ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 232 มาขัดจังหวะซะแล้ว

บริษัทโลจิสติกส์ที่ดีขนาดนั้น ท่านประธานเพียงแค่บอกว่ามอบให้เขาก็เป็นของเขาแล้ว แต่สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือฉินจุนกลับไม่รับมันไว้ !

มีเงินทองมากองให้ตรงหน้าแล้วยังไม่รับไว้ แบบนี้หมายความว่าอะไรรู้ไหม ก็หมายความว่าคนเขาไม่ได้ขัดสนยังไงหละ !

ขับรถคันละ3ล้านกว่าหยวน ดื่มเหล้าเหมาไถสุดแพง ยังเรียกว่าเป็นคนธรรมดาได้อยู่ไหม ?

หวังตงเสวี่ยหาลูกเขยชั้นดีมาให้แท้ๆ !

หวังหย่งเซิ่งรีบขยิบตากับลูกชายของตน “เถี่ยเฉิง มัวทำอะไรอยู่ยังไม่รีบขอบคุณพี่เขยอีก ? ”

หวังตงเสวี่ยนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของหวังเถี่ยเฉิง ตอนนี้เพื่อที่จะได้สร้างความสนิทสนมจึงรีบเปลี่ยนไปเรียกว่าพี่เขยซะแล้ว

หวังเถี่ยเฉิงรีบหันกลับมาและลุกขึ้นยืน เขายกแก้วเหล้าขึ้นมาคำนับและดื่มให้ฉินจุนหนึ่งแก้ว

“พี่เขย ต้องขอโทษด้วยจริงๆ เป็นผมเองที่มีตาหามีแววไม่ อย่าถือสากันเลยนะครับ ผมขอดื่มให้คุณหนึ่งแก้ว ”

หลังจากดื่มเหล้าแก้วนี้หมด หวังเถี่ยเฉิงก็ไม่กล้าหาเรื่องอีกแล้ว แถมเขายังปฏิบัติต่อฉินจุนอย่างสุภาพเหมือนกับว่าเขาเป็นประธานคนนึง

หวังหย่งเซิ่งเองก็ไม่วางมาดใหญ่โตเช่นกัน เธอก็ดื่มให้หนึ่งแก้วเพื่อแสดงความเคารพ และพูดคุยกับหวังอ้ายหมิน และซูฮวนอย่างอารมณ์ดี

ถึงแม้ว่าฉินจุนจะเด็กกว่า แต่เขาก็ต้องรักษาความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ดีไว้

การทานข้าวมื้อนี้หวังอ้ายหมินและซูฮวนได้หน้าอย่างมาก ทั้งสองคนยิ้มปากฉีกจนแทบจะหุบไม่ได้ จากนั้นทุกคนก็ดื่มกันจนลืมเวลา

แต่ปกติแล้วฉินจุนไม่ใช่คนดื่มเหล้าเยอะอยู่แล้ว จึงเลิกดื่มเร็วกว่าคนอื่นและไปเดินเล่นที่ทุ่งหญ้ากับหวังตงเสวี่ย พระอาทิตย์กำลังตกดินและสายลมก็พัดผ่านไป ทั้งสองรู้สึกพิเศษมาก

หวังตงเสวี่ยหน้าแดงขึ้นมา ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“พี่ฉิน ”

“หืม ? ”

“พี่หลับตาลงสิฉันมีของขวัญจะให้ ”

ฉินจุนหยุดนิ่งและค่อยๆหลับตาลง

ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็มีสัมผัสบางอย่างที่เย็นยะเยือกปะทะเข้ากับใบหน้าของเขา ซึ่งปรากฎว่าเป็นริมฝีปากของหวังตงเสวี่ยประทับลงบนหน้าฉินจุน

กลิ่นหอมอ่อนนุ่มละมุน

ฉินจุนลืมตาขึ้นมา ผู้หญิงคนนี้ก็หน้าแดงวิ่งหนีไปซะแล้ว

“จะหนีไปไหน ! ”

ฉินจุนตามมาจากด้านหลัง

หวังตงเสวี่ยเขินสุดๆ เธอยิ้มไปด้วยขณะวิ่ง “ช่วยด้วย…… ”

ไม่นานฉินจุนก็จับหวังตงเสวี่ยได้และกอดเธอไว้จากข้างหลัง ทั้งสองคนพลิกล้มตัวลงบนทุ่งหญ้าด้วยกัน

ฉินจุนเป็นฝ่ายกอดหวังตงเสวี่ยไว้ และทั้งสองกอดกันแนบแน่น หันหน้าเข้าหากันระยะห่างระหว่างปลายจมูกของพวกเขาไม่เกินหนึ่งเซนติเมตร

เพียงแค่ฉินจุนก้มหัวอีกนิดเดียวก็จะกลายเป็นจูบกันแล้ว

หัวใจของหวังตงเสวี่ยเต้นแรงขึ้น นี่คือการสัมผัสที่ใกล้ชิดที่สุดของทั้งสองคน แม้ว่าเมื่อคืนนี้พวกเขาจะมีความสัมพันธ์แนบชิดกัน แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นการกระทำที่ไม่ได้สติของพวกเขา ไม่เหมือนกับตอนนี้ ทั้งคู่มีสติดีและฮอร์โมนก็กำลังพลุกพล่าน

ลมหายใจของหวังตงเสวี่ยถี่ขึ้นเรื่อยๆและดวงตาของเธอก็พร่าเบลอเล็กน้อย

ขณะที่มองไปยังริมฝีปากที่เปิดครึ่งหนึ่งของเธอ และฉินจุนกำลังจะจูบ จู่ๆเสียงของซูฮวนก็ดังขึ้นมาจากด้านนอก

“ลูก ? ลูกอยู่ไหน ? ”

หวังตงเสวี่ยตกใจรีบผลักฉินจุนออก และลุกขึ้นยืนจัดแจงเสื้อผ้าของตนเองให้เรียบร้อย

“อยู่นี่ค่ะ ”

หวังตงเสวี่ยหน้าแดงเดินออกจากทุ่งหญ้าไป

“แม่มีอะไรหรือเปล่าคะ ? ”

“ไม่มีอะไรแม่แค่ทำผักดองเอาไว้นิดหน่อยให้เสี่ยวฉินเขาห่อกลับไปด้วย…… ”

ขณะที่ซูฮวนกำลังพูด และเห็นลูกสาวของตัวเองหน้าแดง ประกอบกับฉินจุนที่เพิ่งเดินออกมาจากทุ่งหญ้าด้านหลังก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างทันที

“ลูกรัก นี่แม่มาขัดจังหวะลูกหรือเปล่า ? ”

“ขัดจังหวะที่ไหนกันหละคะแม่ ! “หวังตงเสวี่ยกระทืบเท้าของเธอเบาๆดูเขินอายและหงุดหงิดนิดหน่อย

……

ฉินจุนพักอยู่ที่บ้านของหวังตงเสวี่ยอีกหนึ่งคืน และวันต่อมาก็จะกลับ ก่อนที่เขาจะไปสองสามีภรรยาได้ห่อผักดองและอาหารอื่นๆมากมายให้ฉินจุนเอาไปด้วย พวกเขาพอใจกับว่าที่ลูกเขยคนนี้มาก

ระหว่างทางกลับ หวังตงเสวี่ยที่นั่งอยู่ในรถไม่ค่อยกล้ามองหน้าฉินจุนสักเท่าไหร่

ตัวเองเป็นคนขอให้เขามาปลอมเป็นแฟนแท้ๆ สุดท้ายไปๆมาๆเหมือนละครจะกลายเป็นเรื่องจริงซะงั้น ?

“พี่ฉิน พี่รู้จักหัวหน้าของพวกเถี่ยเฉิงจริงๆอย่างนั้นหรอ ? ”

ฉินจุนพยักหน้า “จริงสิ ฉันเคยรักษาพ่อของเขามาก่อน ”

“มิน่าหละ ”

ในภาพจำของหวังตงเสวี่ย ฉินจุนก็คือหมอ ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจมากนัก แต่ใครบอกว่าหมอไม่มีอนาคตกันหละ ? ดูอย่างพี่ฉินสิ เคยรักษาคนใหญ่คนโตมาตั้งมากมาย

ถึงอย่างไรตอนนี้ในสายตาของหวังตงเสวี่ย ฉินจุนนั้นเป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบสุดๆ

ขณะที่กำลังขับรถอยู่โทรศัพท์ของฉินจุนก็ดังขึ้น

“เธอช่วยรับโทรศัพท์ให้ฉันหน่อย ”

“อ่อ ได้สิ ”

หวังตงเสวี่ยหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างว่าง่าย และเมื่อมองชื่อที่ปรากฏอยู่นั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันที

“เหอเนี่ยนอิงหรอ ? ”

เหอเนี่ยนอิงเป็นใครนั้น เกรงว่าจะไม่มีใครไม่รู้จักเขา ประธานแห่งบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุ๊ป คนที่รวยที่สุดในประเทศ !

นี่……เหอเนี่ยนอิงก็ยังโทรศัพท์หาฉินจุนด้วยหรอเนี่ย ?

หรือว่าจะเป็นคนชื่อเหมือนกัน ?

ฉินจุนตอบ “รับสายสิ ถามเขาว่ามีธุระอะไร ? ”

หวังตงเสวี่ยรับโทรศัพท์อย่างสั่นๆและเอ่ยถาม

“สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเพื่อนของพี่ฉิน ตอนนี้เขากำลังขับรถอยู่ คุณมีธุระอะไรหรอคะ ? ”

เหอเนี่ยนอิงนิ่งไปครู่หนึ่งก็ตอบกลับมา “ก็ไม่มีอะไรหรอก อยากเชิญคุณฉินมาทานข้าวด้วยน่ะ ไม่ทราบว่าสะดวกมาไหมคะ ? ”

ฉินจุนเองก็ได้ยินเช่นกันจึงตอบกลับไป

“ได้สิ คุณเลือกสถานที่มาเลย เดี๋ยวฉันจะพาเพื่อนไปด้วย ”

“ได้ค่ะ อีกเดี๋ยวฉันจะส่งโลเคชั่นให้คุณ ”

หลังจากวางสายโทรศัพท์แล้ว หวังตงเสวี่ยก็มีคำว่าสงสัยอยู่เต็มหน้าไปหมด

ฟังจากเสียงก็ฟังไม่ค่อยออก เพราะเธอเองก็ไม่ได้รู้จักกับเหอเนี่ยนอิง เธอเคยเห็นเขาแต่ในโทรทัศน์จึงไม่คุ้นเสียงของเขามากเท่าไหร่นัก

หวังตงเสวี่ยอยากถามมากๆว่าเหอเนี่ยนอิงคนนี้ สรุปแล้วใช่คนที่เธอกำลังหมายถึงอยู่หรือเปล่า แต่แล้วก็ลังเลจนสุดท้ายก็ไม่ได้ถามคำถามนี้ออกไป

ไม่นานเหอเนี่ยนอิงก็ส่งโลเคชั่นมาให้ เป็นร้านอาหารเล็กๆที่ทำเลที่ตั้งก็ไม่ได้ดีมาก แต่ระดับค่อนข้างไฮเอนด์มาก

ไม่ต้องถามก็รู้ว่าเป็นธุรกิจของตระกูลเธอแน่นอน

ทั้งสองขับรถมาถึงร้านอาหาร และเดินเข้าไปในห้องอาหารส่วนตัว มีผู้หญิงหนึ่งคนกับผู้ชายอีกหนึ่งคนนั่งอยู่ด้านใน และผู้หญิงคนนั้นก็คือเหอเนี่ยนอิง

เมื่อหวังตงเสวี่ยเห็นตัวจริงของเหอเนี่ยนอิง ใบหน้าของเธอก็ตกใจสุดขีด

เป็นเศรษฐีเหอเนี่ยนอิงคนนั้นจริงๆด้วย !

นี่มันจะเกินไปแล้วหรือเปล่า ?

เศรษฐีเชิญพี่ฉินมาทานข้าว ?

หรือว่าพี่ฉินเองก็เคยให้การรักษาเขาเหมือนกัน ?

แม้ว่าหวังตงเสวี่ยจะไม่เคยประเมินฉินจุนต่ำเกินไป แต่คราวนี้เธออาจต้องทำความเข้าใจในตัวฉินจุนใหม่อีกครั้ง

“ท่านนี้คือแฟนของคุณฉินใช่ไหม เป็นผู้หญิงที่สวยเหมือนบัวที่อยู่เหนือน้ำจริงๆ ”

เหอเนี่ยนอิงหัวเราะเบาๆและจับมือกับหวังตงเสวี่ยอย่างอารมณ์ดี ทำให้หวังตงเสวี่ยรู้สึกทำอะไรไม่ถูก

ปกติแล้วเวลาที่เหอเนี่ยนอิงอยู่ในโทรทัศน์เธอดูเป็นผู้หญิงแกร่ง เด็ดขาดและรุนแรง ตอกกลับได้อย่างไม่สนดินสนฟ้า

นึกไม่ถึงว่าเธอจะอ่อนโยนได้ขนาดนี้ และแน่นอนว่าเธอคงจะอ่อนโยนกับแค่เพื่อนของฉินจุนเท่านั้น

ถัดจากเหอเนี่ยนอิงมีชายวัยรุ่นคนหนึ่งนั่งอยู่ ดูไปแล้วอ่อนกว่าฉินจุนไม่กี่ปี เขาสวมหมวกเบสบอล แว่นกันแดด ชุดฮิปฮอปและมีใบหน้าที่ไม่ค่อยสนโลกสักเท่าไหร่

“คุณฉิน นี่ลูกชายของฉันเอง เซี๋ยต้าหลิน ”

“สวัสดี “ฉินจุนพยักหน้าให้เขาเพื่อเป็นการทักทาย

แต่เซี๋ยต้าหลินเพียงแค่ยกมือขึ้นมา และไม่ได้แสดงท่าทีอะไรมาก

เหอเนี่ยนอิงจ้องเขา “ต้าหลิน ! เป็นอะไรทำไมไม่มีมารยาทเลย ! ”

เซี๋ยต้าหลินหงุดหงิดเล็กน้อยและพูดขึ้นว่า “แม่ ผมไม่อยากทานข้าวกับเพื่อนของคุณแม่ สู้ไปดูกังฟูยังดีสะกว่า ปล่อยผมไปเถอะหน่า ”

“ไม่ได้ ! ต้องทานข้าวมื้อนี้ให้เสร็จถึงจะไปได้ อย่าเซ้าซี้นะ ! ”

เหอเนี่ยนอิงตั้งใจที่จะให้ เซี๋ยต้าหลินรู้จักกับฉินจุน เธอเองก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่คิดถึงลูกชายของตัวเองอยู่ตลอด แม้ว่าความรวยของเธอจะเพียงพอสำหรับให้ลูกชายใช้ได้ตลอดชีวิต แต่เธอยังคงหวังว่าเซี๋ยต้าหลินจะสามารถเป็นเพื่อนกับคนเก่งๆได้บ้าง ถ้าเขาสามารถเรียนรู้ ทักษะเล็กๆน้อยๆสักครึ่งหนึ่ง ก็คงจะเป็นประโยชน์อย่างมากเลย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset