ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 172 ไปจับชู้ที่โรงแรม

ในห้องอาหาร

มู่นวลนวลกำลังนั่งกินข้าว โม่ถิงเซียวโอบแขนเธอไว้ นั่งตรงข้ามกับเธอและจ้องมองเธอ

สีหน้าของเขาเย็นชา แต่สายตาจดจ้องมองเธอ ราวกับว่าไม่ได้เห็นเธอมาหลายปี

มู่นวลนวลรู้สึกว่าโม่ถิงเซียวติดหนึบเกินไป เขามองเธอจนเธอรู้สึกอึดอัด

ด้วยเหตุนี้เธอจึงถามโม่ถิงเซียวว่า:“หลั๋วหยิ๋ง……เธอเกิดอะไรขึ้น?”

แน่นอนว่าเธอเชื่อใจโม่ถิงเซียว แต่ก็แค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่

โม่ถึงเซียวไม่ตอบและถามกลับ:“เห็นข่าวแล้วใช่ไหม?”

“อืม เห็นแล้ว” มู่นวลนวลยัดโจ๊กเข้าปากอีกหนึ่งช้อน แล้วหรี่ตาเล็กน้อยด้วยความพึงพอใจ

ฝีมือของป้าหูอร่อยมาก

แม้ว่าเธอจะทำอาหารเป็น แต่ฝีมือของป้าหูดีกว่าเธอมากๆ

โม่ถิงเซียวสังเกตท่าทางของเธอ พบว่านอกเหนือจากใบหน้าที่พึงพอใจแล้วก็ยังไม่มีร่องรอยของความโกรธเลย

เขาขมวดคิ้วและถามว่า:“ไม่โกรธ?”

“ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องจริง แล้วมีอะไรจะต้องโกรธ” มันเป็นเพียงช่องว่างเท่านั้น

ชื่อของโม่ถิงเซียว ถูกเชื่อมโยงกับผู้หญิงคนอื่นๆ เธอก็ไม่ได้สบายมากนัก

เมื่อคิดอย่างนี้แล้ว เธอก็เอาช้อนจิ้มลงในชามสองครั้ง ตอนนี้เธอรู้สึกโกรธนิดหน่อย

โม่ถิงเซียวจ่องมองเธออย่างไม่ละสายตา:“เชื่อใจฉันอย่างนั้นหรอ?”

“ทำไมต้องไม่เชื่อใจคุณ?ถ้าคุณต้องการคนอย่างหลั๋วหยิ๋ง ไม่สู้คุณไปหามู่หวันฉี”

มู่นวลนวลพูดถึงแก่นแท้ด้วยการอุปมา และสีหน้าของโม่ถิงเซียวก็ซึมลง

มู่นวลนวลเหลือบมองเขาอย่างระมัดระวัง และพบว่าสีหน้าของเขาไม่ค่อยดี คำพูดนั้นของเธอยั่วโมโหเขา?

“มู่นวลนวล เธอฟังฉันให้ชัดๆนะ”

“หื้ม?” ต้องการจะด่าเธอ?

“ฉันไม่อนุญาตให้เธอพูดว่าให้ฉันไปหาผู้หญิงคนอื่นอีก”

“หื้ม?” มู่นวลนวลกำลังไตร่ตรองในใจว่า ถ้าโม่ถิงเซียวด่าเธอ เธอจะตอบกลับไปยังไง แต่โม่ถิงเซียวกลับพูดอย่างนี้

เธอทำอะไรไม่ถูก บางครั้งเธอรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้ดื้อรั้นยิ่งกว่าเธอ

“ฉันแค่เปรียบเทียบเป็นตัวอย่างเท่านั้น”

“แค่เปรียบเทียบก็ไม่ได้”

“……โอเค” ความเย่อหยิ่งของมู่นวลนวลอ่อนลงทันที

สีหน้าของโม่ถิงเซียวตรงไปตรงมา และพูดกับมู่นวลนวลอย่างถูกต้อง

เขาขมวดคิ้วและพูดว่า:“หลั๋วหยิ๋งกำลังสงสัยตัวตนของฉัน”

มู่นวลนวนกินเกือบจะหมดแล้ว เมื่อได้ยินอย่างนั้นเธอก็วางช้อนลงแล้วมองไปที่เขา:“งั้นทำยังไงดี?”

โม่ถิงเซียวคร่ำครวญอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า:“ปล่อยให้เป็นไปตามนั้น”

“ปล่อยให้เป็นไปตามนั้น?” มู่นวลนวลตามความคิดของเขาไม่ทัน

ให้เป็นไปตามนั้นความหมายคือ โม่ถิงเซียวจะปรากฏตัวต่อสายตาของสาธารณชนหรอ?

เมื่อเป็นคุณชายใหญ่ของตระกูลโม่ ข่าวลือที่ทำให้เสียหายไม่ต้องชี้แจ้งแก้ไขก็จะยุติไปเอง

และสิ่งที่ตามมาอาจจะเป็น……ผู้หญิงนับไม่ถ้วนที่อยากมาอยู่ใกล้โม่ถิงเซียว

ความรู้สึกในใจของมู่นวลนวลนั้นลึกซึ้งละเอียดอ่อน

ราวกับว่าเธอเก็บของล้ำค่าเอาไว้ และมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถมองเห็นมันได้ตลอด แม้ว่าเธอจะรู้ว่าของล้ำค่านั้นมีค่ามากแค่ไหน แต่ในวันหนึ่งของล้ำค่านี้ก็ต้องปรากฏต่อสายตาของสาธารณชน และยังเป็นที่ต้องการของผู้คนมากมาย

ความรู้สึกแบบนี้……ไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่

“อิ่มแล้วหรอ?”

จู่ๆโม่ถิงเซียวถาม มู่นวลนวลพยักหน้า:“อืม”

หลังจากนั้นมู่ถิงนวลก็ถูกโม่ถิงเซียวลากกลับไปที่ห้องนอน พอเข้าประตูมาก็จูบอย่างรุนแรงดุจพายุพัดโหม

ความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนในใจของมู่นวลนวลก็ถูกจูบที่แนบสนิทนั้นชะล้างจนหายไป

ก่อนหน้านี้เคยได้ยินว่าไม่ได้พบเพียงหนึ่งวัน เหมือนไม่ได้พบกันนานสามปี มู่นวลนวลรู้สึกว่ามันเกิดจริงไปหน่อย

แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมามู่นวลนวลก็รู้สึกเช่นนี้เช่นกัน

มู่นวลนวลคล้อยตามและให้ความร่วมมือ ทำให้โม่ถิงเซียวยิ่งอารมณ์ดี

เมื่ออารมณ์เข้มข้น โม่ถิงเซียวก็เล้าโลมเธอด้วยเสียงที่แผ่วเบา:“เรียกสามีสิ”

“สามี……!”

……

มู่นวลนวลขึ้นเครื่องบินตอนเช้า หลังจากกลับมาถึงเธอก็กินโจ๊กเพียงหนึ่งชาม และถูกโม่ถิงเซียวจับตัวเข้าไปในห้อง

เมื่อตื่นขึ้นว่าก็เป็นเวลากลางคืนแล้ว

ไฟดวงใหญ่ในห้องยังไม่ได้เปิด มีเพียงแสงไฟอ่อนๆด้านข้าง

มู่นวลนวลหันหน้าไปมองโม่ถิงเซียวนั่งอ่านเอกสารอยู่บนโซฟาไม่ไกลจากเตียงนอน ด้านข้างมีโคมไฟตั้งพื้นส่องแสงสีเหลืองสลัว

โม่ถิงเซียวอาบน้ำแล้ว ผมบนหน้าผากของเขานุ่มสลวย และสวมเสื้อผ้าสบายๆ แสงไฟสีเหลืองสลัว ทำให้ออร่าบนตัวเขาลดลงไม่น้อย แต่ถึงอย่างไรเขาดูอ่อนโยนมาก

มู่นวลนวลจ้องมองเขาสักพัก และอดไม่ได้ที่จะยิ้มและกลิ้งไปมา

การเคลื่อนไหวของเธอดึงดูดความสนใจของโม่ถิงเซียว

เขาเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาของเขาเหมือนกับระบายสีด้วยหมึกเข้ม จนไม่สามารถแยกแยะอารมณ์ความรู้สึกของเขาได้ เห็นได้ชัดถึงความอ่อนโยน

และพูดเสียงต่ำว่า:“หิวไหม?”

“หิว” มู่นวลนวลอ้าปากก็พบว่าเสียงของตัวเองแหบแห้ง เธอจึงพยักหน้า

โม่ถิงเซียววางเอกสารในมือ ลุกขึ้นเดินมานั่งที่ข้างเตียง และโน้มตัวไปจูบที่หน้าผากเธอ

พอจะปลีกตัวออกก็พบว่าดวงตาที่สวยงามของมู่นวลนวลจ้องมองมาที่เขา

เขาชอบดวงตาของเธอมากที่สุด สวยงามยังไม่พอ เวลาที่เธอมองมาก็รู้สึกว่ามันดึงดูดเขา

เขาอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวไปจูบอีกครั้ง

มู่นวลนวลหายใจไม่ออก ดิ้นๆแล้วยื่นมือผลักเขาออกไป:“ฉันหิวมาก!”

ลมหายใจของโม่ถิงเซียวกระวนกระวาย:“จะลงไปกินชั้นล่างหรือให้เอาขึ้นมา?”

“ลงไปกินชั้นล่าง!” ถ้าให้เอาขึ้นมาชั้นบน ป้าหูจะไม่รู้ได้อย่างไรกันว่าเธอกับโม่ถิงเซียวทำอะไรกันในห้องเมื่อตอนบ่าย!

โม่ถิงเซียวมองความคิดของเธอออก เขาเม้มริมฝีปากและหัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาดูมีความสุขและอิ่มอกอิ่มใจ

มู่นวลนวลรู้สึกว่าเขากวนตีน และยื่นมือออกไปทุบที่หน้าอกเขาสองที

……

เช้าวันต่อมา

มู่นวลนวลถูกโทรศัพท์ปลุก

เธอยื่นมือออกไปหาโทรศัพท์ โม่ถิงเซียวที่อยู่ข้างๆหาโทรศัพท์ของเธอเจอ และช่วยวางสายให้เธอ

เขาดึงเธอกลับเข้ามาในอ้อมแขน:“ยังเช้าอยู่ นอนต่ออีกสักหน่อย”

เธอจ้องมองและกำลังจะนอนต่อ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง

มู่นวลนวลก็ตื่นขึ้นมา เมื่อโม่ถิงเซียวเห็นว่าเธอถูกปลุก สีหน้าของเขาก็ไม่ค่อยดี จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและกำลังจะปิดเครื่อง

“อย่าปิดเครื่อง เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน” มู่นวลนวลหยิบโทรศัพท์มาจากมือของโม่ถิงเซียว

เสียงของเซินเหลียงดังมาจากอีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ เห็นได้ชัดว่าเธอทั้งตื่นเต้นและโมโห:“เธอยังหลับอยู่ใช่ไหม!รีบลุกขึ้นมาเลย พวกเราต้องไปจับชู้ที่โรงแรม!”

“ห่ะ?จับใคร?” มู่นวลนวลสับสนงงงวย จับใครแต่เช้า?

เซินเหลียงพูดด้วยน้ำเสียงกังวล:“แน่นอนว่าเป็นสามีของเธอ โม่ถิงเซียว!”

มู่นวลนวลเหลือบมองโม่ถิงเซียวที่กำลังจะจูบตัวเอง:“……”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset