ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 365 แกจ่ายค่าเหล้าเองนะ

ทุกคนอึ้งไปครู่หนึ่ง มันดูเหมือนว่าที่เค้าพูดมามันจะเป็นเรื่องจริง

“แต่เมื่อกี้พนักงานเสิร์ฟพูดมาแล้วไม่ใช่เหรอ หรือว่ามันจะเป็นโปรโมชั่น?”

ยวี่เฉียงก็ถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา “โปรโมชั่น? นายคิดว่าเป็นไปได้อย่างงั้นเหรอ? ฉันมักจะจองร้านนี้ มันต้องจองล่วงหน้ากว่าสิบวัน มันจะไปมีโปรโมชั่นอะไรได้ยังไงกัน?”

ทุกคนนิ่งเงียบราวกับว่าพวกเค้ากำลังครุ่นคิด แม้ว่าจะโปรโมชั่น แต่มันก็เป็นไปไม่ได้เลยกับการที่พวกเค้าจะแถมเหล้าสาเกชั้นดีขนาดนี้

“ประธานยวี่ งั้นนี่มันอะไรกัน?”

ยวี่เฉียงคิดอยู่ซักพักแล้วเค้าก็พูดขึ้นมาว่า

“สงสัยจะส่งมาผิด”

“ส่งผิด?”

“ใช่! บางทีพวกเค้าอาจจะคิดว่าพวกเราเป็นเพื่อนเจ้าของร้านหรือแขก VIP คนอื่น ๆ ก็เลยส่งสาเกราคาแพงมาเป็นของกำนัลให้กับเรา อย่าเปิดมันหละกัน ถ้ามีเรื่องผิดพลาดอะไร ในตอนท้ายพวกเค้าก็จะกลายเป็นคนที่ต้องเสียเงินเอง”

เมื่อยวี่เฉียงพูดออกมาแบบนี้ ทุกคนไม่เปิดมันเลย นี่คือสาเกราคาห้าหมื่นหยวนต่อขวด พวกเค้าต้องเสียค่าอาหารกว่า 888 หยวน นี่มันก็ฟุ่มเฟือยมากพอแล้ว ถ้าต้องมาเสียค่าสาเกอีกกว่าห้าหมื่นหยวนนี่มันก็มากเกินไป

แม้แต่ยวี่เฉียงเองก็ยังไม่กล้าจ่ายเงินกับความฟุ่งเฟือยแบบนี้เลย ดังนั้นพวกเค้าจึงทำได้แค่มองดูเท่านั้น

หลังจากสิ่งนี้ ความเหนือกว่าของคนเหล่านี้ก็หายไปในทันที

ที่เด็ดกว่าก็คือบริกรส่งสาเกผิดมาและพวกเค้าก็ไม่กล้าดื่มเพราะกลัวว่าสุดท้ายจะต้องจ่ายตังค์ เรื่องแบบนี้มันไม่ง่ายเลยสำหรับพวกเค้า

ห้าหมื่นกว่าหยวนนี่ มันเป็นรายได้กว่าครึ่งปีหรือปีนึงของพวกเค้าเลย

ฉินจุนกับเหรินลู่คุยกันอย่างมีความสุขและไม่สนใจว่าพวกเค้ากำลังพูดอะไรกันอยู่ ฉินจุนเปิดขวดสาเกแล้วเทให้กับเหรินลู่

การที่จะดื่มเหล้าเมื่อพบเจอเพื่อนนี่มันก็เป็นเรื่องปกติ

เมื่อเห็นฉินจินกำลังดื่มสาเก ยวี่เหลียงกับคนอื่นๆต่างก็ตกตะลึงในทันที

“แก… ฉินจุน! แกทำอะไรของแกหนะ!”

ฉินจุนขมวดคิ้วขึ้นมา “มีอะไร?”

ยวี่เหลียงก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา “สาเกนี้มันไม่รวมอยู่ในบุฟเฟ่ต์!”

ฉินจุนรู้สึกหัวเสียเล็กน้อย “ฉันเห็นแล้ว ฉันจะจ่ายเอง นายไม่ต้องมาจ่ายให้ฉันหรอก”

“แก……”

หลังจากพูดจบแล้ว ฉินจุนก็ยังคงดื่มกับเหรินลู่ต่อ

สีหน้าของยวี่เฉียงก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้า นี่มันบ้าไปแล้วจริงๆ! ขวดละห้าหมื่นหยวน งั้นเดี๋ยวมาดูกันว่ามันจะจบยังไง!

ทุกคนกำลังรับประทานอาหารและพูดคุยกัน แต่บรรยากาศไม่สดใสเหมือนก่อนหน้านี้ พวกเค้าต่างเป็นกังวล

อาหารบนโต๊ะมันไม่ได้มีรสจืด แต่ฉินจุนกับเหรินลู่ก็คุยกันอย่างมีความสุขมาก

หลังจากที่กินจนอิ่มแล้ว ยวี่เฉียงก็ออกไปก่อนและเค้าก็พูดกับทุกคนขึ้นมาว่า

“ทุกคนหารกันจ่าย เดี๋ยวก็จ่ายกันเองนะ”

หลังจากนั้น ยวี่เฉียงก็รีบออกไปตรวจสอบบิลแล้วจ่ายเงินให้ตัวเองกับอ้ายหลิงก่อน

พนักงานเสิร์ฟผงะ “คุณครับ ไม่ได้มาด้วยกันอย่างงั้นเหรอครับ?”

ยวี่เฉียงก็รีบพูดขึ้นมาว่า “ไม่ ไม่ พวกมเราแยกกันจ่าย เราจะจ่ายของเราเอง นายรีบคิดเงินก็แล้วกัน”

ยวีเฉียงกลัวว่าเงินในส่วนของฉินจุนกับเหรินลู่จะถูกนับรวมเข้ากับตัวเอง

พนักงานเสิร์ฟทำหน้างง “ได้ครับ”

ในใจของเค้าก็สงสัย มากินข้าวเย็นกับคุณฉิน แต่ต้องมาหารกันจ่าย คนพวกนี้นี่เค้าบ้ากันไปแล้วเหรอ?

แต่ละคนต่างก็จ่ายเงิน พวกเค้าต่างก็ไม่สนใจฉินจุนกับเหรินลู่แล้วลุกขึ้นมาจ่ายเงินกันทีละคน

เมื่อไปถึงที่เคาวน์เตอร์ พนักงานก็พูดขึ้นมาว่า

“คุณครับ ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ นี่คือร้านของคุณชายเซี๋ย”

ฉินจุนผงะไปครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า ปรากฏว่ามันเป็นร้านของเซี๋ยต้าหลิน

เงินจำนวนเล็กน้อยพวกนี้ ฉินจุนไม่สนใจมันเลย เค้าเพียงแค่หันหลังกลับและจากไป

ยวี่เฉียงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาแล้วพูดว่า

“พนักงาน พวกเค้าเปิดสาเกไปสองขวด พวกเธอลองไปตรวจดูสิ”

ยวี่เฉียงไม่พอใจ แน่นอนว่าเค้ากลัวว่าตัวเองจะต้องเสียหน้า มื้อนี้เค้าเป็นคนจัดมันขึ้นมา ถ้ามีอะไรผิดพลาดแล้วหาตัวฉินจุนไม่เจอ ที่ร้านก็จะต้องไปเอาเรื่องกับตัวเอง นี่มันก็จะได้ไม่คุ้มเสีย

เมื่อพนักงานต้อนรับได้ยินแบบนั้น เธอก็ตกใจและพูดว่า

“คุณครับ สาเกพวกนั้นถูกส่งไปเป็นของกำนัล พนักงานเสิร์ฟไม่ได้บอกเหรอครับ?”

ยวี่เฉียงขมวดคิ้วและพูดเพื่อยืนยันขึ้นมาอีกครั้ง “บอกแล้ว แต่ทำไมคุณถึงส่งมันมาให้พวกเรา มันมีอะไรผิดพลาดหรือเปล่า”

พนักงานเสิร์ฟยิ้มขึ้นมา “ไม่ค่ะ มันเป็นของกำนัลสำหรับคุณจริงๆ จ่ายเงินค่ะ”

มันต้องบอกเลยว่าพวกเพื่อนนักเรียนต่างก็เสียใจ

พระเจ้า นี่มันถูกส่งมาเป็นของกำนัลจริงๆ!

สาเกราคาขวดละกว่าห้าหมื่นหยวน!

พวกเค้าพลาดมาก ถ้าหากว่าพวกเค้ารู้ว่ามันเป็นของกำนัล พวกเค้าก็จะต้องดื่มมันอย่างแน่นอน

ถ้าไม่ใช่เพราะว่าสาเกนี่มันราคาแพงมาก พวกเค้าก็คงจะดื่มมัน ท้ายที่สุดแล้วชีวิตนี้พวกเค้าต่างก็ไม่รู้เลยว่าจะมีโอกาสได้ดื่มมันไหม พวกเค้าทั้งหมดต้องพลาดโอกาสนี้เพียงเพราะคำพูดของยวี่เฉียง

พวกเค้าต่างก็รู้สึกว่าประธานยวี่นี่ไม่เคยออกมาเจอโลกภายนอกเลย แต่คนที่ดื่มสาเกเข้าไปหลายขวดอย่างไม่กลัวอะไรเลยแบบฉินจุนกันเหรินลู่นี่ก็น่าอิจฉามากจริงๆ

สีหน้าของยวี่เฉียงก็ดูไม่ได้เลย เค้าเองก็คิดไม่ถึงเลยว่าสาเกนี่มันจะเป็นของกำนัลจริงๆ

เดิมทีเค้าก็ต้องการเลือกร้านแบบนี้เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเค้าเหนือกว่า แต่มันกลายเป็นเค้าที่ไม่เคยเจอโลกกว้าง

นี่มันก็เป็นเหตุผลให้เค้ารู้สึกเสียหน้าเป็นอย่างมาก

ยวี่เฉียงเสียหน้ามาก เค้าหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออกแล้วต้องการที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเค้ามันก็ดังขึ้นมา

“เฮ้ เถียนลู่? นางฟ้าเถียนเธอมาพอดีเลย เรากินกันเสร็จแล้ว กำลังจะไปต่อกัน”

ยวี่เฉียงก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็มีคนมาช่วยเค้าเปลี่ยนเรื่อง

“เถียนลู่? นางฟ้าเถียนมาแล้วเหรอ?”

“พระเจ้าฉันอยากขอลายเซ็นเธอ ฉันรู้จักดาราคนหนึ่ง”

“พวกแกมันแฟนคลับตัวปลอม ฉันเป็นแฟนคลับตัวจริง ตอนนี้เถียนลู่เธอก็สวยมากจริงๆ”

“…”

ทันทีที่พูดถึงเถียนลู่ ทุกคนต่างก็ตื่นเต้น เรื่องของสาเกจบลงในทันที เมื่อออกไปข้างนอก พวกเค้าก็มองเห็นรถซุปเปอร์สปอร์ตจอดอยู่ที่ประตูทางเข้า

มีผู้หญฺิงคนหนึ่งที่สวมแว่นกันแดดกับหมวกและยืนพิงรถเธอซ่อนตัวได้ดีมาก เธอก็คือเถียนลู่

“พระเจ้า เทพธิดาเถียนลู่”

“การเป็นดารานี่มันต่างกันจริงๆ นี่มันรถอะไรเหรอ? มันราคาหลายล้านใช่ไหม?”

“นายไม่รู้หละสิ นี่มันรถบูกัตติ ราคาหลายสิบล้าน!”

“โอ้ พระเจ้า รถหลายสิบล้านคัน แค่คิดฉันก็ไม่กล้าแล้ว”

“นางฟ้าเถียน เธอมีรายได้สูงมากขนาดนั้นเลยเหรอ?”

“…”

ทุกคนล้วนต้องการที่จะประจบเถียนลู่ เธอเป็นเพียงนักร้องตัวเล็กๆ แม้ว่าเธอจะอยู่ในวงการบันเทิง แต่รายได้ของเธอก็สูงกว่าคนทั่วไปแน่นอน มันสูงมากพอที่จะซื้อรถสปอร์ทคันละหลายล้านได้เลย

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เถียนลู่ก็เป็นนักร้องและเธอสวยมาก เธอมีโอกาสได้ติดต่อกับคนใหญ่คนโตและคนรวยอยู่บ่อยครั้ง

ทุกคนทักทายเถียนลู่ด้วยรอยยิ้มและกระตือรือร้นมาก เถียนลู่ถอดแว่นกันแดดออกแล้วมองไปที่พวกเค้า อันที่จริงเธอก็อยู่ห่างไปจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนเล็กน้อย เธอเองก็รู้สึกเสมอว่าสถานะของเธอมันค่อนข้างที่จะแตกต่างออกไป

ท่ามกลางผู้คน เถียนลู่มองเห็นฉินจุนได้อย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

ย้อนกลับไปในตอนนั้น เธอล้มเหลวในการตามจีบฉินจุนและมันก็กลายเป็นเรื่องตลก เหตุการณ์ในครั้งนั้นมันเป็นเพียงบาดแผลในชีวิตของเถียนลู่ ในตอนนี้เมื่อเธอได้เจอกับฉินจุนอีกครั้ง ในแววตาของเธอมันก็เต็มไปด้วยการเยาะเย้ย

เธอเองก็ไม่ได้กลับมากว่าสิบปีแล้ว มันคงจะไม่มีอะไรแล้ว ถ้าเค้าดีจริง เค้าก็จงจะเป็นแบบยวี่เฉียงไปแล้ว

หากว่าไม่มีกลุ่มของยวี่เฉียง เถียนลู่เองก็ไม่อยากที่จะมางานรวมตัวนี้เลย แม้ว่ายวี่เฉียงจะไม่ใช่บอสใหญ่อะไร แต่เค้าก็เป็นคนที่ประสบความสำเร็จ ต่อไปเค้าจะต้องได้ดี

ตอนนี้เถียนลู่ก็กำลังรวบรวมรายชื่อเอาไว้ติดต่อภายหลัง แม้แต่ยวี่เฉียงเองที่มีศักยภาพพอที่พึ่งพาได้ในอนาคต เธอเองก็ไม่ยอมที่จะปล่อยผ่านเค้าไป

Comment

Options

not work with dark mode
Reset