ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น – ตอนที่ 6

บทที่ 6 – โรสกับความพิโรธ

 

ชั้นรีบวิ่งไปดูที่คลังหนังสือชั้นเงยหน้ามองไปหาต้นเหตุที่เกิดเสียงสูงเหนือชั้นอยู่ราวๆ 30 เมตร มีตรงจุดหนึ่งที่มีเสียงของคนคุยกัน คน!? ชั้นเห็นหนังสือที่แสนสำคัญกว่าสิบเล่มลอยลงมาจากชั้นบน

“หนังสือ!!!”

สิ่งที่ชั้นเกลียด และชั่งที่สุดคือพวกไม่เห็นค่าของหนังสือ.. นี่เป็นต้นเหตุที่ว่าในบ้านไม่มีใครเอาหนังสือของชั้นไปทิ้งเพื่อจะให้เลิกอ่าน.. นี่คือสิ่งเดียวที่มันทำให้ชั้นโกรธ

ถึงจะห่างกันพอตัวแต่ก็มีเสียงคุยกันที่ชั้นได้ยินชัดเจน

“อ๊า เข้ามาถึงสักที!?”

“ใช่เลย ไม่คิดว่าจะมีสิ่งนี้ก่อสร้างไว้นานแบบนี้”

“นั่นสิ มันต้องมีสมบัติล้ำค่าแน่ๆ ฮ่าๆ สิ่งก่อสร้างเก่าแก่นี่!”

“แกนังเด็กสารเลว รีบๆ ตรวจสอบสักทีสิว่ะว่ามันสิ่งก่อสร้างจากยุคไหน”

“….”

พวกมันมากันห้าคนชายสี่หญิงหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นตัวสูง 156 เซนติเมตร มีหน้าอกเล็กน้อยผมสั้นมีรอยแผลทั่วร่างสวมปลอกคอเหล็ก ที่มีเส้นสีแดงรอบปลอกคอ

ชายร่างผอมหนึ่งคนชายร่างกำยำสองคนชายร่างอ้วนหนึ่งคน พวกมันเหมือนจะเป็นปาร์ตี้โจรฝีมือดีปาร์ตี้หนึ่งเด็กหญิงผู้ถูกปฏิบัติเหมือนทาสคุกเข่าลงตรวจสอบเศษกำแพงที่แตกออก

“ไม่สามารถตรวจสอ— อั๊ก”

ก่อนที่เธอจะพูดเสร็จเจ้าร่างกำยำก็เตะใส่ท้องของเธอจนกระเด็นด่ากราดว่า

“ห๊า พวกชั้นซื้อแกมาในราคา 1 เหรียญเงินเชียวนะเว้ย! แค่นี้ยังตรวจไม่ได้ตัวบัดซบ! รู้ไหมพวกชั้นกว่าจะขุดลงมาถึงที่นี้ได้ใช้เวลานานขนาดไหนห๊า!?”

ชายกำยำเดินไปดึงผมของเธอขึ้นจ้องไปที่หน้าของเด็กหญิง แต่ในดวงตาของเด็กหญิงว่างเปล่าไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง ถึงจะโดนฆ่าคงไม่ร้องแน่ๆ เพราะเธอเหมือนคนเสียจิตวิญญาณไปแล้ว

“เหอะ ชั้นไม่แปลกใจเลยที่ซ่องไม่รับแก! ชิ!!”

ด้วยความโกรธมันทิ้งร่างของเธอลงเหยียบลงบนท้องน้อยของเธอย่างรุนแรง ชายอีกคนกล่าวขึ้นว่า “หยุดได้แล้วน่า เราพึ่งซื้อมันมานะ ถึงจะไร้ประโยชน์แต่ก็ใช้เป็นที่ระบายได้”

ชายร่างผอมมันกล่าวขึ้นอย่างหยาบช้า มองร่างที่เต็มไปด้วยแผลมันเหมาะที่จะให้มันย่ำยีเธออีกจริงๆ ชายร่างอ้วนและชายร่างกำยำทั้งสองกล่าว “แกนี่ยังรสนิยมแย่เหมือนเดิม”

เจ้าร่างกำยำเลยส่งเสียง ‘ชิ’ ออกมาและเตะเด็กหญิงอีกรอบปะทะใส่ผนังจนกระอักเลือดกระดูกหัก แต่ไม่สลบเพราะเธอโดนบ่อยจนเรียกว่าความเจ็บปวดระดับนี้ไม่สามารถทำให้เธอสลบ

พวกมันเดินเข้ามาสิ่งแรกที่เห็นไม่ใช่ทองแต่เป็นหนังสือ หนังสือที่เยอะมากมายเยอะจนไม่รู้ว่าชาตินี้ทั้งชาติพวกมันจะใช้เวลาอ่านหมดไหม

“ห๊าา?”

“อย่าบอกนะว่า ที่นี่มีแค่หนังสือเฮ็งซวยพวกนี้”

เพราะว่ามองไปทางไหนเจอแต่หนังสือทั้งบนทั้งล่าง แต่เหมือนข้างล่างจะมีทางไปต่อ

“ใจเย็นน่า ถ้ามองดีๆ แกจะคิดว่านี่เป็นขุมสมบัติที่ไม่ใช่ทอง แกลองคิดนะ หนังสือในนี้มีมากจริงๆ ไม่คิดว่าจะมีอยู่ในทวีปด้วยซ้ำ! หนังสือเล่มหนึ่งราคาหนึ่งเหรียญเงิน ถ้าหนังสือดีๆ ก็เกือบห้าเหรียญเงิน.. ถ้าลองนับดูละ ฮุๆ”

“จริงด้วย!”

พวกมันวางแผนเสร็จศัพท์ ชั้นผู้อยู่เบื้องล่างเต็มไปด้วยความเดือดดาลด้วยเสียงต่างๆ ทำให้ชั้นเห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ชั้นไม่ใช่คนดีที่จะรู้สึกสงสารเด็กหญิงที่พบกันครั้งแรก

แต่ชั้นก็ไม่ใช่คนที่จะทนมองสิ่งที่พวกมันทำได้ ผสมกับคิดที่จะนำหนังสือล้ำค่าของชั้นไปขายเป็นเศษเงินที่ไม่อาจเทียบได้กับหนังสือสักเล่มของชั้น และที่มันทำลายหนังสือของชั้น

ความเดือดดาลแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย ไม่รู้ว่าชั้นเป็นอะไรอาจจะเพราะไม่ใช่มนุษย์ เวลาเกรี้ยวโกรธจึงต่างออกไป

ความโกรธที่พุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดนัยน์ตาข้างหนึ่งสีแดงข้างหนึ่งสีทองพลันเปลี่ยนเป็นสีแทงทั้งสองข้าง สติจริงๆ ของชั้นดับไปเป็นที่เรียบร้อย

ชั้นที่เรียกได้ว่าไม่ใช่ชั้นแต่เป็นแวมไพร์คลั่งไปที่เรียบร้อยกระโดดหนึ่งครั้งร่างหายไปจากจุดเดิมเหมือนเทเลพอร์ตราวกับผู้มากประสบการณ์ในการต่อสู้ นี่คือสิ่งที่เรียกว่า แวมไพร์ของแท้

ชั้นปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกมันราวกับเงาพราย

“เหว่อออ~”

“อ๊ะ.. แค่เด็กเองนี่หว่า.. แถมยัง—”

ก่อนที่เจ้าอ้วนจะพูดจบความบ้าคลั่งของแวมไพร์ไม่ให้เวลาที่จะพูดคุยอวดเก่งอะไรเพียงการก้าวขาหนึ่งครั้งก็ปรากฏตัวต่อหน้าเจ้าอ้วน

มือขวาเคลื่อนไหวราวกับงูพิษพุ่งตรงเข้าที่ท้อง มันไม่เกิดแรงปะทะใดๆ จนบังเกิดเสียง มันไร้สิ้นเสียงใดๆ หากจังหวะที่ปะทะใส่ร่างนั้น ร่างเจ้าอ้วนหายไปอย่างไร้ร่องรอย

ถ้าจะให้พูดคือกลายเป็นเศษเนื้อหมอกเลือดไป แวมไพร์คลั่งแม้จะเป็นแบบนั้นแต่ชั้นก็ไม่กินเลือดสกปรกพวกนี้ แต่น่าแปลกเมื่อเจ้าอ้วนตายชายทั้งสามคนสะดุ้งดีดตัวถอยห่าง

“ศัตรูฝีมือยอดเยี่ยม!”

ชายร่างผอมกล่าวพร้อมกับร่ายเวทขึ้นชายกำยำสองคนดึงดาบอีกคนดึงขวานออกมาและเริ่มร่ายคำอธิษฐานมากกว่าการร่ายเวท ชั้นที่ขาดสติแต่ก็ต่อสู้ด้วยสัญชาตญาณ

ถึงจะไม่เป็นอันตรายใดๆ เลยแต่ก็ไม่อ่อนข้อชั้นสะบัดมือทางด้านชายร่างผอมเป็นจังหวะเดียวที่ทิ่มน้ำแข็งปรากฏขึ้น ในจังหวะนั้นเลือดในร่างของมันพลันเดือดระอุก่อนที่เลือดจะไหลออกมาจากทุกรูทวารบนร่างกาย

“อ๊ากกกกกก”

มันกรีดร้องชายกำยำสองคนตะลึง ชั้นรู้เหตุผลดีเพราะว่าผู้ใช้เวททุกคนจะมีปรากฏครอบคลุมร่างกายการโจมตีกายภาพหรือพลังเวทต้องมากกว่าอีกฝ่ายถึงจะทำลายได้อย่างง่ายดาย

และจากที่ดูปฏิกิริยาตอบสนองเมื่อครู่ชั้นเดาได้ว่ามันคงเป็นปาร์ตี้ระดับแนวหน้าแน่ๆ ดังนั้นเจ้าคนใช้เวทนั่นน่าจะแกร่งมาก

ที่ชั้นฆ่ามันคือทักษะควบคุมเลือดนะ ถึงจะไม่ใช่ชั้นก็เถอะ … แต่เวทน้ำแข็งมันยังไม่หายไปมันพุ่งมาที่ชั้นอย่างรวดเร็วหากแต่ชั้นไม่หลบยื่นมือไปเบื้องหน้าเหมือนจะจับเอาทิ่มน้ำแข็งยังไงยังงั้น

ชายกำยำสองคนมึนงง แต่จังหวะต่อมาที่มือจับกับทิ่มน้ำแข็งมันหยุดลงก่อนที่ทิ่มน้ำแข็งจะกลายเป็นดาบน้ำแข็งงดงามด้วยพลังของชั้น

เงาร่างชั้นหายวับไปปรากฏขึ้นต่อหน้าคนถือดาบเจ้านี่คือคนที่ทำร้ายเด็กหญิงคนนั้นและชั้นจึงใช้ดาบแทงไปที่เท้าขวาของมันจนกรีดร้องออกมาก่อนที่จะดึงออกมาและแทงซ้ำฟันต่อเนื่องลงที่ขาอย่างรวดเร็ว

“อ๊ากกก แก!!”

มันเหวี่ยงดาบมาด้านหน้าถ้าเป็นชั้นคงจะหลบแต่ด้วยนี่ไม่ใช่ชั้น นี่คือชั้นในโหมดบ้าคลั่ง.. เอ่อ ก็ชั้นนั่นแหละ จึงยกแขนซ้ายขึ้น ดาบตัดใส่แขนไปจนเกือบขาด มันหัวเราะพร้อมทั้งความเจ็บปวดที่เท้า

ชั้นเลยตัดขาขวาของมันจนขาดออกทันทีมันกรีดร้องออกมาปล่อยมือออกจากดาบที่ฟันคาแขนของชั้น ชั้นจึงดึงดาบออกจากแขนก่อนที่แผลที่แขนจะเชื่อมต่อกลับคืนดังเดิมอย่างง่ายดาย

เจ้าที่ขาขาดมันไม่ได้มองแต่เจ้าคนที่ถือขวานสติแตกไปที่เรียบร้อยหลังจากเห็นการฟื้นฟูของชั้น ชั้นใช้ดาบน้ำแข็งแทงไปที่ท้องน้อยของเจ้าที่เตะเด็กหญิงจนทะลุข้างหลัง

“อ๊ากกกก!” จุดนี้นับว่าเป็นจุดที่สร้างความเจ็บปวดมากก่อนที่ชั้นจะดึงดาบลงไปด้านล่างอย่างรวดเร็วด้วยความคมของดาบมันจึงถูกตัดออกอย่างโหดเหี้ยม ก่อนจะตายเพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว (อิมเมจดูนะครับ…)

ชั้นเดินหาเจ้าคนถือขวานอย่างรวดเร็วเจ้านี่คือคนที่พังเข้ามาแน่ๆ ล่ะ ชั้นตัดแขนของมันด้วยดาบน้ำแข็งมันจึงได้สติ แต่ก็พบว่าแขนตัวเองขาดแล้วมันกรีดร้องทั้งกลัว

ชั้นตัดแขนข้างขวาของมัน มันถอยหลังจนล้มลงคลานหนีชั้นมันหยิบหนังสือปาใส่ชั้น แต่นั่นเป็นการตัดสินใจที่ผิดแม้ชั้นจะไร้สติ แต่อย่าลืมว่าตอนนี้ชั้นกำลังโกรธเรื่องหนังสือ

มันยิ่งทำให้ชั้นโมโหกว่าเดิมชั้นเหยียบแขนมัน เหยียบขามันเหยียบหน้าอก เหยียบหัวอย่างโหดเหี้ยมจนร่างมันแบนติดพื้นอย่างน่ากลัวภาพนี้มันค่อนข้างจะแย่ไปหน่อย

ไม่น่าอภิรมย์สำหรับโลลิหัวทองที่ฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยมเลย เด็กหญิงคนนั้นจ้องมาที่ชั้นอย่างมึนงงและหวาดกลัวสภาพในคอนนี้คือโลลิเลือดสาด เหมือนในหนังสยอง

เด็กหญิงเลยสลบไปเพราะภาพที่น่าหวาดกลัวนี่… ชั้นได้สติกลับมาสิ่งแรกที่เห็นคือศพและกลิ่นเหม็นคาวเลือด.. พอนึกถึงเรื่องที่ตัวเองทำไป… ไม่ต้องบอกนะ.. ชั้นอ้วกออกมาจนหน้าซีด… ฆ่าคนครั้งแรก..

 

……….

[แด่ผู้อ่านที่รักทุกท่านอาจจะสงสัยว่า เฮ้ย.. นางเอกเรื่องนี้ไร้เหตุผลไปไหมแค่บุกรุกพื้นที่ทำลายหนังสือสิบเล่ม และทำร้ายเด็กหญิงไม่รู้จักต่อหน้าเลยโกรธมากกก .. ถ้าทุกท่านกำลังคิดแบบนี้ทุกท่านระวังโลลิโรสตามไปฆ่าถึงบ้านนะครับ อิๆ .. ถ้าจะให้เปรียบเทียบนะ เหมือนพวกนี้ที่บุกรุกบ้านมาทำร้ายแฟนนางเอกล่ะครับ….(ก็แหม นางเล่นอยู่กับหนังสือมาเป็นสองพันปีแบบไม่เหงาเลยนะ!) ]

ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น

ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้น

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง ผมแค่อยากอ่านหนังสือ แต่ดันกลายเป็นหญิงในต่างโลกซะงั้นชั้นชื่อ เลกซ์ เป็นแค่คนธรรมดาสามัญประจำบทตัวประกอบละนะ ถึงจะบอกแบบนั้นแต่ตอนนี้ก็เป็นตัวเอกอยู่ ชั้นอายุ 38 ปี ถึงจะมีอายุขนาดนี้แต่ก็ไม่ได้มีสิ่งที่น่าจดจำในการใช้ชีวิตหรอกนะ ไม่ใช่ว่าชั้นไม่มีอะไรเลยนะ เพราะที่น่าจดจำที่สุดของชั้นคือเนื้อหาในหนังสือที่บอกเล่าเรื่องราว สมัยมัธยมต้นมัธยมปลายชั้นเป็นถึงบรรณารักษ์ห้องสมุดถึงตลอดเลยล่ะ ถึงจะดูโม้ไปหน่อยแต่เรื่องไหนที่ชั้นอ่านผ่านตาและคิดที่จะจดจำมันก็บันทึกลงแบบไม่มีทางลืมเลย สุดยอดใช่ไหมล่ะ.. นี่แค่เบาะๆนะ ชั้นจบป.เอก แต่มีงานหาเช้ากินค่ำเท่านั้นคงจะสงสัยว่าทำไมละสิ .. แน่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset