พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 229 ทำเรื่องยุ่งเหยิง

“ใช่”สุภัทรพยักหน้า
วารุณีรู้สึกขำขัน“คุณสุภัทร คุณล้อเล่นสินะ?ให้ศรัณย์เป็นทายาทของคุณ งั้นพิชญาที่คุณชอบที่สุดล่ะจะทำอย่างไร?”
สุภัทรกำหัวมังกรบนไม้เท้าแน่น“ฉันไม่เคยคิดจะให้พิชญามาเป็นทายาท สุดท้ายพิชญาก็ต้องแต่งงานออกไป ฉันจะเอาตระกูลศรีสุขคําไปเป็นสินสอดให้เธอไม่ได้ เสียเปรียบคนอื่นฟรีๆสิ”
ที่เขาอยากได้ แต่ไหนแต่ไรมาก็คือทำให้บริษัท ศรีสุขคํา กรุ๊ปเจริญรุ่งเรือง
มองความมักใหญ่ใฝ่สูงในดวงตาของสุภัทรออก มุมปากวารุณีก็ยกขึ้นมาอย่างเย็นชา“ดังนั้นความหมายของคุณก็คือ อยากให้ลูกชายสืบทอดตระกูลศรีสุขคําสินะ?”
“ถูกต้อง!”สุภัทรถูกไม้เท้าแล้วตอบกลับ
วารุณีเบะปากอย่างไม่พอใจ“คุณสุภัทร ทำไมต้องเป็นศรัณย์ล่ะ คุณให้ขยานีคลอดลูกชายอีกคนให้คุณก็ได้นี่ แค่นี้ก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
ใบหน้าแก่ๆของสุภัทรดูลำบากใจ ไอออกมาอย่างร้อนตัว“เธออายุไม่น้อยแล้ว คลอดไม่ได้แล้ว”
“นั่นก็ไม่แน่หรอก”วารุณีส่ายนิ้วมือ
ขยานีคลอดลูกที่โตมากกว่าอารัณได้สองปี กับผู้ชายคนอื่น แล้วจะคลอดอีกไม่ได้ได้อย่างไรล่ะ
คนที่คลอดไม่ได้แล้วจริงๆ เป็นตัวเขาเองต่างหากสินะ
คิดไป วารุณีก็มองสำรวจสุภัทรอย่างมีความหมายลึกซึ้ง
สุภัทรอ่านสายตาของเธอออก คิดว่าเธอกำลังเยาะเย้ยเขาอยู่ ก็รู้สึกโกรธเพราะอับอายขึ้นมาทันที“สายตาแกหมายถึงอะไร?”
วารุณียักไหล่“ไม่มีอะไร”
มุมปากสุภัทรกระตุก จากนั้นเอาโทรศัพท์ของตัวเองยื่นไป เร่งอย่างทนไม่ไหว“โอเค งั้นแกก็เอาช่องทางติดต่อของศรัณย์มาให้ฉันได้แล้ว ฉันจะพูดกับเขาเอง!”
วารุณีมองโทรศัพท์ของเขา ไม่ได้รับมา“คุณสุภัทร อะไรกันที่ทำให้คุณมั่นใจ ว่าคุณคิดว่าฉันจะเอาช่องทางติดต่อของศรัณย์ให้คุณน่ะ?”
“แกไม่ให้ฉันเหรอ?”สุภัทรจ้องไป
วารุณีเอาผมทัดหู“คุณพูดถูก ฉันไม่ให้คุณหรอก และฉันก็ไม่ให้ศรัณย์สืบทอดตระกูลศรีสุขคําด้วย บริษัท ศรีสุขคํา กรุ๊ปในตอนนี้ไม่ได้เป็นแม้แต่บริษัทจดทะเบียน อย่างมากก็เป็นแค่โรงงานเล็กๆ ทุกวันก็ยังโฉบเฉี่ยวที่ริมขอบของการล้มละลาย ขอโทษนะความยุ่งเหยิงแบบนี้ ทำไมฉันต้องให้ศรัณย์มาเก็บด้วย?”
“แก……”สุภัทรโกรธจนมือสั่น
วารุณีกดกุญแจรถ“แล้วก็ ฉันจำได้ดีว่าเจ็ดปีก่อน ตอนที่โรคหัวใจของศรัณย์กำเริบ คุณพูดด้วยสีหน้ารังเกียจว่าเขาไม่ใช่ลูกชายคุณ ตอนนี้คุณตกอยู่ในความลำบาก ก็มานึกถึงศรัณย์ ขอโทษนคุณสุภัทร คุณมีสิทธิ์อะไร?”
พูดคำนี้เสร็จ เธอก็ไม่สนใจสุภัทรที่มีใบหน้าลำบากใจอีก เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง แล้วขับรถออกไป
ครึ่งชั่วโมงถัดมา วารุณีมาถึงใต้อาคารบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป หลังจากจอดรถเสร็จ ก็หยิบโทรศัพท์โทรหานัทธี
นัทธีรับอย่างไว เสียงทุ้มต่ำอันนุ่มนวลก็ดังเข้าในแก้วหูของเธอ“โทรหาผมมีอะไรหรือเปล่า?”
“ประธานนัทธี เสื้อผ้าของตัวละครในเกมที่เราร่วมงานกันครั้งที่แล้ว ฉันออกแบบเสร็จทั้งหมดแล้ว ขอโทษนะคะคุณมีว่างไหม ฉันจะได้เอาขึ้นไปให้คุณดูผลลัพธ์ตอนนี้”วารุณีลดหน้าต่างรถลง เงยมองหน้าต่างบานหนึ่งที่ชั้นบนสุดของอาคารแล้วพูด
นัทธียืนขึ้นมาจากเก้าอี้ทำงาน“คุณอยู่ชั้นล่างเหรอ?”
“ใช่ค่ะ”วารุณีตอบอือ
นัทธีเดินไปที่ระเบียง ยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างสูงที่ระเบียงแล้วมองลงมา มองเห็นเบนซ์สีแดงที่จอดอยู่ข้างถนน คิ้วก็คลายลงขึ้นเยอะ“คุณรอแป๊บหนึ่ง ผมจะให้มารุตลงไปรับคุณ”
“โอเค”วารุณีพยักหน้า
นัทธีวางโทรศัพท์ลง กลับไปที่ห้องทำงาน เรียกมารุตที่อยู่ห้องข้างๆเข้ามา ให้เขาลงไปรับเธอข้างล่าง
แป๊บเดียว มารุตก็มาวารุณีมา
วารุณีดึงเก้าอี้ที่อยู่ตรงข้ามโต๊ะทำงานนัทธีแล้วนั่งลงไป เปิดแฟ้มเอกสาร เอาแบบร่างกำหนึ่งที่อยู่ด้านในออกมา ยื่นไปให้นัทธีด้วยมือสองข้าง“ประธานนัทธี คุณว่าเป็นไงบ้างคะ?”
ในขณะที่นัทธีรับแบบร่างไว้ ก็สั่งมารุตไปด้วยว่า“คุณไปเสิร์ฟชามาหน่อย”
“ครับ!”มารุตตอบรับ แล้วหันกลับออกไปชงชา
พอเขาไป นัทธีจึงตั้งใจดูภาพออกแบบ ทีละใบๆอย่างตั้งใจ
ดูเสร็จ เขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
วารุณีใจเต้นตึกตัก รอยยิ้มที่มั่นใจบนใบหน้า ก็ค่อยๆหุบลงไป“ประธานนัทธี มีตรงไหนไม่พอใจหรือเปล่าคะ?”
“ออกแบบไม่มีปัญหา แต่วัสดุแบบจำลองที่คุณทำเครื่องหมายด้านบนไว้ข้างบน จะเห็นว่าต้นทุนสูงไปหน่อย สำหรับเกมแล้ว ไม่จำเป็น”นิ้วเรียวยาวของนัทธี ชี้หนึ่งในภาพออกแบบใบหนึ่งแล้วพูด
วารุณีหัวเราะอย่างเขินอาย“ที่แท้ก็แบบนี้เอง ขอโทษนะคะ ด้านเกมฉันไม่ค่อยเข้าใจนัก ตอนที่ฉันออกแบบพวกนี้ ในหัวมีแค่อยากจะใช้วัสดุให้ดีที่สุด ไม่ได้คำนึงถึงอย่างอื่นเลยค่ะ……”
นี่ก็ถือว่าเป็นจุดบกพร่องของดีไซเนอร์
ดีไซเนอร์ทุกคน ต่างคาดหวังว่าผลงานของตัวเอง จะต้องใช้ผ้าที่ดีที่สุดไปตัด นานๆเข้าก็เคยชิน
“ไม่เป็นไร วัสดุตรงนี้เปลี่ยนก็ได้แล้ว”นัทธีเอานิ้วมือประสานกันไว้แล้ววางลงบนโต๊ะ พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
วารุณีกัดริมฝีปากอย่างกังวล“แต่ว่าควรจะเปลี่ยนเป็นใช้วัสดุอะไรคะ?ถ้าเปลี่ยนผิด เสื้อผ้าที่จำลองออกมา ก็อาจจะบรรลุถึงผลลัพธ์ที่สวยงามของภาพไม่ได้ อาจจะหยาบมาก และแบบอาจจะสวมไม่ได้เลยก็ได้นะคะ”
นัทธีได้ยินจึงก้มลงมองแล้วครุ่นคิด จากนั้นเปิดลิ้นชัก หยิบข้อมูลฉบับหนึ่งออกมาจากด้านใน“นี่เป็นรายละเอียดเกมที่บริษัทเกมส่งมาให้ผม ด้านบนมีวัสดุที่เลือกไว้แล้วของแบบจำลองตัวละครกับแบบจำลองเสื้อผ้า คุณลองดูว่าเอามาแทนได้ไหม”
“ค่ะ”วารุณีรับข้อมูลมาดูอีกครั้ง
มารุตชงชาเสร็จก็เข้ามา เอาชาแดงวางไว้ตรงหน้าเธอ“คุณวารุณี เชิญดื่มชาก่อนครับ”
“ขอบคุณค่ะ”วารุณียิ้มอย่างเกรงใจให้เขา ยื่นมือไปถือแก้วชาไว้
แต่ที่เธอคิดไม่ถึงก็คือ ตอนที่เธอถือไว้ จู่ๆมือก็ลื่น
แก้วชาพลิกคว่ำ ชาแดงที่ร้อนด้านในไหลออกมาหมด ไหลไปที่โต๊ะ จนเปียกเอกสารบางอย่าง
หลังฝ่ามือของวารุณีก็ถูกลวก ลวกจนแดง แสบร้อน หน้าซีดขาว หน้าผากมีเหงื่อไหล ตัวสั่นเล็กน้อย
แต่เธอกลับกัดริมฝีปากแน่น ให้น้ำตาที่เบ้าตาคืนกลับไป ไม่ให้ตัวเองร้องออกมา
ความเปลี่ยนแปลงนี้ ทำเอานัทธีกับมารุตต่างตกใจ
นัทธีได้สติมาก่อน หลังจากรูม่านตาสั่นคลอน ก็จับข้อมือของวารุณีขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ตึงเครียด“ตามผมมา!”
“ไปไหนคะ?”ดวงตาวารุณีแดงก่ำ ถามอย่างสำลัก
นัทธีไม่ตอบ ผลักประตูห้องน้ำออก
พอเข้าไปแล้ว เขาก็เอามือของวารุณีวางไว้ใต้หัวก๊อกน้ำ จากนั้นเปิดก๊อกน้ำ ให้น้ำเย็นล้างแผลที่ลวกของเธอ
น้ำเย็นๆไหลซู่ซ่าสาดไปที่มือของวารุณี แป๊บเดียวก็เย็นเจี๊ยบ เธอรู้สึกชัดเจนว่าความเจ็บอันแสบร้อนบนมือนั้นบรรเทาลง ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะโล่งอกเป็นอย่างมาก
“ประธานนัทธี ขอโทษจริงๆค่ะ สร้างปัญหาให้คุณอีกแล้ว”วารุณีก้มหน้าลง ขอโทษด้วยใบหน้าที่ดูเขินอาย
เธอคิดไม่ถึงว่าจู่ๆตัวเองจะโง่ขนาดนี้ แม้แต่แก้วชาก็ถือไม่มั่นคง
นัทธีปรับน้ำให้เบาลง น้ำจะได้ไม่กระเด็นเปียกโดนเสื้อผ้าของเธอ“ไม่เป็นไร ครั้งหน้าก็ระวังหน่อย”
“แต่เอกสารพวกนั้น……”
“ก็แค่เอกสารบางอย่างที่ไม่สำคัญอะไร ให้เขาส่งมาใหม่อีกฉบับก็ได้แล้ว”นัทธีพิงไปที่ข้างอ่างล้างหน้า แล้วพูดอย่างแผ่วเบา
ริมฝีปากของวารุณีขยับ ยิ่งรู้สึกละอายใจขึ้น
เอกสารที่ถูกส่งมาบนโต๊ะเขาที่เป็นเจ้านายใหญ่ จะไม่สำคัญได้อย่างไรกันล่ะ
เขาพูดแบบนี้ ก็แค่อยากให้เธอรู้ว่า ไม่ต้องรู้สึกผิดจนกดดัน
“ประธาน ผมเอาเจลประคบเย็นมาจากห้องพยาบาล”ตอนนี้เอง ด้านนอกประตูห้องน้ำก็มีเสียงของมารุตเข้ามา
นัทธีเดินขึ้นไปสองก้าวเปิดประตูออก หลังจากรับเจลประคบเย็นสีฟ้าที่มารุตยื่นมาให้ ก็กลับมาที่ข้างกายวารุณี พูดกับเธอว่า:“เอามือมาให้ผม”

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"

Options

not work with dark mode
Reset