ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 147 ที่ฉลาดที่สุด

ถึงแม้ว่ามู่เจิ้งซิวจะไม่ได้อยู่ในตระกูลมู่หลายปี  แต่เขายังคงมีอำนาจในบ้าน

ในเวลาที่ทานข้าว  ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

หลังจากทานเสร็จ  โม่ถิงเซียวก็ลุกขึ้นยืนและพูด “ผมยังมีงานต้องทำ ขอตัวกลับก่อน”

มู่นวลนวลแปลกใจเล็กน้อย  ไม่คิดว่าโม่ถิงเซียวจะกลับเร็วขนาดนี้

มู่เจิ้งซิวได้ฟัง  ก็เงยหน้าไปมองเขา “พวกเธอกลับเถอะ”

จริงๆแล้วมู่เจิ้งซิวพูดกับโม่ถิงเซียวไม่กี่ประโยค  แต่ว่ามู่นวลนวลรู้สึก ว่าพวกเขาเหมือนกับพูดกันเยอะมาก

โม่ถิงเซียวนำมู่นวลนวลที่ยังงงงวยออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลมู่

กลับมาถึงรถ  มู่นวลนวลยังมีสีหน้ามึนงง

“คุณกับคุณปู่  พวกคุณเป็นอะไรกัน?”เธอมองไม่ออกจริงๆผู้ที่มีฝีมือสูงใช้กลยุทธ์วิธีการที่ไม่พูดออกเสียง

“เขาต้องมาหาฉันแน่”โม่ถิงเซียวกระตุกริมฝีปาก  ยิ้มจางๆ

มู่เจิ้งซิวจะไปหาโม่ถิงเซียวไหม  มู่นวลนวลไม่รู้   แต่มู่เจิ้งซิวมาหามู่นวลนวลเร็วมาก

……

วันที่สองเป็นวันศุกร์

มู่นวลนวลไปบริษัทตั้งแต่เช้า  ก็ได้ยินพวกเขาพูดว่าท่านประธานคนเก่ามาบัญชาการด้วยตนเอง

มู่นวลนวลเพิ่งจะนั่งลง   ก็รับโทรศัพท์ของมู่หวันฉี

น้ำเสียงของเธอไม่ค่อยจะเต็มใจ “คุณปู่ให้เธอมาหาที่ห้องทำงาน”

เธอพูดจบก็ตัดสายโทรศัพท์ไป

มู่นวลนวลไปที่ห้องทำงานประธานคณะกรรมการการบริหาร  จึงพบว่ามู่ลี่หยานกับมู่หวันฉีก็อยู่

ดูเหมือนว่ามู่เจิ้งซิวไม่ใช่ต้องการหาเธอเพียงคนเดียว

เพียงแต่   สีหน้าของมู่ลี่หยานกับมู่หวันฉีไม่ค่อยจะดี

มู่ลี่หยานสีหน้าไม่ดีมากๆ   ใบหน้าเย็นชามองก็รู้ว่าถูกทำให้โกรธ  ดูเหมือนว่าถูกมู่เจิ้งซิวดุด่า

แต่มู่หวันฉีรู้สึกได้ว่ามู่นวลนวลมองเธอ   เธอก็ถลึงตามุ่งกลับไปที่มู่นวลนวลอย่างเยือกเย็น

มู่เจิ้งซิวไม่ได้เห็นการกระทำเล็กๆของพวกเธอ   ทักทายมู่นวลนวลให้นั่งลง “นวลนวล นั่งลง”

นี้ทำให้มู่นวลนวลในใจเพิ่มความยากที่เข้าใจ

มู่ลี่หยานกับมู่หวันฉีก็ยืนอยู่   มู่เจิ้งซิวให้เธอนั่งลงคนเดียว?

“ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา  เธอนั่งลง  ฉันมีเรื่องจะถามเธอ”ในเวลาที่สายตาของมู่เจิ้งซิวหยุดอยู่บนตัวของมู่ลี่หยาน  พูดด้วยน้ำเสียงเย็น“ลูกล้างผลาญครอบครัว”

เขาพูดแบบนี้  มู่นวลนวลจำใจต้องนั่งลง

“หลายปีมานี้อยู่ที่ตระกูลมู่  ไม่ยุติธรรมกับเธอ  เรื่องที่พวกเขาทำ  ฉันรู้หมดแล้ว”มู่เจิ้งซิวเปิดปากพูด  คาดไม่ถึงว่าจะพูดคำพวกนี้

นี่ทำให้มู่นวลนวลตั้งตัวรับไม่ทัน

เธอเดาไม่ออกความหมายของมู่เจิ้งซิว   เพียงแค่ตอบรับตามคำพูดของเขา “ไม่เป็นไร  พวกเราครอบครัวเดียวกัน ไม่มีอะไรที่ยุติธรรมไม่ยุติธรรม”

เธอไม่แน่ใจว่าคำพูดของมู่เจิ้งซิวหมายความว่าอะไร ดังนั้นก็ไม่ได้พูดความจริงออกไป

มู่เจิ้งซิวส่ายหน้า “เวลาที่ฉันจากไปเธอยังเล็ก แต่ก็คิดไม่ถึงว่า เธอจะเป็นเด็กในสามคนนี้ ที่ฉลาดที่สุด”

ฉลาดที่สุด…

มู่นวลนวลก้นบึ้งในหัวใจเต้นฉับพลันขึ้นมา รู้สึกกระวนกระวาย

หรือว่ามู่เจิ้งซิวจะรู้เรื่องอะไร?

“พี่ชายกับพี่สาวก็ดีเด่นมาก ฉันเปรียบเทียบกับพวกเขาไม่ได้หรอกค่ะ”มู่นวลนวลหลบตา ไม่กล้ามองไปที่ดวงตาของมู่เจิ้งซิว

“นวลนวลคือเด็กที่ถ่อมตัว”ทันใดนั้นมู่เจิ้งซิวก็ยิ้มออกมา ยกมือขึ้นโบก และพูด “ลี่หยานกับหวันฉี พวกเธอสองคนออกไปก่อน”

“ค่ะ”

มู่หวันฉีถึงแม้จะไม่ยอม แต่ก็ทำได้เพียงออกมาก่อน

ก่อนจะออกไป เธอก็ไม่ลืมที่จะถลึงตาใส่มู่นวลนวลอย่างโหดเหี้ยม

เมื่อก่อนคุณปู่ชอบเธอที่สุด เมื่อกี้ไม่เพียงแต่ด่าเธอ ตอนนี้ยังหน้าตายิ้มแย้มพูดจาอ่อนโยนกับมู่นวลนวลผู้หญิงขี้เหร่คนนั้น!

……

จนกระทั่งในเวลาที่ในห้องเหลือเพียงมู่นวลนวลกับมู่เจิ้งซิวสองคน มู่เจิ้งซิวจึงมีสีหน้าจริงจัง และพูด “เมื่อก่อนมองไม่ออกว่าเธอเป็นเด็กที่มีความรู้และกล้าหาญ คาดไม่ถึงว่าจะกล้าให้ปาปารัสซี่มาทำข่าวโรงงานของตัวเอง เรื่องราวที่เธอทำถูกตีแผ่มากมายแต่เธอก็ไม่ร้อนใจ”

มู่นวลนวลในใจตื่นตกใจ เป็นไปอย่างที่คิดมู่เจิ้งซิวรู้แล้ว!

มู่ลี่หยานไม่ได้สงสัยเธอ เป็นเพราะว่าที่ผ่านมาที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในตระกูลมู่แสดงเป็นคน“คนโง่”เหมือนในละคร นี้ก็พอแล้วที่ทำให้มู่ลี่หยานสะเพร่า

ยิ่งกว่านั้น เรื่องโรงงานครั้งก่อน เป็นมู่นวลนวลที่“ขอร้อง”โม่ถิงเซียวให้ช่วยแก้ไขปัญหาให้มู่กรุ๊ป

แต่มู่เจิ้งซิวไม่เหมือนกัน สมองของเขาฉลาด กลับมาอยู่ในตระกูลมู่ไม่นาน ก็ดูออกว่าเรื่องนั้นมีลับลมคมใน

“คุณปู่ตำหนิหนูที่ให้ปาปารัสซี่เข้ามาทำข่าวเรื่องของโรงงาน?”ในเมื่อมู่เจิ้งซิวไม่พูดพล่ามทำเพลง เธอก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนปกปิดอะไรอีก

ทุกคนก็พูดชัดเจนแล้ว ก็ดี

“เธอก็รู้เพราะว่าเรื่องโรงงาน ทำให้มู่กรุ๊ปสูญเสียเงินไปเท่าไหร่ไหม?”

“แต่ว่า ฉันแค่อยากใช้โอกาสนี้ทำให้ชื่อเสียงในสังคมของมู่กรุ๊ปโด่งดังขึ้นเท่านั้นเอง หลังจากนั้นโม่ถิงเซียวก็ช่วยมู่กรุ๊ปข้ามผ่าน

อุปสรรคและความยากลำบากไปได้ และชื่อเสียงในสังคมของมู่กรุ๊ปก็ดังขึ้นแล้ว คนที่อยากร่วมมือก็มาหามู่กรุ๊ปเพิ่มมากขึ้น”

มู่นวลนวลรู้สึกว่าตัวเองมีฝีมือในการพูดโกหกยิ่งยอดเยี่ยมขึ้นมากแล้ว

ถูกคนชื่นชมว่าฉลาดเป็นเรื่องที่น่าดีใจ ถ้าหากว่าฝ่ายตรงข้ามน่าจะเป็นศัตรูมากกว่าเป็นมิตร ก็ต้องเสแสร้งทำเป็นคนโง่

มู่นวลนวลรู้สึกว่า มู่เจิ้งซิวคือน่าจะเป็นศัตรูมากกว่าเป็นมิตร

สัมผัสที่หกของมนุษย เป็นสิ่งที่ถูกต้องแม่ยำและมหัศจรรย์โดยตลอด

มู่เจิ้งซิวหรี่ตามอง คล้ายกับว่ากำลังแยกแยะคำพูดเธอว่าเป็นจริงหรือว่าปลอม

มู่นวลนวลค่อยๆเบิกตาโตขึ้นเล็กน้อย เม้มริมฝีปาก ให้ตัวเองดูเหมือนบุคคลที่ไม่มีความผิด

เร็วมาก มู่เจิ้งซิวก็พูดเสียงเย็นขึ้นมา โบกมือและพูด “ออกไปเถอะ”

“อ้อ”

มู่นวลนวลได้ฟังก็ลุกขึ้นยืนเดินตรงออกไป เดินไปสองสามก้าว ฉับพลันนั้นเธอก็หันหน้ากลับไปมองที่มู่เจิ้งซิว “คุณปู่ จริงๆแล้วคุณเรียกหาฉันเพราะเรื่องอะไร?”

“ไม่มีอะไร ไปเถอะ”น้ำเสียงของมู่เจิ้งซิวเห็นได้ชัดว่ารำคาญเล็กน้อย เหมือนกับรำคาญอยากให้เธอรีบออกไป

สีหน้าของมู่นวลนวลที่แสดงออกมาจืดจางลง หันหน้ากลับเดินตรงออกไป

ถึงแม้ว่ามู่เจิ้งซิวจะดีกับเธอกว่าคนอื่นในตระกูลมู่เล็กน้อย. แต่เขาก็เป็นคนของตระกูลมู่ ธาตุแท้ของคนตระกูลมู่เหมือนกับว่าไม่ชอบเธอ

เมื่อกี้มู่เจิ้งซิวก็ยังพูดว่าที่ผ่านมาเธออยู่ในตระกูลมู่ถูกเอาเปรียบไม่มียุติธรรม หลังจากนั้นก็กลับถามเรื่องที่โรงงาน ก็รำคาญทำกับมู่นวลนวลเหมือนคำสั่งให้ส่งแขก

ยังเป็นจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนไม่ชักช้ายืดยาด

ในเวลาพักเที่ยง มู่เจิ้งซิวเริ่มเรียกประชุมผู้บริหารชั้นสูง เกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของมู่กรุ๊ปปรึกษาหารือกับแผนรับมือด้วยกัน

มู่หวันฉีกับมู่ลี่หยานก็เข้าร่วม มู่นวลนวลไม่ได้ไป

เพราะว่ามู่เจิ้งซิวไม่ได้เรียกมู่นวลนวล

อาจเป็นเพราะมู่เจิ้งซิวที่ช่วงบ่ายเข้ามาทดสอบหยั่งเชิงกับมู่นวลนวล ทำให้เขารู้สึกว่ามู่นวลนวลโง่จริงๆ ดังนั้นก็ขี้เกียจจะสนใจเธอ

แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นแบบนี้ คนตระกูลมู่ไม่ว่าจะทำเรื่องใดๆก็ต้องกำจัดเธอมาอยู่ด้านนอก

มู่นวลนวลเข้าใจมาโดยตลอด ดังนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเป็นทุกข์กับเรื่องนี้

ไม่เข้าร่วมประชุมนั่น เธอก็สามารถเลิกงานเร็ว แบบนี้ไม่ใช้ดีมากเหรอ?

……

เพราะว่าเป็นวันศุกร์ มู่นวลนวลก็ไม่ได้คิดจะกลับบ้านเลย หลังจากที่รอให้โม่เจียเฉินเข้ามาก็ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตด้วยกัน

โม่เจียเฉินขึ้นรถแล้วก็พูด “ได้อิสรภาพแล้ว!”

“ทำไม?”

“อาทิตย์หน้าก็ปิดภาคเรียนฤดูหนาวแล้ว”โม่เจียเฉินทรุดตัวนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลัง ใบหน้าตื่นเต้นดีใจ

มู่นวลนวลเตือนสติเขาอย่างใจดำ “ก่อนหน้าที่จะปิดภาคเรียนฤดูหนาวก็มีสอบ”

 โม่เจียเฉินก็สีหน้าบึ้งตึงลงทันที

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset