ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 350 ไม่ใช่การป่วยทางจิต

หลายปีก่อนเคยมีรายงานข่าวว่าชายหนุ่มอายุไม่ถึง 20 ปี มีอาการคลุ้มคลั่งที่บ้าน ไล่เอามีดแทงคน พลั้งมือแทงแม่ตัวเองจนตาย และแทงตาพ่อจนทำให้พ่อตาบอดข้างหนึ่ง

ในตอนนั้นเรื่องนี้ได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง ต่อมาชายหนุ่มถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจิตเวชและไม่นานมานี้เพิ่งอาการดีขึ้น

ทุกคนตกใจทันที

เกิดอะไรขึ้น ทำไมถึงให้ผู้ป่วยทางจิตมาที่นี่?

ถ้าเกิดเขามาไล่แทงคนที่นี่จะทำยังไง?

ผู้ชมข้างล่างเวทีเริ่มตื่นตระหนกแล้ว และทำให้เกิดความโกลาหลเล็กน้อย

พ่อของซูเหรินหลงรีบพูดขึ้น “ทุกคนอย่าตกใจครับ ลูกชายผมไม่ได้ป่วยทางจิต เขาเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลจิตเวชมาหนึ่งปีแล้ว แต่ไม่ว่าจะตรวจยังไงก็ไม่พบปัญหา”

ทุกคนขมวดคิ้ว “ถ้าไม่มีปัญหาทำไมแทงแม่จนตาย นี่ไม่ใช่ฆาตกรเหรอ?”

“ใช่ ฆาตกร!”

ผู้ชมที่อยู่ข้างล่างตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ไม่ได้ป่วยทางจิตแต่แทงคนในครอบครัวจนตายได้ ใครจะเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ?

ทันทีที่ผู้ป่วยคนนี้ออกมา ก็เริ่มควบคุมสถานการณ์ไม่ได้แล้ว โปรดิวเซอร์หลายคนกังวล พวกเขารีบเรียกตำรวจติดอาวุธและหน่วยรักษาความปลอดภัยเพื่อเข้าควบคุมสถานการณ์ ห้ามให้มีความรุนแรงเกิดขึ้นเด็ดขาด

“ผู้กำกับเอายังไงดีครับ เราควรหยุดไหม?”

“อย่าเพิ่งกังวล” ผู้กำกับเกานิ่งมาก “รอให้ศาสตราจารย์ฉินจัดการ”

ใบหน้าของพ่อซูเหรินหลงเต็มไปด้วยน้ำตา “ไม่ใช่แบบนี้ๆ ลูกชายของฉันป่วย เขาป่วยจริงๆ!”

ฉินจุนลุกขึ้นยืนทันที และเดินไปหาเขา สีหน้าของข่งฝานหลินที่อยู่ด้านหลังก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“คุณฉินระวังนะครับ!”

ฉินจุนพยักหน้า แต่ไม่ได้สนใจ

อย่าว่าแต่ผู้ป่วยเลย แม้แต่ทหารหน่วยรบพิเศษก็ไม่สามารถทำร้ายฉินจุนได้

“ตรวจชีพจรก่อน”

อารมณ์ของซูเหรินหลงนี้ค่อนข้างคงที่ มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน ไม่เหมือนคนที่มีอาการป่วยทางจิตจริงๆ

“ถอดกุญแจมือออกเถอะ”

ซูเหรินหลงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “คุณครับ ผมกลัวว่าถ้าผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้ผมจะทำร้ายคุณนะครับ”

ฉินจุนพูด “ไม่ต้องกังวลหรอก คุณไม่สามารถทำร้ายผมได้”

ซูเหรินหลงลังเลอยู่นาน จากนั้นก็พยักหน้า และขอให้พ่อของเขานำกุญแจออกมาไขกุญแจมือให้เขา

ฉินจุนตรวจชีพจรของเขา จากนั้นไม่กี่นาทีต่อมาคิ้วของเขาก็ขมวดแน่นขึ้น

โรคนี้หายากมาก

“ปวดหูหรือเปล่า?”

ซูเหรินหลงพยักหน้า “ปวดครับ ปวดจนผมนอนไม่หลับเลย”

ฉินจุนบีบที่หลังใบหูของเขา ซูเหรินหลงก็รู้สึกปวดจนต้องเม้มปากทันที หลังหูของเขาบวม และเห็นว่าเหงือกของเขาก็แดงด้วย

“นอกจากหู ใต้วงแขน เอว หัวเข่า ฝ่าเท้า และต้นขาด้านนอก ปวดหรือเปล่า?”

ซูเหรินหลงประหลาดใจเล็กน้อย

“ใช่ครับหมอ ที่คุณพูดมาผมปวดหมดเลย”

ผู้ชมต่างก็มองหน้ากัน นี่คือความเจ็บปวดทั่วร่างกายนี่ ชายหนุ่มอายุยังน้อยแต่กลับต้องมาพบเจอความเจ็บปวดอย่างนี้

ฉินจุนพูด “อาการของคุณไม่ใช่อาการป่วยทางจิตจริงๆ”

“คุณเป็นโรคถุงน้ำดี”

“ภาวะหดหู่หลังจากความร้อนในร่างกายกลายเป็นไอ เมื่อปล่อยไว้นานไม่รักษา ทำให้ไปทำลายตับและถุงน้ำดี การเจ็บป่วยประเภทนี้เมื่อถึงขีดสุดก็จะทำให้รู้สึกไม่สบายทั่วทั้งตัว”

“ถุงน้ำดีในร่างกายจะเชื่อมต่อกันทั้งสิบสองจุด ความสำคัญของมันก็ชัดเจนอยู่แล้ว เมื่อทั้งสิบสองจุดไม่สามารถระบายของเสียออกมาได้ ไฟที่ค้างอยู่ในตับทำให้เกิดอารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย ไม่สามารถควบคุมสติ และสูญเสียการรับรู้ไปได้”

“ดังนั้นตอนคุณอยู่ในโรงพยาบาลจิตเวชจึงตรวจไม่พบโรคใดๆ คุณเป็นโรคถุงน้ำดี”

ผู้ชมต่างก็อึ้งกับสิ่งที่ฉินจุนพูด และผู้เชี่ยวชาญต่างก็ตั้งใจฟังกันอย่างสนอกสนใจ ที่จริงโรคนี้พบได้ยากมากในศตวรรษนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอในรายการนี้

ขณะที่ฉินจุนกำลังทำการตรวจชีพจรนั้น จู่ๆ ซูเหรินหลงก็รู้สึกหายใจไม่ออกเล็กน้อย เริ่มอ้าปากเพื่อหายใจ ใบหน้าของเขาแดงก่ำ

สีหน้าของพ่อซูเหรินหลงเปลี่ยนไปอย่างมาก “แย่แล้ว รีบใส่กุญแจมือเขา!”

พ่อของซูเหรินหลงเพิ่งพูดว่าให้ใส่กุญแจมือเขา แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ซูเหรินหลงสติหลุดในทันที ราวกับเป็นบ้าไปแล้ว

ตอนแรกซูเหรินหลงยังดีๆ อยู่เลย เพราะว่าเขาหายใจเข้าไม่ได้ รู้สึกแน่นหน้าอกขึ้นมา จากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนร่างกายของเขากำลังจะระเบิด เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ และยืนขึ้นทันที!

แม้ว่าเขาจะเสียสติไป แต่การตัดสินใจขั้นพื้นฐานของซูเหรินหลงก็ยังมีอยู่ เมื่อเห็นฉินจุนก็รู้ว่าเป็นผู้ชายเป็นคนที่รับมือได้ด้วยยาก ดังนั้นเขาจึงเปลี่ยนเป้าหมาย ไปคว้าเสี่ยวหลานที่อยู่ข้างๆ เขา

ทุกคนตกใจจนหน้าถอดสี คิดไม่ถึงว่าผู้ป่วยรายนี้จะแปลกจนถึงขั้นสูญเสียการควบคุมตรงนี้

เมื่อดูจากท่าทางของเขาแล้ว มันไม่เหมือนกับอาการทางจิตเลยจริงๆ แต่มันอันตรายกว่าอาการป่วยทางจิตมาก

แม้ว่าจะป่วยทางจิตก็จะไม่ฉุนเฉียวง่าย และในหัวเต็มไปด้วยความรุนแรงอย่างนี้

เสี่ยวหลานก็หน้าซีดเช่นกัน เธออยู่ใกล้กับผู้ป่วยมาก และเธอก็ไม่ได้เตรียมตัวป้องกันอะไรเลย เธอก้าวถอยหลังด้วยรองเท้าส้นสูงสองสามก้าว แล้วจึงเอนหลังลงไปทันที

ฉินจุนก้าวไปข้างหน้าและดันเอวของเสี่ยวหลานไว้ และกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขา และในขณะเดียวกันซูเหรินหลงก็รีบพุ่งเข้ามา ฉินจุนก็คว้าข้อมือของเขาไว้และใช้แรงเล็กน้อย

ซูเหรินหลงปวดข้อมือจนคุกเข่าลงบนพื้น ฉินจุนรีบดันมือซ้ายของเขาให้เสี่ยวหลานยืนได้อย่างมั่นคง

หลังจากนั้นฉินจุนก็เหยียดนิ้วสองนิ้วของเขาออก และจิ้มไปที่กึ่งกลางหน้าอกของซูเหรินหลงซึ่งเป็นจุดฝังเข็มถานจง!

“จี้จุด!”

ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสหลายคนอุทานออกมาทันที คิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะจี้จุดฝังเข็มได้ด้วย!

การจี้จุดเป็นวิชาความรู้ขั้นสูง เช่นเดียวกับการฝังเข็ม เป็นวิชาระดับเดียวกัน แต่ด้วยเทคนิคและจุดแข็งที่แตกต่างกันจึงให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

การเรียนจุดฝังเข็มถานจงนี้ เป็นจุดฝังเข็มขนาดใหญ่ของร่างกายมนุษย์ ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์กลางการคมนาคมของทั้งร่างกาย ซึ่งสำคัญมาก

มักจะมีนิยายศิลปะการต่อสู้ที่เขียนบอกว่าถ้าจี้ที่จุดถานจงนี้จะทำให้ตายได้ จริงๆมันก็ไม่ใช่เรื่องเกินจริงอะไร หากใช้พลังมาก จุดฝังเข็มถานจงก็อาจทำให้ถึงตายได้

แต่อย่างไรก็ตามพลังของฉินจุนนั้นแม่นยำมาก หลังจากการกระตุ้นนี้ ซูเหรินหลงก็หายใจออกมา และเริ่มอ้าปากหายใจเข้าออก ราวกับว่าลมหายใจที่ถูกกักไว้นานในที่สุดก็สามารถหายใจได้สะดวกเสียที

จากนั้นฉินจุนให้ซูเหรินหลงนอนราบกับพื้น ตอนนี้เขาไม่ได้ดิ้นแล้ว เขาปลดกระดุมเสื้อของเขาออก และหยิบเข็มเงินออกมา เข็มเงินสองอันถูกปักเข้าไปที่หน้าอกด้านซ้ายและด้านขวา ปักไปที่ไฟความร้อนในตับและถุงน้ำดีของเขา

ในมือเขามีเข็มเงินแปดเล่ม แล้วแทงไปที่รอบสะดือของเขาจนเป็นรูปยันต์แปดทิศ

“ยันต์แปดทิศปิดสะดือ!”

ผู้อาวุโสเหยียนตบต้นขาของเขา และผู้เชี่ยวชาญอาวุโสทุกคนต่างก็ยืนขึ้น ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

คิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะยังได้เห็นวิธีการฝังเข็มขั้นสูงยันต์แปดทิศปิดสะดือ ไม่เสียชาติเกิดเลยจริงๆ !

หลังจากฝังลงไปหลายเข็ม ซูเหรินหลงก็ลงไปนอนสงบนิ่งทันที หลับตา ขบฟันแน่น และท่าทางดูเจ็บปวดมาก

ฉินจุนเริ่มนวดบริเวณคอของเขา จากนั้นมือของฉินจุนก็ไล่ไปเรื่อยๆ รอยแดงปรากฏขึ้นบนร่างกายของเขา ตั้งแต่คอลงไปที่หน้าอก ไปจนถึงกระเพาะ และลามไปจนถึงท้อง

เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงสะดือ โรคที่ซ่อนเร้นด้วยรอยสีแดงก็หายไปทันที

สะดือคือเป็นเป็นรากฐานแห่งชีวิต ในครรภ์ก็อาศัยสะดือสำหรับการรับสารอาหารต่างๆ ดังนั้นจะต้องปกป้องส่วนนี้อย่างดี

ฉินจุนปิดผนึกรูขนาดใหญ่แปดรูรอบๆ สะดือ เพื่อให้ไฟลุกลามไปรอบๆตรงนี้ ไม่ให้เข้าไปในบริเวณสะดือ ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงชีวิต

รอยแดงค่อยๆ หายไป และมีรอยบางๆ ปรากฏขึ้นที่ท้อง

หลังจากนั้นฉินจุนก็หยิบไม้ไผ่ชิ้นเล็กๆ ออกมาซึ่งสิ่งนี้คือแผ่นใช้สำหรับขูดไล่ความร้อน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset