ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย – ตอนที่ 199 ใช้เธอเป็นเครื่องมือในการจัดการโม่ถิงเซียว

เมื่อสิ้นเสียงคำถามลง เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าโม่ถิงเซียวหยุดชะงักไปเล็กน้อย

แต่เขาก็ถามเธอกลับในชั่วขณะถัดไปทันที “ทำไมเหรอ”

น้ำเสียงของเขาเป็นธรรมชาติไหลลื่น ฟังแล้วไม่มีความผิดแปลกแม้เพียงนิด

มู่นวลนวลคีบข้าวเข้าปากหนึ่งคำ จ้องโม่ถิงเซียวอย่างเงียบๆ

โม่ถิงเซียวมีท่าทางสงบนิ่งและปล่อยให้มู่นวลนวลจ้องเขาตาเขม็งไปอย่างตามใจชอบ ซ้ำยังคีบกับข้าวให้มู่นวลนวล

“เมื่อก่อนฉันได้ยินมาว่า คนที่อยู่ในวงการบันเทิงมานาน ส่วนใหญ่จะรู้สึกไวต่อพวกกล้องกับปาปารัสซี่กันทั้งนั้น ถ้าเกิดว่ามีคนแอบถ่าย ปกติแล้วก็จะต้องรู้ตัว ดังนั้นแล้วรูปที่พวกปาปารัสซี่แอบถ่ายแล้วส่วนใหญ่มักจะไม่ใช่รูปที่ชัด”

ในคำที่มู่นวลนวลพูดแฝงความหมายอื่นไว้ คนฉลาดแบบโม่ถิงเซียว จะต้องรู้ทันเรื่องนี้แน่นอน

เขาพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “คนเขาพูดกันแบบนี้เองเหรอ”

“อือ”

มู่นวลนวลหรี่ดวงตาลงเล็กน้อย แล้วกินข้าวอย่างเงียบๆ

แต่ใจของเธอได้ลอยไปไกลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

มู่นวลนวลตั้งใจที่จะนำหัวข้อสนทนาเข้าสู่เรื่องซือเฉิงยวี่ถูกแอบถ่ายจนขึ้นเป็นหัวข้อค้นหายอดนิยม ทว่าโม่ถิงเซียวกลับทำทีราวกับว่าดูไม่ออก และไม่ต่อประโยคสนทนาของเธอต่อ

มู่นวลนวลนึกถึงการคาดเดาครั้งที่แล้วของเธอ จิตใจก็สับสนขึ้นมาโดยพลัน

ครั้งก่อนที่กลายเป็นประเด็นร้อนเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และเธอก็เคยเอ่ยถามโม่ถิงเซียว โม่ถิงเซียวตอบว่าหาตัวไม่พบ

เธอจึงเดาว่าโม่ถิงเซียวอาจจะหาเจอแล้ว เพียงแต่ไม่พูดออกมา

เธอยังสงสัย นอกจากครั้งแรกที่เป็นเรื่องไม่คาดคิดและได้ขึ้นเป็นหัวข้อประเด็นร้อนไป สองครั้งหลังจากนั้นคนที่ทำก็อาจจะเป็น……..ซือเฉิงยวี่!

บทสรุปนี้ที่เธอคิดยังมีจุดที่ดูจะเกินจริงอยู่ไปบ้าง แต่คนที่สามารถจะทำให้คนแบบโม่ถิงเซียวรู้สึกลังเลและพะว้าพะวังได้ คนที่เหลือที่เธอนึกออกก็มีแค่ซือเฉิงยวี่คนเดียวเท่านั้น

อีกทั้งครั้งที่สองที่เกิดหัวข้อค้นหายอดฮิต ไม่มีใครติดต่อซือเฉิงยวี่ได้เลย

มิหนำซ้ำในบทความยาวที่โม่ถิงเซียวลงในเวยป๋อ ส่วนใหญ่จะพูดถึงเรื่องของซือเฉิงยวี่กับ Shengding Media ในช่วงหลายปีมานี้ทั้งสิ้น

พอตอนนี้ได้มาย้อนกลับไปดูบทความยาวที่โม่ถิงเซียวลงในครั้งนั้น เขาอาจจะไม่ได้ต้องการที่จะประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว แต่ดูราวกับว่าเขียนเพื่อให้ซือเฉิงยวี่อ่านแทนอีกด้วย

ราวกับกำลังให้โอกาสซือเฉิงยวี่อยู่

เคลื่อนไหวจัดการด้วยตัวคนเดียว และก็สร้างโอกาสคืนดีปรับความเข้าใจให้คนสองคน

แน่นอนว่าการคาดเดานี้ จะต้องตั้งอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าทั้งหมดนี้คือซือเฉิงยวี่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุเองถึงจะฟังขึ้น

อาจจะเป็นเพราะไม่ได้ยินเสียงมู่นวลนวลพูดมาเป็นเวลานาน โม่ถิงเซียวจึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอ แล้วพูดออกไปว่า “ไม่ต้องไปคิดมากหรอก ไม่ว่าเรื่องอะไรฉันก็จัดการได้”

มู่นวลนวลทำปากยื่นพลางพูดว่า “ไม่ต้องคิดมากหรอก เรื่องอะไรฉันก็จัดการเองได้ทั้งนั้น มีเรื่องอะไรก็มาพูดมากล่าวให้ฉันฟังบ้างก็ได้ ไม่แน่ฉันอาจจะช่วยคุณออกความความเห็นด้วยได้ก็ได้”

ดวงตาของทั้งคู่สบเข้าหากัน

ดวงตาของมู่นวลนวลส่องประกายใสกระจ่าง หลังจากที่โม่ถิงเซียวสบตากับเธอเป็นเวลาหลายวินาที ก็พลันรู้สึกว่าถูกเธอบุกรุกเข้ามานั่งอยู่ภายในใจเขา จึงรีบหลบสายตาออกมาก่อน

มู่นวลนวลถอนหายใจออกมา โม่ถิงเซียวยังคงตัดสินใจที่จะไม่คุยกับเธอเรื่องซือเฉิงยวี่

เขากำลังหลบเลี่ยง

ดูท่าแล้วการคาดเดาของเธอน่าจะถูกต้องไปประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์

อันที่จริงแล้วซือเฉิงยวี่เป็นพี่ใหญ่ของโม่ถิงเซียว ทั้งสองคนเป็นพี่น้องกันมายี่สิบกว่าปีได้แล้ว แล้วตัวเธออยู่กับโม่ถิงเซียวนานขนาดไหนกันเชียว

เมื่อคิดเช่นนี้ แม้ว่าจะทำให้มีความอ้างว้างอย่างอธิบายไม่ถูก แต่ก็เป็นความจริง

……..

แม้ว่าโม่ถิงเซียวจะไม่บอกอะไรเธอเลย แต่มู่นวลนวลก็รับรู้ได้ว่าโม่ถิงเซียวจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว

แม้แต่ “คนนอก” เช่นเธอ ยังรู้สึกไม่เข้าใจถึงสิ่งที่ซือเฉิงยวี่ทำ ก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโม่ถิงเซียวเลย

วันนี้แม้ทั้งสองคนจะได้ลางานพักผ่อนอยู่บ้าน แต่กลับไม่มีเรื่องอะไรให้พูดคุยกันเท่าไหร่นัก

หัวข้อประเด็นร้อนของมู่นวลนวลและซือเฉิงยวี่เลวร้ายลงเร็วมาก

ผู้คนบนโลกออนไลน์ต่างก็คาดเดาต่างๆ นานา ว่ามู่นวลนวลเป็นใคร และก็ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องที่ “XN” ผู้ก่อตั้ง Shengding Media พูดขึ้นมาอีกเลย แต่สำหรับมู่นวลนวลแล้วกลับไม่ได้ส่งผลกระทบอะไร

กลับกลายเป็นว่ามีคนพูดลือกันแทนว่า หนังเรื่องใหม่ของซือเฉิงยวี่กำลังจะออกฉายแล้ว เพราะฉะนั้นจึงใช้โอกาสนี้สร้างกระแส

แน่นอนว่าพอมีคนพูดแนวนี้ปรากฏขึ้นมา ก็จะถูกบรรดาแฟนคลับของซือเฉิงยวี่รุมด่าประชาทัณฑ์ไป

“ซุปเปอร์สตาร์ซือของพวกเราจำเป็นต้องสร้างกระแสด้วยเหรอ”

“ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนั้นของซุปตาร์ซือของพวกเราพอออกฉายวันแรก ยอดซื้อตั๋วก็เกินร้อยล้านเลยไม่ใช่เหรอ”

“เกินขอบเขตจินตนาการของคุณไปไกลเลยล่ะ”

มู่นวลนวลก็ไม่ได้กังวลใจกับเรื่องพวกนี้หรอก ทั้งนี้เพราะว่าโม่ถิงเซียวเคยพูดไปแล้วว่า เขาจัดการได้

ทว่า เหตุการณ์ไม่คาดคิดและเรื่องพลิกผันมากมายมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คลื่นลมสงบที่สุด

……….

มู่นวลนวลไปถึงบริษัทตั้งแต่เช้าตรู่ ก็ได้ยินบรรดาเพื่อนร่วมงานกระซิบกระซาบถกกันเรื่องซือเฉิงยวี่

“ช่วงนี้ซุปตาร์ซือขึ้นเป็นหัวข้อค้นหายอดฮิตถี่มากว่าไหม”

“ใช่ ก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ตำแหน่งกาแฟของเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างกระแสแล้ว แล้วก็ยิ่งไม่ต้องพยายามเรียกร้องให้คนสนใจด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าถูกใครเขาแทงข้างหลังเข้าเสียแรงขนาดนี้”

“เมื่อวานมีคนโพสต์ในเวยป๋อ บอกว่ารู้แล้วว่าผู้หญิงคนที่ไปกินข้าวกับซุปตาร์ซือคือใคร”

“จริงหรือมั่วกันล่ะ ซุปตาร์ซือน่าจะโสดนี่ ตารางงานโปรโมตงานแสดงเขาแน่นเอี๊ยดตลอดเลย…….”

“ตารางงานปีนี้ของเขาก็ไม่ได้แน่นขนาดนั้นนะ…….”

มู่นวลนวลฟังถึงตรงนี้ก็กดเข้าเวยป๋อขึ้นมา หาอยู่ไม่นานก็เจอข้อความในเวยป๋ออันนั้นที่พวกเธอกำลังพูดถึงกัน

ข้อความนั้นติดหัวข้อแฮชแท็กว่า #แฟนสาวลึกลับของซือเฉิงยวี่ ซึ่งแฮชแท็กดังกล่าวก็ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่หนึ่งของเรื่องที่เป็นที่นิยมในเวยป๋อ

“ทุกคนไม่ต้องเดากันมั่วๆ แล้ว ผมรู้ว่าผู้หญิงคนที่ไปกินข้าวกับซูปเปอร์สตาร์ซือคือใคร แล้วเจอกันวันศุกร์ตอนสองทุ่ม”

ชื่อผู้ใช้ล้วนแต่เป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษทั้งหมด แต่กลับมีคนติดตามที่เป็นพวกชอบเปิดเผยความลับดาราเป็นหมื่นๆ คน

เมื่อนำมาเปรียบเทียบดูแล้วระดับความน่าเชื่อถือจึงค่อนข้างสูงเลยทีเดียว

ข้อความที่เขาลงในเวยป๋อนั้นเป็นแค่ประโยคสองประโยคง่ายๆ แต่กลับเป็นการทิ้งระเบิดลูกใหญ่เอาไว้ราวกับถึงฉากสำคัญในละคร

พรุ่งนี้ก็คือวันศุกร์แล้ว คนตอบกลับข้อความส่วนใหญ่ล้วนแต่บอกว่าเฝ้ารอคอยวันศุกร์

แต่มู่นวลนวลก็ไม่ได้เอาเรื่องของคนคนนี้เก็บมาใส่ใจ ทั้งนี้เพราะเธอมีโม่ถิงเซียวหนุนหลังอยู่ จึงสามารถหายใจได้อย่างทั่วท้อง

เธอเลื่อนหน้าจอเพื่อดูข้อความใหม่ๆ ของเขา ก็เจอข้อความหนึ่งที่ผู้ใช้คนนี้เป็นคนเขียนลงเวยป๋อ “ในเมื่อทุกคนสงสัยกันขนาดนี้ งั้นผมก็จะใบ้ให้นิดหนึ่งละกัน และคำใบ้ก็คือจบจากคณะนิเทศชั้นนำในประเทศ เป็นคนในวงการ แต่ไม่ใช่ดารา ปัจจุบันทำงานอยู่บริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่”

สำหรับคนอื่นแล้ว ข้อความนี้เป็นการพูดคลอบคลุมไปอย่างกว้างขวาง

ทว่าหลังจากที่มู่นวลนวลลองเอาตัวเองไปวางเทียบดู ใจก็รู้สึกเป็นกังวลขึ้นมา

เธอจบจากคณะนิเทศศาสตร์ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเป็นคณะนิเทศศาสตร์ชั้นนำในประเทศ ตอนนี้เข้าทำงานอยู่ที่ Shengding Media เป็นผู้เขียนบทซึ่งก็ถูกนับรวมว่าเป็นอาชีพในวงการบันเทิง และเธอก็ไม่ใช่ดารา

ทั้งหมดนี้ล้วนสอดคล้องเข้ากับตัวเธอ

เธอลุกขึ้นยืนเดินไปห้องพักสำหรับดื่มน้ำชาแล้วโทรหาโม่ถิงเซียว

เธอโทรไปหาโม่ถิงเซียวและรอจนกระทั่งสายถูกตัดไปเองเนื่องจากไม่มีคนกดรับ

มู่นวลนวลสูดหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งที และเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยใจที่ไม่สงบนิ่ง

โม่ถิงเซียวไม่ได้โทรกลับหาเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ตอนเลิกงานมู่นวลนวลบังเอิญไปเจอเข้ากับซือเฉิงยวี่

ถ้าสมมุติว่าเรื่องที่ขึ้นเป็นหัวข้อประเด็นร้อนสองครั้งสุดท้ายมานี้ เป็นซือเฉิงยวี่ที่ก่อเรื่องเล่นละครเองขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็…….

เมื่อมู่นวลนวลคิดได้ถึงตรงนี้ ความไม่พอใจที่ค่อยๆ สะสมมาก็ก่อตัวเป็นความโกรธที่สุมอยู่ในอกแล้ว

เธอถูกลากให้ลงมาจมน้ำด้วยอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ตกเป็นหัวข้อประเด็นร้อนให้คนเขาวิพากษ์วิจารณ์อยู่ทุกวัน สุดท้ายก็ต้องให้โม่ถิงเซียวมาคอยตามจัดการ

ถ้าเป็นเช่นนี้ก็รู้ชัดถึงเป้าหมายของซือเฉิงยวี่แล้วว่า

เขาต้องการที่จะจัดการโม่ถิงเซียว

โดยใช้เธอเป็นเครื่องมือในการจัดการโม่ถิงเซียว

ซือเฉิงยวี่เดินมาจากทางด้านหน้าเธอ ข้างกายเขาไร้ซึ่งเงาของผู้ช่วยหรือแม้แต่เอเจ็นซี่

มู่นวลนวลเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ขวางทางไม่ให้เขาเดินไปต่อได้ “พี่ใหญ่ ช่วงนี้ยุ่งมากหรือเปล่าคะ”

ซือเฉิงยวี่เห็นว่านัยน์ตามู่นวลนวลเด็ดเดี่ยว จึงชะงักงันไปเล็กน้อยก่อนยิ้มแล้วพูดว่า “ก็ดีอยู่”

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

ผู้อํานวยการที่รักใคร่เมีย

พี่สาวลูกครึ่งของหมู่นวลนวลไม่ต้องการแต่งงานกับคู่หมั้นที่น่าเกลียดและไร้มนุษยธรรม มารดาผู้ให้กำเนิดคุกเข่าขอร้องเธอ:“ พี่สาวของคุณสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่า คุณช่วยเธอได้” เขารู้สึกเศร้ามาก แทนพี่สาวแต่งงาน. ในคืนแต่งงาน ชายหนุ่มรูปงามขมวดคิ้วและมองมาที่เธอ: "มันน่าเกลียดเกินไป" เธอคิดว่าทั้งสองจะเคารพซึ่งกัน แต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะครอบงำเธอโดยตรง: "ไม่ว่าจะน่าเกลียดแค่ไหนเธอก็เป็นผู้หญิงของผมด้วย" เธอจ้องเขา : "คุณ…คุณทำไม่ได้ … " ชายคนนั้นถอดชุดชั้นในของเธอปลอมตัวออก มองใบหน้าที่สวยงามเดิมของเธอ แล้วยิ้มอย่างร้ายกาจ: "ดูเหมือนว่าเราทุกคนจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับกันและกัน"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset