ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 130 โม่ถิงเซียวเป็นอะไร?

โม่ถิงเซียวต้องการให้จะล้มมู่กรุ๊ป ทำให้มู่ลี่หยานควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แล้วเจ้าสัวมู่จะได้กลับมา

เจ้าสัวมู่ไปใช้ชีวิตช่วงแก่อยู่ต่างประเทศมาแล้ว 11 ปี

11ปีก่อน เจ้าสัวมู่ไม่ค่อยได้กลับประเทศ

ถึงจะเป็นงานเลี้ยงครอบครัว มู่ลี่หยานก็เป็นคนพาทุกคนไปเจอเขาที่ต่างประเทศ ยกเว้นมู่นวลนวลพวกเขาไม่เคยพาเธอไปด้วย

เรื่องของซือเฉิงยวี่ครั้งนี้ มู่นวลนวลสงสัยว่าโม่ถิงเซียวจะมีส่วนเกี่ยวข้อง

เพราะถึงอย่างไรแล้ว Shengding Media ไม่มีทางให้ซือเฉิงยวี่รับงานนี้แน่นอน และอีกอย่างกูจื่อหยานและโม่ถิงเซียงก็เป็นเพื่อนกัน

แต่ถ้าหากว่าโม่ถิงเซียวมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ทำไมเขาถึงอยากให้เจ้าสัวโม่กลับมา?

มู่นวลนวลเงยหน้าขึ้นมองเซินเหลียง : “ ถ้าสัญญาการแต่งงานของมู่หวั่นฉีและมู่ถิงเซียวเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวในตอนนั้น สามารถเดาได้ไหมว่าเหตุผลที่มู่ถิงเซียวต้องการบังคับให้คุณปู่ฉันกลับมา เพราะคุณปู่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวในครั้งนั้นด้วย! ”

เซินเหลียงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย : “ถ้าเกิดว่าคุณปู่เธอมีส่วนเกี่ยวข้องจริง ทำไมกระกูลโม่ถึงยอมปล่อยให้เขาไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศ และให้ทั้งสองกระกูลแต่งงานกันละ”

มู่นวลนวลคิดว่าสิ่งที่เซินเหลียงพูดมีหตุผล

สิ่งที่ตระกูลโม่ทำ ให้ความรูสึกเหมือนกำลังให้ความกรุณาต่อตระกูลมู่อยู่

มู่นวลนวลขมวดคิ้ว : “คุณปู่ฉันร่างกายแข็งแรงดี และไม่จำเป็นที่เมื่อ 10 กว่าปีก่อนต้องออกไปใช้ชีวิตคนเดียวที่ต่างประเทศ มันต้องมีเรื่องอะไรสักอย่างที่ทำให้คุณปู่ต้องทำเช่นนั้น และสัญญาการแต่งงานของมู่หวั่นฉีและมู่ถิงเซียวก็แปลกๆ พอเอาสองเรื่องนี้มารวมกันแล้ว……… ”

มู่นวลนวลเงียบไปสักพักแล้วกล่าวต่อ: “ฉันไม่เชื่อว่าจะมีเรื่องบังเอิญแบบนี้ในโลก ฉันสงสัยว่าคุณปู่ของฉันต้องรู้ความลับที่เป็นความลับของตระกูลโม่ และทำข้อตกลงการแต่งงานกับตระกูลโม่ แต่กระกูลโม่ระมัดระวังมากและบอกให้คุณปู่ของฉันไปต่างประเทศและห้ามไม่ให้เขากลับมา”

หลังจากที่เธอพูดจบเธอก็เห็นเซินเหลียงมองมาที่เธอด้วยสีหน้างงงวย

มู่นวลนวลยังรู้สึกว่าเธอคิดมากเกินไป: “เธอคิดว่าฉันคิดมากเกินไปไหม?”

เซินเหลียงส่ายหัว: “ ไม่ ฉันคิดว่าสิ่งที่เธอคิดก็เหตุผล ยิ่งไปกว่านั้นพ่อของฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับคดีนั้นบ้าง และคุณปู่ของเธอก็ส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนั้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่มีผลอะไรกับคดี……….”

…………

มู่นวลนวลเปิดน้ำล้างมือและดูความคิดเห็นของผู้คนในเวยป๋อเรื่องที่มีข่าวว่ามู่กรู๊ปข่มขู่ซือเฉิงยวี่

“พี่นวลนวล!”

เสียงของโม่เจียเฉิน

เสียงของเขาใกล้เข้ามา : “พี่นวลนวลกำลังทำอาหารอยู่หรอครับ!”

มู่นวลนวลวางโทรศัพท์ลงแล้วมองออกไปดูก็เห็นว่าโม่เจียเฉินกำลังวิ่งมาหาเธอที่นี้

พอไปถึงก็จะเปิดฝาหม้อ : “พี่ทำอะไรหรอครับ ทำไมหอมจัง!”

“หมูทอดน้ำแดง” โม่เจียเฉินเก็บมือสูดกลิ่นอาหารแล้วก็ออกไป

ถึงเวลาทานข้าวแล้ว โม่ถิงเซียวยังไม่กลับบ้าน

มู่นวลนวลมองไปที่ที่โม่งถิงเซียวนั่งทานข้าวอยู่ประจำเธอก็รู้สึกแปลก

โม่เจียเฉินเอาเนื้อหมูชิ้นใหญ่เข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างอร่อย : “พี่คิดถึงเขาก็โทรหาเขาสิครับ”

“ใครคิดถึงเขา” มู่นวลนวลคีบเนื้อหมูให้เขา: “กินข้าวไป”

“ครับ” โม่เจียเฉินไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด

ทั้งสองคนทานข้าวเสร็จโม่ถิงเซียวก็ยังไม่กลับบ้าน

มู่นวลนวลกลับห้องและอาบน้ำเสร็จก็นั้งลงบนเตียงมองห้องที่ว่างเปล่าให้ความรู้สึกแปลกๆ

หรือเป็นเพราะว่าโม่ถงเซียวไม่อยู่?

“ตรู๊ดตรู๊ด!”

เสียงโทรศัพท์เธอดังขึ้น

พอเธอดูก็เป็นสายจากโม่ถิงเซียว

เธอลังเลอยู่สามวินาที แล้วกดรับโทรศัพท์

“ฮัลโหล?”

เสียงจากฝั่งนั้นกลับไม่ใช่โม่ถิงเซียว : “นวลนวล ฉันเองกูจื่อหยาน โม่ถิงเซียวมีเรื่องนิดหน่อย เธอมาที่ร้านอาหารจินติ่งตอนนี้ ฉันให้ซือเย่ไปรับเธอแล้ว”

น้ำเสียงของกูจื่อหยานที่ดูรีบร้อนทำให้เธอเป็งกังวล

เธอคิดถึงครั้งก่อนที่โม่ถิงเซียวโดนยิง…………

ใจในเป็นกังวลมาก เธอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบร้อนลงมาข้างล่าง

ซือเย่ก็มาถึงพอดี เห็นเธอรีบร้อนลงมา เขาพูดกับมู่นวลนวล : “คุณผู้หญิง ผมมารับคุณไปที่ร้านอาหารจิงติ่ง”

………….

ซือเย่ขับรถอย่างรวดเร็ว สักพักก็มาถึงร้านอาหารจิงติ่ง

เธอลงรถแล้วถามซือเย่ว่า: “เกิดอะไรขึ้นกับโม่ถิงเซียว?”

“คุณผู้หญิงเข้าไปดูก็รู้เองครับ” ซือเย่ก้มหน้าสีหน้าดูปกติ

มู่นวลนวลคิดในใจ ซือเย่ก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจแต่อย่างใด

พอเดินเข้าไปในร้านเธอก็เจอกับกูจื่อหยาน

กูจื่อหยานมองเห็นเธอ : “นวลนวล เธอมาแล้ว”

“โม่ถิงเซียวละ?” มู่นวลนวลถามถึง

กูจื่อหยานทำเสียงอะแฮ่มเบาๆ: “ผมพาคุณไปหาเขา”

ทั้งสองเดินเข้าลิฟท์ กูจื่อหยานอธิบายให้เธอฟัง : “โม่ถิงเซียวมีเรื่องนิดหน่อย และเขาก็ไม่ค่อยสนิทกับใครนอกจากเธอ”

“อ้อ” พูดราวกับว่าเธอและโม่ถิงเซียวสนิทกัน

เดินไปถึงหน้าห้อง กูจื่อหยานเปิดประตูห้อง : “มู่ถิงเซียวอยู่ข้างใน คุณเข้าไปสิ”

ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มืดสนิท

มู่นวลนวลรู้สึกไม่สบายใจเหมือนมีอะไรแปลกๆ : “โมถิงเซียวเขามีเรื่องอะไรกันแน่”

กูจื่อหยานถอนหายใจ : “คุณเข้าไปข้างในเดี๋ยวก็รู้เอง”

มู่นวลนวลมองกูจื่อหยานหลังจากขั้นก็ยกเท้าเดินเข้าไป

ขณะที่เธอก้าวขาเข้าไปก้าวแรก “ปัง” ประตูห้องถูกปิด

มู่นวลนวลยื่นมือไปเปิดไฟแล้วดูรอบๆห้อง เดินเข้าไปข้างในพร้อมเรียกชื่อโม่ถิงเซียวไปด้วย

“โม่ถิงเซียว?”

เธอเรียกไปหลายรอบก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากใคร

โม่ถิงเซียวพักอยู่คือห้องใหญ่ ในห้องโถงไม่มีแม้แต่เงาของโม่ถิงเซียว มู่นวลนวลเดินไปดูที่ห้องนอน

มู่นวลนวลเปิดไฟในห้อง ในห้องนอนก็ไม่มีแม้แต่เงาของเขา ขณะที่เธอกำลังจะเดินออกไปเธอได้ยินเสียงน้ำจากห้องอาบน้ำ

เธอเดินไปที่หน้าห้องอาบน้ำแล้วเคาะประตู : “โม่ถิงเซียว?คุณอยู่ข้างในหรือเปล่า?”

ภายในห้องไม่ได้เปิดไฟ มู่นวลนวลกไม่ได้ยินเสียงตอบรับของใคร ฉนั้นเธอจึงไม่แน่ใจว่าข้างในมีคนอยู่หรือเปล่า

ขณะที่เธอกำลังจะหันหลังเดินออกไปก็ได้ยินเสียงที่ทุ้มและเย็นชาที่คุ้นเคย : “ออกไป!”

คือเสียงของโม่ถิงเซียว!

แต่น้ำเสียงของเขาดูแปลกไป

“โม่ถิงเซียวคุณเป็นอะไร?” มู่นวลนวลเคาะประตู: “นี้ฉันเองมู่นวลนวล”

ทันใดนั้น ประตูห้องอาบน้ำก็เปิดออก

หน้าซีดๆของโม่ถิงเซียวจ้องมองมาที่เธอ ตัวเขาเปียกน้ำและมีแค่ผ้าขนหนูผืนเดียวบนร่างเขา มู่นวลนวลยื่นอยู่ตรงหน้าเขาห่างแค่หนึ่งก้าว เธอรู้สึกได้ถึงความเย็นจากตัวเขา

มู่นวลนวลยื่นมือไปจับแขนโม่ถิงเซียว ตัวเขาเย็นมากจนเธอตกใจ!

โม่ถิงเซียวสะดุ้งและสะบัดมือเธอออก : “ใครสั่งให้คุณมาที่นี้?กลับไป!”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset