ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 379 แกคิดว่าฉันโง่อย่างงั้นเหรอ

สีหน้าของเหลยหงก็ดูเขินอาย มันเป็นสีหน้าที่หาได้ยากมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอคิดถึงเรื่องต่างๆที่ผ่านมา ในตอนนี้เธอก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย แต่โชคดีที่เป็นหัวหน้าของแก๊ง เธอก็เลยสงบลงได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากตรวจชีพจรแล้ว ฉินจุนก็พูดออกมาว่า

“อาการไม่ร้ายแรงอะไรมาก สาเหตุหลักคือระบบย่อยอาหารไม่ดี น่าจะเพราะกินผักน้อยเกินไป ต่อไปต้องบังคับตัวเองให้กินผักผลไม้มากขึ้น ผมจะให้เยวี่ยเหยาสั่งเกลือแร่ให้คุณ กินไม่กี่วันก็จะเห็นผลแล้วหละ”

เหลยหงพยักหน้า “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอฉิน”

หลังจากพูดจบ เหลยหงก็หยิบนามบัตรสีดำที่มีขอบสีทองออกมาแล้วยื่นให้ฉินจุน

“คุณฉิน นี่คือนามบัตรของฉัน ต่อไปถ้าคุณมีโอกาสเข้ามาในเมืองก็ติดต่อฉันมานะคะ ฉันจะทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านเอง!”

ฉินจุนพยักหน้าแล้วรับนามบัตรมา จากนั้นก็เอามันใส่ลงในกระเป๋าของเค้า

เมื่อโจเอลเห็นว่าเหลยหงดีขึ้นแล้ว เค้าก็เดินเข้ามาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม

“พี่หง พี่ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม ก่อนหน้านี้พี่อยู่ที่โรงพยาบาลในมณฑล ผมลุ้นมากเลย แต่ผมก็คิดไม่ถึงเลยว่าพอเอาตัวพี่มาที่นี่พวกเค้าจะสามารถรักษาพี่ให้หายได้อย่างง่ายดาย ตอนแรกผมเองก็เป็นกังวลมากว่าอาการของพี่มันจะรุนแรง ผมเองก็เลยไม่กล้าที่จะเสี่ยงเลย”

ตอนที่พูดออกมาแบบนี้ โจเอลก็ไม่ได้รู้สึกเขินอายอะไรเลย มันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าทั้งหมดนี่มันเป็นความผิดของเค้า แต่ตอนนี้พอเหลยหงหายดีแล้ว เค้าก็พูดจาเอาดีทั้งหมดเข้าตัวเอง

ในคำพูดของเค้ามันก็ชัดเจนมาก เค้าพูดราวกับว่าทั้งหมดนี่มันเป็นเพราะเค้า ดังนั้นเมื่อฉินจุนกับคนอื่นๆเห็นแบบนี้ พวกเค้าต่างก็รู้สึกแหวะ

เหลยหงเหลือบมองเค้าอย่างเย็นชา

“คุณโจเอล คุณคิดว่าฉัน เหลยหงเป็นคนโง่อย่างงั้นเหรอ?”

สีหน้าของโจเอลเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วเค้าก็รีบพูดขึ้นมาว่า

“พี่หง ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น แน่นอน ผมไม่ได้ช่วยอะไรมากกับการรักษาอาการป่วยของพี่ แต่ผมมั่นใจในความพยายามของผมนะครับ”

เหลยหงถอนหายใจออกมาอย่างเย็นชา “แม้ว่าฉันจะอยู่ในอาการโคม่า แต่ฉันได้ยินทุกอย่าง แม้ว่าฉันจะไม่ค่อยได้สติ แต่ฉันก็รู้ว่าคุณไม่มีจรรยาบรรณทางการแพทย์เลย”

“ที่แย่ที่สุดคือคุณยังมีหน้าจะมาโกหกฉันอีกเหรอ”

“เหล่าฉวน! เอาตัวมันออกไป!”

หลังจากที่เหล่ยหงพูดจบ ชายหัวล้านก็จับโจเอลหักแขนแล้วเตะเค้าออกไป

“พี่หง! พี่หง ผมผิดไปแล้ว พี่หง…อ้า!”

มันไม่ต้องเดาจุดจบของโจเอลเลย มันต้องน่าเศร้ามากแน่ๆ

คิดไม่ถึงเลยว่าเหลยหงที่เป็นผู้หญิง เธอจะมีความเด็ดขาดมากขนาดนี้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาจะได้เป็นหัวโจ๊กของเมืองเอกในมณฑล

“คุณฉิน ถ้ามีโอกาสเราจะไปพบกันอีก ฉันชื่นชมคุณมาก”

เหลยหงชื่นชมฉินจุน แต่มันไม่ใช่ทักษะทางการแพทย์ของเค้าเท่านั้น

เมื่อกี้ในตอนที่เธอออกมา เหลยหงก็มองเห็นปืนบนพื้นในห้องฉุกเฉิน

มันมีร่องรอยการบีบที่ชัดเจนและกระบอกปืนมันก็ถูกบีบจนบิดเบี้ยว มันเห็นได้ชัดว่ามันถูกบีบด้วยมือ

ปืนพกที่ทำด้วยโลหะ การบีบมันด้วยมือเปล่านี่ มันจะต้องใช้แรงขนาดไหนกัน?

คนที่อยู่ที่นี่ไม่น่าจะมีใครทำได้ แม้แต่เหล่าฉวนเองก็ตาม

มันมีเพียงแค่คำอธิบายเดียวก็เท่านั้น คนๆนั้นก็คือฉินจุน

ฉินจุนที่ดูสงบนิ่ง เค้าดูไม่มีความผันผวนอะไรเลย แม้ว่าจะกำลังเผชิญหน้ากับชายร่างใหญ่อย่างเหลยหง เค้าก็ไม่ได้กลัวหรือตื่นตระหนกอะไรเลย

นายฉินคนนี้ เค้าไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

ฉินจุนก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “คุณเหลยพักผ่อนให้เยอะๆนะครับ ถ้าคุณต้องการเจอผมก็สามารถติดต่อผ่านตวนเป่าตงได้เลย”

เหลยหงตกใจ ตวนเป่าตง?

ตวนเป่าตงป็นคนดัง ก่อนหน้านี้เกาเฉินก็ต้องการที่จะครอบครองเมืองตงไห่ แต่เค้าก็ต้องมาตาย ตวนเป่าตงน่าจะเป็นคนลงมือ

แน่นอนว่าอันที่จริงแล้วเหลยหงไม่รู้ว่าคนที่ฆ่าเกาเฉิน แท้ที่จริงแล้วก็คือฉินจุน

ในตอนนั้นฉินจุนก็ได้รับบาดเจ็บ ตวนเป่าตงกับเพ่ยเหลียงก็โดนเกาเฉินหักหาในระหว่างทาง

หลังจากที่หลังจากที่ฉินจุนรู้เรื่อง เค้าก็ตรงไปที่ฉ่ายอี้คลับแล้วฆ่าเกาเฉิน

ต่อมาเมืองหลวงของมณฑลมันก็เละกลายเป็นโจ๊ก

ในตอนแรกเหลยหงกับเกาเฉินก็อยู่ในระดับเดียวกัน เมื่อเกาเฉินตาย เหลยหงก็ได้รับประโยชน์ เธอใช้ประโยชน์จากช่วงเวลาที่ลำบากแบบนี้เข้าครอบครองเจียงหูทั้งหมด ตอนนี้ทั้งเมืองก็ตกอยู่ในการดูแลของเหลยหง

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เหลยหงเองก็อยากที่จะขอบคุณฉินจุน

เหลยหงก็ถามว่า “ขอถามหน่อยนะคุณฉิน คุณกับตวนเป่าตงมีความสัมพันธ์อะไรกันเหรอ?”

ฉินจุนก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง “มันเป็นความร่วมมือกัน”

แววตาของเหลยหงก็ดูประหลาดใจขึ้นมา ระดับขึ้นของฉินจุนในความคิดของเธอก็สูงขึ้นไปอีกขั้น

“คุณฉิน ถ้าเรามีโอกาสก็นัดกินข้าวกันหน่อยไหมค่ะ ฉันเองก็อยากเจอคุณต้วนเป่าตงด้วย”

ฉินจุนพยักหน้า “ไม่มีปัญหา ถ้ามีโอกาส ผมจะแนะนำให้คุณรู้จัก”

กับเรื่องนี้ฉินจุนไม่ค่อยสุภาพซะเท่าไหร่ ถ้ามีโอกาสมันก็น่าจะแนะนำให้เธอรู้จักกับตวนเป่าตง การที่เหลยหงจะได้รู้จักบอสใหญ่ในมณฑลอย่างตวนเป่าตง มันก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดี

หลังจากที่รับนามบัตรไปแล้ว ฉินจุนก็จากไป

หลินเยวี่ยเหยาก็ไปส่งเค้าแล้วพูดว่า “สมุดเล่มนี้มันไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหม? มันไม่มีแม้แต่ชื่อคนเขียน วันนี้เกือบจะมีปัญหาแล้วนะ”

ฉินจุนยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหาแน่นอน หนังสือเล่มนี้ไม่มีชื่อคนเขียนหรอกแล้วก็ไม่มีผู้แต่ง ปัญหาในวันนี้เป็นเพราะโจเอลที่เล่นไม่ซื่อ มันไม่ใช่ความผิดของเธอ”

หลินเยวี่ยเหยาก็พยักหน้า เธอเองก็เข้าใจว่าเดิมทีมันก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่เหลยหงเธออยู่ในอาการโคม่าเนื่องจากการให้ยาของโจเอล

สมุดจดทางการแพทย์ที่เขียนโดยฉินจุน มันมีความชัดเจนเกี่ยวกับยาและไม่มีความผิดพลาดอะไร

หลังจากส่งฉินจุนออกไปแล้ว หลินเยวี่ยเหยาก็กลับไปที่ห้องทำงานและหมอหญิงผมยาวก็เดินเข้ามา

“เยวี่ยเหยา ฉันเห็นสมุดจดของเธอแล้ว ฉันว่ามันเขียนได้ดีมากเลย ฉันยืมดูหน่อยได้ไหม”

นี่คือเพื่อนร่วมงานของหลินเยวี่ยเหยาและเป็นเพื่อนสนิทของเธอ เซี่ยหลิงหลิง เธอซึ่งเป็นหัวหน้าแผนกเดียวกันและพวกเธอมักจะแลกเปลี่ยนทักษะทางการแพทย์ระหว่างกันเสมอ

เมื่อกี้เซี่ยหลิงหลิงก็อ่านสมุดจดนี้ไปแล้วนิดหน่อย จากนั้นเธอรีบพุ่งเข้าไปหาหลินเยวี่ยเหยาในทันที เธอรู้สึกว่าการแพทย์แผนจีนนี้มันลึกซึ้งและมหัศจรรย์มาก

ทุกวันนี้ เราทุกคนต่างให้ความสนใจกับการผสมผสานของการแพทย์แผนจีน แต่คนส่วนใหญ่ที่สามารถผสมผสานการแพทย์แผนจีนและตะวันตกเข้าด้วยกันคือการแพทย์แผนจีน

เนื่องจากการแพทย์แผนตะวันตกเป็นรากฐาน ตอนนี้คุณจะได้เรียนแพทย์แผนตะวันตกด้วยเมื่อเรียนแพทย์แผนจีน

อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นหมอแผนตะวันตก พวกเค้าก็ไม่เคยศึกษาการแพทย์แผนจีนเลย พวกเค้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ หลินเยวี่ยเหยาก็ไม่อยากยุ่งเรื่องหมอแผนจีนสักระยะหนึ่งแล้วก็ให้เซี่ยหลิงหลิงยืมสมุดจดไป

ทันทีที่ฉินจุนออกมาจากโรงพยาบาล ชายหัวล้านที่ชื่อเหล่าฉวนก็ตามเค้าไป

“คุณฉิน พี่หงให้ฉันเอาของสิ่งนี้มาให้เป็นค่าเหนื่อย”

ฉินจุนก็ยิ้มขึ้นมา “พี่หงไม่ต้องขนาดนี้หรอก ฉันรับไว้ไม่ได้”

เหล่าฉวนก็พูดขึ้นมาว่า “คุณฉิน ได้โปรดอย่าทำให้ผมลำบากใจเลย พี่หงบอกว่าคุณควรจะได้รับค่าตอบแทน คุณจะเก็บเอาไว้ให้แฟนสาวหรือใช้มันในอนาคตก็ได้”

หลังจากพูดจบแล้ว เหล่าฉวนก็ยื่นกล่องนั่นให้ฉินจุนแล้วรีบออกไป

ฉินจุนเปิดกล่องดู ข้างในเป็นสร้อยคอทับทิมที่สวยงามมาก

ทับทิมสี่เหลี่ยมมีการเจียรนัยอย่างวิจิตรบรรจง แสงสีแดงที่สะท้อนมันดูสวยมาก

แม้ว่าจี้อัญมณีนี้เป็นเพียงของกำนัล แต่มันก็น่าจะมีราคาประมาณหลายล้านหยวน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset