ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 366 รถของแฟนฉัน

เถียนลู่ถอดแว่นกันแดดออก และมองที่ฉินจุน พูดด้วยรอยยิ้มว่า

“โอ้ คุณชายฉินกลับมาแล้ว เป็นยังไงบ้าง แล้วคุณมีแฟนหรือยัง?”

เถียนลู่อยู่ในวงการบันเทิงมาหลายปีแล้ว เจอเรื่องอึดอัดและน่าอายมาก็มาก สำหรับเธอจึงไม่มีอะไรที่ดูน่าอึดอัดรู้ดูน่าอายที่จะพูด เธอจึงทักทายเขาตรงๆ

ฉินจุนผงะไปครู่หนึ่งและส่ายหัว

“ยังไม่มี”

เถียนลู่ยิ้มอย่างเล็กน้อย “เมื่อก่อนถูกรายล้อมไปด้วยพวกผู้หญิง แต่ตอนนี้กลับไม่มีผู้หญิงสักคนเลย เป็นไงล่ะ ไม่รู้สึกผิดหวังบ้างเลยเหรอ?”

เมื่อเห็นชินจุนมีสีน่าที่ดูเกียจ เถียนลู่ก็มีความสุขมาก แม้ว่าเธอจะไม่พูดตรงๆและพูดประชดประชันมากนัก แต่คำพูดของเธอก็ไม่ได้มีความเกรงใจแม้แต่น้อย

แม้ว่าทั้งสองจะไม่เคยออกเดทกัน แต่ในสายตาของเถียนลู่ก็ยังถือว่า ฉินจุนเป็นอดีตแฟนหนุ่มของเธอมาโดยตลอด

ยวี่เฉียงถามว่า “ฮ่าฮ่า, คุณชายฉินคนนี้คงปรับตัวให้เข้ากับชีวิตของคนธรรมดาได้แล้ว แล้วเทพธิดาเถียนล่ะ ตอนนี้คุณมีแฟนแล้วหรือยัง?”

เถียนลู่ยิ้ม “จะว่ามีก็มี รถคันนี้เป็นของแฟนฉัน”

รถบูกัตติคอนเซปต์ที่เถียนลู่พิงอยู่นั้น มีผู้คนมากมายพูดถึงกันเป็นเวลานานและว และในที่สุดก็ได้รู้ว่าที่แท้ก็เป็นรถของแฟนหนุ่มเถียนลู่ นี่มันน่าทึ่งจริงๆ แฟนหนุ่มของเธอคงเป็นหนุ่มระดับเศรษฐีแน่ๆ!

“เทพธิดาเทียนนี่ยังสุดยอดเหมือนเดิม เมื่อไหร่ฉันจะหาแฟนที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ได้นะ?”

“ช่างเทียบไม่ได้กับเทพธิดาเถียน ร้องเพลงก็เก่งและเต้นก็ดีน่าก็ก็สวย มันเป็นเรื่องปกติที่จะหาแฟนที่ดีๆได้อย่างง่ายดาย”

“เห้อ แฟนฉันนะไม่ต้องพูดถึงรถสปอร์ตเลย แค่สกู๊ตเตอร์นี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว”

ยวี่เฉียงยังยิ้ม “รถคันนี้ราคาหลายสิบล้าน ดูเหมือนว่าแฟนของเทพธิดาเถียนจะเป็นคนที่รวยน่าดูเลยนะ”

หากคู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าเขาเพียงเล็กน้อย ยวี่เฉียงก็จะไม่ยอมแพ้และต้องเปรียบเทียบกันให้รู้เรื่องกันไป อย่างไรก็ตามเขาเองก็ขับรถหรูหราอยู่เช่นเดียวกัน

แต่นี่ คู่ต่อสู้แข็งแกร่งกว่าเขาหลายสิบเท่า และเขาก็ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันเลย ยวี่เฉียงจึงไม่คิดที่จะไปเปรียบเทียบกับเขาเลย ดังนั้นเขาจึงยอมรับมันไป

เถียนลู่ยิ้มจาง ๆ “ฉันไม่รู้ว่ามันเท่าไหร่ ยังไงก็ตาม มันก็แค่รถ ดีแค่ไหนมันก็คือรถสปอร์ตนั่นแหละ”

สิ่งที่เถียนลู่พูดนั้นค่อนข้างที่จะดูเสแสร้ง พูดทำให้ตัวเธอดูยอดเยี่ยม มันดูง่ายมาก สิ่งที่เธอต้องการแสดงให้เห็นคือ รถราคานับสิบล้านนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาเธอเลยแม้แต่น้อย

“ไปไหนกันต่อดี?”

“หา KTV ให้เราทุกคนไปร้องเพลงด้วยกัน”

เถียนลู่ตอบ “โอเคร ไหนๆก็คนก็มากขนาดนี้แล้ว งั้นเดี๋ยวฉันจะไปกับคุณ ส่วนรถคันนี้ก็ทิ้งมันไว้ที่นี่แหละ”

“เถียนลู่ ขอถ่ายรูปหน่อยเถอะ ฉันยังไม่เคยเห็นรถที่ดูดีขนาดนี้มาก่อนเลย”

“ใช่ๆๆ ฉันก็อยากถ่ายเหมือนกัน แล้วโพสต์อวดเพื่อนๆบ้าง!”

“เฮ้ ฉันก็อยากถ่ายเหมือนกัน!”

เมื่อมีคนมาขอแบบนี้ ทุกคนก็ไม่อายที่จะเรียกร้องแบบเดียวกัน รถหรูๆดูดีแบบนี้หาดูได้ยากมาก และคิดว่าคงไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นมันอีกแล้ว

เถียนลู่พูดอย่างคนใจกว้าง “เอาล่ะ พวกคุณอยากถ่ายก็ถ่ายเถอะ”

เพื่อนร่วมชั้นหญิงลุกขึ้นและเริ่มเข้าแถวเพื่อถ่ายรูป ทีละคนๆ พวกเขาตื่นเต้นมากและหลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จพวกเขาก็แห่ขอบคุณเถียนลู่กันเป็นขบวน

ฉินจุนขมวดคิ้วและมองดูอยู่เป็นเวลานานและในที่สุดเขาก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

“เอาล่ะๆ พวกคุณถ่ายรูปกันเสร็จแล้วใช่ไหม”

เถียนลู่ยิ้มเยาะเย้ย “ทำไมเหรอ หรือคุณก็อยากถ่ายด้วย? ตอนนี้พวกผู้ชายก็ชอบอวดเหมือนกันเหรอนี่?”

เถียนลู่นั้นดูท่าทีแปลก และดวงตาของเธอก็เต็มไปด้วยความรู้สึกล้อเลียน เธอคิดว่าคุณชายฉินช่างดูตกต่ำเหลือเกิน

ฉินจุนพูดอะไรไม่ออก เขาหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าแล้วกดปุ่ม

ติ๊ดๆ และไฟรถก็กระพริบขึ้น

เมื่อฉินจุนหยิบกุญแจรถออกมา ทุกคนก็ตกตะลึงกันใหญ่

ปฏิกิริยาแรกโดยสัญชาตญาณคือฉินจุนเป็นคนขับรถ

คนเฝ้าประตู?

แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ดูเหมือนว่ามีบางอย่างผิดปกติ ฉินจุนไม่ใช่คนเฝ้าประตู และอีกอย่างเขาไม่ได้ติดต่อเถียนลู่มานานหลายปีแล้ว เขาจะขับรถให้คนอื่นได้อย่างไร?

และใบหน้าของเถียนลู่ดูน่าเกลียดมากตอนนี้ รถคันนี้…คือรถของฉินจุนงั้นเหรอ?

เดิมทีที่เธอนั่งอยู่ในรถคันนี้เพียงเพราะพยายามที่จะเสแสร้งว่านี่เป็นรถเธอ เพราะในสายตาของเพื่อนร่วมชั้นเหล่านี้เธอเป็นคนที่ดูเป็นคนชั้นสูง รถยนต์หรูหราเช่นนี้สามารถตอกย้ำตัวตนของเธอได้

และเจ้าของรถก็ไม่น่าจะใช่เพื่อนร่วมชั้นของเธอแน่นอน ดังนั้นเธอจึงคิดว่าจะแกล้งทำเป็นว่าเป็นรถของเธอแล้วก็ออกจากที่นั่นไป

แต่สุดท้ายแล้ว คาดไม่ถึงว่านี่จะเป็นรถของฉินจุน? !

หลังจากส่งเสียงบี๊บๆสองครั้ง ทุกคนก็เดินออกไป และฉินจุนก็โยนกุญแจให้เหรินลู่และพูดว่า

“ผมให้คุณ คุณชอบไหม?”

ดวงตาของเหรินลู่เบิกกว้าง “บ้าบอ นี่จริงจังเหรอ?”

เมื่อเปิดประตูรถ และเข้าไปนั่ง เหรินลู่รู้สึกประหลาดใจมาก

“มันเป็นรถบูกัตติคอนเซปต์จริงๆ ภายในนี้ ความรู้สึกของเทคโนโลยีนี้ ฉันเคยได้ยินมาว่าสามารถเร่งความเร็วจาก 100 กิโลเมตรได้ในเวลาน้อยกว่าสี่วินาที…”

และเขาก็มีความรู้ แม้ว่าเหรินลู่จะไม่เคยขับรถดีๆแบบนี้มาก่อน แต่เขาก็ยังรู้จักรถคันนี้เป็นอย่างดี

เขาไม่เคยคิดฝันว่าฉินจุนจะมอบของราคาแพงแบบนี้ให้เขา

“เหล่าฉิน นี่ล้อเล่นรึเปล่า?”

ฉินจุนยิ้ม “ไม่ได้ล้อเล่น รถเป็นของคุณแล้ว แต่ว่าคุณดื่มมา อย่าขับเลย”

“โอเครๆๆ!”

เหรินลู่ลงจากรถด้วยความรู้สึกประหลาดใจจริงๆ

รถหลายสิบล้านคันแบบนี้ ทำไมฉินจุนให้คนอื่นไปง่ายๆ นี่ฉินจุรร่ำรวยกว่าเดิมอีกหรือ?

เมื่อก่อนเขาเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลฉิน แม้จะมีทรัพยากรทางการเงินของตระกูลฉินอยู่มาก แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะมอบรถราคาหลายสิบล้านคันนี้ให้เพื่อนร่วมชั้น?

เหรินลู่รู้สึกประหลาดใจจริงๆ

เพื่อนร่วมชั้นคนอื่นๆ ก็มองหน้ากันไปมา และสุดท้ายแต่ละคนก็เรียกแท็กซี่ และนั่งแท็กซี่ไป KTV รอบที่สอง

ระหว่างทาง ทุกคนต่างก็พูดคุยกันในกลุ่ม

“ฉินจุนสร้างร่ำรวยมาจากอะไรกัน? ทำไมถึงซื้อรถดีๆ แบบนี้ได้?”

ในกลุ่มไม่มีเหรินลู่และฉินจุนอยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่อายที่จะพูดคุยถึงเรื่องนี้

“ใครจะไปรู้ว่าเช่ามาหรือเปล่า รถยนต์ราคาหลายสิบล้าน เขาจะซื้อได้หรือ? และพวกเธอไม่ได้ยินที่เขาบอกเหรอ เขายกให้เหรินลู่”

“ต่อให้เขาจะรวยมีเงินซื้อมันได้จริง ๆ และมอบให้คนอื่นแบบนี้มันก็ไร้สาระไปหรือเปล่า?”

“จริง สามารถซื้อรถมูลค่าหลายสิบล้านได้ กับซื้อรถราคาหลายสิบล้านให้คนอื่นได้ มันไม่ใช่แนวคิดเดียวกัน โอเค๊?”

เมื่อเห็นทุกคนพูดคุยกัน ยวี่เฉียงก็ไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆได้ และเขาก็ส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มเยาะไป

“อย่าล้อเล่นเลย พวกคุณได้ใช่ว่าไม่รู้ว่าเหรินลู่เป็นใคร ทำงานภายใต้อำนาจของฉันที่ทำธุรกิจรถยน การเช่ารถสปอร์ตมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกเหรอ?”

“ใช่ เหรินลู่เป็นเซลส์แมนด้วย มันน่าจะง่ายที่จะได้รถมาซักคัน เป็นไปได้ไหมว่าสองคนนี้กำลังแสดงละครอยู่?”

“มันต้องเป็นการแสดง ทั้งสองเช่ารถด้วยกันและแกล้งทำเป็นเสแสร้งต่อหน้าเพื่อนร่วมชั้น ข่าวแบบนี้มีให้เห็นอยู่มากมาย”

“จุดประสงค์ของพวกเขาคืออะไรกัน ประธานยวี่ก็รู้จักพวกเขา อยู่ต่อหน้าประธานยวี่ยังจะมาแสร้งอะไรอีก?”

สิ่งที่พวกเขาพูดคุยกันคือความจริง เหรินลู่ทำงานให้ยวี่เฉียง ความสัมพันธ์ระหว่างลูกน้องกับบอสมันชัดเจนมาก คุณเจ๋งไม่เจ๋ง รวยหรือไม่ทุกคนต่างรู้กันดี ทำไมต้องแสร้งทำอะไรอีก?

เมื่อหยูเฉียงกล่าวเช่นนี้ มันไม่ถือเป็นการเปิดเผยหรอกหรือ?

เมื่อหยูเฉียงเห็นทุกคนกำลังพูดคุยกัน เขาก็ส่งสติ๊กเกอร์เขินอายอีกครั้ง

“จุดประสงค์ของพวกเขาคือการหลอกลวงเพื่อนร่วมชั้นผู้หญิงไง ทำให้พวกเขาคิดว่าฉินจุนยังร่ำรวยอยู่ แล้วจึงเกลี้ยกล่อมให้พวกเขาเข้านอนด้วย”

“เป็นไปไม่ได้มั้ง กลอุบายแบบนี้?”

“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ ฉินจุนไม่ได้เป็นคุณชายอย่างที่เขาเป็นอีกต่อไปแล้ว ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาเขากลายเป็นคนอย่างไรใครๆก็ต่างไม่รู้ได้ บางทีเขาอาจพยายามหลอกเงินและเซ็กส์จริงๆก็ได้”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset