ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 206 เจอกันโดยบังเอิญ

นี่เป็นการปฏิบัติต่อเจ้าหญิงจริงๆ สายตาของผู้คนมากมายจับจ้องมาที่เธอ และเธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาอิจฉาของทุกคน

ถังโหรวหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาถ่ายวิดีโอสั้นๆ แล้วโพสต์ลงโมเมนต์ในวีแชต

มีหลายคนตอบกลับมาทันที

“แม่เจ้า นี่ร้านอาหารฝรั่งเศสบนถนนกุ้ยหลินใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าที่นั่นแพงมากเลยนะ!”

“ถังโหรวคุณนี่รวยเกินไปแล้วได้ไปกินร้านอาหารแบบนั้นด้วย สุดยอดไปเลย!”

“มีไวโอลินเล่นให้ดูส่วนตัวด้วย เวอร์มากแม่!”

“มีแฟนรวยนี่ดีจังเลย น่าอิจฉาสุดๆ”

เมื่อเห็นคอมเมนท์ของเพื่อนๆ แต่ละคน ใบหน้าของถังโหรวก็แสดงท่าทางภูมิใจ เธอชอบความรู้สึกที่ถูกคนอื่นอิจฉาแบบนี้มาก

ชีวิตคนเรามักมีช่องว่างที่ต่างกัน บางคนมีชีวิตที่ยากจน ในขณะที่อีกคนกำลังหาความสุขให้กับชีวิต

เช่นเดียวกับหวังตงเสวี่ย แฟนหนุ่มไม่สามารถซื้อได้แม้แต่รถยนต์ เดินอยู่บนถนนยังต้องคอยเก็บขวดขาย มันเทียบกับเธอได้เหรอ?

เธอก็คิดว่าตอนนี้หวังตงเสวี่ยอาจจะกำลังกินหม่าล่าทั่งชามละไม่กี่หยวนอยู่ริมถนน แต่เธอกำลังเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและอาหารชั้นเลิศในร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งนี้ เธอรู้สึกสะใจมาก

ในเวลาเดียวกันหวังตงเสวี่ยและฉินจุนก็มาถึงประตูร้านอาหาร และเดินเข้าไป

“พี่ฉิน ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อน รอฉันด้วย”

“โอเค”

ทั้งสองคนเดินเข้ามา หวังตงเสวี่ยไปเข้าห้องน้ำ และฉินจุนก็ยืนรออยู่ที่หน้าประตู

ถังโหรวที่อยู่ชั้นบนเมื่อเห็นฉินจุนก็ขมวดคิ้วทันที

“สามี คุณดูคนนั้นสิ ใช่แฟนของหวังตงเสวี่ยเมื่อกี้นี้หรือเปล่า?”

“เหมือนจะใช่นะ เขาไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น?”

“หึหึ เดาว่ามาขโมยขวดล่ะสิ? ฉันจะไปดูหน่อย!”

ขณะที่ฉินจุนกำลังรออยู่ ชายคนหนึ่งก็เดินออกมา ล้างมือเสร็จก็โยนขวดเครื่องดื่มลงบนพื้น

ฉินจุนขมวดคิ้ว ในใจคิดว่าคนเดี๋ยวนี้เป็นอะไรกันไปหมด แต่งตัวก็ดีแต่ทำตัวเหมือนสุนัข

ฉินจุนไม่ได้คิดอะไรมาก หยิบขวดขึ้นมาและกำลังจะโยนมันลงถังขยะ

แต่ขณะที่เขากำลังก้มลงไปหยิบขวด ถังโหรวก็ปรากฏตัวตรงหน้าเขา และหัวเราะออกมาเสียงดัง

“ฮ่าๆ ! ฉันจับได้แล้ว ฉันว่าแล้วว่าคุณต้องเอาถุงพลาสติกมาเก็บขวด คุณนี่ก็กล้าดีนะ ที่นี่ที่ไหน คุณยังกล้าเข้ามาขโมยขวดอีกเหรอ?”

พอพูดจบ ทุกคนก็มองมาที่พวกเขา นี่เป็นหนึ่งในร้านอาหารสุดหรูในตงไห่ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น

ทุกคนต่างก็คิดว่ามันน่าสนใจมาก คนชั้นต่ำเก็บขวดขายก็กล้าเข้ามาขโมยขวดในร้านอาหารหรูๆ แบบนี้ด้วยเหรอ?

เมื่อถังโหรวพูดเช่นนี้ฉินจุนก็ขมวดคิ้วแน่น มองเธออย่างหมดคำจะพูด

“พูดไร้สาระอะไร? พวกเรามากินข้าว”

“กินข้าว? ฮ่าๆๆ อย่ามาโม้ คุณรู้ไหมว่าที่นี่คือร้านอาหารระดับไหน? คนระดับคุณกินไหวเหรอ?”

“คุณคงไม่คิดว่าเก็บขวดทั้งวัน แล้วจะสามารถมากินข้าวที่นี่ได้สักครั้งหรอกนะ? อย่ามาตลก!”

“พนักงานรีบไล่พวกเขาออกไป พวกเขาอยู่ที่นี่มันส่งผลกระทบต่ออรรถรสในการทานอาหารของเรา”

พนักงานเสิร์ฟหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา และขมวดคิ้วทันทีเมื่อเห็นในมือของฉินจุนถือถุงพลาสติก และอีกมือหนึ่งก็ถือขวดอยู่

“เชิญคุณออกไปด้วยค่ะ ร้านเราไม่อนุญาตให้คนเก็บขยะเข้ามาค่ะ”

ฉินจุนพูดไม่ออก “ฉันบอกแล้วว่าผมกับแฟนมาทานอาหารที่นี่ ผมจองมาแล้วด้วย”

หลังจากพูดจบ หวังตงเสวี่ยก็เดินออกมาจากห้องน้ำ และเธอก็แปลกใจเล็กน้อยที่เห็นถังโหรวที่นี่

“พี่ฉินเกิดอะไรขึ้นคะ?”

เมื่อเห็นหวังตงเสวี่ยกำลังจะล้างมือ ถังโหรวก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว

“ฉันเข้าใจแล้ว พวกเขามาเข้าห้องน้ำ!”

“ต้องเป็นหวังตงเสวี่ยที่มาเข้าห้องน้ำ ส่วนคุณก็เลยเข้ามาเก็บขวดใช่ไหม?”

“พวกคุณก็ตลกเหมือนกันนะ คุณคิดว่าที่นี่ที่ไหน เคเอฟซีแมคโดนัลด์เหรอ? คิดจะเข้ามาก็เข้ามาคิดจะออกไปก็ออกไปน่ะ?”

“รีบมาดูนะคะ บางคนแถวนี้มาใช้ห้องน้ำเฉยๆ โดยไม่เสียเงิน!”

เมื่อถังโหรวตะโกนอย่างนั้น สายตาของทุกคนก็จับจ้องมาที่ทั้งสองคน และสองคนก็กลายเป็นจุดสนใจของทั้งร้านอาหารทันที

หวังตงเสวี่ยรู้สึกอายเล็กน้อย เพราะไม่ค่อยชิน

“ถังโหรว เธอจะทำเกินไปแล้วนะ”

ถังโหรวแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “ฉันทำเกินไปเหรอ? ฉันว่าพวกเธอมากกว่าที่ทำเกินไป มาใช้ห้องน้ำก็มาใช้ห้องน้ำสิ จะตอแหลทำไม แล้วยังจะมาขโมยขวดอีก ต่ำจริงๆ”

พนักงานเสิร์ฟทนไม่ไหวแล้ว “ทั้งสองท่านคะ ห้องน้ำร้านเราไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาใช้นะคะ กรุณาออกไปด้วยค่ะ”

ฉินจุนรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย ถ้าไม่ใช่เพราะวันนี้พาหวังตงเสวี่ยออกมาเลยไม่อยากทำเรื่องไม่ดี ไม่งั้นเขาคงจะจัดการคนเหล่านี้ไปนานแล้ว

“ผมจะพูดอีกรอบ ผมจองไว้แล้ว เอาไปดู”

หลังจากพูดจบ ฉินจุนก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา หาข้อความการจองให้พนักงานดู

พนักงานเสิร์ฟตกใจทันที และรีบพูด

“รอสักครู่ค่ะ ฉันจะไปตรวจสอบให้!”

ถ้ามีข้อความก็น่าจะเป็นการจองจริงๆ ไม่ได้ล้อเล่น

ถังโหรวแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “คุณก็ตลกเนอะ จองที่นี่? คุณหลอกใครด้วยข้อความปลอมๆ นั่นน่ะ คุณจองโต๊ะอะไรไว้?”

“โต๊ะหมายเลข 1”

“ฮ่าๆ คุณนี่ตลกจริงๆ ! จะพูดก็พูดให้มันน่าเชื่อถือหน่อย จะบอกให้นะ ฉันกับสามีของฉันนั่งที่โต๊ะหมายเลข 1 คุณกำลังโม้อะไร?”

เมื่อเสียงลดลง หลายคนก็ปิดปากและหัวเราะ มองดูฉินจุนทั้งสองคนราวกับกำลังดูละคร

แต่หลังจากที่พนักงานไปตรวจสอบมาแล้ว เขาก็รีบวิ่งกลับมา และพูดว่า

“ขอโทษด้วยค่ะคุณผู้ชาย ฉันสะเพร่าเอง คุณมีการจองไว้จริงๆ เชิญด้านบนเลยค่ะ”

ถังโหรวอึ้งไปครู่หนึ่ง “อะไรนะ! เขาจองไว้จริง ๆ งั้นเหรอ? พวกคุณไม่ได้เข้าใจผิดใช่ไหม? พวกชั้นต่ำอย่างแกทั้งสองคนจะมากินข้าวในสถานที่แบบนี้ได้อย่างไร?”

“และฉันกับสามีเป็นคนจองโต๊ะหมายเลข 1 ไว้นี่”

พนักงานเสิร์ฟตอบกลับ “ใช่ค่ะ คุณสองคนจองโต๊ะหมายเลข 1 ไว้ แต่เป็นโต๊ะหมายเลข 1 ของชั้น1 ค่ะ ขอโทษด้วยค่ะ พนักงานเสิร์ฟคนเมื่อกี้เพิ่งมาใหม่เลยไม่ค่อยรู้เรื่องน่ะค่ะ”

“เชิญทั้งสองท่านย้ายไปชั้นหนึ่งด้วยค่ะ”

เมื่อเห็นที่นั่งธรรมดาๆ ในชั้น 1 ถังโหรวก็เข้าใจทันที

ที่แท้ฉินจุนก็จองโต๊ะหมายเลข 1 ของชั้นบน!

แต่ถังโหรวและเว่ยเจี้ยนจวินจองไว้คือชั้นล่าง!

แม้ว่าจะเป็นโต๊ะหมายเลข 1 เหมือนกัน แต่ตำแหน่งและสภาพแวดล้อมต่างกันราวฟ้ากับดิน

แน่นอนว่าสภาพแวดล้อมชั้นล่างก็ดีมากเช่นกัน แต่หลังจากได้สัมผัสกับความหรูหราชั้นบนแล้ว ชั้นล่างนี้ดูธรรมดาไปเลย

ถังโหรวกัดฟันแน่น ใบหน้าของเธอดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย

“เฮ้ พวกคุณบริการกันอย่างนี้เหรอ? พวกเรานั่งไปแล้วและก็สั่งอาหารเสร็จแล้วนะ แล้วจะให้เปลี่ยนที่นั่งตอนนี้เนี่ยนะ?”

พนักงานเสิร์ฟอึ้งไปครู่หนึ่ง พูดอย่างลำบากใจ “คุณผู้หญิงคะ ถ้าอย่างนั้นพวกคุณลองปรึกษากันดูไหมคะ?”

ถังโหรวแค่นหัวเราะอย่างเย็นชา “ปรึกษาอะไร? คุณดูท่าทางพวกเขาสิ เหมือนคนที่สามารถมากินที่นี่ได้หรอ? เขาโทรมาจองแล้วยังไงล่ะ บางทีพวกเขาอาจจะสั่งน้ำน้ำแข็งหนึ่งแก้วแล้วนั่งสักแป๊บ ถ่ายรูปอัพโซเชียลแสร้งทำเป็นเจ๋งแล้วก็ไปก็ได้หนิ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset