ผมเกิดใหม่เป็นจิ้งจอกสาวเก้าหาง – ตอนที่ 13: เกือบไม่รอด

                หมาป่าขนเทาสองตัวด้านหน้ามากิและคาเอลยืนจ้องทั้งสองเหมือนกำลังดูเชิงอยู่

                มากิกับคาเอลขยับมือเพื่อที่จะชักดาบข้างเอว หมาป่าขนเทาเองก็ก้าวเท้าเข้ามาหนึ่งก้าว

                ในทันทีที่มากิกับคาเอลชักดาบออกมา หมาป่าขนเทาทั้งสองตัวก็พุ่งกระโจนเข้ามาจะกัดขาของมากิ

                คาเอลสกัดหมาป่าขนเทาด้านหน้าตัวเองได้ทันก่อนที่จะถึงตัว

                ตัวของมากิเองด้วยความที่ไม่ได้เป็นผู้ใช้ดาบสองคมจึงดีดตัวเองออกจากจุดที่ยืนอยู่ออกไป

                “มากิครับ! มอนส์เตอร์พวกนี้มันแพ้ธาตุอะไร!”

                “น้ำ!”

                หลังพูดจบมากิก็ร่ายเวทย์บอลน้ำใส่หมาป่าขนเทาสองลูกจากนั้นก็พุ่งตัวไปด้านข้างของหมาป่าขนเทาแล้วกระหน่ำแทงเรเปียไปที่สีข้างของมันหลายแผล แต่มันก็ยังไม่ล้มอยู่ดี

                “เวทย์น้ำจะทำให้มันเคลื่อนที่ได้ช้าลงนะคาเอล!”

                คาเอลที่ได้ยินก็พยายามจะร่ายเวทย์บอลน้ำ แต่หมาป่าขนเทาตรงหน้าก็เหมือนจะรู้ทันจึงไม่ปล่อยให้คาเอลได้มีโอกาสใช้เวทย์บอลน้ำ

                “มากิครับ ผมไม่รู้นะว่าร่างเก้าหางน่ะมันทำอะไรได้ แต่ถ้าใช้ตอนนี้ผมว่าเราน่าจะรอดจากตรงนี้ได้นะครับ!”

                “ยังหรอกน่า! ถ้ามันมาทั้งป่าค่อยว่ากันนะ!”

                ด้วยเหตุนี้ทั้งสองคนจึงสู้กับหมาป่าขนเทาสองตัวตรงหน้าต่อไปอีกสักพัก หากให้คิดตามระดับฝีมือของคาเอลนั้น นับว่าเพียงพอในการจะล้มหมาป่าขนเทาโดยไม่ยากเย็น เพียงแต่สรีระนั้นยังไม่ได้เอื้ออำนวยในการจะจัดการกับพวกมัน

                แขนสั้นนั่นแหละ

                คาเอลดีดตัวเองถอยออกมาจากนั้นก็ร่ายเวทย์กำแพงดินเพื่อขวางตัวเองกับหมาป่าขนเทาตรงหน้าตัวเอง จากนั้นก็พุ่งตัวเองออกมาด้านข้างฟันขาหน้าข้างซ้ายของมันขาดสะบั้นในการโจมตีครั้งเดียวจากนั้นหมุนตัวอีกรอบเพื่อเพิ่มแรงเหวี่ยงในการฟันขาหลังขวาของมันจนขาด

                หมาป่าขนเทาที่โดนคาเอลฟันจนขาขาดส่งเสียงร้องอย่างโหยหวนและล้มลงไป

                หลังจากนั้นคาเอลก็วิ่งเข้าไปจะช่วยมากิ

                แต่มากิเองก็ไม่ได้อ่อนไปกว่าคาเอล มากิใช้เวทย์โซลสไตร์คใส่หมาป่าขนเทาเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวจากนั้นก็วิ่งตรงไปทางหมาป่าขนเทาพุ่งออกไปด้านข้างจากนั้นก็แทงเข้าไปที่ท้องของมันหลายครั้งจนมันทนความเจ็บปวดไม่ไหว แต่ก่อนที่มันจะล้มลงไปนั้น หมาป่าขนเทาทั้งสองตัวส่งเสียงร้องออกมาเสียงดัง ดังยิ่งกว่าในตอนที่มากิกรี๊ดออกมาเสียอีก

                “ยะ..อย่าบอกนะว่า มันเรียกพวก!”

                หมาป่าขนเทาสองตัวที่หอนออกมาก็หยุดเสียงและแน่นิ่งไป แต่จากนั่นไม่กี่วินาทีก็มีเสียงหอนออกมาจากป่าด้านข้างของทั้งสองเสียงดังขึ้นทีละตัวจนสุดท้ายนับได้รวมหกตัวด้วยกัน

                “ทำไงดีครับ!”

                “สองตัวก็แย่แล้ว นี่หกตัว เราหนีกันเถอะ! ทางนี้!”

                มากิและคาเอลวิ่งเข้าป่าฝั่งตรงข้ามกับที่หมาป่าขนเทาอีกหกตัวที่เหลือกำลังวิ่งเข้ามา

                เมื่อวิ่งเข้าไปเรื่อยๆด้วยความที่หมาป่าขนเทาเป็นมอนสเตอร์นักล่าที่เก่งกาจ จึงวิ่งตามทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว

                “มากิครับ! ถ้าตอนนี้ไม่ใช้พลังจริงๆล่ะก็ ผมว่าเราจะตายกันจริงๆแล้วนะครับ!”

                “ยังหรอกน่า!”

                มากิจับมือของคาเอลจากนั้นก็ใช้เวทย์ดินสร้างกำแพงขึ้นมาด้านหลังแล้วยิงบอลหินทำลายกำแพงจนแหลกเป็นผงฝุ่นเพื่อบังตาของหมาป่าขนเทาช่วงนึง

                จากนั้นก็ใช้เวทย์สร้างน้ำลงในดินเพื่อให้กลายเป็นบึงโคลนดักทางพวกมอนส์เตอร์ สร้างกำแพงดินอีกครั้งแล้วใช้เวทย์บอลไฟยิงเพื่อทำลายกำแพงให้เกิดเสียงระเบิดและกลิ่นไฟ เพื่อไม่ให้เหลืออะไรเป็นร่องรอยให้หมาป่าขนเทาตามมาได้เลย

                ทั้งสองวิ่งออกมาจากจุดนั้นจนไกลประมาณหนึ่งแล้วหยุดพักเอาแรงโดยที่หมาป่าขนเทานั้นกำลังหาทางตามล่าทั้งสองอยู่

                “แฮก…เป็นยังไงบ้างคาเอล..แฮก”

                “แฮก…ผมยังโอเคครับ”

                “พักตรงนี้กันสักพักนะ”

                มากิใช้เวทย์สร้างกำแพงดินล้อมทั้งสองสูงเลยหัว

                “เราวิ่งมาไกลขนาดนี้ คุณลุงอิกนัสจะหาเราเจอไหมนะ”

                “อืม..นั่นสินะ แย่ล่ะสิ ทะ..ทำไงดีล่ะ ชั้นลืมนึกเรื่องนี้ไปเลย”

                “ก็…ผมว่าถ้าเกิดมากิใช้พลังจริงๆของมากิ เราทั้งคู่น่าจะไม่ถึงขั้นต้องวิ่งมาไกลขนาดนี้ก็ได้นะครับ”

                “ชะ..ชั้นขอโทษ ก็แม่ของชั้นสั่งให้เก็บไว้เป็นความลับนี่นา”

                “ไม่เป็นไรครับมากิ อย่างน้อยมากิก็ช่วยให้ผมรอดนะ อีกแปบนึงคุณลุงอิกนัสน่าจะมาถึงจุดที่เราอยู่กันตอนแรกแล้ว ผมฝากมากิคิดแผนทีนะครับ”

                “อือ”

                มากิเงียบลงครู่หนึ่งก่อนจะสะกิดคาเอล

                “ชั้นคิดแผนออกแล้วล่ะ ถ้าประมาณเวลาแล้ว พ่อของชั้นน่าจะใกล้ถึงที่เรานั่งรอกันตอนแรกแล้วล่ะ ตอนนั้นชั้นจะใช้เวทย์บอลไฟลูกใหญ่ยิงขึ้นท้องฟ้า เพื่อให้พ่อชั้นรู้ว่าเราอยู่กันตรงนี้ แต่ว่ามันจะเป็นจุดสังเกต และเสียงดังมาก พวกมอนส์เตอร์คงจะแห่มาที่นี่ ชั้นจะใช้ร่างจิ้งจอกของชั้นตรึงไว้ให้ แล้วฝากนายจัดการพวกที่มาหาพวกเราทีนะ ถ้าจัดการเสร็จแล้วเราจะกลับมาแอบในกำแพงดินนี้เหมือนเดิม รอพ่อของชั้นมารับ แล้วเราก็จะรอดกัน”

                “รับทราบครับ”

                เวลาผ่านไปสักพักจากนั้นทั้งสองก็เริ่มลงมือ

                “เอาล่ะนะ”

                มากิร่ายเวทย์บอลไฟหนึ่งลูกออกมาเหนือหัว มันมีขนาดใหญ่พอๆกับบอลลูน จากนั้นก็ปล่อยมันขึ้นไปบนฟ้า แล้วระเบิดออกมาเสียงดังสนั่นถึงขนาดที่ว่ากำแพงดินที่สร้างเอาไว้ยังสั่นเลยทีเดียว

                หลังเสียงระเบิดเงียบลงหมาป่าขนเทาบริเวรนั้นทั้งหมดก็วิ่งตรงมายังต้นเสียงทันที

                นับจากเสียงแล้วมีถึงสามสิบกว่าตัวด้วยกัน

                “พวกมันน่าจะเยอะน่าดูเลยล่ะครับ เราจะไหวกันเหรอครับ”

                “นายเชื่อใจชั้นใช่ไหมล่ะ เพราะงั้น…ชั้นก็เชื่อใจนายนะ เอาล่ะ! ปลดผนึก!”

                ทันใดนั้นออร่าสีทองก็พุ่งกระจายออกมาจากตัวของมากิ หูจิ้งจอกที่โผล่ขึ้นมาบนหัวหางทั้งเก้าที่งอกออกมา

                “ชั้นน่ะ…เป็นเก้าหางนะรู้ไหม?”

                พลังเวทย์ที่มากิใช้ไปในการยิงบอลไฟขนาดยักษ์กลับมาเต็มอีกครั้ง

                “โห..สุดยอดเลย…”

                “อย่าเพิ่งตกใจคาเอล จัดการกับพวกหมาป่าขนเทาพวกนี้ก่อน ชั้นจะหยุดมันให้นะ”

                มากิยืนนิ่งปล่อยพลังเวทย์ของตัวเองลอยไปในอากาศ ทำให้ออร่าสีทองของตัวเองแผ่ขยายออกมาเป็นวงกว้างครอบคลุมที่ๆ หมาป่าขนเทาอยู่ทั้งหมดเพื่อเป็นการตรึงมันเอาไว้

                “เรียบจัดการเลยนะคาเอล ชั้นแทบไม่ได้ฝึกพลังเลยชั้นทำได้แค่ตรึงพวกมัน แต่ชั้นเองก็ทำอย่างอื่นนอกจากพูดไม่ได้เลย”

                “ครับ”

                ร่างกายของคาเอลหนักขึ้นเล็กน้อย อาจด้วยอยู่ในพื้นที่มากิตรึงเอาไว้ แล้วตัวของมากิเองก็ยังไม่ชำนาญพลังของตัวเอง

                คาเอลไม่ตอบรับอะไรแล้วจัดการพวกมันให้ตายทีละตัว

                จนสุดท้ายหมาป่าขนเทาก็เหลือเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และพลังเวทย์ของมากิก็เช่นกัน

                “อีกสามตัวสินะ…”

                คาเอลใช้พลังเวทย์ที่เหลืออยู่ไม่มากในการใช้เวทย์ใบมีดลมตัดคอของหมาป่าสองตัวแต่ก็ยังเหลือไว้เพียงนิดหน่อยเพื่อให้พอมีแรงขยับตัวอยู่ได้

                ในที่สุดหมาป่าขนเทาก็เหลือตัวสุดท้าย

                ในตอนที่คาเอลกำลังลงดาบนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนกับอะไรหล่นลงพื้น

                บริเวณนั้นมีเพียงแค่มากิและคาเอลเท่านั้น คาเอลจึงหันไปด้วยความเป็นห่วง

                “มากิครับ!”

                และในตอนนั้นเองหมาป่าขนเทาหลุดออกจากการตรึงของมากิ เลยฉวยโอกาสนี้วิ่งหนีออกไป

                “…ขอโทษนะคาเอล ชั้นพลังเวทย์หมดน่ะ…”

                “ไม่เป็นไรครับมากิ เรากลับไปซ่อนอยู่ในกำแพงดินกันเถอะครับ”

                “…ไม่ไหว ไม่มีแรงเลย…ขอโทษนะ อุ้มชั้นได้ไหม…”

                “ครับ”

                คาเอลอุ้มมากิในท่าเจ้าสาวกลับเข้าไปหลบในกำแพงดิน

                “ปลอดภัยนะครับ”

                “อะ..อือ”

                “ตัวที่หนีไปได้คงจะเรียกพวกมาอีก พักเอาแรงก่อนนะครับ”

                “ขอโทษนะ…เพราะชั้น ก็เลยจัดการพวกมันได้ไม่หมด…”

                “ไม่เป็นไรครับ มากิอย่าโทษตัวเองเลย ถ้าตอนนั้นผมไล่งูออกไปได้ดีๆ เราก็คงไม่ต้องมาหนีแบบนี้ล่ะนะ ฮะๆ”

                “โถ่…เอาน้ำตาชั้นคืนมาเลยนะ”

                “โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ เดี๋ยว อย่าทุบผม เจ็บนะครับ โอ๊ยๆๆ เดี๋ยวมอนส์เตอร์แห่มาเราจะทำไงล่ะครับ”

                มากิสีหน้าเศร้าลงเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มออกมา

                “ไม่กลัวหรอก ชั้นมีนายอยู่ทั้งคน”

                ในจังหวะที่ทุกคนกำลังสบายอยู่นั้น พุ่มไม้โดยรอบก็สั่นขึ้นมา และเป็นไปตามคาด หมาป่าขนเทานั่นเอง

                “พลังเวทย์เหลือไหมคาเอล”

                “หนึ่งครั้งครับ ถ้าใช้แล้วผมก็คงจะสลบไปเลย”

                “งั้นชั้นจัดการเอง ถ้าพวกเรารอด ฝากแบกชั้นกลับไปด้วยนะ”

                มากิใช้เวทย์กำแพงดินปิดทางเข้าและเสริมให้หนาเท่าที่จะทำได้ก่อนสลบไป

                “แย่ละสิ สงสัยต้องทำใจให้สงบคนเดียวแล้วสิ”

                หมาป่าขนเทาพยายามกระแทกตัวเพื่อทำลายกำแพงจนกำแพงเริ่มร้าว

                “อย่างต่ำสามตัว…แย่จริงๆแล้วแฮะแบบนี้…จะปกป้องมากิไปด้วยจัดการพวกมันไปด้วยยังไงล่ะทีนี้”

                และในที่สุดกำแพงดินก็พังทลายลง

                คาเอลตั้งท่ารับรอพวกหมาป่าขนเทาเข้ามาในระยะโดยไม่ออกไปโจมตีสุ่มสี่สุ่มห้าเพื่อความปลอดภัยของมากิ

                คาเอลในตอนนี้นั้นทั้งอ่อนแรงและพลังเวทย์หมดแล้วนั้น ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากยืนขู่

                หมาป่าขนเทาเป็นมอนส์เตอร์ที่มีความเป็นนักล่าสูง มันจึงมีนิสัยชอบเล่นกับเหยื่อที่หมดทางสู้อย่างคาเอล เลยกระโจนเข้ามาอย่างไม่เอาจริงเอาจัง

                “ชิ ดูถูกกันอยู่ใช่ไหมเนี่ย”

                คาเอลทำได้แค่ปัดป้องไปมา ถึงแม้หมาป่าขนเทาจะช่องว่างเยอะขนาดไหน ก็ไม่สามารถออกแรงโจมตีกลับไปได้เลย

                จนสุดท้ายหมาป่าขนเทาก็เริ่มเบื่อ จึงคิดจะจัดการกับเหยื่อตรงหน้าให้เสร็จสิ้นไปซะ แต่ในตอนนั้นเอง

                อิกนัส หรือพ่อของมากิก็พุ่งตัวเข้ามาฟันหมาป่าตรงหน้าของคาเอลตายในดาบเดียว

                เขามองรอบๆตัวเพื่อประเมินสถานการณ์ จากนั้นก็เริ่มลงมือ

                “อย่าขยับนะเจ้าหนู”

                อิกนัสจัดการกับหมาป่าทุกตัวด้วยความรวดเร็วอย่างง่ายดาย

                “มีแค่นี้สินะ”

                “คะ..ครับ”

                “ยังเหลือแรงนิดหน่อยสินะ ลุงฝากแบกมากิทีนะ เราจะเดินตัดผ่านป่าเข้าเมืองเพื่อเข้าเมืองแล้วรักษามากิให้ไวที่สุด”

                คาเอลพยักหน้ารับ จากนั้นคาเอลก็แบกมากิแล้วเดินตามอิกนัสกลับเข้าเมืองไป

                ระหว่างทางมีมอนส์เตอร์โผล่ออกมาบ้าง แต่อิกนัสก็จัดการอย่างง่ายดายทุกตัว

                และในตอนที่เดินนั้นคาเอลก็ได้คุยกับอิกนัสอยู่บ้าง

                “คาเอล บอกลุงหน่อยทำไมมากิไม่เรียกคุโระให้มาช่วยล่ะ”

                “ปกติมากิไม่เรียกคุณคุโระมานอกบ้านเลยนอกจากตอนที่ช่วยผม ซึ่งนั่นก็คงจะเป็นครั้งเดียวที่ทำ น่าจะลืมแหละครับ”

                “ไม่ชินสินะ ทำได้ดีมากคาเอลที่ปกป้องลูกของลุงและไม่ยอมถอยหนี แม้ว่าอาจจะต้องตายก็ได้ เจ้าหนูคาเอล บ้านอิจิฮานะเป็นหนี้เจ้าหนูแล้วนะ”

                “อ่า…ครับ”

                “…ขอโทษนะคาเอล…”

                “ห้ะ?”

                “มีอะไรเหรอเจ้าหนู”

                “ป่าวครับ …คงจะละเมอล่ะมั้ง”

                จนในที่สุดทั้งสามก็ถึงบ้านของอิกนัสจนได้

                “เจ้าหนู วันนี้คาลบอกให้เจ้าหนูค้างบ้านลุง ให้ตายเถอะ ไอ้บ้านั่นบอกให้ค้างห้องเดียวกับมากิ ใครจะยอมฟะ เจ้าหนูค้างห้องคุโระไปก็แล้วกัน ชิโระ ฝากเช็ดตัวให้มากิด้วยนะ”

                ““รับทราบครับ/ค่ะ””

                “เอ๊ะ ทำไมเหรอครับ”

                “ลุงกับทหารคนอื่นๆ รวมถึงคาลต้องไปลาดตระเวนในป่าคืนนี้ ไปก่อนนะเจ้าหนู ไปก่อนนะที่รัก!”

                พออิกนัสตะโกนเข้าบอกลาจิฮิโระก็มีสายลมรุนแรงพุ่งออกมาจากบ้าน

                “อึ๋ย! ซวยละ”

                แล้วอิกนัสก็วิ่งออกไป

                

                ในที่สุดเหตุการณ์สุดอันตรายในวันนี้ก็ผ่านไปได้ในที่สุด

 

 

 

Comment

Options

not work with dark mode
Reset