ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน – ตอนที่ 872

ที่เขาพูด ล้วนเป็นสิ่งที่เขาเพิ่งประสบมาเมื่อครู่นี้
เพราะตนเองมองภาษาอังกฤษคำว่า Phaeton ไม่ชัดเจน มองแค่สัญลักษณ์ของVolkswagen ก็เลยคิดว่ารถคันนั้นเป็นรุ่นPassat ก็เลยชนเข้าให้
ตอนนี้ก็เลยแย่ ยังขาดเงินล้านกว่า ไม่รู้ว่าจะไปหาจากไหน
ถ้าแผนที่เขาคิดในวันนี้ ยังไม่สามารถหาเงินมาจนครบได้ ตนเองก็คงจะจบเห่แน่ๆ
“โอ้!!!รถรุ่นPhaetonจริงหรือนี่?!”
มีผู้ชายคนหนึ่งมองออกว่าเป็นกุญแจรถของรถรุ่นPhaeton พอเห็นด้านบนเขียนว่า W12 ก็รีบพูดอย่างตกใจว่า “นี่เป็นรถยี่ห้อVolkswagen รุ่นที่แพงที่สุดเลยนี่ ตัวท็อปก็ราคา2ล้านกว่าเลยนะ ถูกขนานนามว่าเป็นรถหรูที่เรียบง่ายที่สุด โหพี่หมิง พี่ซื้อรถรุ่นPhaeton ก็เรียบง่ายเสียจริงนะพี่”
คนที่นั่งรถคันเดียวกับเจี่ยงหมิง และเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ก็มีสีหน้าที่ไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ
พวกเขาไม่คิดเลยว่า เจี่ยงหมิงจะเอาเรื่องนี้ มาเป็นเรื่องของตัวเอง แล้วเอามาคุยโม้ได้
แต่ว่าพวกเขาก็ล้วนเป็นลูกน้องของเจี่ยงหมิง ดังนั้นก็เลยไม่กล้าเปิดโปงคำโกหกของเจี่ยงหมิง
ตอนนี้เจี่ยงหมิงก็ยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “จริงๆ แล้วคนที่ทำธุรกิจด้านการลงทุน ก็จะเรียบง่ายแบบนี้แหละ เพราะว่างานนี้มันได้เงินเยอะจริง มีคนมากมายอยากจะมาหาเงินกับผม พอพวกเขารู้ว่าคุณมีข้อมูลภายใน มีวิธีทำให้เงินมันงอกเงย พวกเขาก็อยากจะมาร่วมด้วย มาหาเงินด้วย”
คนคนนั้นก็พูดอีกว่า “เอ่อ พี่หมิง รถPhaetonพี่ แยกเป็นรุ่นอะไรอีกหรือครับ? ”
เจี่ยงหมิงก็ยิ้ม แล้วก็พูดอย่างโอ้อวดว่า “ผมซื้อPhaeton เป็นรุ่นW12 ก็คือทีระบบขับเคลื่อน12กระบอกสูบ”
“คุณพระช่วย!” คนนั้นก็อ้าปากค้างพูดว่า “นี่มันเป็นรถรุ่นท็อปที่สุดของPhaetonเลยนะพี่ ราคารวมๆ แล้วก็2ล้านกว่าเลยใช่ไหม? ”
เจี่ยงหมิงก็ยิ้มโบกปัดไป “ก็ไม่เท่าไรหรอก”
พูดไป เจี่ยงหมิงก็พูดอีกว่า “จริงๆ เมื่อครู่ผมก็ถ่อมตัวกับทุกคนมากไป ก็เลยไม่ได้บอกรายได้ที่แท้จริง ผมทำงานด้านการลงทุน ปกติก็จะทำเดือนละ 1-2กองทุน ถ้าทำดีๆ แต่ละกองทุนก็จะได้เปอร์เซนต์เป็นแสนเลยล่ะ”
ในตอนนี้ ก็มีคนรีบถามขึ้นมาว่า “พี่หมิง พวกเราก็รู้จักกันมาหลายปี พี่ก็มีทางหาเงินดีๆ แบบนี้ จะช่วยน้องชายคนนี้หน่อยได้ไหม? ผมก็ใกล้จะแต่งงานแล้ว แม่ยายจะเอาสินสอด3แสนหยวน ผมจะไปเอาจากไหนได้? ได้แต่ประหยัดจนถึงตอนนี้ ก็เก็บเงินได้แสนกว่าแล้ว ถ้าใช้ระยะเวลาแบบนี้ ผมคงจะไม่ได้แต่งงานแน่ๆ ……..”
เย่เฉินรู้จักไอ้คนนี้ เขามีชื่อว่า จ้าวโจ๋วเยว่ เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน
พอเจี่ยงหมิงได้ยินว่าเขามีเงินเก็บแสนกว่า ในใจก็รีบคิดแผนร้ายขึ้นมาทันที
เขาบอกว่า “จะทำธุรกิจด้านการลงทุนในกองทุน จะต้องทำตัวเหมือนเป็นตราชั่ง ยิ่งลงทุนเยอะ เงินที่ได้ก็เยอะตามมา เงินแสนของนาย เอามาเริ่มลงทุน มันดูจะน้อยไปหน่อย”
จ้าวโจ๋วเยว่ก็พูดขอร้องว่า “พี่หมิง นี่มันก็เงินที่ผมจะต้องเอาไปแต่งงานทั้งหมดแล้วนะพี่ มากกว่านี้ผมก็หามาให้ไม่ได้แล้ว……”
พูดไป เขาก็พูดพร้อมสำลักน้ำลายว่า “พี่หมิง บอกตามตรง เด็กกำพร้าอย่างผม กระจอกจะตาย แต่เล็กก็ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีทั้งเงินทั้งความสามารถ แถมยังไม่เคยได้เรียนมหาลัย นับว่าเกือบจะเป็นคนไม่รู้หนังสือ ได้แต่ไปใช้แรงเพื่อหาเงินจากด้านนอก มันไม่ง่ายเลย แถมตอนนี้ผมอยากจะแต่งงาน ก็ไปสู่ขอไม่ได้ ก็ขอร้องพี่เห็นแก่ความน่าสงสารของน้องชายคนนี้ด้วยเถอะครับ ช่วยผมหน่อย ชี้แนะผมหน่อย!”
เจี่ยงหมิงก็แกล้งพูดอย่างลำบากใจ “ไอ้น้อง พี่พูดจากใจเลยพี่เลยนะ จะมาลงทุนน่ะ จะต้องมีเงินทุนด้วย ถึงจะทำได้ เงินแสนของนายมันน้อยไปจริงๆ พี่ไม่มีวิธีนายไปลงทุนด้วยได้หรอก”
พูดไป เขาก็ยกมือคำนับเพื่อขอโทษ “โทษทีนะไอ้น้อง อย่าโทษพี่เลย”
————

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน

อ่านนิยาย ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน เย่เฉินเป็นเขยแต่งเข้าบ้านหญิงที่ใครๆก็ดูถูกเหยียดหยาม แต่ไม่มีใครรู้ว่าฐานะแท้จริงของเขาเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลอันดับต้นๆ พวกที่เคยดูถูกเขาสุดท้ายก็ต้องคุกเข่าต่อหน้าเขาและเรียกเขาด้วยความเกรงกลัวว่าท่านชาย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset