พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 125 ผลการประมูล

“นี่มันจะโหดร้ายมากเกินไปแล้ว” ปาจรีย์โกรธจนร่างสั่นเทา “ไม่ได้ วารุณี ไม่สั่งสอนเธอบ้าง ฉันคงทนต่อไปไม่ได้แน่ ไป เราไปหาเธอตอนนี้กัน”
“ปาจรีย์ อย่าเพิ่งวู่วาม ”วารุณีดึงแขนเสื้อเธอเอาไว้ “ตอนนี้อยู่ในช่วงประมูล หากเราไปหาเธอตอนนี้ เราอาจจะถูกผู้จัดขึ้นบัญชีดำได้ มันจะได้ไม่คุ้มเสียเอารอการประมูลเสร็จแล้วเราค่อยมาว่ากันนะ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ปาจรีย์ก็เย็นลง เก็บเท้าที่ก้าวออกไปเมื่อครู่กลับเข้าที่ “ที่เธอพูดมันก็ถูก งั้นเรากลับไปที่ห้องโถงกัน ”
“อืม”วารุณีพยักหน้า
ทั้งสองคนช่วยกันพยุงกันกลับไปยังห้องโถง
พิชญาจับจ้องไปที่ทางเข้าของประตูห้องโถงอยู่ตลอด เมื่อเห็นว่าวารุณีถูกพยุงร่างกลับเข้ามา ในใจก็พึงพอใจ จากนั้นก็ขุ่นเคืองขึ้นมาอีกครั้ง
ที่พึงพอใจเพราะวารุณีเสียท่าให้ และที่ขุ่นเคืองก็เพราะวารุณีเป็นถึงขนาดนี้แล้ว ก็ยังไม่ถอดใจ ยังอยู่ร่วมงานประมูลต่อ
และคนที่เห็นวารุณีได้รับบาดเจ็บ ก็คือนัทธีที่อยู่ในห้องรับรองบริเวณชั้นสอง
นัทธีที่จ้องมองไปที่เท้าของเธออยู่ครู่หนึ่ง จึงได้ตามตัวมารุตมา“ นายไปหาคนที่รับผิดชอบงานนี้ ให้เขาไปถามทีว่าเท้าของวารุณีเป็นอะไร ”
มารุตก็มองไปที่วารุณีด้วยเช่นกัน พยักหน้ารับ “ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ ”
เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังแล้วเดินออกจากห้องรับรองไป
แต่ผ่านไปไม่นาน เขาก็กลับมา “ สอบถามมาแล้วครับ คุณวารุณีลื่นล้มหน้าประตูห้องน้ำครับ”
นัทธีขมวดคิ้ว
ผู้หญิงคนนี้ ตอนเดินกำลังทำอะไรอยู่กัน ?
“นายไปซื้อรองเท้าส้นเตี้ยมาคู่หนึ่ง แล้วหาคนเอาไปให้เธอ จากนั้นก็ตามหมอมาดูอาการให้เธอด้วย” นัทธีขมวดคิ้วแน่น สั่งงานออกไปเสียงเข้ม
มารุตตอบรับคำอีกครั้ง “ครับ”
ไม่นาน เจ้าหน้าที่งานประมูลก็นำกล่องรองเท้ากล่องหนึ่งมาให้กับวารุณี “คุณผู้หญิง ทางเราได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับคุณ เราได้ซื้อรองเท้าส้นเตี้ยมาให้คุณโดยเฉพาะ โปรดรับเอาไว้ด้วยครับ”
“โอ้แม่เจ้า นี่งานบริการของพวกคุณดีขนาดนี้เลยเหรอ?” ปาจรีย์ประหลาดใจจนอ้าปากค้าง
วารุณีก็ประหลาดใจเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ยื่นมือไปรับกล่องรองเท้านั้นมา “ต้องขอบคุณมากค่ะ”
“คุณเกรงใจไปแล้ว คุณเป็นแขก นี่เป็นสิ่งที่เราพึงกระทำ อีกอย่าง ทางเรายังมีห้องพยาบาลด้วย คุณผู้หญิงสามารถไปตรวจอาการบาดเจ็บได้ฟรีครับ ”
“มีหมอด้วย เยี่ยมไปเลย วารุณี ” ดวงตาของปาจรีย์เป็นประกายแล้วตีไปที่วารุณีเบาๆ
วารุณีรู้ว่าเธอจะพูดอะไร ในใจก็รู้สึกอบอุ่น แล้วส่ายหัว “ไม่รีบค่ะ รองานประมูลจบก่อนแล้วฉันค่อยไป”
“ไม่มีปัญหาครับ หมออยู่ตลอด คุณผู้หญิงไปได้ตลอดเวลาครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
หลังจากที่พูดจบ พนักงานก็ยิ้มให้เธอ แล้วจากไป
ปาจรีย์แย่งกล่องมาแล้วเปิดออกดู ข้างในเป็นรองเท้าพื้นนุ่มสีขาว แบบเรียบง่าย แต่ดูแล้วก็สวยอยู่ไม่น้อย และเข้ากับเสื้อผ้าที่วารุณีสวมใส่มาก
ปาจรีย์มองดูรองเท้าแล้วพูดขึ้นว่า “ผู้จัดงานนี้ก็ช่างดีจริงๆนะ ใจกว้างด้วย ไม่เพียงซื้อแบรนด์หรูมาให้ ยังคำนึงไปถึงชุดที่เธอสวมใส่อีกด้วย หนำซ้ำก็ยังมีหน่วยรักษาพยาบาลอีก จิ๊ๆ บริการแบบนี้ ช่างเยี่ยมจริงๆ ”
“พอแล้ว งานประมูลจะเริ่มขึ้นแล้ว เอารองเท้ามาให้ฉันเร็วๆ”วารุณีใช้แขนดันไปที่เธอ
ปาจรีย์วางกล่องรองเท้าไปบนตักของวารุณี “อะนี่”
วารุณียกยิ้ม และโน้มตัวลงเปลี่ยนรองเท้าส้นสูงออก
ในตอนนี้เอง การประมูลก็ได้เข้าสู่จุดเดือด บริษัทยักษ์ใหญ่ทั้งหลายกับสตูดิโอต่างก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด
ปาจรีย์ก็ร่วมประมูลอยู่หลายครั้ง แต่เพราะศักยภาพของสตูดิโอที่มีไม่เพียงพอ อีกทั้งยังเป็นสตูดิโอที่เพิ่งเปิดใหม่ ไม่นานการประมูลก็ถูกตัดหน้าไป สูญเสียโอกาสในการประมูลไปอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าผลที่ออกมา ปาจรีย์จะรู้สึกผิดหวังมาก แต่เธอก็ยอมรับได้ เพราะคิดว่าผลที่ออกมาก็เป็นตามที่คาดไว้แต่แรกแล้ว
พิชญาไม่รู้ว่าวารุณีไม่เคยคิดว่าตัวเองจะชนะการประมูลได้ เมื่อเห็นNewbornสตูดิโอถูกคัดชื่อออก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดีใจมากแค่ไหน ยังหันหลังกลับไปมอง อยากเห็นสีหน้าที่ผิดหวังของวารุณี
แต่ก็ต้องผิดหวังที่ไม่ได้เห็น แต่พิชญากลับเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของวารุณี ทันใดนั้นในใจก็อยู่ไม่สุขทันที
มันเกิดอะไรขึ้น ประมูลงานก็ไม่ได้ ทำไมเธอถึงยังหัวเราะออกมาได้ ?
พิชญาไม่เข้าใจ
วารุณีสังเกตเห็นพิชญาจ้องมองมา เธอก็มองจ้องกลับไปที่พิชญาเช่นกันแล้วพูดกับปาจรีย์ที่อยู่ข้างๆว่า “เขากำลังมองมาที่เรา”
“ใคร?”ปาจรีย์ตอบสนองไม่ทันในชั่วขณะ
วารุณีถอนหายใจ “พิชญาไง”
“ไหนอยู่ไหน?”ปาจรีย์ยกมือป้องตาแล้วมองไปรอบๆ
ริมฝีปากแดงของวารุณีก็ขยับ “แถวที่เจ็ด ขวามือคนที่สอง”
“อ้อ ฉันเห็นแล้ว”ปาจรีย์เห็นพิชญาแล้ว ยิ้มเยาะส่งไปให้ก่อน จากนั้นก็ทำมือเป็นมีด แล้วลากผ่านไปที่คอ สีหน้าเต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น
พิชญาถึงกับตกใจ รีบหันศีรษะกลับทันที พร้อมหัวใจที่เต้นโครมคราม
ปาจรีย์หัวเราะชอบใจ “เห็นหรือยัง เขาตกใจกลัวจนหันกลับไปเลย ”
วารุณีโค้งมุมปากขึ้น “เห็นแล้ว ทำได้ดี ”
“แน่นอน”ปาจรีย์ส่งเสียงหึหึอย่างพอใจ
นัทธีที่อยู่บนชั้นสองเห็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
มารุตที่ยืนอยู่ทางด้านหลัง “ท่านประธาน หัวเราะอะไรเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไร ผลการประมูลจะออกมาหรือยัง ?”นัทธีวางแก้วเหล้าในมือลงแล้วหันกลับมา
มารุตมองดูนาฬิกา “ได้เวลาแล้ว กำลังจะประกาศผลแล้วครับ”
ขณะที่กำลังพูดอยู่นี้ พิธีกรที่ชั้นหนึ่ง ก็หยิบไมโครโฟนแล้วเดินไปที่แท่นโพเดียม เริ่มประกาศผลการประมูล“ ขอแสดงความยินดีกับคุณจรณ์ที่อยู่ห้องรับรองบนชั้นสองด้วยนะครับ ที่ชัยชนะการประมูลในครั้งนี้ คว้างานโครงการแฟชั่นโชว์ในฤดูหนาวนี้ไปได้!”
เมื่อผู้คนที่อยู่ด้านล่างได้ยินคำพูดประโยคนี้ ต่างก็เงยหน้าขึ้นไปมองยังบริเวณชั้นสอง และอยากจะรู้ว่าคุณจรณ์คนนี้เป็นใครกัน
แต่ประตูและหน้าต่างของห้องรับรองบนชั้นสองนั้นถูกปิดไว้อย่างมิดชิด และทุกคนต่างก็มองไม่เห็นอะไรเลย
“วารุณี เธอเคยได้ยินชื่อคุณจรณ์อะไรนี้ที่จังหวัดจันทร์มาก่อนหรือเปล่า ?”ปาจรีย์กระซิบถามไปที่ข้างๆหูของวารุณี
วารุณีส่ายหัว “ตอนนี้ไม่เคย แต่เมื่อก่อนเคยได้ยินมาบ้าง ”
“เมื่อก่อน?”ปาจรีย์กะพริบตาด้วยความสงสัย
วารุณีนวดคลึงไปที่ข้อเท้า “เมื่อก่อนจังหวัดจันทร์มีตระกูลนาคชำนาน แต่เป็นตระกูลของปัญญาชนนะ ตระกูลนาคชำนานมีลูกสาวคนหนึ่ง แต่งเข้าบ้านตระกูลไชยรัตน์ แล้วให้กำเนิดประธานนัทธี แต่หลังจากที่แม่ของประธานนัทธีเสียชีวิต ทุกอย่างของตระกูลนาคชำนานก็ถูกรวมเข้ากับตระกูลไชยรัตน์ จากนั้นตระกูลนาคชำนานก็ไม่เคยปรากฏชื่อในจังหวัดจันทร์อีกเลย ”
“งั้นตามที่เล่ามา คุณจรณ์คนนี้ ก็มาจากต่างเมืองนะสิ ” ปาจรีย์มือลูบคางแล้วคาดเดาไปต่างๆนานา
วารุณียักไหล่อย่างไม่ได้สนใจ “พอแล้ว ช่างเขาว่าเขาจะมาจากที่ไหน ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา เราไปกันเถอะ ”
“ไป ไปคิดบัญชีกับแม่พิชญาตัวดีกัน” ปาจรีย์ประคองร่างของวารุณีให้ลุกขึ้น
ทั้งสองเพิ่งจะเดินพ้นจากเก้าอี้แถวแรกไปได้ ชายคนหนึ่งที่สวมใส่ชุดบอดี้การ์ดก็เดินเข้ามา รั้งพวกเธอเอาไว้ “ไม่ทราบว่าทั้งสองคนนี้เป็นตัวแทนของNewborn สตูดิโอใช่ไหมครับ ?”
“คุณเป็นใคร?”ปาจรีย์รั้งร่างของวารุณีให้มาอยู่ทางด้านหลัง แล้วมองไปที่อีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง
ชายคนนั้นตอบกลับด้วยสีหน้านิ่ง “ ผมเป็นบอดี้การ์ดของคุณจรณ์ คุณจรณ์ให้ผมมาเรียนเชิญคุณทั้งสองครับ ”
“เชิญเรา?”ปาจรีย์กับวารุณีต่างมองหน้ากัน
วารุณีขมวดคิ้วแล้วถามไปว่า “ มีจุดประสงค์อะไรหรือเปล่าคะ ?”
“พูดคุยเรื่องงานประมูลครับ เรียนเชิญคุณทั้งสองด้วยครับ ”ชายคนนั้นพูดจบ ก็ทำท่าทางเชิญ เห็นชัดว่าคงปฏิเสธไม่ได้
ปาจรีย์มองไปที่วารุณีอย่างวิตกกังวล “วารุณี เราจะทำยังไงกัน จะไปดีหรือไม่ไปดี ?”
วารุณีหลับตาสงบนิ่งอยู่ชั่วครู่ “ไปสิ ท่าทางของเขาแบบนี้เราปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้ว ”
“แล้วถ้าหากคุณจรณ์อะไรนั้น คิดจะทำมิดีมิร้ายอะไรกับพวกเราจะทำยังไง?”ปาจรีย์โอบกอดมาที่ตัวเอง
วารุณีหัวเราะออกมา “ไม่หรอก ที่นี่เป็นสถานที่ราชการ หากเขาคิดจะทำมิดีมิร้ายเรา คงไม่ลงมือในสถานที่แบบนี้หรอก”
“เออจริง งั้นไปกันเถอะ” เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ปาจรีย์ที่เป็นกังวล ก็เบาใจขึ้นมา จากนั้นก็ประคองร่างเธอ เดินตามบอดี้การ์ดขึ้นไปที่ชั้นสอง
หลังจากที่เข้ามายังภายในห้องรับรอง วารุณีมองไปที่โซฟา มีชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งอยู่ รูปร่างหน้าตาธรรมดา ไม่ได้โดดเด่นอะไร ราศีรอบตัวก็ไม่เปล่งประกายออร่าเท่าไร และที่สำคัญคือ ชุดสูทที่สวมใส่ก็ไม่ได้ดูหรูหราอะไร เป็นคนธรรมดาที่ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไร จะเป็นคุณจรณ์ที่ชนะงานประมูลคนนั้นเหรอ?

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"

Options

not work with dark mode
Reset