ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 314 มือซ้ายมือขวา

นับตั้งแต่ที่ฉินจุนฆ่าจินเสอตาย ชีวิตของต้วนเป่าตงและเพ่ยเหลียงก็ราบรื่นไม่มีติดขัด แทบจะไม่มีเรื่องเดือดร้อนใด ๆ อำนาจของทั้งสองคนก็ยิ่งกว้างขวางขึ้นเรื่อง ๆ ตอนนี้มันเริ่มเกี่ยวข้องกับเมืองหลวงแล้ว

ในเมืองหลวงมีสองถิ่นใหญ่คือ ของต้วนเป่าตงและเพ่ยเหลียง

ตามหลักการแล้ว เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับฉินจุน ยิ่งคนรู้น้อยก็ยิ่งดี อีกอย่างต้วนเป่าตงกับเพ่ยเหลียงก็อาจจะไม่รู้เรื่องนี้

เพราะฉะนั้นถ้าหากส่งคนไปทำอะไรบางอย่าง ปล่อยข่าวว่าถิ่นของต้วนเป่าตงและเพ่ยเหลียงถูกทำลาย พวกเขาก็ต้องไปดูที่เมืองหลวง

เมื่อเป็นแบบนี้ เราก็สามารถจัดการมือซ้ายมือขวาของฉินจุนได้แล้ว

ซูจินเลี่ยรีบติดต่อคุณชายใหญ่แห่งตระกูลหัว หัวเฉิง

คุณชายทั้งสองคนเริ่มวางแผนกัน โดยเลือกลงมือในเวลากลางคืนเพราะจะได้ถ่วงเวลาได้นานขึ้นเพราะคนจะไม่ทันตั้งตัว

……

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ในกลางดึกขณะที่ต้วนเป่าตงกำลังนอนหลับ จู่ ๆ หลงอี้ฮุยก็มาเคาะประตูห้องของเขา

“พี่ตง!เกิดเรื่องแล้ว!”

ต้วนเป่าตงรีบลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

“เกิดอะไรขึ้น!”

“พี่ตง บาร์ที่เมืองหลวง ถูกคงทำลาย”

ต้วนเป่าตงขมวดคิ้วเข้าหากัน “ใครมันกล้าดีขึ้นขนาดนี้!”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ ให้ผมไปดูไหม?”

ต้วนเป่าตงครุ่นคิด “เมืองหลวงไม่เหมือนกับตงไห่ พวกเราไม่คุ้นเคยกับที่นั่น เรียกพวกของเรามา ฉันจะไปด้วย”

อีกด้านหนึ่ง เพ่ยเหลียงกำลังเคล้านารีอย่างชื่นใจ พอรับโทรศัพท์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

“ร้านคาราโอเกะที่เมืองหลวงโดนคนล้อมงั้นเหรอ?พวกมันไม่รู้หรือไงว่าที่นั่นเป็นถิ่นของเพ่ยเหลียง!”

ลูกน้องที่อยู่ปลายสายก็เอ่ย, “ลูกพี่เพ่ยครับ พวกมันบอกว่า ถิ่นของเพ่ยเหลียงต้องพังทลาย!”

“ฉิบหาย?แม่งรนหาที่ตาย เรียกคนของเรามา!”

เพ่ยเหลียงโมโหอย่างสุด ๆ เวลาทำการอะไรก็ใจร้อนกว่าต้วนเป่าตง เขาเรียกลูกน้อง มุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงทันที

เมื่อจัดการมือซ้ายมือขวาของฉินจุนได้แล้ว ในระดับโลกก็เกิดความปั่นป่วนขึ้น

เหอเนี่ยนอิงในขณะนี้ จนกลางดึกแล้วเธอก็ยังนอนไม่หลับ เซี๋ยต้าหลินที่อยู่ด้านข้างก็ค่อนข้างเป็นกังวล

“แม่ครับ ดึกขนาดนี้แล้ว ไปนอนก่อนไหม?”

เหอเนี่ยนอิงยังคงขมวดคิ้วมุ่น “แบบนี้แม่จะนอนหลับได้ยังไง ฝั่งทางอิรักไปกินยาอะไรผิดมา ทำไมจู่ ๆ ถึงมุ่งเป้ามาที่เรา?”

ราคาหุ้นของบริษัทอสังหาริมทรัพย์เหอกรุปตกต่ำอย่างรุนแรง ธุรกิจส่งออกทั้งหมดถูกสกัดกั้น แม้ว่าตลาดในประเทศจะแข็งแกร่งมากอยู่แล้ว แต่ว่าเหอเนี่ยนอิงก็ลงทุนจำนวนมากในตลาดต่างประเทศ ตอนนี้มาถูกมหาเศรษฐีน้ำมันประเทศอิรักมุ่งเป้า ก็ทำให้เธอลำบาก

เหอเนี่ยนอิงโทรศัพท์ไปหาเมิ่งเหวินกัง

“เหวินกัง ฝั่งนายสถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

เมิ่งเหวินกังถอนหายใจ “อย่าพูดเลย ธุรกิจส่งออกของฉันทั้งหมดถูกสกัดกั้น เธอก็รู้ธุรกิจส่งออกของเรามีเพียงครึ่งเดียว มันต้องการมุ่งเป้ามาที่ฉัน”

เหอเนี่ยนอิงขมวดคิ้ว “ไม่ใช่แค่นายนะ ยังมีฉันด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าฝีมือใครทำเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เอาแบบนี้ นายไปปักกิ่งกับฉัน พวกเราไปขอให้ศิษย์พี่ลำดับที่สอง สอบถามพวกคนรู้จักดู ว่าไปทำให้ใครไม่พอใจเข้า”

“โอเค ฉันก็คิดแบบนั้น”

“อีกเดี๋ยวฉันจะส่งคนไปรับนาย นั่งเครื่องบินส่วนตัวของฉันไปแล้วกัน”

ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงทั้งสองก็ออกเดินทางทันที

ในขณะเดียวกัน ซุนเจี้ยนหมินก็ได้รับข้อความว่าให้ไปประชุมในเมือง ครั้งนี้ตระกูลซูและตระกูลหัวลงทุนลงแรงมาก คอนเนกชั่นทั้งหมดของฉินจุนถูกจับแยกออกภายในช่วงเวลานี้ทั้งหมด

เวลาตีสาม ขณะที่ทุกคนกำลังนอนหลับ ตระกูลซูและตระกูลหัวก็เตรียมลงมือ

ซูจินเลี่ยและหัวเฉิงพานักเลงกว่ายี่สิบคน ค่อย ๆ มุ่งหน้าไปที่คฤหาสน์ชิงเหมย

เหล่านักเลงพวกนี้ต่างเป็นมือฉมังทั้งนั้น ถูกชุบเลี้ยงโดยตระกูลซูและตระกูลหัว เกือบทั้งหมดเป็นทหารจากเมืองนอก มีความสามารถอย่างเต็มเปี่ยม

บอดี้การ์ดที่อยู่ในคฤหาสน์ชิงเหมยของฉินจุนนั้น ก็เป็นแค่คนธรรมดา จริง ๆ แล้ววงการบอดี้การ์ดเองก็ไม่ได้ใหญ่อะไรมาก มีการพูดถึงกันในแวดวงบอดี้การ์ดด้วยกันมาก่อน

พวกเขาสามารถบอกได้ว่าพวกเขาอยู่ในระดับใดแทบจะในทันที

เดิมทีฉินจุนไม่ได้ต้องการบอดี้การ์ดแต่อย่างใด ที่อยู่ในสวนนั้นล้วนแต่เป็นเพราะเหอเนี่ยนอิงจัดหามาให้ เพื่อรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์

ซูจินเลี่ยและหัวเฉิงกำลังจะเริ่มมือ พวกเขาขับรถมาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะจอดรถไว้ที่ที่เชิงเขาชิงเหมย เดินต่อมาระยะทางกว่าห้ากิโลเมตร

ฉินจุนในขณะนี้เหมือนกับมีลางสังหรณ์อะไรบางอย่าง จู่ ๆ ก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาทันที

อาฉินคนรองรีบเอ่ยถาม “เสี่ยวจุนฟื้นแล้วเหรอ ไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

ฉินจุนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ถึงแม้ว่าจะยังอ่อนแอมาก แต่ว่าก็สามารถพูดได้แล้ว เขาพยายามฝืนตัวลุกขึ้นยืนเดิน

“อารองไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วครับ เรื่องที่ผมได้รับบาดเจ็บ นอกจากคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ก็ไม่มีใครรู้แล้วใช่ไหมครับ ?”

ฉินเฟยหยูเอ่ย “หลานวางใจได้ มีแต่คนของเราเองทั้งนั้น คนนอกที่มาก็มีแต่จู้หมิงเท่านั้นที่มา”

ฉินจุนขมวดคิ้ว “จู้หมิง?เขาเห็นสภาพของผมแล้ว?”

ฉินเฟยหยูพยักหน้า “ใช่แล้ว จู้หมิงเข้ามาไม่ทันระวัง แต่ว่าอาบอกเขาไปว่าเป็นเพราะหลานรักษาอาเลยหมดแรง ไม่ได้เป็นอะไร”

ฉินจุนส่ายหน้า “อารองครับ อาไม่ได้คลุกคลีกับคนพวกนี้ ตอนนี้ตระกูลจู้ไม่เหมือนกับตระกูลเล็ก ๆ ที่ติดตามเราเมื่อสิบปีที่แล้วแล้วครับ ไอ้จู้หมิงมันเจ้าเล่ห์ มันคงดีใจที่จะได้กำจัดผม”

“ไม่ได้การแล้ว ผมต้องจัดการ”

พูดจบ ฉินจุนก็เริ่มโทรศัพท์ สายแรกเขาโทรศัพท์ไปหาต้วนเป่าตง หนึ่งนาทีแล้วยังไม่มีคนรับ จนมันตัดสายเองอัตโนมัติ

สายที่สองเขาโทรศัพท์ไปหาเพ่ยเหลียง โทรติดแต่ก็ไม่มีคนรับเหมือนกัน

สายที่สามเขาโทรศัพท์ไปหาเมิ่งเหวินกัง เมิ่งเหวินกังปิดโทรศัพท์

ฉินจุนไม่ต้องพิสูจน์อีกต่อไปแล้ว โทรไม่ติดทั้งสามคนแบบนี้ ดูแล้วต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ

โดยเฉพาะเมิ่งเหวินกัง นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเขา ปกติแล้วเปิดเครื่องตลอด 24 ชั่วโมง ถ้าเขาปิดโทรศัพท์มันมีกรณีพิเศษอยู่แค่ไม่กี่อย่าง ถ้าไม่นั่งเครื่องบิน ก็ถูกคนจับตัวไป ไม่ว่าจะแบบไหน ก็แสดงว่ามีปัญหาทั้งนั้น

สำหรับจู้หมิงแล้ว ฉินจุนก็ค่อนข้างรู้จักนิสัยดี ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มีความสามารถที่จะกำจัดมือซ้ายมือขวาของฉินจุนได้ในระยะเวลาอันสั้นแบบนี้ได้ แต่เขาสามารถคาบข่าวไปบอกคนอื่นได้

ฉินจุนคิดดูแล้ว “ผมว่าตระกูลซูกับตระกูลหัวอดใจไม่ไหวจนต้องลงมือแน่ ๆ อารองครับ เราจะช้ากว่านี้ไม่ได้แล้ว พวกอารีบหนีเร็ว!”

ฉินเฟยหยูเองก็เป็นคนฉลาดมากพอ พอฉินจุนพูดแบบนี้ เขาก็เข้าใจทันที รีบออกคำสั่ง

“เสี่ยวหยาน คุณพาทุกคนลงจากภูเขาและหาโรงแรมเล็กๆ เปิดห้องไม่กี่ห้องแล้วซ่อนตัวอยู่ที่นั่น จำไว้ว่าให้มองหาโรงแรมที่ไม่ได้รับไม่มีกล้องวงจรปิดและไม่ต้องลงทะเบียนบัตรประชาชน ถ้าพวกเขาไม่ยอมก็ยัดเงินซะ แพงเท่าไหร่ไม่สำคัญ!”

ฉินจุนพยักหน้า “แม่บ้าน แม่นม บอดี้การ์ดทั้งหมดรีบไปซ่อนตัวให้หมด ถ้ากลับบ้านเกิดได้ก็กลับ ถ้ากลับไม่ได้ต้องออกนอกเมืองก็รีบไปตั้งแต่ตอนนี้เลย”

แม้ว่าคนเหล่านี้ไม่ได้เป็นญาติหรือคนสนิทของฉินจุน แต่หากถูกจับตัวไป พวกเขาจะถูกทรมานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อไม่ให้ซวยไปด้วย ฉินจุนจึงสั่งการอย่างรอบคอบ

ฉินจุนส่งข้อความวีแชทไปหา เย่หวันเอ๋อ ข่งฝานหลิน และคนอื่น ๆ เพราะถ้าโทรหาทีละคนมันจะไม่ทันการณ์ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่กับฉินจุน น่าจะปลอดภัยดี ขอแค่ช่วงนี้ไม่ออกไปไหนก็พอแล้ว

พอทุกคนออกไปกันหมด ฉินจุนก็เอ่ย

“อารองครับ พวกเราแยกกันไปดีกว่า”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset