ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น – ตอนที่ 22

บทที่ 22 – โรสกับบุกรังมอนสเตอร์

 

หลังจากนั้นชั้นกับเชลก็เข้ามาจนถึงจุดที่ลิลิซควรจะล่ามอนสเตอร์อยู่ที่นี่แต่ดันไม่เห็นซะนี่ ยัยนั้นหายหัวไปไหนกันนะ

หรือว่ากลับไปแล้ว ไม่น่าจะเป็นไปได้ชั้นมองไปรอบๆ เห็นศพมอนสเตอร์ที่ยังเลือดไหลนองพื้นอยู่เลยชั้นเดินเข้าไปมองเห็นได้ชัดว่านี่มันคือการฆาตกรรม..

ก็แน่นอนอยู่แล้วอ่ะ.. ที่จะพูดก็คือมันพุ่งตายไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำชั้นเดินวนศพเล็กน้อยก่อนที่จะก้มมองไปยังบาดแผลของมัน

แผลของมันแม้จะเป็นแผลตัดเฉือนหากไม่ใช่การตัดแบบดาบแต่เป็นการแทงมากกว่า และลักษณะแบบนี้น่าจะเป็นหอกแทงไม่น่าจะใช่ดาบ

ชั้นคิดว่าหอกนี้คงไม่ใหญ่ไม่เล็กมากเป็นหอกเรียบง่ายราคาถูก.. เดี๋ยวนะ นึกๆ ดูลิลิซยัยนั่นก็ใช้หอกราคาถูกที่ไปขอหมีคนหนึ่งมานี่น่า ใช่.. นี่ต้องเป็นฝีมือของยัยนั่นแน่ๆ

“นี่มันต้องเกิดเรื่องแน่ๆ .. เป็นคดีลักพาตัว!”

แง่นชั้นสะท้อนแสงวาววับอย่างฉงนสนเท่ห์.. ลืมไปว่าชั้นไม่ใส่แว่น ก็เอาๆ ไปเหอะ ชั้นมองดูแก่นกลางมอนสเตอร์ที่ยัยลิลิซไม่เก็บด้วยซ้ำ

ก่อนที่จะมองลงพื้นมีรอยเท้าที่เหยียบย่ำพื้นดินต่างจากปกติ ถ้าจะบอกก็คือมันเหมือนรอยเท้าที่คนสองคนต่อสู้กันอย่างสูสี ชั้นก้มมองลงอย่างละเอียด

เป็นรอยเท้าของยัยลิลิซจริงๆ แถมยังถูกกดดันจนถอยหลังตลอดเวลาที่แทงหอกด้วย ชั้นแค่เห็นรอยเท้าก็พอเดาออกได้เลยถึงการเคลื่อนไหวยัยนั่นและศัตรู

จนถอยหลังไปถึงโขดหินที่มีเลือดติดอยู่.. ชั้นตรวจสอบข้อมูลของเลือดนั้นด้วยนัยน์ตาวิเศษทำให้ชั้นรู้ว่าเป็นเลือดของลิลิซ ดูเหมือนว่าหลังจากเลือดกระเซ็นแล้วเธอจะถูกทำให้สลบ

“มันคือการลักพาตัว!?”

“ห๊า?”

เชลแปลกใจที่ชั้นพูดขึ้น เธอก็เห็นชั้นทำตัวแปลกๆ มองนั่นนี่นู้นแต่ก็ไม่ห้ามเพราะเธอยืนรอชั้นอยู่เฉยๆ ชั้นไม่ตอบเธอเริ่มหาเบาะแส

ใครกันที่มาลักพาตัวเบ๊ของชั้น ชั้นจะเอาคืนให้สาสม.. เอาเถอะถ้าให้หนังสือสักสองสามเล่มก็จะยอมอ่อนข้อให้ก็ได้ ชั้นเดินตามรอยเท้าอีกอันที่ไม่ใช่ของลิลิซไป

ด้วยเพราะสายตาของชั้นดีมากในขณะที่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้อย่างไม่ตกบกพร่องเลยล่ะ การตามรอยเท้าแม้จะฝนไม่ตกชั้นก็ยังตามได้สบาย

“เดี๋ยวสิ.. จะไปไหนน่ะ!?”

“ตามหาลิลิซน่ะสิ!”

“เอ๋ ที่ไหนล่ะ!?”

“กำลังหาอยู่นี่ล่ะ!”

“….”

เธอพูดไม่ออกแต่ก็ยอมตามมาทั้งอย่างนั้น ก็มันแน่ล่ะยัยนี่ก็เป็นโลลิค่อนโรคจิตนี่น่า ปล่อยให้ชั้นไปคนเดียวคงไม่มีทางอยู่ในหัวเธอแน่ๆ

หลังจากเดินมาสักพักชั้นก็หยุดและแอบมองไปข้างหน้ามีถ้ำเข้าไป ภายในมืดสนิทด้านหน้ามีก็อปลินสองตัวยืนเฝ้ายามอยู่มันพูดคุยกันแบบไม่อายฟ้าดิน

“ท่านผู้นั้นจับผู้หญิงได้ล่ะ..”

“ใช่ ฮ่าๆ หวังว่าจะเหลือให้พวกเราด้วยนะ”

แน่นอนว่าที่มันพูดคุยคือการพูดแบบโง่ๆ ที่คนธรรมดาจะได้ยินเป็นเสียงแหบพร่าเท่านั้นแต่ชั้นศึกษามากระทั่งภาษาของแย้เลยนะ

ก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนจะมีภาษาเยอะมากตั้งๆ แต่ภาษารูน ภาษาเวท หรืออะไรอื่นๆ ต้องขอบคุณเทพธิดาชารอนจริงๆ ทำให้ชั้นมีภาษาของก็อปลินพวกนี้เลยเข้าใจ

“หยุดๆ หยุดเลยนะ!”

เชลจะวิ่งไปใส่มันซะแล้วชั้นเลยหยุดเอาไว้ก่อนต้องการข้อมูลมากกว่านี้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่เป็นห่วงลิลิซนะ แต่มันคงไม่ทำอะไรเลยทันทีหรอกเพราะตอนนี้ลิลิซคงยังสลบอยู่

“เอ๋ ทำไมล่ะ?”

“เอาข้อมูลก่อนสิ!”

ชั้นพูดไปแบบนั้นทำให้เธอแสดงสีหน้างง.. ชั้นเข้าใจขึ้นมาในทันทีว่า ในโลกนี้คงไม่มีวิธีศึกษาภาษาต่างเผ่าแน่ๆ แต่ไม่ใช่สำหรับชั้น

ชั้นนั่งฟังอยู่เงียบๆ แต่ในตอนนั้นเองอีกมุมของป่าก็มีคนตะโกนออกมาชั้นหันไปมองดู เป็นผู้ชายคนหนึ่งที่ถือดาบโง่ๆ วิ่งใส่ก็อปลิน

ก่อนที่ชั้นจะตกใจ.. เจ้านั่นหนึ่งในผู้กล้าเปล่าหว่า ถึงตอนนั้นชั้นกำลังจะสลบชั้นจำหน้าทุกคนได้ ชั้นเลยกันไปมองตรงจุดที่มันพุ่งออกมามีพวกผู้กล้าคนอื่นไอยู่จริงๆ ด้วย

รวมถึงคนที่เป็นนินจาที่ชื่อ ยูริ นั่นด้วย ผู้กล้าหกคนนี้โจมตีใส่ก็อปลินและฆ่ามันอย่างรวดเร็วชั้นรู้สึกปวดหัว … แต่คิดไปคิดมาพวกนี้ก็ดูเหมือนจะซุ่มโจมตีนานแล้วด้วย

และผู้กล้าที่ชื่อยูริมีเข้าใจภาษา น่าจะเข้าใจที่พวกมันคุยกันแน่ๆ คนอื่นก็คงมีกันแสดงว่าพวกเขาคงรู้ตัวแล้วว่ามีมนุษย์ถูกจับอยู่.. ไม่ๆ

คนพวกนี้เป็นคนรู้จักของยัยองค์หญิงบ้ากามคนนั้น .. ถ้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมันอีกชั้นโดนลากขึ้นเตียงจริงๆ แน่ คิดถึงตรงนี้ชั้นก็ตัวสั่น..

นึกถึงยัยลิลิซ นี่ก็ตัวนำปัญหาจริงๆ ถูกจับไม่พอถ้าชั้นช่วยไม่ทันหรือไม่ช่วยก็ต้องไปเจอยัยองค์หญิงบ้ากามแน่ๆ .. ชั้นหันไปมองเชลที่อยู่ข้างหลังแล้วจะเอาไงกับโลลิค่อนโรคจิตนี่ดี

แล้วทำไมชั้นต้องมาสนใจด้วยฟะเนี่ย เอาเป็นว่าให้เธอตามมาละกัน ชั้นเลยกระซิบไปว่า

“แอบเข้าไปข้างในกัน”

“ห๊ะ?”

เธอแปลกใจกับคำพูดชั้น แต่ไม่มีเวลาแล้ว ต้องช่วยลิลิซก่อนผู้กล้าหายนะนี่ให้ได้ ไม่งั้นชีวิตสงบสุขของชั้นคงมอดมรณาไปจริงๆ แน่

ชั้นใช้ทักษะซ่อนจัวตนที่เคยสร้างไว้ร่างกายชั้นค่อยๆ จางและหายไปไม่เหลือแม้แต่พลังงานเวท ซ่อนตัวตนโดยสิ้นเชิงนั่นเอง อย่างที่คาดเชลตกใจจนเปิดปากเหว่อ

ด้วยสกิลซ่อนตัวตนของชั้นนี้มันซ่อนตัวตนในระดับที่ต่อให้ใช้ตรวจสอบชั้นสูงยังหาไม่เจอเลยล่ะ ชั้นรีบวิ่งเข้าไปในถ้ำ หลังจากที่เชลหายตัวไป แต่ชั้นมองเห็นเชลอยู่นะ

ถึงเธอจะซ่อนตัวตนแต่ชั้นยังเห็นคิดว่าน่าจะเป็นเพราะว่าท่าของเธอมันไม่สูงมาก … ความจริงที่ชั้นไม่รู้คือซ่อนตัวตนในโลกนี้นั้นอย่างมากสุดแค่ซ่อนกลิ่นอายกับตัวตน

ไม่เหมือนชั้นที่เหมือนกับหายตัว .. หลังจากเข้ามาแล้วชั้นก็คลายท่าซ่อนตัวตนออกกลัวว่าเชลจะมองไม่เห็นชั้นในถ้ำนี้ค่อนข้างมืดหากไม่มีไฟคงอยู่ไม่ได้

แต่ไม่ใช่สำหรับเชล ที่ระดับแปดสิบกว่าความมืดระดับนี้ไร้ผล แต่ชั้นนั้นเหมือนกับปกติโดยสิ้นเชิงแน่ล่ะชั้นเป็นแวมไพร์นี่น่า

หลังจากเดินเข้ามาสักพักชั้นก็เห็นพวกก็อปลินที่ถือคันธนูยืดไว้เรียบร้อยแล้วเหมือนมันจะรู้เพราะพวกผู้กล้าฆ่าพรรคพวกของมันนั่นแหละแน่นอนถ้าเป็นคนธรรมดาคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันยืดสายธนูไว้รอแล้ว

ก่อนที่ชั้นจะได้โจมตีมันเชลเคลื่อนไหวหนึ่งครั้งก็อยู่ต่อหน้าพวกมันมีดสั้นวาดแทงออกไปราวกับสายธารสะบั้นเศียรกว่าห้าสิบเศียรออกในชั่วพริบตา

ว้าวว .. สุดยอดไปเลยนะ.. ถ้าเธอไปอยู่ในตี้นักล่าก็อปลินการล่าคงจะง่ายขึ้นเลยนะเนี่ย สุดยอดมนุษย์จริงๆ สมชื่อแล้วล่ะ

ชั้นเดินต่อพอมาถึงห้องขนาดใหญ่ ก็เห็นภาพอันโหดร้าย อ็อคปะทะก็อปลิน แหมไม่อยากจินตนาการเลยเอาเป็นว่าหายไปให้หมดทีเดียวเถอะนะ

ชั้นคิดในใจแบบนั้น เชลเหมือนอ่านใจชั้นออกก็ไล่ฆ่าอ็อคและก็อปลินที่กำลังปะทะกันอย่างผู้บรรลุนิติภาวะตายลง ไม่ถึงนาทีในห้องโถงก็ตายกันหมด

“เอ่อ.. โหดไปไหม”

“อ๊ะ.. นั่นสิ ดิชั้นไม่ควรให้เด็กมาเห็นภาพแบบนี้สินะคะ..”

“ช้าไปแล้ว!”

ยัยนี่เองนี่พอพูดถึงเรื่องฆ่านี่ก็ไม่สนอะไรรอบข้างเลยอ่ะ… ถึงจะเห็นแค่สองสามครั้งแต่มีมอนสเตอร์โผล่มาเธอจ้องจะฆ่าเหมือนลืมชั้นอ่ะ

พอนึกถึงตอนที่เธอพูดถึงพวกปีศาจ แล้วแสดงสีหน้าปรารถนาอยากจะให้มันโผล่ออกมาก็เข้าใจขึ้นมาทันที.. ยัยนี่ .. เป็นพวกบ้าการต่อสู้นี่เอง

แล้วทำไมต้องเป็นพนักงานกิลด์ละหว่า .. เอ่อ.. นอกจากบ้าการต่อสู้ชั้นคิดว่ายังเป็นพวกโรคจิตแบบคุณแจ็คนะ เพราะตอนฆ่านี้เหมือนจะสนุกอ่ะ

เห็นแล้วหลอนเลย … ช่างเถอะหลังจากเอาเงินแล้วซื้อหนังสือรีบออกจากเมืองที่มีแต่คนแปลกๆ นี่เลยดีกว่า ไม่งั้นชีวิตแสนสงบสุขของชั้นคงลาก่อนจริงๆ แน่

ชั้นกับเชลเดินเข้ามาลึกอีกตอนเดินชั้นก็สัมผัสได้ถึงลิลิซแล้ว พลังมานานี่ต้องเป็นของลิลิซแน่! แถมพลังยังดูยุ่งเหยิงอีกด้วยหรือว่าจะถูกทรมาน!

บ้าไปแล้วเบ๊ของชั้น! ชั้นรีบวิ่งไปทันที เมื่อมาถึงห้องโถงนี้มันเป็นห้องโถงขนาดใหญ่แต่น่าหวาดผวาคือเลือดสาดกระเซ็นไปทั่วห้องจนน่าหวาดกลัว

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ชั้นหันไปมองกลางห้องโถงคิดว่าลิลิซคงโดนตรึงใส่ไม้ แต่มันไม่ใช่คนที่โดนตรึงใส่ไม้คือผู้ชายคนหนึ่งไม่สิ.. มีเขาด้วยน่าจะปีศาจ

เดี๋ยวคนที่ถูกตรึงมันต้องเป็นลิลิซไม่ใช่เรอะ.. ในตอนนั้นชั้นก็มองเห็นลิลิซที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม้ที่ตรึงร่างของชายคนนั้น เป็นลิลิซจริงๆ

รอบตัวมีเส้นบางอย่างหมุนวนอยู่รอบตัว ในมือขวาถือหอกเล่มหนึ่ง ไม่ใช่หอกราคาถูกแต่เป็นหอกรูปร่างแปลกประหลาด ชั้นมองไปที่หอกโทนสีโลหิตรู้สึกได้ถึงความบ้าคลั่งของมันอย่างชัดเจน

นัยน์ตาเทพระบบชั้นทำงานในทันที

‘หอกทลายสวรรค์ ขั้นปราณคลั่ง เทพพิโรธ’ 

 

……..

ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น

ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้นชั้นชื่อ เลกซ์ เป็นแค่คนธรรมดาสามัญประจำบทตัวประกอบละนะ ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ตอนนี้ก็เป็นตัวเอกอยู่ ชั้นอายุ 38 ปี ถึงจะมีอายุขนาดนี้แต่ก็ไม่ได้มีสิ่งที่น่าจดจำในการใช้ชีวิตหรอกนะ ไม่ใช่ว่าชั้นไม่มีอะไรเลยนะ เพราะที่น่าจดจำที่สุดของชั้นคือเนื้อหาในหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราว สมัยมัธยมต้นมัธยมปลายชั้นเป็นถึงบรรณารักษ์ห้องสมุดถึงตลอดเลยล่ะ ถึงจะดูโม้ไปหน่อยแต่เรื่องไหนที่ชั้นอ่านผ่านตาและคิดที่จะจดจำมันก็บันทึกลงแบบไม่มีทางลืมเลย สุดยอดใช่ไหมล่ะ.. นี่แค่เบาะๆนะ ชั้นจบป.เอก แต่มีงานหาเช้ากินค่ำเท่านั้นคงจะสงสัยว่าทำไมละสิ .. แน่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset