ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 175 แกขโมย!

คนที่พูดคือคนแซ่เถียน ซึ่งเป็นคนที่รู้จักโบราณวัตถุด้วย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร แต่เขาก็เป็นเจ้าของกิจการเล็กๆ

หญิงชราขมวดคิ้ว “ไม่น่าจะใช่นะ ม้วนไม้ไผ่ การเขียน หรือความรู้สึกตอนสัมผัสก็ดูออกว่ามันเก่ามาก ดูไม่เหมือนของปลอมเลยสักนิด”

เถ้าแก่เถียนขมวดคิ้ว “ไม่ใช่ของปลอม? งั้นก็ต้องเป็นของผิดกฎหมายสิ!”

“เท่าที่ฉันรู้ ม้วนไม้ไผ่ของหวาถัวนี้อยู่ในมือของผู้อาวุโสด้านโบราณวัตถุอย่างอู๋อิงจัวมาโดยตลอด ท่านผู้เฒ่าอู๋เป็นใคร คุณผู้หญิงก็น่าจะรู้จัก”

หญิงชราพยักหน้า เธอชอบของเก่ามาก ก็ย่อมรู้จักชื่อของอู๋อิงจัวเป็นอย่างดี แต่สถานะของเขาสูงมาก เธอจึงไม่เคยมีโอกาสได้พบเขาเลย

คิดไม่ถึงเลยว่าม้วนไม้ไผ่ที่มีชื่อเสียงเช่นนี้จะอยู่ในมือของอู๋อิงจัว?

ทันใดนั้นหญิงชราก็โกรธ เธอตบโต๊ะและพูดอย่างเย็นชา

“ม้วนไม้ไผ่นี้พวกแกไปเอามาจากไหน!”

ฉินจุนพูด “เขาพูดถูก ม้วนไม้ไผ่อันนี้อู๋อิงจัวเป็นคนมอบให้ผม”

เถ้าแก่เถียนหัวเราะเยาะ “มอบให้คุณ? คุณโม้ให้น้อยๆ หน่อยเถอะ ผู้อาวุโสอู๋ได้ม้วนไม้ไผ่ของหวาถัวนี้มาเมื่อห้าปีก่อน เป็นสมบัติที่มีค่ามาก เป็นสิ่งที่เขาโปรดปรานมากที่สุด มีหลายคนขอซื้อในราคาที่สูงแค่ไหนเขาก็ไม่ขาย คุณก็แค่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ ประธานอู๋จะมอบให้คุณงั้นเหรอ? คุณกำลังฝันอยู่หรือเปล่า!”

เพื่อนหลายคนที่อยู่รอบๆเถ้าแก่เถียนก็หัวเราะออกมาเช่นกัน

ปกติหญิงชราเป็นคนชอบของเก่ามาก ดังนั้นเธอเลยได้รู้จักเพื่อนที่อยู่ในวงการนี้บ้าง

คนที่อยู่ในแวดวงของโบราณใครจะไม่รู้จักอู๋อิงจัวบ้าง?

ผู้ที่สนิทกับผู้อาวุโสอู๋ต่างก็รู้ว่าสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของผู้อาวุโสก็คือม้วนไม้ไผ่ของหวาถัว สมบัติที่มีมูลค่าอย่างนี้จะมอบให้ผู้อื่นง่ายๆได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น ฉินจุนชายหนุ่มคนนี้ก็เป็นเพียงคนธรรมดาทั่วไป ที่ไม่มีอำนาจและอิทธิพลอะไรเลย ดูเหมือนจะเป็นแฟนของจู้หลินหลิน

อย่าว่าแต่แฟนของจู้หลินหลินเลย ดูเหมือนเขาจะไม่ได้มีหน้ามีตาอะไรเลยในตระกูลจู้พอจะทำให้ผู้อาวุโสอู๋มอบของขวัญมูลค่าสูงเช่นนี้ให้

ใบหน้าของหญิงชราดูบูดเบี้ยวยิ่งขึ้น เธอยืนขึ้นด้วยไม้เท้า และพูดอย่างโกรธเคือง

“ไอ้แซ่ฉิน! แกจงใจทำให้ฉันเดือดร้อนเหรอฮะ! แกไปขโมยของคนอื่นมามอบให้ฉันงั้นเหรอ? คนอื่นจะมองฉันยังไง! ตอนนี้ฉันขอสั่งให้แกรีบเอาของไปคืนเดี๋ยวนี้!”

“ของที่แกขโมยมา ฉันไม่ต้องการ!”

หวังหยุนก็คิดไม่ถึงว่าที่ให้ฉินจุนหาของขวัญมา เขาจะเล่นไม้นี้

“แม่คะอย่าโกรธเลยค่ะ มันเป็นความผิดของฉันเองที่ปล่อยให้เขาทำเรื่องสำคัญแบบนั้น ฉันจะพูดกับเขาเอง”

หวังหยุนหันหน้าไปหาฉินจุน ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ

“ฉินจุน! อะไรของแกเนี่ย! แกมีเงินไม่ใช่เหรอ ไปขโมยของคนอื่นมาทำไม? รีบเอาไปคืนก่อนที่เขาจะจับได้!”

ฉินจุนพูด “ผมบอกไปแล้วว่าเขาให้ผมมา ผมไม่ได้ขโมยมา”

“ยังจะเถียงข้าง ๆ คู ๆ อีก!”

หวังหยุนโกรธจนอยากจะตบหน้าเขา หลินหลินนี่ตาบอดจริง ๆ ทำไมเธอถึงไปตกหลุมรักไอ้เด็กนี่ได้นะ!

เธอรีบเดินไปหาเถ้าแก่เถียนคนเมื่อกี้ และพูดว่า

“เถ้าแก่เถียนคุณมีที่อยู่ของผู้อาวุโสอู๋ไหมคะ ฉันจะแอบเอาสิ่งนี้กลับไปคืน”

เถ้าแก่เถียนแค่นหัวอย่างเย็นชา “ล้อเล่นเหรอ คุณคิดว่าบ้านของผู้อาวุโสอู๋อยู่ที่ไหน คุณคิดจะไปก็ไปได้เหรอ? พวกคุณขโมยสมบัติของผู้อาวุโสอู๋มาจะต้องโดนจับได้แน่นอน!”

หญิงชรานั่งลง ใบหน้าของเธอดูเคร่งเครียด

“ใช่ เถ้าแก่เถียนพูดถูก ของสำคัญเช่นนี้หายไปเป็นไปไม่ได้ที่ตอนนี้จะยังไม่รู้”

“เถ้าแก่เถียนได้โปรดให้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้อาวุโสอู๋กับฉันเถอะค่ะ ฉันจะโทรไปขอโทษเขาโดยหวังว่าเขาจะอภัยให้”

ฉินจุนยืนอยู่ข้างๆ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยยิ้มเยาะเย้ย

คนพวกนี้ตลกดีจริงๆ คนอื่นไม่ไว้หน้าเธอ เธอก็ยังดันทุรัง ฉินจุนไว้หน้าเธอแล้ว แต่เธอกลับไม่ต้องการ

หญิงชราได้หมายเลขโทรศัพท์มาแล้ว เธอกดโทรออกด้วยมืออันสั่นเทา และเห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายก็มองไม่เห็นเธอ แต่เธอกลับยืนขึ้นด้วยความเคารพ

“ฮัลโหลค่ะ นั่นใช่ประธานอู๋ไหมคะ? ฉันคือโอวหยางเหยียนเหยียนจากตระกูลจู้นะคะ ไม่ทราบว่าคุณจะรู้จักหรือเปล่า”

“คืออย่างนี้นะคะ แฟนของหลานสาวฉันเขายังเด็กอยู่ยังรู้เท่าไม่ถึงการณ์ไปขโมยของของคุณมา ฉันจึงอยากจะโทรมาขอโทษคุณ เพราะฉันสั่งสอนเขาไม่ดีพอเอง ขอโทษจริงๆ ค่ะ”

เมื่ออู๋อิงจัวได้ยิน เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง

“ขโมยของของฉันเหรอ? ของอะไร?”

หญิงชราสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยความกล้าหาญ

“ม้วนไม้ไผ่หวาถัวของคุณ”

“อะไรนะ!”

อู๋อิงจัวตกใจมาก

ม้วนไม้ไผ่หวาถัวนี้เขามอบให้กับหมอฉินแล้วไม่ใช่เหรอ มันถูกขโมยไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?

“ตระกูลจู้ใช่ไหม? เดี๋ยวฉันไปเดี๋ยวนี้แหละ”

หลังจากพูดจบอู๋อิงจัวก็วางสายไปทันที

ใบหน้าของหญิงชราก็ซีดลงทันที

อย่างที่เถ้าแก่เถียนบอก ม้วนไม้ไผ่ของหวาถัวเป็นเป็นสิ่งที่ผู้เฒ่าอู๋ชื่นชอบมากที่สุด เขาก็ต้องหวงแหนมันมาก เมื่อเขาได้ยินว่าสิ่งนี้ถูกขโมยไป น้ำเสียงของเขาดูตื่นเต้นมาก

จบแล้ว คราวนี้จบเห่แล้ว ไปทำให้เขาไม่พอใจเข้าแล้ว

หญิงชรากระทุ้งไม้เท้าด้วยความโกรธ

“แกทำให้ฉันโมโหจริงๆ !”

จัดงานเลี้ยงวันเกิดดีๆ ก็มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เชิญแขกมาตั้งมากมายกะจะขยายเครือข่ายสักหน่อย แต่ผลที่ได้กลับไปทำให้คนใหญ่คนโตไม่พอใจ น่าเสียดายจริงๆ

หญิงชราหยิบไม้เท้าขึ้นมาชี้ไปที่ครอบครัวของจู้หลินหลิน

“พวกแกยังไม่คุกเข่าลงอีก!”

หวังหยุนและจู้หย่งไม่ลังเลเลยสักนิด หญิงชราพูดออกมมาแล้วต่อให้พวกเขาจะไม่เต็มใจ พวกเขาก็ต้องคุกเข่าลง

จู้หลินหลินกำลังลังเล และกำลังจะคุกเข่าลง ฉินจุนก็เข้ามาประคองเธอไว้ทันที

“เธอไม่ได้ผิดจะคุกเข่าทำไม?”

หญิงชรากัดฟันแน่น “เธอไม่ได้ผิด แกต่างหากที่ผิด! แกนั่นแหละที่ควรคุกเข่าลงซะ!”

ฉินจุนหัวเราะเยาะ “ผมไม่ผิดซะหน่อย ผมให้ของขวัญคุณ ผมผิดอะไรล่ะ?”

หญิงชราโกรธจนมุมปากกระตุกหลายครั้ง “แกไม่ผิด? แกขโมยของคนอื่นมาแล้วก็มาทำให้ตระกูลจู้ของเราต้องเดือดร้อนไปด้วย แกยังบอกว่าแกไม่ผิดอีกเหรอ? แกมันกระต่ายหมายจันทร์ อยากจะมาคบกับหลินหลินงั้นเหรอ? ฉันว่าแกกำลังฝันกลางวันอยู่!”

หวังหยุนจ้องเขม็ง “ไอ้แซ่ฉิน! แกยังไม่รีบคุกเข่าลงอีก อย่ามาทำให้ครอบครัวเราเดือดร้อนนะ!”

เมื่อมองไปที่คนเหล่านี้ ฉินจุนก็หัวเราะเยาะออกมา

“จะคุกเข่าก็คุกเข่าไปเถอะ ผมไม่ชอบคุกเข่าให้คนอื่นน่ะ”

จู้หลินหลินกัดริมฝีปากของเธอ และพูดพร้อมกับก้มหน้าลง

“หนูเชื่อพี่เสี่ยวจุน!”

“จู้หลินหลิน!”

หญิงชราและหวังหยุนโกรธมาก ยัยหนูคนนี้จะกบฏจริงๆ งั้นเหรอ!

ฉินจุนพูด “พวกคุณไม่จำเป็นต้องกังวลหรอก เดี๋ยวอู๋อิงจัวมาก็รู้เอง”

หญิงชราแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ !”

ทันทีที่สิ้นเสียงนั้น ก็มีรถหนึ่งคันมาจอดที่หน้าประตู หญิงชราเห็นดังนั้นก็ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว รีบเดินออกไปอย่างรวดเร็วด้วยไม้เท้า คนของตระกูลจู้ต่างก็รีบเข้าไปประคอง และแขกคนอื่นๆ ต่างก็ออกไป ต้อนรับ

เพราะคนใหญ่คนโตมาพวกเขาก็ไม่กล้าละเลย

มีเพียงหวังหยุนและจู้หย่งคุกเข่าอยู่บนพื้น โดยมีฉินจุนและจู้หลินหลินยืนอยู่ข้างพวกเขา

จู้หลินหลินถาม “พี่เสี่ยวจุนเราไม่ออกไปเหรอ?”

ฉินจุนพูด “ไม่ต้องหรอก แค่รอก็พอแล้ว”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset