ซูเหวินฉีขมวดคิ้ว “พี่เถียนไม่ต้องพูดอะไรแล้ว เขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เถียนอิงคนนั้นทำเกินไปจริง ๆ ”
เมื่อเห็นไวน์แดงกระเด็นใส่ร่างของซูเหวินฉี พี่เถียนก็ถอนหายใจ
“เฮ้อ ฉันรู้ว่าเธอทำมากเกินไป แต่ไม่ใช่เรื่องดีที่เราจะมาฉีกหน้าเธอแบบนี้”
“เถียนอิงคนนี้เกิดและเติบโตในมณฑลฮั่นตง เธอรู้จักเจ้านายหลายคน ถ้าเธอไปยั่วยุเธอ เราอาจจะต้องเลิกกิจการทั้งหมดในมณฑลฮั่นตงในอนาคตนะ”
ท้ายที่สุดแล้วมณฑลฮั่นตงเป็นมณฑลขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงในประเทศ และมีโอกาสทางธุรกิจมากมาย ในการฉีกหน้าเถียนอิง มันถือว่าเธอจะหมดหวังกับจังหวัดนี้โดยพื้นฐาน กลัวว่าเป็นการยากที่จะได้เข้ามาที่นี่อีก
ซูเหวินฉีพูดอย่างสงบ “ไม่มีทาง ถ้าพี่อยากจะยอมแพ้จริง ๆ ก็ยอมแพ้”
ฉินจุนได้ยินคำพูดนั้น และยิ้ม “ยอมแพ้? ฉันว่านะ คนที่ควรยอมแพ้คือเขา ส่วนเธอไม่จำเป็นต้องกังวล”
พี่เถียนขมวดคิ้ว “คุณเป็นใครกันแน่ ยังเป็นวัยรุ่น ทำไมถึงพูดจาใหญ่โตได้ขนาดนี้? ฉันขอเตือนไว้เลยนะ คุณกับเหวินฉีเป็นเพื่อนกัน ฉันในฐานะของผู้จัดการควรจะห้ามไว้”
“แต่ด้วยความรู้สึกส่วนตัว ฉันก็หวังว่าเหวินฉีจะมีแฟน นายอย่าทำลายเธอเลยดีกว่า!”
ซูเหวินฉีดึงพี่เถียน “โอเคไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ไปกันเถอะ”
ซูเหวินฉีมีเพื่อนนอกวงไม่กี่คน และฉินจุนเป็นเพียงคนเดียว ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องการให้ฉินจุนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
แม้ว่าวันนี้เขาจะหุนหันพลันแล่นเล็กน้อย แต่ก็ปกป้องเธอได้ทั้งหมด ซูเหวินฉีไม่ได้ตั้งใจจะตำหนิฉินจุน ในตงไห่ด้านนี้ เป็นเรื่องใหญ่ที่เขาจะมาไม่ได้อีกในอนาคต
อย่างไรก็ตามฉินจุนอมยิ้ม “ไปอะไรกัน ยังมีงานเลี้ยงที่เรายังไม่ได้ไปเลยนะ มากับฉัน”
หลังจากพูดเสร็จ ฉินจุนก็เดินขึ้นไปชั้นบนกับทั้งสองคน
ซูเหวินฉีและพี่เถียนต่างตกตะลึงชั่วขณะหนึ่ง ยังมีงานเลี้ยงอีกหรือ? มีอะไรอีกบ้างสำหรับอาหารค่ำ?
พวกเขาได้เข้าร่วมงานเลี้ยงกันแล้ว จะมีคนอื่นอีกได้อย่างไร?
พี่เถียนส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ โดยคิดว่าแม้ชายคนนี้จะดูดี แต่เขาไม่สงบพอที่จะทำสิ่งต่าง ๆ และเธอไม่เข้าใจว่าชีวิตในชนชั้นสูงเป็นอย่างไร
เธอไม่เข้าใจความซับซ้อนของพี่ใหญ่เหล่านี้เลย เขาคิดว่าเขากำลังคบอยู่กับใคร? ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนธรรมดาจะตกหลุมรักราชินีอย่างซูเหวินฉี
พี่เถียนขมวดคิ้ว รู้สึกไร้สาระเล็กน้อย
ฉินจุนคนนี้ คงไม่ใช่เพราะไม่มีเพื่อนกินข้าวที่ด้วยหรอกนะ?
จากนั้นเขาก็เอาดาราใหญ่ไปพบเพื่อน ๆ ของเขา และเขาจะดูได้หน้ามาก ในกรณีนี้ พี่เถียนควรเตือนซูเหวินฉี ว่าเธอไม่ควรติดต่อกับคนที่ขาดจิตสำนึกเช่นนี้
เมื่อเธอเดินไปที่ทางเข้าห้องส่วนตัวหมายเลข 1 พี่เถียนกัดฟันและผลักประตูเปิดออก และเธอก็ตกตะลึงเมื่อเห็นคนสองสามคนนั่งอยู่ข้างใน
จากนั้น มีร่องรอยของความประหลาดใจอยู่บนใบหน้าของเขา
แม้ว่าเธอจะไม่รู้จักคนส่วนใหญ่ที่โต๊ะอาหารค่ำ แต่สองคนนี้มักปรากฏตัวทางทีวี
หนึ่งคือเมิ่งเหวินกัง
หัวหน้าของเมิ่งกรุป องค์กรชั้นนำในเมืองตงไห่!
สิบอันดับแรกในการจัดอันดับของ Forbes ผู้ประกอบการระดับบนสุดอย่างแท้จริง
สถานะของเมิ่งเหวินกังในตงไห่และแม้แต่ในมณฑลทั้งหมดนั้นไม่มีใครเทียบได้ โต๊ะของเจ้านายในห้องส่วนตัวหมายเลข 2 ที่ชั้นล่างเทียนอิงที่ผูกเข้าด้วยกัน ไม่ได้ดีไปกว่าเมิ่งเหวินกังเลย
และอีกคนที่เธอรู้ดี มีพลังมากยิ่งกว่า เหอเนี่ยนอิงผู้นำอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ หัวหน้าอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลเหอ
แม้ว่าเมิ่งเหวินกังจะมีอำนาจ แต่อย่างไรก็ตาม เขาอยู่ในพื้นที่ของมณฑลฮั่นตง และเขาเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจในซินเจียงได้ดีที่สุด ในขณะที่เหอเนี่ยนอิงเป็นผู้แข็งแกร่งสูงสุดของประเทศที่แท้จริง และเธอมีอิทธิพลในระดับหนึ่งในเวทีระหว่างประเทศ
นอกจากสองคนนี้แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้จักอีกสองคนนั้น แต่เมื่อพิจารณาจากการแต่งตัวแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
ชายสวมชุดแบบจีน ค่อนข้างใจกว้าง และเมื่อมองแวบเดียวก็เหมือนเป็นผู้นำ แน่นอนว่าไม่ใช่ตัวละครง่าย ๆ ที่จะนั่งกับเจ้านายสองคนนี้
และท่านสุดท้าย ยิ่งเห็นชัด สวมชุดทหาร ห้าดาวบนบ่า นายพล!
โต๊ะนี้ ผู้เล่นตัวจริงน่ากลัวเกินไป
“ขอโทษนะคะ เรามาผิด …” พี่เถียนผงะ คิดว่าเธอคิดผิด ถ้าเธอไปเจอหัวหน้า เธอคงรับมือไม่ไหว
ฉินจุนกล่าวว่า “ถูกแล้ว ที่นี่แหละ”
หลังจากพูดจบ เขาก็พาซูเหวินฉีเดินเข้าไป
พี่เถียนเบิกตากว้าง และมองดูฉินจุนลากซูเหวินฉีไปที่ส่วนในสุดของห้องส่วนตัว และนั่งบนที่นั่งหลัก
“พี่เถียน นั่งลงด้วยกันสิ” ฉินจุนกล่าว
“เฮ้ โอเค โอเค!” พี่เถียนตื่นเต้นเล็กน้อย และรีบหามุมให้นั่งข้าง ๆ เมิ่งเหวินกังของเมิ่งกรุป
เธอไม่เคยคิดฝันว่าจะเกินฝันไป ที่จะได้นั่งทานอาหารกับผู้นำที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
เมื่อเห็นว่าพี่เถียนและซูเหวินฉีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย เมิ่งเหวินกังก็แนะนำขึ้น
“อย่ากังวลไป พวกเราเป็นเพื่อนของคุณผู้ชายฉิน นี่หวังจินไห่”
“นี่ซุนเจี้ยนหมิน”
ม่านตาของพี่เถียนหดตัว และเธอรู้ว่าการนั่งกับคนเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดา แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเป็นผู้นำของซุน!
“ไม่จำเป็ฯต้องแนะนำตัวนี้เลย เหอเนี่ยนอิง ทุกคนรู้จักดีค่ะ”
พี่เถียนลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว และพูดด้วยท่าทางเคอะเขิน
“เป็นเกียรติที่ได้พบพวกท่านทุกคน ฉันคือผู้จัดการของซูเหวินฉี เทียนเสี่ยวหลินค่ะ”
ทุกคนพยักหน้า ขณะที่พวกเขารู้จักกัน
เหอเนี่ยนอิงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “คุณซูเหวินฉีสวยจริง ๆ คุณสวยกว่าในทีวีซะอีกค่ะ”
แม้ว่าซูเหวินฉีจะผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย แต่เธอก็ยังถ่อมตัวเล็กน้อย
“ขอบคุณประธานเหอที่ชื่นชมค่ะ”
ฉินจุนกล่าว “คนกันเองทั้งนั้น สั่งอาหารก่อนเถอะ กินไปคุยไปกัน”
ร้านอาหารนี้เป็นทรัพย์สินของเมิ่งเหวินกัง ดังนั้นจึงเป็นธรรมชาติที่ปรุงขึ้นเมื่อนานมาแล้ว มีไวน์และอาหารดี ๆ อยู่บนโต๊ะ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว เป็นสิ่งที่ฉินจุนชอบกิน เป็นร้านระดับไฮเอนด์และไม่ฟุ่มเฟือย
นี่เป็นการรวมตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกของรุ่นพี่ จริง ๆ แล้วฉินจุนยังมีรุ่นน้องอยู่ไม่กี่คนในจังหวัดอื่น ๆ แต่เป็นคนตัวใหญ่และงานยุ่งจนไม่มีตารางเวลาที่มาได้ หากรู้ว่าพวกเขาทั้งคนรวมตัวกันได้ คงจะอิจฉาตาร้อนกันไม่น้อย
ฉินจุนพูดตรง ๆ “ซูเหวินฉีเป็นเพื่อนฉัน ฉันอยากจัดคอนเสิร์ตที่ตงไห่ ตอนนี้สนามกีฬามีปัญหานิดหน่อย”
ซุนเจี้ยนหมินขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน “ฉันได้ยินเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายอยากทำยังไง? คอนเสิร์ตจะเริ่มในวันพรุ่งนี้ เถียนอิงยังมีคนรู้จักในท้องถิ่น พวกเขาโปรโมตมาหลายวันแล้ว”
ด้วยจุดแข็งของซุนเจี้ยนหมิน เป็นเรื่องปกติที่จะคืนสถานที่จัดคอนเสิร์ต แต่เถียนอิงได้ประชาสัมพันธ์สถานที่นี้มาหลายวันแล้ว
หากสถานที่เปลี่ยนชั่วคราว และซูเหวินฉีถูกย้ายไปที่นั่น ฉันเกรงว่าทันทีที่การแสดงเปิดในคืนพรุ่งนี้ แฟน ๆ ทั้งสองฝ่ายจะทะเลาะกันได้ง่าย และมันจะไม่เป็นการดีที่จะทำให้เกิดเหตุการณ์รวมกลุ่มในขณะนั้น
หวังจินไห่ยังพยักหน้า “เหตุการณ์รวมกลุ่มเป็นสิ่งที่ควบคุมได้ยากที่สุด นายรับความเสี่ยงนี้ไม่ได้ แต่ตอนนี้เรารู้ความสัมพันธ์ระหว่างนายฉินและซูเหวินฉีแล้ว คอนเสิร์ตครั้งต่อไปก็จัดได้”
