัวหน้าโจรผู้ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดนั้น ถึงแม้จะโดนโจมตีจนเกินบาดแผลร้ายแรงขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ตกตายในทันที แถมยังก้มมามองดูร่างที่เป็นรูโหว่าของตนด้วยสีหน้าตกใจ

เขาได้เงยหน้าขึ้นมาและไม่สนใจที่จะโจมตีเว่ยฉิงเชินอีกต่อไป เขาหันกงเล็บของตนพุ่งเข้าใส่เฉินเฉียงที่อยู่ไปไกลกว่าร้อยเมตรที่ยังคงยืนอึ้งอยู่

“ไอ้เวรตะไล ข้าจะหั่นแกเป็นชิ้นๆ”

ถึงแม้จะอยู่ห่างกันไปร้อยเมตร แต่ด้วยท่าเท้าที่คล่องแคล่วทำให้เขาสามารถเข้าถึงตัวเฉินเฉียงได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เฉินเฉียงจะตอบสนองได้ทันนั้น กรงเล็บหมาป่าก็ได้ตกอยู่ในครรลองสายตาของเขาแล้ว

“ถอยเร็ว”

ในช่วงวิกฤตนี้ เว่ยฉิงเชินได้ตะโกนออกมาจากด้านหลัง พร้อมส่งผ้าไหมในมือของเธอซึ่งในตอนนี้กำลังพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วประดุจดั่งหอกสีเงินและพุ่งเสียบไปที่กลางอกของถูหมั่นเถียน

ซึ่งเป็นตอนที่กรงเล็บของถูหมั่นเถียนอยู่ห่างจากดวงตาของเฉินเฉียงเพียงหนึ่งช่วงนิ้วมือเท่านั้น

เมื่อเห็นว่าถูหมั่นเถียนได้ร่วงลงไปกองที่พื้น เฉินเฉียงก็ได้ใช้มือขวาของตนไปจับที่หัวของถูหมั่นเถียนในทันที

เพราะนี่คือซากของนายพลวิญญาณระดับกลาง เขาย่อมไม่ปล่อยมันทิ้งไปอย่างไรค่า

ติ้ง การย่อยสลายนักรบสายเลือดประเภทสายน้ำระดับนายพลวิญญาณขั้นกลางเสร็จสิ้น

ชื่อ เฉินเฉียง
ระดับ: นักรบสายเลือดระดับทหารขั้นสูง
การหลอมรวมทักษะ: 0
ค่าพลังงาน:1,600
ค่าการใช้ประโยชน์:1
ค่าความอดทน:200
ค่าความแข็งแกร่ง:188
ค่าความเร็ว:207
ค่าพลังจิต:133
เคล็ดวิชาการบ่มเพาะ: หลอมเลือดทำลายล้างระดับต้น
….
ทักษะ: ไร้ตัวตน
ทักษะ: กรงเล็บอินทรีย์ขั้นต้น

สายเลือด: โกลาหลต้นกำเนิด

สายเลือด โกลาหลต้นกำเนิด….เหรอ

หลังจากดูดซับพลังงานจากร่างของถูหมั่นเถียนแล้ว นอกจากค่าสถานะพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นมามากมายแล้ว สายเลือดของเขาในตอนนี้ยังเปลี่ยนจากขั้นสูงกลายเป็นขั้นเริ่มต้น

นี่ไม่ใช่ว่าเขากลับกลายเป็นระดับทหารขั้นฝึกหัดเลยรึไงกัน

เฉินเฉียงในตอนนี้ได้ลองตรวจสอบจุดชีพจรทั้งสิบสองของตนในทันที เมื่อเห็นว่าพวกมันยังคงเปิดอยู่ นี่ทำให้เขารู้สึกเบาใจขึ้นมา

แล้ว…สายเลือดนี้มันอะไรกัน

เฉินเฉียงได้ทำการสงบสติอารมณ์ลง ก่อนที่จะตรวจดูค่าสถานะของตนอีกครั้ง เขาพบว่าค่าที่ใช้ในการหลอมรวมทักษะและสายเลือดได้หายไป

ดูเหมือนว่าหลังจากการดูดซับพลังของถูหมั่นเถียนเข้าแล้วจะได้สายเลือดพิเศษจนทำให้ฟังก์ชันการหลอมรวมทำงานอัตโนมัติสินะ

ว่าแต่….ไอ้สายเลือดโกลาหลต้นกำเนิดอะไรนี่มันคืออะไรกันฟะ ไม่เห็นเคยได้ยินเลยสักนิด

Related

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

ผมมีระบบย่อยสลายในวันสิ้นโลก

Status: Ongoing
ฉินเฉียงรู้สึกตัวอีกครั้งก็มาอยู่ในยุค ที่มีสัตว์อสูร และผู้บ่มเพาะพลังเสียแล้ว ด้วยความบังเอิญเขาได้ใช้มือสัมผัสกับซากสัตว์อสูร ทำให้คนธรรมดาแบบเขาได้รับสายเลือดพิเศษ หลังจากที่เขาศึกษาระบบนี้ทำให้รู้ว่า เขาสามารถดูดความสามารถดั้งเดิมแบบสุ่มของซากศพได้ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์อสูร หรือแม้แต่มนุษย์ ด้วยความสามารถนี้ทำให้เฉินเฉียงมั่นใจ ว่าเขาจะมีชีวิตรอดในยุคโลกาวินาศนี้ได้ ยิ่งเขาฆ่า!มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

Comment

Options

not work with dark mode
Reset