พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า – ตอนที่ 1421 ล้อมปราบ

คนชุดดำนับร้อยรีบถอนกำลังออกไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว กำลังพลกลุ่มใหญ่เร่งไล่ล่าอยู่ข้างหลัง ยอดฝีมือที่เริ่มปะปนอยู่กับคนข้างหลังเริ่มถลันตัวมาตามติดอยู่ข้างหน้า

เมื่อเห็นพวกเหมียวอี้กำลังจะโดนคนที่โผล่ออกมาโจมตีอย่างกะทันหันชิงตัวไป ในที่สุดก็กดดันให้คนบางกลุ่มจำเป็นต้องปรากฏตัวออกมาแล้ว

คนที่แอบเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ไกลๆ อดทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน ทำให้มีเงาคนจำนวนหลายร้อยทยอยโผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว เร่งเหาะไล่ตามมาอย่างบ้าคลั่ง เห็นได้ชัดว่าความเร็วเหนือกว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ ไม่นานก็ตามกลุ่มคนชุดดำทันแล้ว พวกเขาสังหารเข้ามาอย่างรวดเร็วดุดัน

เสียงดังอึกทึกครึกโครม การสังหารเพียงชั่วขณะทำให้ฟ้าถล่มดินทลาย พวกภูตผีที่โผล่หน้าขึ้นมาดูประสบเคราะห์กับโดยไม่คาดคิดทันที เสียงกรีดร้องดังเป็นแถบๆ

คนชุดดำหลายสิบคนที่ดักทางอยู่ข้างหลังโดนโจมตีจนล้มคว่ำ คนสิบกว่าคนตายอนาถคาที่ ท่ามกลางผู้ที่รุกโจมตีมีชายชราสามคนที่แข็งแกร่งที่สุด ลงมือครั้งเดียวก็ตีฝ่าคนที่ขวางทางได้ พวกเขาโผเข้าไปหาพวกเหมียวอี้ที่กำลังโดนจับโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น มีเจตนาที่จะชิงตัวคน

คนชุดดำที่ชิงตัวพวกเหมียวอี้หลบหนีแบ่งคนออกเป็นหลายสิบกลุ่มมาขวางทางไว้ แต่กลับโดนโจมตีจนพ่ายแพ้ยับเยิน ต้านทานไม่ไหวเลย ส่วนคนที่เหลือก็หิ้วพวกเหมียวอี้หลบหนีอย่างสุดชีวิต

ส่วนคนชุดดำที่โดนพุ่งโจมตีจนเชื่องช้าลงก็โดนกำลังพลกลุ่มใหญ่ที่ตามมาทีหลังล้อมโจมตีจนทยอยตายอย่างน่าอนาถ คนชุดดำนับร้อยที่ก่อนหน้านี้ยังโจมตีเข้ามาอย่างดุดันเป็นพิเศษ ผ่านไปชั่วพริบตาเดียวก็ตายอนาถไปแล้วนับสิบคน

พวกเหมียวอี้ที่กำลังโดนหิ้วร่างเห็นแล้วอกสั่นขวัญผวา

หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดที่โดนหนึ่งในชายคนชุดดำหิ้วร่างมองดูฉากข้างหลังด้วยสายตาเย็นเยียบ ได้แต่มองดูคนชุดดำตายไปทีละคน แต่เขาเองก็ทำได้เพียงมองดู

จนกระทั่งรอบข้างที่อยู่ไกลๆ มีเงาคนกลุ่มใหญ่ปรากฏให้เห็นรางๆ ในที่สุดหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดที่มีดวงตาเย็นชามาตลอดก็ฉายแววดุร้ายแล้ว

เมื่อเห็นชายชราคนหนึ่งโจมตีต่อเนื่องจนคนชุดดำหลายคนบาดเจ็บและพุ่งนำมาก่อน จู่ๆ คนชุดดำที่หิ้วร่างของหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดก็ผ่อนความเร็วลงเล็กน้อย พอร่นมาอยู่ข้างหลังพวกเหมียวอี้แล้ว คนชุดดำคนนั้นก็มาเป็นหนังหน้าไฟทันที ชายชราที่พุ่งเข้ามาแทงทวนเข้ามาที่หน้าอกอย่างรวดเร็วดุดัน

แกร๊ง! ดาบในมือของคนชุดดำสะเทือนจนกระเด็นออกไป เมื่อเห็นคมทวนกำลังจะทะลุหน้าอกของเขา มือข้างหนึ่งที่ยื่นออกมาจากด้านล่างก็โผล่ออกมาอย่างกะทันหันราวกับเงาผี คว้าด้ามทวนที่แทงเข้ามาเอาไว้ ทำให้ทวนที่แทงเข้ามาด้วยความเร็วค้างอยู่กลางอากาศ ขยับมาข้างหน้าไม่ได้อีก

ชายชราที่พุ่งสังหารเข้ามาตกใจทันที พลันมองไปยังหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดที่หลุดออกมาจากเงื้อมมือของคนชุดดำแล้ว

หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดใช้ฝ่ามืออีกข้างกดผลักหน้าอกคนชุดดำ ทำให้คนชุดดำกระเด็นถอยหลังออกไปทันที ให้ออกจากสนามไปแล้ว

ชายชราดันทวนอย่างเกรี้ยวกราด พอหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดคลายนิ้วทั้งห้า ทั้งสองก็พุ่งเข้าใส่หน้ากันทันที ชายชราฉวยโอกาสตบออกมาหนึ่งฉาด แต่หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดก็ตบกลับไปสู้อย่างเหี้ยมหาญเช่นกัน

ชั่วพริบตาที่ฝ่ามือทั้งสองชนปะทะกัน บนนิ้วทั้งห้าของฝ่ามือที่หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดตบออกไปก็ปรากฏลายดอกไม้สีทองดอกหนึ่ง

บึ้ม! เกิดการชนปะทะของพลังอิทธิฤทธิ์ที่แข็งแกร่งราวกับจะฉีกทำลายฟ้าดิน แผ่นดินอันกว้างใหญ่เบื้องล่างที่ห่างจากท้องฟ้าหลายร้อยจั้งระเบิดแยกราวกับพลิกแม่น้ำคว่ำทะเล อานุภาพที่หลงเหลือจากพลังอิทธิฤทธิ์ที่ทั้งสองปล่อยออกมานั้นอยู่ในระดับอาวุธจริงแล้ว คลื่นพลังอิทธิฤทธิ์ทุกสายราวกับจะฉีกทำลายความว่างเปล่า สามารถทำให้นักพรตบงกชทองกลายเป็นฝุ่นผงได้อย่างง่ายดาย การต่อสู้ระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเข้าใกล้ได้เลย ถ้าไม่ใช่เพราะมีคนชุดดำปกป้องพวกเหมียวอี้อยู่ ก็ไม่มีทางทนรับสิ่งนี้ไหวเลย

ชายชราถลึงตาอย่างเกรี้ยวกราดขณะสำลักเลือด หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดก็สบตาอย่างดุร้ายเช่นกัน

ไม่น่าเชื่อว่าสองมือที่ทั้งสองคนตบออกไปจะแนบติดอยู่ด้วยกัน ดอกไม้สีทองระยิบระยับกลุ่มหนึ่งที่เหมือนดอกโบตั๋นผนึกฝ่ามือของทั้งสองคนเอาไว้ แล้วก็เห็นดอกไม้สีทองอีกหลายดอกกลืนเข้าคายออกจากฝ่ามือของคนหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ด เลื้อยขึ้นมาตามแขนของชายชราราวกับลำแสง ชนไปที่หน้าอกของชายชราอย่างรุนแรงครั้งแล้วครั้งแล้ว

ปากของชายชราสำลักเลือดสดออกมาคำแล้วคำเล่า แต่ฝ่ามืออีกข้างหนึ่งยังตบออกมาอย่างบ้าคลั่ง หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดจึงใช้ฝ่ามือรับอีกครั้ง เกาะติดมืออีกข้างของชายชราเอาไว้แล้ว

ภายใต้ความวิตกกังวล ทันใดนั้นชายชราก็เตะออกมาหนึ่งที แต่ใครจะคิดว่าเท้าของหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดจะเร็วกว่า เขาใช้เท้าเขี่ยออกไปแล้ว พอดอกไม้สีทองบนฝ่ามือคลายออก โบกแขนที่เขาเกาะติดไว้ออกไป จู่ๆ หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดก็พุ่งตัวไปข้างหน้า แล้วใช้สองนิ้วปล่อยดอกไม้สีทองระยิบระยับขนาดเท่าแท่นโม่ดอกหนึ่งออกมาด้วยความเร็วปานสายฟ้าแลบ ประดับดอกไม้ลงบนหน้าอกของชายชราอย่างเหี้ยมหาญ

อั้ก! ชายชราเงยหน้าขึ้นฟ้าพลางกระอักเลือดสดออกมา

ชั่วพริบตาที่คนหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดเฉียดผ่านเขาไป ก็ใช้ศอกโจมตีไปข้างหลังหนึ่งที กระแทกโดนแผ่นหลังของชายชราอย่างแรง ร่างของชายชราสูญเสียการควบคุมทันที กลิ้งกระเด็นไปทางคนชุดดำที่อยู่ข้างหลัง

ด้านหลังมีคนชุดดำสองคนพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว จับตัวชายชราที่โดนโจมตีจนสาหัสเอาไว้คาที่แล้ว

เป็นการประมือที่รวดเร็วมาก นี่เป็นฉากที่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น แต่กลับทำให้พวกเหมียวอี้มองจนเหม่อค้าง นึกไม่ถึงว่าหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดจะเป็นยอดฝีมือเหนือยอดฝีมือที่เป็นเสือปลอมตัวมาเป็นหมู

ตอนนี้พวกเหมียวอี้พอจะเข้าใจแล้วนิดหน่อย เข้าใจแล้วว่าทำไมฝ่ายนี้จับพวกเขาได้แล้วไม่เก็บเข้ากระเป๋าสัตว์ ทำแบบนี้ก็เพื่อที่จะให้หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดโจมตีกลับได้สะดวกยามหน้าสิ่วหน้าขวาน

หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดกับชายชราอีกสองคนที่พุ่งสังหารเข้ามากำลังต่อสู้กันแล้ว เขาใช้มือเปล่ารับศึกกับชายชราสองคนที่ถืออาวุธอยู่ในมือ

ทั้งดาบทั้งทวนโจมตีเข้ามา ดอกไม้สีทองระเบิดออกจากร่างของหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า  ระเบิดออกจากหลายมุมบนร่างกายเพื่อต้านทานไว้ มันสามารถถ่วงการโจมตีของคมดาบและคมทวนให้ช้าลงได้

ทันใดนั้น ดาบและทวนในมือของชายชราสองคนก็เปล่งแสงสีฟ้าและเขียว ปราดเปรียวมีพลังราวกับมังกร โจมตีอย่างบ้าบิ่น

สิ่งที่ทำให้คนตกใจก็คือ หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดโบกดอกไม้สีทองที่มีแสงแวววาวออกมามากกว่าเดิม ไม่น่าเชื่อว่าจะสามารถต้านทานลำแสงสีฟ้าและเขียวไม่ให้ลอดผ่านได้ ในทางกลับกัน ไม่ว่าจะเป็นอาวุธหรือร่างกายของชายชราสองคนนั้น ขอเพียงสัมผัสกับหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดเพียงนิดเดียว ก็จะมีดอกไม้สีทองที่หลบอยู่ในร่างกายพุ่งมาโจมตีจุดสำคัญ พวกเขาโดนหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดโจมตีจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว

คนชุดดำที่กำลังจับตัวพวกเหมียวอี้เอาไว้แน่นหยุดหลบหนีแล้ว ปล่อยพวกเหมียวอี้แล้วเช่นกัน คนชุดดำที่เหลืออยู่ไม่กี่สิบคนหยิบธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ออกมาแล้ว พอง้างสายธนู ก็มีแสงสีรุ้งเปล่งออกมา ทั้งหมดล้วนเป็นธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ขั้นหก ตอนนี้กำลังเฝ้าระแวดระวังรอบด้าน

ชายชราสองคนที่กำลังสู้กับหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดตกใจมาก ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่างแล้ว หนึ่งในนั้นตะโกนเสียงดัง “หนี! นี่เป็นกับดัก”

หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดโบกแขนสองข้าง ดอกไม้สีทองสองกลุ่มจมหายเข้าไปในร่างกาย จากนั้นเอามือไขว้หลังยืนอยู่กลางอากาศ ไม่ได้ไล่ตามอีกต่อไป ปล่อยให้คนพวกนั้นหนีเตลิดเปิดเปิงไป

แต่ก็สายไปเสียแล้ว รอบข้างปรากฏสมาชิกกลุ่มใหญ่ที่ปิดบังฐานะตัวตน วางกำลังบนฟ้าและใต้ดินอย่างรวดเร็ว เดาว่าถ้าไม่ใช่กำลังพลสิบล้านก็ต้องเป็นกำลังพลแปดเก้าล้าน โอบล้อมท้องฟ้าผืนนี้เอาไว้แบบสามมิติ กลิ่นอายสังหารอบอวลท้องฟ้า!

คนหลายหมื่นที่โดนขังอยู่ตรงกลางหยุดแล้ว หันมองรอบๆ อย่างระแวงสงสัย

“เตรียมตัว!” มีคนตะโกนออกคำสั่งอย่างเกรี้ยวกราด

คนรอบๆ ที่สวมเสื้อผ้าหลากหลายปนกันพลันเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย ชั่วพริบตาเดียวก็มีเกราะทอง เกราะม่วง เกราะแดงเยอะเป็นแถบๆ เป็นเกราะรบเครื่องแบบของตำหนักสวรรค์

มีแม่ทัพใหญ่สี่คนที่สวมเกราะรบผลึกแดงที่มีความบริสุทธิ์สูงกระจายตัวอยู่สี่ด้าน ยืนอยู่หน้าสุดของทัพใหญ่ ทั้งหมดล้วนมียศแม่ทัพใหญ่ห้าแถบ สัญลักษณ์อิทธิฤทธิ์ตรงหว่างคิ้วเป็นของจริง ทั้งสี่คนเป็นยอดฝีมือระดับสำแดงฤทธิ์

ด้านหลังของทั้งสี่คนมีธงผืนใหญ่ตั้งอยู่ บนธงปักลายอักษรจำพวก ‘เจี่ย อี่’

เมื่อเห็นธงผืนใหญ่เหล่านี้ปรากฏออกมา เหมียวอี้ก็ตกใจมาก คนอื่นอาจจะไม่รู้ แต่ในฐานะที่เป็นคนของกองทัพองครักษ์ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไม่รู้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นธงใหญ่ของแต่ละหน่วย เหมียวอี้อดไม่ได้ที่จะมองแม่ทัพใหญ่ทั้งสี่ที่ยืนอยู่ใต้ธงผืนใหญ่ อย่าบอกนะว่าผู้ตรวจการใหญ่ใต้สังกัดหน่วยองครักษ์ซ้ายขวาออกศึกด้วยตัวเอง?

สายตาเหมียวอี้มองไปยังตัวอักษร ‘อี่’ บนธงใหญ่ที่ปักแถบสีดำ วิธีแบ่งแยกธงของหน่วยองครักษ์ซ้ายขวาก็อยู่บนช่องแถบ แถบสีดำเป็นหน่วยองครักษ์ซ้าย แถบสีขาวเป็นหน่วยองครักษ์ขวา และเหมียวอี้ก็อยู่ใต้สังกัดของหน่วยองครักษ์เจิ้นอี่ หน่วยองครักษ์ซ้าย

นึกไม่ถึงว่าแม้แต่ผู้ตรวจการใหญ่ของหน่วยองครักษ์เจิ้นอี่ก็มาแล้วเช่นกัน เพียงแต่ไม่เห็นแม่ทัพที่อยู่ใต้ธงผืนที่ห้า เหมียวอี้ยังอยากจะเห็นว่าผู้ตรวจการใหญ่ของหน่วยองครักษ์เจิ้นอี่หน้าตาเป็นอย่างไร แต่กลับไม่รู้ว่าแม่ทัพอยู่ตรงไหน แต่เขาก็ได้เห็นคนรู้จักอีกคนที่อยู่ใต้ธงผืนนี้แล้ว หัวหน้าภาคอวี่จ้งเจินของทัพเป่ยโต้ว

“ตำหนักสวรรค์ กองทัพองครักษ์!” ท่ามกลางกำลังพลที่โดนล้อม มีบางคนรู้จักธงรบของกองทัพองครักษ์ จึงอุทานออกมาอย่างตกใจ

คนหลายหมื่นที่กำลังโดนล้อมพากันลุกลี้ลุกลน

“วางค่ายกล!” มีคนตะโกนอีก

ท่ามกลางทัพใหญ่มีคนหลายล้านเคลื่อนไหวติดต่อกัน จู่ๆ เหมียวอี้ก็รู้สึกว่าแก้วหูของตัวเองกำลังจะแตกแล้ว พยายามร่ายอิทธิฤทธิ์ต้านทานเอาไว้ ความรู้สึกไม่สบายตัวพลันหายไปอีกครั้ง วัตถุรูปทรงกลมสีเงินอ่อนขนาดใหญ่ครอบทุกคนตรงนั้นเอาไว้

ทัพใหญ่หลายล้านที่เหลือที่ไม่ได้เข้าร่วมวางค่ายกลพลันเผยธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์ ลูกธนูดาวตกหลายดอกตั้งอยู่บนสายธนู หัวลูกธนูที่แหลมคมเล็งไปทางคนหลายหมื่นที่วุ่นวายยุ่งเหยิงอยู่ด้านล่าง กลิ่นอายสังหารนี้ พลังอำนาจนี้ ได้ทำให้คนไม่น้อยที่กำลังโดนขังเหงื่อกาฬแตกด้วยความกลัว ขอเพียงออกคำสั่งคำเดียว ทุกคนก็จะกลายเป็นรังต่อแล้ว

อวี่จ้งเจินพลันโบกมือนำคนหลายหมื่นเหาะออกมา ให้พวกเขาง้างธนูเตรียมป้องกันอยู่ข้างหน้าพวกเหมียวอี้

แม่ทัพที่อยู่ใต้ธงอักษรเจี่ยของหน่วยองครักษ์ขวามองฝูงสัตว์ที่โดนล้อมอย่างเย็นชา พร้อมกล่าวอย่างเย็นเยียบว่า “วางอาวุธยอมแพ้เดี๋ยวนี้ คนที่ยอมแพ้จะไม่โดนฆ่า ไม่อย่างนั้นจะมาเสียใจทีหลังก็สายไปแล้ว!”

เพียงไม่นาน ก็มีคนทนรับแรงกดดันไม่ไหว ทิ้งอาวุธแล้วตะโกนเสียงดังว่า “ยอม” ยกมือสองข้างวิ่งออกมา

เมื่อมีหนึ่งคนนำ ก็มีกลุ่มคนทำตามทันที ส่วนทางนี้ก็โยนเชือกมัดเซียนออกมามัดไว้ทีละคน ควบคุมได้อย่างรวดเร็ว

ทว่าคนที่ไม่ยอมมีจำนวนมากกว่า

“ทุกคนรวมกลุ่มกันโจมตีจุดเดียว ตามข้าสังหารฝ่าออกไป!”

เป็นชายชราคนที่ที่หมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดประมือด้วยก่อนหน้านี้ หลังจากวางแผนลับกับคนอื่นๆ พักหนึ่ง จู่ๆ ก็สวมเกราะรบและกางแขนสองข้าง คนกลุ่มใหญ่สวมเกราะตามไป โจมตีฝ่าไปยังจุดเดียวอย่างบ้าคลั่ง เป็นการต่อสู้ของสัตว์มี่จนตรอก

“ยิง!” แม่ทัพที่อยู่ใต้ธงอักษรเจี่ยโบกมือไปข้างหน้าอย่างเยือกเย็น

ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนวิบวับราวกับดาวตก ยิงไปทางคนกลุ่มนั้น กลุ่มคนที่กำลังวุ่นวายต้านทานทางซ้ายทีทางขวาที ตกใจจนร้องออกมา เสียงกรีดร้องดังเป็นแถบ

ผู้ฝ่าวงล้อมร้อยคนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดจากจำนวนหลายหมื่นพุ่งอยู่ข้างหน้าสุด กำลังถือโล่พุ่งโจมตี แต่กลับโดนลำแสงหลายแสนสายยิงรวมมาที่จุดเดียว ไม่กลัวว่าเจ้าจะมีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่ง แค่ชั่วพบหน้ากันโจมตีกลุ่มคนที่พุ่งอยู่ข้างหน้าจนพ่ายแพ้ยับเยิน

มีคนไม่น้อยโยนของวิเศษออกมาสกัดขวางตรงหน้า แต่กลับโดนลูกธนูดาวตกจำนวนนับไม่ถ้วนทำลายพัง ทำให้บนฟ้าเกิดรอยแตกผืนใหญ่ราวกับใยแมงมุม

พวกเหมียวอี้เบิกตากว้าง ตัวสั่นทั้งที่ไม่ได้หนาว เกรงว่าทั้งชีวิตนี้คงจะลืมฉากอันสะเทือนเลือนลั่นขนาดนี้ไม่ลง ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอำนาจแต่ละฝ่ายต่างก็ร้อนใจอยากได้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เก้าล้านคันนั่น ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมการใช้ธนูฝ่าอิทธิฤทธิ์เป็นเหยื่อล่อถึงตกพวกเสือสิงห์กระทิงแรดได้เยอะขนาดนี้

แค่การโจมตีระลอกเดียว ก็ทำให้กลุ่มคนหลายหมื่นคนที่ไม่เปิดเผยตัวตนยับเยินแล้ว

“โจมตี!” แม่ทัพที่อยู่ใต้ธงอักษรเจี่ยโบกมืออีกครั้ง

ทัพใหญ่หนึ่งล้านจากทั่วสารทิศล้อมโจมตีเข้ามาทันที

นี่คือการเข่นฆ่าที่ไม่ได้พะวงอะไรเลยสักนิด ทัพใหญ่หนึ่งล้านที่พุ่งเข้าไปแทบจะจับตัวคนโดยตรง เห็นได้ชัดว่าฝั่งนี้ทำไปเพื่อจับเป็น ขนาดตอนยิงโจมตีก็ยังไม่ได้เล็งจุดสำคัญของเป้าหมาย อาศัยประสิทธิภาพการไล่ยิงของลูกธนูดาวตก คนที่โดนฆ่าผิดตัวมีไม่น้อย

“อา…” ชายชราคนที่ประมือกับหมายเลขเก้าร้อยห้าสิบเจ็ดก่อนหน้านี้มีเลือดสดเต็มหน้า ตอนนี้กำลังเงยหน้าร้องอย่างเศร้าโศกพลางกระอักเลือดสด แขนขาทั้งสี่โดนยิงจนเละหมดแล้ว ตรงปากแผลที่ฉีกขาดมีเลือดสดไหลออกมา ที่ท้องโดนธนูยิงหลายดอก เกราะรบโดนยิงจนพังแล้ว บาดเจ็บสาหัสจนไม่มีแม้แต่แรงจะโต้ตอบ

มีเพียงความสามารถประจำตัวที่สะท้านฟ้าสะเทือนดิน แต่กลับไม่มีที่ว่างเหลือให้ใช้ความสามารถนั้นแล้ว พ่ายแพ้อย่างยับเยินขนาดนี้ ฟังจากเสียงร้องอันเศร้าโศกของเขาก็รู้ว่าเขารู้สึกไม่ยอมขนาดไหน

แต่ไม่นานก็ร้องไม่ออกแล้ว ทหารสวรรค์หลายคนที่พุ่งเข้ามาอย่างดุร้ายราวกับเสือควบคุมพวกเขาทันที ย่อมต้องทำให้พวกเขาหุบปากอยู่แล้ว

…………………………

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า

เหมียวอี้ เด็กหนุ่มธรรมดาแต่มีโชคชะตาที่ไม่ธรรมดา! เขาคือเด็กกำพร้าที่ถูกเพื่อนบ้านตราหน้าว่าเป็น ‘ตัวหายนะ’ เพราะพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงเขาล้วนมีจุดจบอยู่ในกองเพลิงทั้งสิ้น เขาจึงต้องเติบโตมากับน้องๆ ต่างสายเลือดอีกสองคนตามลำพัง ไร้เงิน ไร้อำนาจ ไร้ความสามารถ ซ้ำยังเป็นตัวซวย โลกนี้มันช่างอยู่ยากเสียจริง! หนทางที่จะลบคำครหาของชาวบ้านและก้าวพ้นชีวิตที่ยากไร้ไปได้ก็คือการสำเร็จเป็นเซียน แม้ความปรารถนาจะอยู่สูงเกินเอื้อม แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่น ถึงจะลำบากและอันตรายเพียงใด ก็ขอทะยานไปให้สุดขอบฟ้า!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset