พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย – ตอนที่ 53

ออสการ์ที่ได้พบกับไอซิส รีบก้าวเท้าตรงไปข้างๆ เธอ

“ทานมื้อเที่ยงมาหรือยัง ออสการ์”

“…เลดี้มิเอลก็อยู่ด้วยเหรอครับ”

“ยังไม่ได้บอกหรอกเหรอ”

“…….”

ไอซิสที่ยังไม่ได้บอกเขาแม้แต่คำเดียวก็แกล้งทำอยู่เช่นนั้น แต่ออสการ์ก็ไม่ได้พูดอะไรตอบ

“ก่อนอื่นนั่งก่อนเถอะ ออสการ์ อย่างน้อยก็ดื่มชากันสักหน่อยน่าจะดี”

เขานั่งข้างมิเอลโดยไม่พูดอะไรสักคำ เพราะจะบังอาจนั่งข้างพี่สาวตัวเองไม่ได้อย่างไรล่ะ

มิเอลเผยสีหน้าแดงก่ำพลางเหลียวมองออสการ์ ขนาดตอบรับคำทักทายยังทำไม่ได้อย่างที่เคย ดูก็รู้ว่าตนพอใจสักเพียงไหน

“ไม่ได้พบกันนานเลยนะคะ คุณออสการ์”

“สบายดีไหม”

“ค่ะ… หน้าตาดูโทรมลงเยอะเลยนะคะ”

“อาจจะเพราะช่วงนี้ยุ่งมากน่ะ”

“หากดิฉันได้คอยดูแลอยู่ข้างๆ ก็คงจะดี… แต่ว่ายังทำเช่นนั้นไม่ได้ปวดใจจริงๆ เลยค่ะ”

“…ไม่เป็นไรหรอก ไม่ถึงกับต้องทำขนาดนั้นก็ได้”

จนถึงขนาดนี้ออสการ์ก็ยังไม่เข้าใจจิตใจผู้หญิงอีกยังทำท่าทางกระโชกโฮกฮากแบบนั้น ทำให้ไอซิสไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“ออสการ์ ไม่ได้เจอคู่หมั้นตั้งนาน จะไม่ทำตัวเย็นชาไปหน่อยหรือ”

เพราะคำว่าคู่หมั้นทำเอาออสการ์และมิเอลต่างแสดงท่าทางสวนทางกัน

“ท่านพี่… ยังไม่ได้หมั้นกันเลยนะครับ”

“ถึงอย่างไร พอมิเอลเป็นผู้ใหญ่ก็ต้องหมั้นกันอยู่ดีนี่ ทีนี้ปัญหาก็มีแค่เวลาแล้วไม่ใช่หรอกหรือ”

มิเอลเอาฝ่ามือมาปิดแก้มทั้งสองข้างของตน ดูเหมือนว่าความร้อนจะเพิ่มขึ้นเหมือนดวงอาทิตย์ด้วยซ้ำ

และในครั้งนี้ออสการ์ไม่สามารถตอบรับอะไรต่างจากเดิมได้ เพราะมันคือข้อเท็จจริง ในอนาคตสิ่งที่เคยสัญญาเอาไว้ก็จะกลายเป็นเป็นความจริง

“เลดี้มิเอลคะ ถึงออสการ์จะเย็นชาก็เข้าใจหน่อยนะคะ นิสัยเขาเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วน่ะค่ะ เรื่องนั้นพี่สาวอย่างฉันก็ทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ”

“ไม่เลยค่ะ! ไม่เป็นไรเลยค่ะ ไม่ต้องลำบากใจเลยนะคะ”

สำหรับมิเอล แค่ได้นั่งข้างๆ ออสการ์ก็มีความสุขแล้ว ยิ่งตอนนี้ที่ที่เธออยู่เป็นคฤหาสน์ของดยุกเฟรดเดอริกอีกต่างหาก

เธอรู้สึกเหมือนตอนนี้เป็นเวลาดื่มชากันอย่างเพลิดเพลินหลังจากที่เวลาผ่านไปและเธอก็ได้แต่งงานกับเขาแล้ว

ขอให้ได้เป็นไปเช่นนั้นเถอะ

อาจจะเป็นเช่นนั้นเพราะไอซิสคอยให้ความช่วยเหลือ แต่เพราะมีความกังวลเรื่องของอาเรียยิ่งทำให้เธอต้องการมากขึ้นไปอีก

“เพราะเลดี้เหมาะกับสีขาว แน่นอนว่าต้องสวมใส่ชุดเดรสได้อย่างงดงามแน่เลยค่ะ”

“เอ่อ… อย่างนั้นเหรอคะ”

“แน่นอนสิคะ สงสัยว่าคงต้องเตรียมช่อกุหลาบชุบทองคำไว้ด้วยแล้วล่ะ”

แม้ว่าจะเหลืออีกไม่กี่ปี ไอซิสก็จัดการพูดแทนน้องชายที่แสนเย็นชาของตัวเอง เพราะอย่างนั้นออสการ์ที่แม้จะไม่ได้ร่วมพูดคุยอะไร ก็สามารถส่งบรรยากาศได้สง่างามยิ่งกว่าดอกไม้ในสวนเสียอีก

หลังจากที่คงรอยยิ้มเสมอต้นเสมอปลาย ดื่มชาจนเสร็จเรียบร้อยพลางกอดส่งมิเอลที่กลับด้วยสีหน้าพอใจ ก็เดินกลับมาที่สวนอีกครั้ง ไอซิสที่ยิ้มอย่างอ่อนโยนกลับเปลี่ยนสีหน้าแล้วตำหนิออสการ์

“ออสการ์ ต้องให้พี่พูดอีกกี่ครั้งถึงจะเข้าใจ”

“…ท่านพี่”

“เพราะตระกูลของโรสเซนต์จะช่วยเหลือเราได้หลายอย่าง พี่เลยอยากให้สานสัมพันธ์เอาไว้อย่างไรล่ะ”

ดูท่าจะหงุดหงิด มือของเธอที่จับผมอยู่นั้นกลายเป็นการสางอย่างรุนแรง

“จะพูดอีกครั้งนะ อย่าละเลยความสัมพันธ์กับเลดี้มิเอล เพราะในจักรวรรดินี้ ไม่มีตระกูลไหนมีอำนาจไปกว่าท่านเคานต์โรสเซนต์แล้ว ตอนนี้ตระกูลที่เราต้องการกำลังก็คือตระกูลโรสเซนต์ พี่คิดว่าเธอก็รู้อยู่นี่”

ออสการ์ไม่สามารถตอบรับคำของพี่สาวตนเองได้ เพียงแค่ถูมือตัวเองไปมาเท่านั้น

“ทำไมไม่ตอบพี่”

“ไม่ใช่อย่างนั้นครับ”

“อะไรล่ะ”

“เรื่องนั้น…”

สายตาที่ไม่รู้จะมองทางไหน แสดงความสับสนอยู่อย่างนั้น ไอซิสที่เห็นว่าน้องชายตัวเองไม่เป็นเช่นเดิม จึงกระอักกระอ่วนใจจนหัวเราะออกมา

“หรือว่าข่าวลือนั่นคงไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม”

“…ข่าวลืออะไรกันครับ”

“ก็ข่าวลือที่เธอไปหลงลูกนางโสเภณีนั่นน่ะ”

ลูกนางโสเภณี แม้จะไม่ได้พูดชื่อออกมา ออสการ์ก็เข้าใจว่านั่นเป็นคำเรียกของอาเรีย

ไม่ใช่ว่าเพราะเขาคิดว่าอาเรียเป็นลูกนางโสเภณีหรอก เพียงแค่สามสี่เดือนมานี้เขาอดนึกถึงเธอไม่ได้ จึงรู้ตัวเองเท่านั้น

“…พี่พูดเรื่องอะไรกัน ผมไม่ทราบ”

“แม้หล่อนจะแต่งงานใหม่ได้นามสกุลของท่านโรสเซนต์ แต่เด็กคนนั้นก็ไม่ได้เด็ดขาด ไปสนใจเด็กสกปรกแบบนั้นได้อย่างไรกันนะ สู้เป็นโสดไปทั้งชีวิตยังจะอ้างได้ดีกว่าเสียอีก”

“…….”

“ออสการ์ เชื้อกำเนิดน่ะมันไม่หายไปไหนหรอก หล่อนก็เหมือนกับแม่ของหล่อนที่ใช้มารยาหลอกล่อใจชายไปทั่ว แล้วสักวันหล่อนจะทรยศเธอ”

“…….”

“อีกอย่าง พี่ไม่อยากจะให้เลือดนางโสเภณีมาแปดเปื้อนตระกูลของเรา”

คำพูดเหล่านั้นไม่ผิดเลยสักอย่าง แม้ว่าจะซักฟอกชนชั้นตัวเองสักเท่าไหร่ การที่อาเรียเป็นลูกนางโสเภณีนั่นก็เป็นความจริง ใบหน้าอันงดงามนั้นหลอกล่อชายได้นั่นก็เป็นความจริง

แต่ทำไมกันนะ

ที่พี่สาวของตัวเองพูดถึงอาเรียด้วยคำที่ไม่ดี ตนเองกลับรู้สึกแย่ซะอย่างนั้น มีดปักอาเรียที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้กลับทำให้เขารู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองโดนทิ่มแทง

ทำไมกัน เพราะอะไรกันแน่

ในหัวของเขามีแต่ภาพรอยยิ้มที่สดใสและใบหน้าที่น่าหลงใหลของอาเรีย แม้ตอนนั้นจะรู้สึกปวดใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้กลับต่างออกไป

ตอนนั้นยังพอทนได้บ้าง ไม่สิความรู้สึกแค่เจ็บแสบนิดหน่อยเท่านั้นเอง ตอนนี้เขากลับรู้สึกราวกับถูกบีบหัวใจ

‘เธอไม่ใช่หญิงที่สมควรจะได้รับคำด่าทอเช่นนั้น…’

ต่างจากข่าวลือนั่น อาเรียเป็นเด็กที่แสนบริสุทธิ์ งดงาม แล้วยังมีเสน่ห์ แล้วก็ไม่กลั่นแกล้งมิเอลด้วย กลับกันฝ่ายที่ขีดเส้นกั้นเนื่องจากชนชั้นกำเนิดก็คือเคนและมิเอลต่างหาก

‘ไม่ว่าก่อนหน้านั้นเธอจะเป็นใคร แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่เลดี้แห่งโรสเซนต์แล้วหรอกหรือ’

เลดี้ในตระกูลชนชั้นสูงเมื่อแต่งงานแล้วก็จะเลื่อนตำแหน่งตนเองขึ้นตามสามีของตน มิเอลที่แต่งงานกับตนเองเพื่อที่จะได้กลายเป็นดัชเชสต่างอะไรกับอาเรียที่แม่ของเธอแต่งงานเลยได้เลื่อนชนชั้นมาเป็นเลดี้ในตระกูลท่านเคานต์

‘ถ้าหาก… หากเลดี้อาเรียไม่ได้มีต้นกำเนิดอย่างคนธรรมดาทั่วไป… ไม่สิ แม้จะเป็นคนธรรมดาทั่วไป…’

ถ้าอย่างนั้น คนที่อยู่ข้างเขาอาจจะไม่ใช่มิเอล แต่เป็นอาเรียก็ได้…

วาดฝันภาพครอบครัวที่ไม่มีทางเกิดขึ้นได้ พลางนึกถึงใบหน้าของอาเรีย เขานึกภาพขนตาแพยาวนั้นลดต่ำลงพร้อมกับแววตาที่ส่งมาให้กับเขา พลางส่งยิ้มอย่างมีเสน่ห์

หญิงสาวที่แสนงดงาม..

“ออสการ์”

ไอซิสเรียกออสการ์ที่มัวแต่กัดริมฝีปากตัวเองพลางกังวลอยู่ ทำไมถึงแสดงสีหน้าเช่นนั้น เธอสงสัยพลางเอียงคอมอง

สักพัก จู่ๆ เธอก็นึกออกว่าเคยเจอใบหน้าแบบนั้นที่ไหน เป็นสีหน้าของมิเอลที่มองออสการ์เมื่อก่อนหน้านี้…

“ออสการ์… หรือว่าเธอ…!”

เธอไม่สามารถพูดคำที่ตัวเองคิดในหัวออกมาได้

‘ข่าวลือนั้นเป็นจริงสินะ…!’

ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวนั้น แม้จะหงุดหงิดอยู่บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับโมโหเท่าไหร่นัก ลูกสาวนางโสเภณีที่ไม่มีทางจะได้ขึ้นมาเทียบทั้งตัวเธอเองและน้องชายของเธอได้ เธอไม่อยากให้เลือดที่มีเกียรติของตระกูลต้องแปดเปื้อน

แต่จะว่าไปเธอก็ไม่นึกไม่ฝันว่าน้องชายของเธอจะดันไปสนใจลูกนางโสเภณีแบบนั้น

มือของเธอที่สั่นเทายกถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้ามาดื่ม เธอคอแห้งถึงขนาดที่ไม่ว่าจะดื่มชาไปสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถแก้กระหายได้

แล้วก็จ้องมองไปยังออสการ์ พี่สาวของตนต้องมาปวดใจแบบนี้ ทั้งยังเจ็บแค้นน้องชายตัวเองที่ไม่ได้สติเอาเสียเลย

กระทั่งไอซิสทนไม่ไหวจนลุกขึ้นจากที่นั่ง หันไปตบหน้าออสการ์ จู่ๆ เขาที่โดนตบหน้าโดยไม่ทันตั้งตัว เก็บสีหน้าตกใจของตัวเองไม่ได้พลางเงยหน้ามองไอซิส

“เธอตั้งใจจะทำให้ตระกูลเราเสียเกียรติใช่ไหมล่ะ!”

“ท่านพี่…!”

“ข่าวลือแบบนั้นจะเป็นจริงได้อย่างไรกัน! ยังจะมีหน้าบอกว่าตัวเองเป็นทายาทแห่งเฟรดเดอริกอีกหรือ?!”

“ผม…”

“จนแล้วจนรอดก็ทำให้พี่สาวตัวเองต้องอับอายขายขี้หน้า?! เธอทำได้อย่างไร!!”

เพราะเห็นพี่สาวตัวเองคับแค้นใจอย่างนั้นทำให้ออสการ์รู้สึกสับสน

‘ฉัน… เป็นอะไร…!’

และก็ได้เข้าใจความรู้สึกเมื่อครู่ที่ตัวเองนึกถึงอาเรียขึ้นมาว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร ทำไมตนถึงได้มีใจให้อาเรียไม่ใช่มิเอลกัน

อีกทั้งแม้จะผ่านเวลาไปหลายคืนที่เขามัวนึกถึงแต่เธอ จิตใจกระสับกระส่าย ความรู้สึกพวกนั้นคืออะไร เหตุใดเขาถึงยังไม่เข้าใจอีกนะ

ทำไมกัน ทำไมจิตใจที่แสนคับแคบนี้ ยังไม่สามารถจัดการความรู้สึกได้กัน

เขาเสียใจที่ทำให้เธอมีพื้นที่กลายเป็นส่วนหนึ่งในแต่ละวันของเขาไปเสียแล้ว เพราะเขาแสดงสีหน้าแบบนั้นออกมาจึงทำให้ไอซิสแตะผมของเขา

“…เธอเป็นเด็กฉลาด พี่เชื่อว่าเธอจะจัดการตัวเองได้”

แต่ไม่ใช่น้ำเสียงที่บอกว่าเชื่ออย่างสนิทใจ อาจจะใกล้เคียงกับคำขู่ว่าให้ทำอย่างนั้นซะมากกว่า หากไม่ทำเช่นนั้นแน่นอนว่า… แน่นอนว่าจะไม่ปล่อยอาเรียไว้อย่างไรล่ะ

“ใช่ไหมออสการ์”

ไอซิสกระตุ้นเขา หากไม่รีบตอบ เธอจะทำให้อาเรียเดือดร้อน… เหตุใดถึงได้พูดคำเหล่านั้นออกมาอย่างง่ายดายนัก

“ออสการ์…!”

ตอนนี้เสียงเรียกของไอซิสใกล้เคียงกับการตะโกนซะแล้ว ถึงกับขนาดลืมความสง่า ความมีหน้ามีตาของเธอเอง กำมือแน่นสั่นอยู่อย่างนั้น

“ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ เธอจะเป็นอย่างไรก็รู้นี่!”

เพราะท่าทางลังเลของเขาทำให้ไอซิสที่เหนื่อยที่จัดการกับความโมโหของตน เธอหันตัวกลับเหมือนจะไปลากตัวอาเรียมาตอนนี้

ทันใดนั้น

“ท่านพี่ไอซิส!”

ออสการ์เรียกชื่อไอซิส ไอซิสหันกลับมามองคาดหวังจะได้ยินคำพูดว่าจะจัดการตัดใจเอง

แม้เขาจะมองจากระยะห่างอยู่แต่ก็เห็นใบหน้าพี่สาวตัวเองไม่พอใจอย่างมาก เป็นภาพที่น่าเศร้าเหมือนอีกเสี้ยวหนึ่งของวิญญาณของตนได้หายไป

“…ผมจะทำตามคำขอ เพราะฉะนั้น ได้โปรด…”

ออสการ์แสดงสีหน้าราวกับขอร้องว่าได้โปรดอย่าทำอะไรหญิงผู้นั้นที่ได้รับคำดูหมิ่นจากทุกคนเลย หลังจากที่เข้าใจความรู้สึกของตนก็ต้องฝังกลบลงไปเฉกเช่นสัตว์ที่ไร้กำลัง

ออสการ์ที่สะอึกสะอื้นอย่างเปราะบาง ทำให้ไอซิสกระชุ่มกระชวยขึ้นมาอีกครั้ง เธอเดินเข้าไปหาออสการ์ช้าๆ พลางเอามือที่ทั้งนุ่มและขาว ลูบหัวของเขาอย่างช้าๆ

“ต้องอย่างนี้สิ ไปหลงกลลวงของหญิงร้ายก็จะปวดใจเช่นนี้อย่างไรล่ะ ต่อไปก็เตรียมใจเอาไว้ดีๆ แล้วกัน พี่เชื่อใจเธอนะ”

เสียงสะอื้นของออสการ์ดังขึ้น ไอซิสที่คอยลูบหัวราวกับว่าท่าทางของเขาน่ารักน่าชังพลางพูดต่อ

“งั้นพี่ส่งของขวัญไปให้เลดี้มิเอลแล้วกัน ส่งไปพร้อมกับช่อดอกไม้ที่เธอชอบด้วย น้องแค่เตรียมพร้อมที่จะสานสัมพันธ์เหมือนอย่างเคยก็พอ”

มือที่ลูบผมอยู่กลับส่งแรงมากขึ้น หัวของออสการ์ที่อ่อนแรงก็สั่นไหวตามมือทำให้พยักหน้าเสียอย่างนั้น ไอซิสที่พออกพอใจเดินออกไปจากสวน ทิ้งน้องชายตัวเองไว้ในคฤหาสน์อยู่เพียงลำพัง

……………………….

พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย

พลิกนาฬิกา ย้อนชะตานางร้าย

เมื่อมารดาที่เป็นโสเภณีได้แต่งงานกับท่านเคานต์ อาเรียจึงได้ยกระดับฐานะทางสังคมอย่างรวดเร็ว เธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราอู้ฟู่ ก่อนจะตกหลุมพลางของมิเอล น้องสาวบุญธรรม และถูกฆ่าตายท่ามกลางสายตาเย็นชาและคำเยาะเย้ยถากถาง ทันใดนั้น นาฬิกาทรายก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าราวกับภาพลวงตา และเธอก็ได้ย้อนเวลากลับมาอย่างปาฏิหาริย์…! “ข้าอยากเป็นผู้ที่งามสง่าเหมือนกับมิเอล น้องสาวของข้า” เพื่อต่อกรกับนางร้าย เธอจึงต้องร้ายยิ่งกว่า! เธอเลือกเส้นทางชีวิตใหม่เพื่อแก้แค้นคนที่บีบให้เธอเข้าสู่เส้นทางแห่งความตาย! เรื่องราวของนางร้ายที่ร้ายยิ่งกว่านางร้ายจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับการแก้แค้นอันซับซ้อนที่ซุกซ่อนอยู่ในความงดงามที่อันตราย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset