ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 1937

รายการชุนหว่านคือการถ่ายทอดสดไปยังผู้ชมหนึ่งพันสี่ร้อยล้านคนทั่วประเทศ ดังนั้นทั้งครอบครัวของเย่เฉินเพิ่งดูการแสดงของกู้ชิวอี๋จบอยู่ที่หน้าทีวี และกู้ชิวอี๋ก็เพิ่งเสร็จสิ้นการแสดง และกลับมาที่หลังเวที
ในเวลานี้ เธอยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ก็รีบส่งข้อความทางวีแชทถึงเย่เฉินก่อนอันดับแรกเลย
สิ่งที่เธอสนใจมากที่สุด คือมุมมองของเย่เฉินที่เกี่ยวกับการแสดงของเธอ
เดิมที ผู้กำกับของรายการชุนหว่านหวังว่าเธอจะร้องเพลงที่โด่งดังอีกเพลงหนึ่งของเธอ ซึ่งเป็นเพลงเกี่ยวกับมิตรภาพ
กู้ชิวอี๋ก็ได้สัญญากับทีมผู้กำกับแต่แรกแล้วว่าจะร้องเพลงนั้น แต่ว่า หลังจากได้พบกับเย่เฉินอีกครั้ง เธอมีความคิดที่จะเปลี่ยนเพลง
ดังนั้น เธอจึงเจรจากับทีมผู้กำกับ และแสดงความประสงค์ที่จะเปลี่ยนเพลง
ในช่วงเริ่มต้น ทีมงานผู้กำกับรายการชุนหว่านรู้สึกไม่เต็มใจอย่างยิ่ง
สาเหตุหลักเป็นเพราะการแสดงที่รายการชุนหว่านนั้นพิถีพิถัน และระมัดระวังอย่างมาก และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนเพลงอย่างกะทันหันแบบนี้แทบไม่เคยเกิดขึ้นเลย
อย่างไรก็ตาม กู้ชิวอี๋พยายามอย่างเต็มที่เพื่อบรรลุเป้าหมายให้ได้ และในที่สุดทีมรายการก็เห็นว่าเธอมีความต้องการที่จะร้องเพลงของวันนี้จริงๆ ดังนั้นจึงต้องประนีประนอมตามไปด้วย
เหตุผลที่กู้ชิวอี๋เลือกที่จะร้องเพลง “First Love” ในวันนี้ ก็เพราะว่าเธอต้องการจะร้องเพลงให้เย่เฉินฟัง
มีเนื้อเพลงในเพลงนี้ ที่เธอเขียนให้เย่เฉินโดยเฉพาะ เนื้อเพลงนั้นก็คือ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเจอคุณ คุณก็อยู่ในหัวใจของฉันมาตลอด ฉันเดินผ่านฝูงชน มาหาคุณจากที่แสนไกล เพียงเพื่อจะบอกกับคุณว่า ในชีวิตนี้ ฉันจะไม่ไปจากคุณอีกแล้ว
เย่เฉินจะไม่รู้สึกถึงความรักในเพลงของกู้ชิวอี๋ได้อย่างไร
แต่เขาก็ทำได้แค่แสร้งทำเป็นไม่รู้ และตอบกลับกู้ชิวอี๋ด้วยข้อความว่า “ผมดูการแสดงของคุณแล้ว เยี่ยมมาก! คุณร้องเพลงได้ดีมาก!”
กู้ชิวอี๋ส่งมีความสุขมาก และข้อความมา “พี่เย่เฉิน เพลงนี้…..ก็คือเขียนขึ้นมาเพื่อคุณ…..”
เย่เฉินถามด้วยความประหลาดใจว่า “เพลงนี้ คุณแต่งขึ้นมาเองงั้นเหรอ?”
“ใช่” กู้ชิวอี๋กล่าวว่า “ฉันเป็นนักแต่งเองทั้งเนื้องเพลงและดนตรี ยังพอได้ไหม?”
เย่เฉินตอบด้วยอิโมจิยกนิ้วโป้ง และอุทานว่า “ไม่คาดคิดจริงๆ เลย นอกจากคุณจะร้องเพลงได้ดีแล้ว ยังจะเขียนเพลงด้วยตัวเองได้อีกงั้นหรือ ช่างสุดยอดมากจริงๆ เลย!”
กู้ชิวอี๋ส่งอิโมจิขี้เล่นแลบลิ้นมาตัวหนึ่ง และพูดว่า “ฉันเริ่มเรียนเปียโนจากแม่ของฉันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แล้วตอนที่ไม่มีอะไรทำก็จะเล่นเปียโนไปด้วยและฮัมเพลงไปด้วย ก็เลยค่อยฝึกแต่งสองสามเพลงขึ้นมา และการตอบสนองค่อนข้างดีหลังจากที่ฉันเผยแพร่ออกมา ดังนั้นฉันจึงแต่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากมาย”
เย่เฉินรู้สึกชื่นชมจากใจจริง “มันยอดเยี่ยมมากจริงๆ เลย! ไม่มีใครสามารถเทียบได้เลย!”
กู้ชิวอี๋รู้สึกพึงพอใจมาก และพูดว่า “พี่เย่เฉิน ฉันแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อคุณโดยเฉพาะเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในเวลานั้นฉันยังไม่พบคุณ ดังนั้นเนื้อเพลงจึงเป็นอีกเวอร์ชันหนึ่ง หลังจากที่ฉันพบคุณ ฉันก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนเนื้อเพลงไปเล็กน้อย ดังนั้นจึงมีเวอร์ชันปัจจุบันขึ้นมา”
เย่เฉินรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ และตอบเธอไปว่า “ขอบคุณหนานหนาน ขอบคุณสำหรับที่คุณจดจำผมมาโดยตลอด และยิ่งขอบคุณสำหรับที่คุณทำมามากขนาดนี้เพื่อผมมาเป็นเวลาหลายปี”
กู้ชิวอี๋ส่งอิโมจิเขินอายมาตัวหนึ่ง และพูดว่า “นี่คือสิ่งที่ฉันควรต้องทำ เพราะว่าฉันเป็นเมียของคุณที่คุณซื้อไว้ตั้งแต่เด็กไงเล่า…….”
เย่เฉินพูดไม่ออกทันที
ถูกกำหนดคำหมั้นตั้งแต่ยังอยู่ในท้อง และพูดเป็นว่าเป็น เมียเด็ก มันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอะไรหรอก
ในเวลานี้ กู้ชิวอี๋ก็ส่งข้อความมาอีก “พี่เย่เฉิน ฉันไม่คุยกับคุณแล้ว พ่อแม่ของฉันยังรออยู่ที่บ้านเพื่อให้ฉันกลับไปกินข้าวเย็นวันส่งท้ายปีเก่า แล้วก็อยู่ข้ามปีด้วยกัน ฉันจะต้องไปตั้งแต่ตอนนี้แล้ว”
เย่เฉินรู้ว่า นักแสดงทุกคนที่มาเข้าร่วมรายการชุนหว่านนั้นไม่ง่ายเลยทีเดียว พวกเขาทั้งหมดต่างมาเข้าร่วมการแสดงในรายการชุนหว่านในวันส่งท้ายปีเก่า ถ้าพวกเขาเป็นนักแสดงท้องถิ่นจากเย่นจิง ก็ค่อนข้างจะดีหน่อย หลังจากการแสดงทางด้านนี้จบลงแล้ว ก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังลงจากเวทีและรีบกลับไปฉลองเทศกาลพร้อมกับคนในครอบครัว
นักแสดงบางคนที่อยู่ต่างจังหวัดก็มีอารมณ์ที่ค่อนข้างอ่อนไหวมากกว่า เพื่อที่จะมาเข้าร่วมรายการชุนหว่าน พวกเขาจึงทำได้เพียงใช้เวลาช่วงเทศกาลอยู่ในสถานที่อื่นเพียงลำพัง

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset