ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) – บทที่ 64 น้ำเชื้อ

ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา) บทที่ 64 น้ำเชื้อ
ฉินเฟยแบกดาบเสวี่ยอิ่นเอาไว้ และนั่งอยู่บนรถจักรยานไฟฟ้าอย่างยากลำบาก เขาไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่มองตัวเอง และตรงไปยังว่านเซียงมูวี

เมื่อมาถึงบริษัท ฉินเฟยเข้าไปในโรงจอดรถที่อยู่ชั้นใต้ดิน จากนั้นก็สแกนลายนิ้วมือและใช้ลิฟต์ส่วนตัวตรงไปยังชั้นที่สิบหก ตั้งแต่เริ่มทำงาน ฉินเฟยก็ใช้ลิฟต์ส่วนตัวอันนี้ตลอด นี่ก็คือเหตุผลที่คนจำนวนมากไม่เคยเห็นหน้าฉินเฟย

อย่างไรก็ตาม พนักงานบริษัทคนอื่นๆมองไม่เห็นเขา แต่เลขาที่อยู่ด้านนอกห้องทำงานมองเห็นเขาอยู่แล้ว

ฉินเฟยมีเลขาทั้งหมดสิบสองคน ทุกคนต่างเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆ เมื่อมองเห็นฉินเฟยเดินเข้ามา พวกเธอก็รีบลุกขึ้นมาและพูด:”สวัสดีค่ะ ท่านประธาน”

เหอฉิงมองเห็นกล่องสีดำที่อยู่ด้านหลังของฉินเฟย สีหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย แต่เธอก็ไม่กล้าถาม ทำให้เธอนึกถึงก่อนหน้านี้ที่ท่านประธานเอาหม้อชามเข้ามาออฟฟิศและยุ่งอยู่ทั้งวัน ทำให้เธอรู้สึกสงสัยการกระทำของท่านประธานคนนี้มากๆ

หลังจากเหอฉิงกล่าวคำทักทายแล้ว เลขาที่อยู่ด้านหลังก็รีบเงยหน้าขึ้นมาทันที สีหน้าของพวกเธอเหมือนกับเหอฉิงเลย ราวกับพวกเธอกำลังมองสัตว์ประหลาดอยู่

ฉินเฟยพยักหน้าและรีบเดินเข้าไปในห้องทำงาน ขณะที่เขากำลังจะปิดประตู เขายังได้ยินเสียงสนทนาของเลขาทั้งหมดที่อยู่ด้านนอก

ถึงแม้เลขาพวกนี้จะสวยมากๆ แต่ก็มีนิสัยชอบนินทาเรื่องชาวบ้าน มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลังจากทานอาหารเสร็จ เขารู้สึกเบื่อมากๆก็เลยออกไปเดินเล่น เขาก็ได้ยินเลขาพวกนี้สนทนาเรื่องของเขา และพูดว่าเขาไม่มีแฟนสาวอย่างแน่นอน

หลังจากนั้น เรื่องนี้ก็ได้รับความสนใจทันที พวกเธอต่างพูดว่าตัวเองสวยมากๆ รูปร่างเซ็กซี่และอยากจะเป็นภรรยาของท่านประธาน หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีคนพูดว่ารองประธานเสิ่นเจียเหวินคือคนที่มีโอกาสเป็นภรรยาท่านประธานมากที่สุด พูดว่าพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันตลอดเวลา คิดว่าพวกเขาสองคนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันแล้ว เมื่อฉินเฟยได้ยินก็รู้สึกละอายใจมากๆ

เสิ่นเจียเหวินเป็นสาวงามจริงๆ ฉินเฟยก็เป็นผู้ชายอกสามศอก เขาก็อยากจะมีอะไรกับเสิ่นเจียเหวินเหมือนกัน เขาก็อยากจะรู้ว่าความรู้สึกนั้นเป็นยังไง

อย่างไรก็ตาม เขาแค่คิดเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำเรื่องนี้จริงๆ

ฉินเฟยพิงอยู่บนประตูห้องทำงาน เขาถอนหายใจยาวๆออกมา จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น เขามองเห็นบนโซฟามีผู้หญิงเซ็กซี่คนหนึ่งนั่งอยู่ ทำให้เขาตกใจจนรีบหันหน้าหนี

ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เธอก็คือเสิ่นเจียเหวิน

“เธอ เธออยู่ตรงนี้ได้ยังไง?”ฉินเฟยพูดด้วยความตกใจ

“เมื่อคืนท่านส่งข้อความมาบอกฉัน บอกให้ฉันมารอท่านตั้งแต่เช้าไม่ใช่เหรอ ท่านมีเรื่องจะให้ฉันทำไม่ใช่เหรอ?”สายตาของเสิ่นเจียเหวินมีแต่ความสงสัย เมื่อเธอมองเห็นกล่องสีดำที่อยู่ด้านหลังของฉินเฟยและถามด้วยความสงสัย:”มันคืออะไรเหรอ?”

“สมบัติล้ำค่า”ฉินเฟยพึ่งนึกได้ เมื่อคืนเขาได้ส่งข้อความไปบอกเสิ่นเจียเหวิน สำหรับดาบเสวี่ยอิ่นที่แบกอยู่ด้านหลังนั้น เขาไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนี้อยู่แล้ว

ฉินเฟยเดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง แต่สายตาของเขามองไปยังเสิ่นเจียเหวินที่นั่งอยู่บนโซฟา

วันนี้เสิ่นเจียเหวินแต่งตัวสวยมากๆ เธอใส่กระโปรงสั้นรัดรูปสีดำ ขาอันเรียวยาวใส่ถุงน่องและพับอย่างสวยงาม ด้านบนใส่เสื้อเชิ๊ตสีฟ้า เอวของเธอเล็กมากๆ เธอมีรูปร่างที่เซ็กซี่และมีใบหน้าที่งดงาม ปากของเธอเล็กและน่าจูบมากๆ เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ เซ็กซี่และน่าค้นหามากๆ

ฉินเฟยนั่งลงบนเก้าอี้ เขาหยิบเอกสารที่จางฉองหย่วนตรวจสอบวัตถุดิบของซวนหมิงฉีและส่งมาให้เขาออกมา หลังจากมองเอกสารครั้งหนึ่งและเปิดPMขึ้นมาฟังสักครู่ และแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดพลาด

เพียงแต่รูปถ่ายและเสียงในวิดีโอไม่น่าฟังเลย เมื่อฉินเฟยดูไปชั่วครู่ก็ทำให้เขาหน้าแดงทันที เขาเงยหน้ามองเสิ่นเจียเหวิน สายตาของเขาฉายแววตื่นเต้น

ฉินเฟยรีบหันหน้ากลับมาและพูดอย่างเคร่งขรึม:”เรื่องที่ให้เธอไปตรวจสอบเมื่อสองวันที่แล้ว ได้เรื่องอะไรมาบ้าง?”

ฉินเฟยพูดถึงบริษัทคังต้าของซวนหมิงฉี นี่คือก้าวแรกที่เขาจะเริ่มแก้แค้น

“อันที่จริงบริษัทจัดหางานจำนวนมากสนใจบริษัทโฆษณาคังต้า โดยเฉพาะรองประธานหลิวจงเหลียง มีบริษัทจัดหางานจำนวนมากให้เงินเดือนปีละหนึ่งล้านกับหุ้นของบริษัท แต่ก็ดึงเขามารวมงานไม่ได้”เสิ่นเจียเหวินพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง:”จนปัญญาจริงๆ เพราะหลิวจงเหลียงทำงานในซวนหมิงฉีมานาน หลายปีมานี้บริษัทให้ความสำคัญกับเขามากๆ ตำแหน่งของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากตำแหน่งหัวหน้าเลื่อนมาจนถึงรองประธาน และเขายังได้รับหุ้นห้าเปอร์เซ็นต์ของบริษัทคังต้าด้วย เขาซื่อสัตย์กับซวนหมิงฉีมากๆ”

เมื่อเสิ่นเจียเหวินพูดจบ สีหน้าของเธอสงสัยมากๆ สำหรับเรื่องโฆษณานั้น พวกเขาก็มีบริษัทของตัวเองอยู่แล้ว เนื่องจากบริหารงานได้ดีและมีประสิทธิภาพ พวกเขาสามารถแข่งขันกับคังต้าได้อยู่แล้ว

ถ้าสามารถดึงหลิวจงเหลียงมาทำงานกับพวกเขาได้ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดี แต่เธอคิดว่าว่านเซียงไม่น่าให้ความสำคัญกับหลิวจงเหลียงอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น คนๆนี้จะมาร่วมงานกับพวกเขาได้ยากมากๆ

“ไม่เป็นไร ขอแค่หลิวจงเหลียงออกจากคังต้า ทำให้เขาลาออกจากบริษัทคังต้าก็พอแล้ว”ฉินเฟยพูดเบาๆ

“ทำไมต้องทำแบบนี้?”เสิ่นเจียเหวินสงสัยมากๆ

“เรื่องนี้ง่ายมากๆ พวกเรากับบริษัทคังต้าเป็นคู่แข่งกัน การดึงตัวบุคคลสำคัญของบริษัทคังต้าไม่ได้ดึงมาเพื่อสร้างรายได้ให้พวกเรา แต่พวกเราจะทำให้คู่แข่งอย่างบริษัทคังต้าเสียหายอย่างหนักต่างหาก”ฉินเฟยพูดด้วยรอยยิ้ม

บริษัทคังต้าอยู่ได้เพราะหลิวจงเหลียงเพียงคนเดียว ถ้าหลิวจงเหลียงจากไป บริษัทต้องเกิดความวุ่นวาย ถ้าบริษัทเกิดความเสียหาย เรื่องนี้อาจจะส่งผลดีที่พวกเราคาดคิดไม่ถึงก็ได้ เมื่อบริษัทเกิดความเสียหาย พนักงานก็คงจะแยกย้าย บริษัทคังต้าต้องล้มละลายอย่างแน่นอน!

คำพูดของฉินเฟยเฉียบแหลมมากๆ เสิ่นเจียเหวินจะเป็นพนักงานที่เก่งมากๆ เธอเข้าใจความหมายทันที เนื่องจากเธอเข้าใจเรื่องทั้งหมด ทำให้เธอรู้สึกได้เลยว่าการกระทำของฉินเฟยนั้นคือการแก้แค้นบริษัทคังต้า!

“ซวนหมิงฉีคนนั้นล่วงเกินผิดใจกับท่านหรือเปล่า?”สายตาของเสิ่นเจียเหวินจ้องไปที่ฉินเฟยแล้วพูด

ฉินเฟยยิ้มอย่างขมขื่น เสิ่นเจียเหวินคนนี้ไม่ได้เป็นแค่ผู้หญิงที่สวยมากๆเท่านั้น แต่เธอยังฉลาดมากๆด้วย!

ฉินเฟยไม่ได้อธิบายอะไรเลย เขาหยิบเอกสารที่อยู่บนโต๊ะและพูด:”ผมมีเอกสารอยู่หนึ่งชุด มันสามารถทำให้หลิวจงเหลียงออกจากบริษัทโฆษณาคังต้า สำหรับเรื่องที่หลิวจงเหลียงจะมาทำงานกับบริษัทของเราไหม เธอพยายามดึงตัวเขามาร่วมงานก็แล้วกัน……”

“ฉันคิดว่าคนที่เหมาะสมจะคุยกับหลิวจงเหลียงมากที่สุดก็คือตัวฉันเอง ฉันเป็นผู้หญิงที่สวยมากๆและมีความพิเศษ”เสิ่นเจียเหวินนั่งอยู่เงียบๆ เธอนั่งไขว่ห้าง สายตาของเธอเซ็กซี่มากๆและมีเสน่ห์มากๆ

ใช้แผนสาวงามเหรอ?

“อะแอ่มๆ”ท่าทางการนั่งของเสิ่นเจียเหวิน ทำให้ฉินเฟยมองจนตาค้าง เขาลังเลเล็กน้อยและพูด:”ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องการปรึกษาเธอหน่อย”

“ประธานฉินมีอะไรก็สั่งมาได้เลย”เสิ่นเจียเหวินเผยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์ออกมา เธอยิ้มอย่างน่ารักและรอยยิ้มดูไร้เดียงสามากๆ มันยากที่จะจินตนาการถึงความเย้ายวนและมีเสน่ห์ของเธอ

“ผมต้องการให้โซนเลขาไกลออกไปหน่อย หรือไม่ก็ทำอีกออฟฟิศเลย ไม่จำเป็นต้องใช้กำแพง แค่ใช้กระจกกั้นก็พอ”เมื่อพูดเรื่องส่วนตัว ฉินเฟยก็ไม่ได้พูดอย่างเคร่งขรึม เขาพูดออกมาทันที

“ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย?”

“ผู้หญิงพวกนี้มองผมตลอดเวลา พวกเธออยากจะเป็นภรรยาของท่านประธาน ผมกังวลว่าวันไหนพวกเธอห้ามใจไม่ไหว พวกเธออาจจะข่มขืนผมอย่างแน่นอน”

ฮ่าๆๆ!

มองเห็นสีหน้าอันหวาดกลัวของฉินเฟย ใบหน้าอันนิ่งๆของเสิ่นเจียเหวินก็เผยรอยยิ้มออกมา แต่ฉินเฟยกลับพูดเรื่องนี้ด้วยสีหน้าจริงจังมากๆด้วย

ท่านประธานกังวลว่าเลขาที่อยู่ด้านนอกจะขมขื่นท่านเหรอ? เรื่องแบบนี้เธอพึ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก

“ฉินเฟย คุณอย่าทำให้ฉันหัวเราะอีกได้ไหม? คุณทำตัวลึกลับแบบนี้ คนอื่นๆก็ต้องสงสัยอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น พวกเธอก็ไม่เคยได้ยินคุณพูดว่ามีแฟนหรือแต่งงานแล้ว และคุณก็ดูหล่อมากๆด้วย พวกเธอนินทาคุณบ้างก็เป็นเรื่องปกติ เรื่องนี้คุณวางใจได้”

“ผมพูดเรื่องจริง เลขาพวกนี้อยากจะข่มขืนผม ผมได้ยินมากับหูตัวเอง!”ฉินเฟยพูดด้วยความร้อนใจ:”เพื่อรักษาความบริสุทธิ์ของผมเอาไว้ เธอต้องไปบอกคนด้านล่าง ให้แบ่งพวกเธอออกห่างจากผมหน่อย ถ้าพวกเธอพุ่งเข้ามาหาผม ผมกังวลว่าตัวเองจะห้ามใจไว้ไม่อยู่? ผมกลัวจริงๆ พวกเธออยากได้น้ำเชื้อของผมอย่างแน่นอน!”

ฉินเฟยพูดด้วยความเขินอาย พวกเธอเป็นสาวงามทั้งหมด ฉินเฟยก็ไม่ได้เป็นพระที่สามารถตัดกิเลสทางโลกด้วย

“ฮ่าๆๆ!”

ครั้งนี้ เสิ่นเจียเหวินหัวเราะจนเอนลงไปบนโซฟา เธอจับหน้าท้องเอาไว้และหัวเราะเสียงดังออกมา

รูปร่างของเสิ่นเจียเหวินก็คือสเปคที่ฉินเฟยชอบอยู่แล้ว เป็นผู้หญิงที่มีน้ำมีนวล ตอนนี้เธอนอนอยู่บนโซฟาและมีเสน่ห์มากๆ ปกเสื้อของเธอเปิดออก ทำให้ฉินเฟยมองจนน้ำลายเกือบจะไหลออกมาจากมุมปาก

ตอนนี้เขาอยากจะถามมากๆ เสิ่นเจียเหวิน เธอคือโซระอาโออิหรือเปล่า

แม่งเอ๊ย ตั้งแต่ตัวเองมาที่ออฟฟิศแล้วเรียกเสิ่นเจียเหวินเข้ามาคุยบ่อยๆ ทุกคืนที่ตัวเองกลับบ้าน กระดาษทิชชู่ถูกใช้เยอะขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไรตัวเองจะทำสำเร็จ ไม่ต้องให้น้ำเชื้อของตัวเองแห้งอยู่บนกระดาษทิชชู่อีก

เสิ่นเจียเหวินหัวเราะอยู่นานกว่าจะหยุดตัวเองได้ เธอนั่งตัวตรงและจัดระเบียบเสื้อผ้า เนื่องจากเธอหัวเราะอยู่สักพัก ทำให้ใบหน้าของเธอยังคงแดงอยู่

ฉินเฟยไม่ต้องมองก็รู้ ตอนนี้โซนเลขาที่อยู่ด้านนอกคงนินทากันอย่างดุเดือดแน่นอน ถึงแม้ห้องทำงานของเขาจะสามารถกันเสียงได้ แต่ไม่สามารถกันเสียงหัวเราะเสียงดังของเสิ่นเจียเหวินได้อยู่แล้ว ใครจะไปรู้ว่าเลขาที่อยู่ด้านนอกกำลังนินทาอะไรอยู่

“อย่างไรก็ตาม ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกัน คุณมีแฟนสาวหรือยัง?”

“ผมไม่มีแฟน”ฉินเฟยส่ายหัว เขาแอบพูดในใจว่าตัวเองแต่งงานแล้ว จะมีแฟนสาวได้ยังไง

อ๊าก ผิดไปแล้ว เมื่อคืนเจียงเยว่ถงพึ่งพูดว่าจะเป็นแฟนสาวของตัวเอง

“ผมก็สงสัยมากๆ เธอน่าจะแต่งงานแล้วใช่ไหม?”ฉินเฟยถาม

“ยังไม่ได้แต่งงาน ฉันเคยมีแฟนหนุ่มมาแล้วหนึ่งคน แต่พวกเราเลิกกันไปตั้งนานแล้ว”เสิ่นเจียเหวินหรี่ตาตัวเอง การสนทนาของพวกเขาสองคนเหมือนกิ๊กกันเลย พวกเขาหัวเราะและส่ายหัวเบาๆ:”อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้คิดจะแต่งงาน ฉันจะใช้ชีวิตอย่างสาวโสด”

“ถ้าเลือกแบบนี้ อนาคตข้างหน้า เธอต้องรู้สึกเหงาอย่างแน่นอน?”

“มันจะไปยากอะไร? มีลูกสักคนก็ได้แล้ว”เสิ่นเจียเหวินขมิบปาก เมื่อมองเห็นใบหน้าแปลกๆของฉินเฟย ทำให้เธอยิ้มเบาๆและพูด:”มันง่ายมากๆ ยืมน้ำเชื้อจากใครสักคน เมื่อคลอดลูกออกมา ฉันก็จะเลี้ยงเอง ไม่จำเป็นต้องมีคนอื่น”

ขณะพูด สายตาของเสิ่นเจียเหวินมองไปที่ฉินเฟย จากนั้นก็พูด:”ฉันคิดว่าน้ำเชื้อของประธานฉินก็ไม่เลวเหมือนกัน”

“ฮ่าๆๆ ไม่ทราบว่ารองประธานเสิ่นจะยืมน้ำเชื้อยังไง?”ฉินเฟยถามด้วยสีหน้าจริงจัง

“เธอจะยืมให้ฉันยังไงละ?”

เสิ่นเจียเหวินหรี่ตาตัวเอง สายตาของเธอสายมากๆและมีเสน่ห์มากๆ

ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)

ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)

ผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)
Status: Ongoing
อ่านนิยายผมเป็นเขย(ผู้ไม่ธรรมดา)ฉินเฟยเป็นเขยแต่งเข้าแห่งตระกูลอันดับรอง แต่งงานมาสามปีเมียไม่เคยให้แตะเลย พอชีวิตถูกบีบมาจนถึงขีดสุด หลังเผยตัวจนที่แท้จริงเท่านั้นแหละ เธออดใจไม่ไหวแล้ว…………

Comment

Options

not work with dark mode
Reset