ผู้รักษาสุดแกร่ง – ตอนที่ 502 ฉันจะคุกเข่าคำนับให้นายเดี๋ยวนี้

พอผู้จัดการซุนโดนตบหน้าเข้า สีหน้าของเธอก็ย่ำแย่อย่างสุด ๆ

“แกกล้าดียังไง!แกกล้าตบฉันเหรอ รปภ.มัวอึ้งอะไรอยู่!”

รปภ.เองก็เพิ่งได้สติ เขารีบคว้ากระบองออกมา ตั้งใจจะลงมือกับฉินจุน

แต่ว่าท่าทางที่ฉินจุนตบผู้จัดการซุนเมื่อกี้นี้ดูมีรังสีแห่งความน่ากลัวออกมา แถมเขายังร่างกายสูงใหญ่ ทำให้รปภ.ยืนลังเลไม่กล้าทำอะไร

ผู้จัดการซุนหัวเสียอย่างสุด ๆ “ไร้ประโยชน์!ไร้ประโยชน์จริง ๆ !”

พอด่าเสร็จ ผู้จัดการซุนก็รีบเดินเข้าไปในตึกใหญ่ทันที

ฉินจุนมองรปภ.ก่อนจะเอ่ยออกมานิ่ง ๆ

“เรียกใครก็ได้ลงมารับฉัน”

รปภ.ส่งเสียงไม่พอใจ “เรียกคนลงมารับนาย?นายคิดว่านายเป็นใคร?ให้ฉันเรียกท่านประธานลงมารับนายเลยไหมล่ะ?”

ฉินจุนเอ่ย “ก็ได้”

“ฮ่าฮ่าฮ่า!” รปภ.หัวเราะออกมาทันที “นายนี่มันตลกจริง ๆ ฉันไม่เคยเห็นใครตอแหลเท่านายมาก่อน คิดจะให้ท่านประธานลงมารับ นายใหญ่โตขนาดนั้นเลยเหรอ?”

พอเห็นว่า รปภ.ไม่เรียกคนมา ฉินจุนก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กดโทรออกเบอร์ของหลิ่วชิงชิง

หลิ่วชิงชิงกำลังประชุมอยู่ในบริษัท โทรศัพท์ส่วนตัวของเธอดังขึ้น โดยหลักการแล้วไม่ควรจะรับสาย แต่พอเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา หลิ่วชิงชิงก็ชะงัก และรีบกดรับโทรศัพท์ทันที

เธอเอ่ยเสียเบา “ฮัลโหลค่ะ?”

เหล่าผู้ถือหุ้นต่างมึนงง ปกติแล้วหลิ่วชิงชิงเป็นคนเข้มงวดมาก ๆ ในเวลาประชุมไม่มีใครได้รับอนุญาตให้รับโทรศัพท์

แม้แต่ตัวเธอเองก็ด้วย แต่ว่าวันนี้หลิ่วชิงชิงกลับนอกกฎ ไม่รู้ว่าบุคคลสำคัญท่านใดโทรเข้ามา

ฉินจุนเอ่ย “ผมอยู่ที่ชั้นล่างของบริษัทคุณ ตอนนี้ขึ้นไปไม่ได้ คุณลงมารับได้ไหม?”

“ได้ค่ะ”

พูดจบหลิ่วชิงชิงก็กดวางสายแล้วเดินออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว พอเดินไปได้สองก้าวเธอก็นึกขึ้นได้ว่ากำลังประชุมกันอยู่ เธอจึงเอ่ยกับรองประธาน

“พวกคุณคุยกันไปก่อน ฉันออกไปข้างนอกสักครู่”

พูดจบหลิ่วชิงชิงก็เปิดประตูเดินออกไปทันที

ทุกคนต่างพากันตะลึง ไม่เคยเห็นท่าทางรีบร้อนกังวลใจแบบนี้ของหลิ่วชิงชิงมาก่อนเลย ขนาดตอนที่เจอกับเหล่านักธุรกิจที่มีชื่อเสียงระดับโลก หรือผู้นำต่าง ๆ ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

หรือว่าที่ด้านล่างจะ ‘สามีท่านประธาน’ ในอนาคต?

รปภ.เห็นว่าฉินจุนทำท่าทางโทรศัพท์หาใคร เขาก็หัวเราะเยาะออกมาทันที

“นายนี่มันแสดงละครเก่งจริงๆ เลยนะ นายจะบอกเมื่อกี้แกโทรศัพท์ไปหาท่านประธาน?”

ฉินจุนยิ้มเย็นชา “ทำไม นายไม่เชื่อหรือไง?”

“หึหึ ถ้าหากท่านประธานของพวกฉันลงมารับนายจริง ฉันจะยอมคุกเข่าคำนับเลย!

พอรปภ.พูดจบ ที่โถงล่างก็มีเสียงส้นรองเท้าต๊อกแต๊ก ๆ ๆ ดังออกมา เสียงส้นรองเท้าส้นสูงที่ดังออกมาฟังดูก็รู้ว่าคนด้านในต้องรีบร้อนมาก ๆ

ไม่กี่วินาทีต่อมา หญิงสาวรูปงามคนหนึ่งก็ปรากฏตัวที่หน้าประตู พอเห็นว่าฉินจุนอยู่ที่หน้าประตูจริง ๆ หลิ่วชิงชิงก็เผยรอยยิ้มที่หาดูยาก

“คุณมาได้ยังไงคะ?”

รปภ.ตะลึงตาค้างทันที

“ทะ……ท่านประธานหลิ่วสวัสดีครับ!”

ฉินจุนยิ้มบาง ๆ จากนั้นก็หันไปมองรปภ.

“คนนี้ใช่ท่านประธานของนายไหม?ทำไมยังไม่คุกเข่าอีกล่ะ?”

หลิ่วชิงชิงได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกแปลก ๆ จึงขมวดคิ้วมุ่นแล้วเอ่ยถาม

“ทำไม นายทำร้ายคุณฉินเหรอ?”

รปภ.ตกใจกลัวจนขาอ่อนแรงไปหมด เขาลงไปคุกที่พื้นทันที

“ผะ ผม ผมไม่ได้ตั้งใจ ผมผิดไปแล้ว ท่านประธานหลิ่วครับผมผิดไปแล้ว”

หลิ่วชิงชิงขมวดคิ้วมุ่น”คนอย่างนายไม่สมควรได้เป็นรปภ.ของที่นี่ ไปรับเงินเดือนแล้วไสหัวไปซะ”

รปภ.หน้าซีดทันทีภายในใจก็รู้สึกเสียใจในสิ่งที่ทำลงไป

ฉินจุนไม่สนใจอะไรหมอนั่น เขาชี้ไปที่ไป่หยาที่อยู่ข้าง ๆ

“นี่เป็นน้องสาวของเพื่อนผม เดิมทีเธอทำงานอยู่ที่นี่ แต่ว่าถูกไล่ออก ผมก็เลยมาหาคุณใช้เส้นสายเสียหน่อย”

หลิ่วชิงชิงขมวดคิ้ว “ถูกไล่ออก?เพราะสาเหตุอะไรกัน?”

ไป่หยาก้มหน้าก้มตาพอเห็นหน้าท่านประธานหลิ่วแล้วเธอค่อนข้างกลัว

“พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันขโมยของค่ะ ฉันเป็นพนักงานดูแลโกดังดูแลสินค้าพวกนั้นค่ะ ฉันจะไปขโมยของที่ตัวเองเป็นคนดูแลทำไม ?”

หลิ่วชิงชิงขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอเองก็ค่อนข้างละเอียดอ่อนกับเรื่องการขโมยของแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นพนักงานในบริษัทเป็นคนขโมยเสียเอง

หลิ่วชิงชิงเอ่ยถาม “เธอบอกฉันมาสิ ใครเป็นคนขโมย?”

ไป่หยากัดริมฝีปาก “ฉัน ฉันไม่มีหลักฐานค่ะ”

ฉินจุนตบบ่าของเธอเอ่ย “ไม่เป็นไรหรอก เธอแค่บอกมาก็พอ”

ไป่หยากลั้นใจเอ่ยออกมา “ผู้จัดการซุน……เป็นคนทำค่ะ แต่ว่าฉันไม่มีหลักฐาน ไม่รู้ว่าทำไมกล้องวงจรปิดถึงได้เสียหมดเลย”

หน้าของหลิ่วชิงชิงนิ่งขรึมทันที “โอเค ฉันเข้าใจแล้ว เธอตามฉันมา”

หลิ่วชิงชิงเดินอย่างโมโหพาไป่หยาและฉินจุนเดินเข้าไปในตึก มาที่ห้องกล้องวงจรปิด

คนที่อยู่ภายในห้องกล้องวงจรปิดคือเจ้าหน้าที่จางซึ่งเป็นหัวหน้าทีมพนักงานรักษาความปลอดภัยของที่นี่ เงินเดือนของเขาไม่ใช่น้อยเลยเดือน ๆ หนึ่งได้แปดพันกว่าหยวน

ถ้าเป็นข้างนอก ไม่ว่าจะเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยจากบริษัทไหนก็ไม่มีทางได้เงินเดือนสูงขนาดนี้ เผลอ ๆ สูงกว่าพนักงานบางคนด้วยซ้ำ

“นายจาง ฉันต้องการดูกล้องวงจรปิดของโกดังเมื่อวานตอนบ่ายโมง”

นายจางชะงักไปครู่หนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไม่คิดว่าท่านประธานใหญ่จะมาเชือดเองกับมือ แถมมาเรียกชื่อขอดูกล้องวงจรปิดเมื่อวาน

นายจางทำเป็นตรวจเช็กดูอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงลำบากใจ

“ท่านประธานหลิ่วครับ พอดีว่าเมื่อวานตอนบ่ายโมงมีการซ่อมกล้องวงจรปิด ช่วงเวลานั้นจึงไม่ได้มีการบันทึกภาพเอาไว้ครับ ท่านจะดูช่วงเวลาอื่นแทนไหมครับ?”

หลิ่วชิงชิงเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าเย็นชา

“ไปรับเงินเดือนที่ฝ่ายบัญชีซะ”

นายจางชะงักยังไม่ทันตั้งตัวว่ามันเกิดเรื่องอะไร “ท่านประธานหลิ่ว นี่ท่าน……ท่านจะไล่ผมออกเหรอครับ?”

นายจางเพิ่งได้สติ รีบลุกขึ้นยืนอย่างลุกลี้ลุกลนหน้าผากเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ

กว่าเขาจะได้เงินเดือนสูงขนาดนี้เขาลงทุนลงแรงไปมากมาย ตำแหน่งหัวหน้ารปภ.ดี ๆ แบบนี้ ถ้าตกงานไปเขาต้องได้ไม่คุ้มเสียแน่ ๆ

หลิ่วชิงชิงเอ่ย “ไล่นายออกมีปัญหาอะไรเหรอ?”

พอได้เห็นแววตาเฉียบขาดของท่านประธานหลิ่ว นายจางก็ตื่นตระหนกรีบเอ่ย “ท่านประธานหลิ่วผมผิดไปแล้วครับ ผมจะหาภาพจากกล้องวงจรปิดให้ท่านดูเดี๋ยวนี้เลยครับ ขอผมหาสักครู่นะครับ!”

ต้องให้ท่านประธานหลิ่วเด็ดขาดแบบนี้เท่านั้นถึงจะทำให้นายจางยอมรับ

กล้องวงจรปิดเสียใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นนายก็เก็บข้าวเก็บของออกไปซะ!

เพราะถึงแม้ว่านายจางจะได้รับผลประโยชน์จากผู้จัดการซุน แต่ว่าก็ไม่มีทางที่เขาจะยอมรับผลประโยชน์พวกนั้นเพื่อเสียงานนี้ไป

ไม่นานนายจางก็รีบแก้ไขกล้องวงจรปิดได้อย่างรวดเร็ว เขาหาวิดีโอช่วงเวลานั้นที่ถูกลบทิ้งเจอแล้ว

ภายในกล้องวงจรปิดเป็นภาพผู้จัดการซุนฉวยโอกาสช่วงเวลากะเข้างานของไป่หยา แอบหยิบกล่องเครื่องสำอางจำนวนหนึ่งใส่ท้ายรถของเธอ จากนั้นก็ออกไปทันที

พอนายจางเห็นฉากนี้เข้าก็อับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี ไม่รู้จะพูดอะไรออกมาดี

สีหน้าของหลิ่วชิงชิงนิ่งจนน่ากลัว เธอเปิดไมค์ประกาศที่อยู่บนโต๊ะจากนั้นก็กรอกเสียงผ่านไมโครโฟน

“ทุก ๆ ท่านโปรดทราบ ฉันคือหลิ่วชิงชิง ขอเชิญผู้จัดการทุกคนมาประชุมที่ห้องวงจรปิด”

พอเสียงประกาศดังไปทั่วสำนักงาน ทุกคนก็ต่างชะงัก ไปประชุมที่ห้องวงจรปิดทำไมกัน?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset