ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 265 ลงมือ

คุณชายยวี่เดินก้าวเข้ามาทีละก้าว สีหน้าของจู้หลินหลินเริ่มออกอาการตื่นตระหนก แต่ว่าจู้หลินหลินก็เป็นหญิงแกร่ง ไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรง่าย ๆ

พอคุณชายยวี่เดินเข้ามา จู้หลินหลินก็ยกขาขึ้นถีบออกไป

แต่ทว่าคุณชายยวี่ผ่านอะไรมาเยอะ เหตุการณ์แบบนี้เขาไม่ได้เพิ่งเจอเป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นเขาเตรียมรับมือนานแล้ว

คุณชายยวี่ก้าวถอยหลังเพื่อหลบ ทำให้จู้หลินหลินถีบไม่โดน เนื่องจากเธอออกแรงโน้มไปข้างหน้ามากเกินไปจึงทำให้เสียการทรงตัวล้มลงไปที่พื้นทันที

คุณชายยวี่ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย “ฮ่าฮ่า กล้าดีนี่ ฉันชอบ ร่างกายยืดหยุ่นไม่เลวเลยแฮะ อีกเดี๋ยวฉันจะสอนท่ายากให้เธอเอง!”

พูดจบคุณชายยวี่ก็กระชากเสื้อผ้าของจู้หลินหลินอย่างแรง!

……

ขณะที่ฉินจุนกำลังพูดคุยอยู่กับพวกเหอเนี่ยนอิง จู่ ๆ นาฬิกาข้อมือของเขาก็สั่นขึ้นมา สั่นอย่างต่อเนื่องแถมยังมีสัญญาณไฟสีแดงกะพริบขึ้นมา

ฉินจุนเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที สีของสัญญาณขอความช่วยเหลือของสาว ๆ แต่ละคนจะแตกต่างกันออกไป สีแดงหมายถึงสัญญาณขอความช่วยเหลือจากจู้หลินหลิน

ในงานแบบนี้ ทำไมถึงเกิดเหตุถึงต้องส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ?

ฉินจุนไม่กล้าเมินเฉย เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาดูตำแหน่ง

ห้องน้ำเหรอ?

ฉินจุนเงยหน้าขึ้นไปมองตามทิศทาง ก่อนจะรีบพุ่งไปทันที

คนอื่น ๆ พอเห็นฉินจุนตื่นตระหนกขนาดนั้น ก็รีบตามไปทันที

“ศิษย์พี่ เกิดอะไรขึ้น?”

ฉินจุนไม่โต้ตอบอะไร เขาพุ่งตรงไปที่หน้าห้องน้ำ ได้ยินเสียงต่อสู้กันในห้องน้ำ ลูกตาของเขาก็หดตัวลงด้วยความตกใจ ดูแล้วต้องเป็นที่นี่แน่ ๆ !

เฉาจิงจิงยืนขวางอยู่ที่หน้าประตู พอเห็นฉินจุนกับคนอื่น ๆ เดินเข้ามา ก็ขมวดคิ้วมุ่นทันที

“ทำอะไรกันน่ะ ที่นี่เข้าไม่ได้ พวกคุณรีบออกไปซะ!”

เฉาจิงจิงกางแขนออก ขวางทางพวกเขา

ฉินจุนก็ถีบเข้าที่ท้องของเฉาจิงจิงทันที

“ไสหัวไปซะ!”

เสียงถีบดังปึง เฉาจิงจิงก็โดนถีบจนกระเด็นไปกระแทกเข้ากับกำแพงที่ด้านหลังจนกระเบื้องห้องน้ำแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ

ที่มุมปากของเฉาจิงจิงมีเลือดไหลออกมา อวัยวะภายในได้รับการกระแทกอย่างรุนแรง ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นสาวไม่เคยได้รับรู้ความรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน

เฉาจิงจิงแน่นที่หน้าอกหายใจไม่ออก อยากจะพูดอะไรออกมาก็พูดไม่ออก

พอถีบเฉาจิงจิงเสร็จ ฉินจุนก็พุ่งเข้าไปในห้องน้ำทันที

ภายในห้องน้ำจู้หลินหลินกับคุณชายยวี่กำลังฉุดกระชากยื้อแย่งกันอยู่ เสื้อผ้าของจู้หลินหลินถูกกระชากจนขาดวิ่น ด้านในเหลือเพียงเสื้อแขนสั้นรัดรูปที่เธอสวม ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง ดูน่าอับอาย บนใบหน้ามีรอยแดงดูก็รู้ว่าเกิดจากการโดนตบ

“ไอ้สารเลว!”

ฉินจุนพุ่งเข้าไปกระโดดถีบเหมือนเดิม ทำเอาคุณชายยวี่กระเด็นเข้าไปในห้องส้วมกระแทกเข้ากับประตูห้องส้วม จนก้มลงไปนั่งอยู่บนชักโครก

แรงถีบของฉินจุนไม่เบาเลย อีกนิดเดียวเกือบทำเอาเขากระดูกเกือบหัก

“พี่เสี่ยวจุน!”

พอเห็นฉินจุนมาแล้ว จู้หลินหลินก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก พอรู้ว่าฉินจุนอยู่ตรงหน้าแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่กลัวอะไรมาก เพียงแต่เมื่อครู่ที่ต่อสู้กับคุณชายยวี่ได้รับบาดเจ็บนิดหน่อย เธอโดนเขาตบเข้าที่ใบหน้า

คุณชายยวี่ตั้งตัวอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นได้ในที่สุด ใบหน้าของเขาอำมหิตน่ากลัวกว่าใคร ๆ

“ไอ้เหี้ย!มึงกล้าถีบกูหรอ?มึงไม่รู้หรือไงว่ากูเป็นใคร!”

หลังจากคุณชายยวี่เดินออกมา เหอเนี่ยนอิงกับคนอื่น ๆ ก็ผงะ

“ยวี่ฟานหนิง!?”

พอเห็นหน้าคนคนนี้ แม้แต่เหอเนี่ยนอิงยังขมวดคิ้ว

ตระกูลยวี่แห่งเมืองปักกิ่ง ถือว่าเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่สุด ๆ ในประเทศจีน และแม้แต่เหออเนี่ยนอิงก็กลัวอิทธิพลและอำนาจของตระกูลนี้นิดหน่อย

ยวี่ฟานหนิงปัดเศษฝุ่นบนร่างกาย ก่อนจะลุกขึ้นอย่างยากลำบาก พร้อมกับเอ่ยอย่างเย็นชา

“รู้แล้วใช่ไหมว่ากูเป็นใคร มึงคลานมานี่ มาเลียพื้นให้สะอาดเลยนะ!”

ยวี่ฟานหนิงพูดออกมาแบบนั้น สีหน้าของทุกคนก็ออกอาการสับสนลังเลขึ้นมา ศิษย์พี่ไม่ใช่คนธรรมดา ยวี่ฟานหนิงเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นเดียวกัน

ทั้งสองมีปัญหากันแบบนี้ ทุกคนก็ไม่มีใครอยากจะเห็นมัน

ตระกูลยวี่แห่งเมืองปักกิ่ง ไม่ควรไปมีเรื่องด้วย

หวังจินไห่และคนอื่น ๆ เดินก้าวมาข้างหน้าพร้อมกับเอ่ย “คุณชายยวี่เรื่องนี้น่าจะมีการเข้าใจกันผิด เห็นแก่หน้าของพวกเรา เอาอย่างนี้ช่างมันเถอะนะครับ”

ยวี่ฟานหนิงหัวเราะออกมาอย่างสมเพช “ช่างมัน?มันถีบฉัน ก็จะปล่อยไปง่าย ๆ น่ะเหรอ?”

“ฉันคือยวี่ฟานหนิง ตั้งแต่เด็กจนโตมีใครกล้า!?เรื่องวันนี้ถ้าไม่มีข้อแลกเปลี่ยนให้ฉัน ฉันไม่ยอมจบแน่!”

“หน้าของพวกนายไม่ได้มีผลอะไรกับฉัน ไม่ต้องมาพูดจาไร้สาระ รีบไปสั่งให้มันมาคุกเข่าต่อหน้าฉันซะ!”

คุณชายยวี่

ความโมโหของคุณชายยวี่ทำให้บรรยากาศมันเปลี่ยนไป ตระกูลยวี่แห่งเมืองปักกิ่ง คนใหญ่คนโตเชียวนะ!

แม้แต่หวังจินไห่และเหอเนี่ยนอิงยังไม่กล้าล่วงเกินตระกูลนี้เลย พูดได้เลยว่าต้องเป็นตระกูลมหาอำนาจแห่งประเทศจีน

ยวี่ฟานหนิงไม่ยอมจบง่าย ๆ เขาจะให้ศิษย์พี่คุกเข่าจริง ๆ เหรอ?

จู้หลินหลินจับแขนของฉินจุนเอาไว้ ออกอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด “พี่ฉิน ฉันขอโทษ……”

เป็นเพราะเธอถึงได้เกิดเรื่องวันนี้ขึ้น ไม่คิดเลยว่าจะไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตแบบนี้เข้า

ฉินจุนยิ้มอย่างเย็นชา “เรื่องนี้ก็ไม่ควรปล่อยไปง่าย ๆ อยู่แล้ว แกคลานเข่าเข้ามาขอโทษจู้หลินหลินเดี๋ยวนี้ แล้วฉันจะพิจารณาว่าควรยกโทษให้แกไหม”

พอฉินจุนพูดจบ ยวี่ฟานหนิงก็หัวเราะออกมา

“ตลก ตลกจริง ๆ เลยโว้ย ในเมืองกระจอก ๆ แบบตงไห่นี่ ก็มีคนอวดดีแบบนี้ด้วยว่ะ เยี่ยม เยี่ยมไปเลย!มึงคิดว่ามึงมีพวกแล้วเจ๋งมากใช่ปะ?”

“ปกป้องผู้หญิงของมึงใช่ไหม?”

“มันต้องมีสักช่วยที่มึงไม่ได้อยู่กันหล่อนใช่ไหมวะ?รอวันที่มึงไม่อยู่ข้าง ๆ เธอนะ แล้วมึงคอยดูว่ากูจะเล่นเมียมึงยังไง!”

สิ่งที่ยวี่ฟานหนิงพูดออกมาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เขาจำจนตาย ออกจากประตูนี้ไป เขาจะต้องหาวิธีแก้แค้นให้ได้

ฉินจุนขมวดคิ้วมุ่น “ที่แกพูดมาก็มีเหตุผล ออกจากประตูนี้ไป ก็ต้องคอยระวังหมาลอบกัดอย่างแกตลอดเลย ลำบากมากจริง ๆ ”

ถึงแม้ว่านาฬิกาข้อมือของฉินจุนจะสามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ แต่สิ่งสิ่งนี้ก็ยังมีข้อเสียอยู่บ้าง ถ้าหากว่าฉินจุนอยู่ไกลเกินไปแล้วมาช่วยไม่ทัน มันก็จะเกิดเรื่องได้ง่าย

“ในเมื่อเป็นแบบนั้น แกก็อย่าเพิ่งไป”

พูดจบฉินจุนก็เดินก้าวไปหายวี่ฟานหนิง

ยวี่ฟานหนิงผงะเล็กน้อย จากนั้นก็หัวเราะออกมาเสียงดัง

“ทำไม?มึงหมายความว่าจะฆ่ากูทิ้งที่นี่เหรอ?ฮ่าฮ่า มึงคิดว่ามึงเป็นใคร มึงรู้ไหมว่าถ้ากูหายตัวไป12ชั่วโมง ตระกูลยวี่แห่งเมืองปักกิ่งจะแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งยังไง?พอถึงเวลานั้นอย่าว่าแต่มึงเลย แม้แต่เมืองตงไห่ก็รับมือไม่ไหว มึงเชื่อไหมล่ะ?”

ฉินจุนยิ้มบาง ๆ “ไม่เชื่อ”

พูดจบฉินจุนก็เดินเข้าไปบีบคอของยวี่ฟานหนิง ลงแรงไปที่นิ้วทั้งห้า แกร็ก เสียงกระดูกแตก คอของยวี่ฟานหนิงถูกฉินจุนบีบจนหักคามือ ตายคาที่ทันที

ทันใดนั้นผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็ตะลึงตาค้างทันที!

การตัดสินใจของฉินจุนเกินความคาดหมายจริงๆ และแม้แต่นายพลระดับ 5 ดาวอย่างหวังจินไห่ก็ไม่สามารถแสดงท่าทีแข็งกร้าวเหมือนฉินจุนได้ขนาดนี้!

นั่นมันคุณชายยวี่จากตระกูลยวี่แห่งปักกิ่งเชียวนะ บอกจะฆ่าก็ฆ่าเลยเหรอ!

นี่มันโหดเหี้ยมเกินไปแล้ว!

หวังจินไห่ตั้งตัวได้ก็รีบออกคำสั่งทันที

“ปิดสถานที่ก่อน ไปส่งแขกด้านนอกออกไปให้หมด อย่าให้ใครมาเข้าใกล้สถานที่เกิดเหตุเด็ดขาด เร็วเข้า!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset