พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ – ตอนที่ 554 องค์กรอาชญากรรม

นัทธีนวดระหว่างคิ้ว ใบหน้าที่สง่างาม มีความเหนื่อยล้าแฝงอยู่ “องค์กรเบื้องหลังของตราสัญลักษณ์นั้น มารุตสืบเจอแล้ว”
วารุณีนั่งตัวตรงทันที สีหน้าจริงจังขึ้นมา “สืบเจอแล้ว? คือองค์กรอะไร”
“คือองค์กรร่วมองค์กรหนึ่ง และคือองค์กรระดับนานาชาติองค์กรหนึ่ง ข้างในมีหลายประเทศเข้าร่วม มีคนที่มีพรสวรรค์ในทุกๆ ด้าน และมีความโหดร้ายขั้นสูงสุด องค์กรนี้ใหญ่โตมาก อีกอย่างทำเรื่องที่ทำร้ายคนเป็นพิเศษ รวมถึงพฤติกรรมการค้ายาด้วย รวมๆ แล้วยุ่งวุ่นวายมาก และอันตรายมาก” นัทธีพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
วารุณีตกใจมาก “คิดไม่ถึงว่านิรุตติ์จะเข้าร่วมองค์กรแบบนั้น”
“เขาไม่ใช่แค่เข้าร่วม ยังเป็นตำแหน่งสูงในนั้นอีก” นัทธีระเบิดอารมณ์ออกมาทันที
วารุณีอ้าปากกว้าง “ตำแหน่งสูง?”
“ใช่ คนที่มีตราสัญลักษณ์ต่างก็เป็นคนตำแหน่งสูง” นัทธีพยักหน้า
วารุณีกลืนน้ำลาย “ถึงว่าล่ะเขาสามารถเร่ร่อนไปมาหลายประเทศได้เลย ที่แท้เขาก็มีอำนาจใหญ่ขนาดนี้นี่เอง”
ระยะเวลาสั้นๆ เพียง5ปี ก็สามารถเข้าไปเป็นตำแหน่งสูงในองค์กรแบบนี้ได้
นิรุตติ์ทำอะไรไปกันแน่?
“ดังนั้นอยู่ต่างประเทศต้องระวังนะ” นัทธีเน้นย้ำอย่างจริงจัง
วารุณีพยักหน้า “ฉันรู้แล้ว ระวังแน่นอน”
นัทธีอึ้มไปคำหนึ่ง “ยังดีที่สาขาใหญ่ขององค์กรนี้ตั้งอยู่อีกที่ประเทศหนึ่ง ลูกน้องในมือของนิรุตติ์มีจำกัด ไม่เช่นนั้นฉันจะจบการแข่งขันระดับนานาชาติประเทศตอนนี้ ให้เธอกลับประเทศเลย”
“อย่า การแข่งขันระดับนานาชาติสำคัญมาก บางครั้งต้องรอหลายปีจึงจะจัดขึ้นครั้งหนึ่ง ฉันไม่อยากให้สิ้นสุดกลางทัน วางใจเถอะ ฉันจะปกป้องตัวเองและเด็กทั้งสองให้ดี” วารุณีพูดปลอบผู้ชาย
ผู้ชายบีบสันจมูก “ฉันจัดคนอีกกลุ่มหนึ่งไปยังข้างกายเธอ มีพวกเขาอยู่ ฉันก็วางใจหน่อย”
“ขอบคุณค่ะที่รัก” วารุณียิ้ม
นัทธีพูดขึ้นอีกว่า “จริงด้วย พัสดุนั้นสืบเป็นยังไงบ้างแล้ว?”
รอยยิ้มของวารุณีหายไป “ฉันถามพนักงานส่งของแล้ว เขาบอกว่าเป็นหญิงสาวฝั่งตะวันออกคนหนึ่ง ดังนั้นฉันคิดว่า ต้องเป็นนวิยาแน่นอน เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้นวิยาส่งพัสดุน่าตกใจแบบนี้มาอีก ฉันให้เชอรีนซื้อกล้องวงจรปิดกลับมาเยอะมาก ระยะทางที่ห่างจากวิลล่าประมาณหนึ่งร้อยเมตรก็ติดไว้ทั้งหมด ขอแค่มีจุดที่น่าสงสัย ก็จะรู้ทันที”

“เธอทำดีมาก” นัทธียิ้มอ่อนแล้วชมไปประโยคหนึ่ง
วารุณีเสยผม รู้สึกเริ่มเขินอายแล้ว
นัทธีเช็ดผมที่ยังเปียกน้ำอยู่ “อีกสองสามวันฉันจะออกไปทำงานข้างนอก เป็นทางเดียวกันสามารถไปหาพวกเธอได้”
“ได้เลย” ดวงตาของวารุณีเปล่งประกายขึ้น เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าดีใจ “หลังๆ มาประมาณตอนไหนเหรอ?”
“ยังไม่ชัดเจน ต้องรอดูแผนดำเนินการ” นัทธีโยนผ้าเช็ดตัวแล้วตอบกลับ
วารุณีพยักหน้า “โอเค พอถึงเวลาแล้วโทรหาฉัน พอแล้วที่รัก นายพักผ่อนก่อนเถอะ เป่าผมให้แห้งค่อยนอนนะ”
นัทธีอื้มตอบกลับไปคำหนึ่ง
การสนทนาจบลง วารุณีวางโทรศัพท์ลง
อารัณขยับเข้ามา “หม่ามี๊ คุณพ่อบอกว่าอะไรครับ?”
“เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กๆ อย่าถาม” วารุณีจี้ไปทางหน้าผากของเขา
เรื่องพัสดุที่เกิดขึ้นเมื่อวาน เด็กทั้งสองกำลังนอนปรับเวลาอยู่ ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เธอเองก็ไม่ได้คิดว่าจะบอกเด็กทั้งสอง ไม่ว่ายังไงแล้วเด็กทั้งสองก็ชอบสัตว์เลี้ยงมาก
หากให้พวกเขาได้ยินว่าในกล่องพัสดุมีศพของแมว จะต้องเหลือแผลในใจไว้แน่นอน
สิ่งที่สำคัญคือ เธอเองก็ไม่อยากให้เด็กทั้งสองเป็นห่วง
เห็นหม่ามี๊ไม่ยอมบอกตนเอง อารัณเบ้ปาก “ไม่บอกก็ช่างเถอะ”
เขาเดินจากไป ไปเล่นกับไอริณแล้ว
วารุณียิ้ม จากนั้นก็กดเปิดวีแชท นำข่าวเกี่ยวกับองค์กรนั้นที่นัทธีสืบเจอ บอกให้กับพงศกร

เธอรอไปสองนาที ไม่ได้รับการตอบกลับของพงศกร คาดเดาว่าเวลานี้เขาอาจจะยุ่ง จึงออกจากหน้าวีแชทของพงศกร เปิดช่องแชทของปาจรีย์ และบอกปาจรีย์ด้วย
ไม่ว่ายังไงแล้วตราสัญญาลักษณ์นั่น ปาจรีย์เป็นคนหาเจอเอง
อีกอย่างองค์กรนี้ก็เกี่ยวข้องกับความบริสุทธิ์ของบ้านสวนจันทร์ ปาจรีย์มีสิทธิ์ต้องรู้
ปาจรีย์ตอบกลับเร็วมาก ทว่าไม่ใช่วีแชท แต่เป็นโทรศัพท์
ในสายโทรศัพท์ น้ำเสียงของปาจรีย์ตื้นตันมาก “วารุณี เป็นเรื่องจริงเหรอ?”
“เป็นเรื่องจริง พ่อแม่ของพงศกร ถูกคนตำแหน่งสูงในองค์กรนี้ฆ่า” วารุณีพยักหน้าตอบกลับ
ปาจรีย์จับโทรศัพท์แน่น “ดีมาก ดีมาก ฉันสามารถบอกพงศกรได้แล้ว”
พูดจบ เธอก็จะวางสาย
วารุณีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “ฉันบอกเขาแล้ว แต่ว่าเขาน่าจะยุ่งอยู่ ยังไม่ตอบเลย”
“ใช่เหรอ?” ปาจรีย์ได้ยินประโยคนี้แล้ว ทันใดนั้นก็เงียบสงบลงทันที ทว่าดวงตากลับแดงก่ำ “วารุณีเธอรู้ไหม? ตอนนี้ฉันดีใจมากๆ เลย ในที่สุดฉันก็สามารถยืนยันกับพงศกรได้แล้วว่า บ้านของฉันบริสุทธิ์”
ทว่าวารุณีกลับกัดริมฝีปากล่าง “ปาจรีย์ ฉันอยากบอกว่า ใช้เพียงจุดนี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้”
ปาจรีย์เบิกตาโต “นี่ยังไม่เพียงพออีก? สืบองค์กรนั่นเจอแล้วไม่ใช่เหรอ? พ่อแม่ของพงศกรถูกคนตำแหน่งสูงในองค์กรนั้นฆ่า ไม่ใช่พ่อแม่ของฉัน ทำไมยังไม่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของพวกเราได้อีก?”
“แน่นอนว่ายังไม่พออยู่แล้ว พ่อแม่ของพงศกรถูกคนตำแหน่งสูงเป็นคนฆ่า แต่ว่าพงศกรก็ยังสามารถพูดได้ว่า พวกเธอเป็นคนเผยตำแหน่งที่อยู่ของพ่อแม่เขาให้กับคนตำแหน่งสูงนั้น คนตำแหน่งสูงถึงได้ฆ่าพ่อแม่ของเขา” วารุณีตอบกลับอย่างจริงจัง

ปาจรีย์เงียบสงบไปสักพัก
ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสืบองค์กรนั่นเจอแล้ว
ทว่าไม่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของบ้านตัวเองได้
ปาจรีย์หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา “ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ไม่ง่ายเลยกว่าจะมีความหวัง ปรากฏว่ากลับมาแย่เหมือนเดิมอีกครั้ง ทำไมพระเจ้าถึงต้องเล่นตลกกับพวกเราแบบนี้ ทำไมเนี่ย?”
เธอร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
วารุณีถอนหายใจด้วยความสงสาร “ปาจรีย์ เธออย่าท้อแท้สิ ถึงแม้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของพวกเธอไม่ได้ แต่ว่าการที่สืบองค์กรนั้นเจอก็ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีเยี่ยมแล้ว ขอแค่หาคนตำแหน่งสูงที่ฆ่าพ่อแม่ของพงศกรเจอ ให้คนตำแหน่งสูงคนนั้นพูดออกมากับปาก เขาหาพ่อแม่ของพงศกรเจอได้ยังไง ความผิดของครอบครัวเธอ ก็สามารถลบล้างได้แล้ว”
ดวงตาของปาจรีย์เปล่งประกายขึ้น
ทว่าในไม่ช้า นัยน์ตาก็มืดมนลง “อยากจับฆาตกรเจอลำบากมากๆ อยู่แล้ว หากสามารถจับได้ ก็คงไม่ถึงขั้นสิบกว่าปีก็ยังหาไม่เจอ ยิ่งไปกว่านั้นคือเธอก็บอกแล้วว่า คนในองค์กรนั้นต่างก็เป็นคนบ้าที่โหดร้าย ทำเรื่องไม่ดีและฆ่าคนทำร้ายคน พวกเราจะจับพวกเขาเจอได้ยังไง”
“นี่……” วารุณีหมดคำพูดแล้ว
ใช่แล้ว องค์กรแบบนี้ อาศัยอยู่ในประเทศนานาชาติมานานขนาดนี้ ต่างก็ยังไม่ถูกตำรวจนานาชาติจัดการทิ้ง องค์กรนี้จะใหญ่โตเพียงไหน ใหญ่โตถึงขั้นตำรวจนานาชาติก็ไม่กล้าออกมือง่ายๆ
ดังนั้นพวกเขาที่เป็นคนธรรมดา จะสามารถจัดการองค์กรแบบนี้ แล้วจับฆาตกรคนนั้นได้ยังไง
แม้กระทั่งนิรุตติ์พวกเขาก็ยังจับไม่ได้
อีกอย่าง เธอไม่มีทางให้นัทธีไปเสี่ยงแน่นอน
ถึงแม้ว่าบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่รูปแบบนานาชาติ ทว่าจะสู้กับองค์กรที่โหดร้ายแบบนี้ ก็สู้ไม่ไหวแน่นอน
เพราะว่าคนที่อยู่ในองค์กรแบบนี้ต่างก็เป็นคนบ้า หากสู้กันต่อหน้า อาจจะสู้บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปไม่ไหว ทว่าองค์กรแบบนี้จะสู้กับบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ปต่อหน้าได้ยังไงกัน ต้องใช้วิธีที่สกปรกลับหลังแบบนั้นแน่นอน
วิธีที่สกปรกลับหลังสามารถป้องกันชั่วครู่ได้ ทว่าไม่สามารถป้องกันไว้ได้ตลอด
เธอก็ไม่อยากให้นัทธีเสียชีวิตเพราะวิธีสกปรกลับหลังแบบนั้น ดังนั้นเธอไม่มีทางให้นัทธีไปสู้กับองค์กรนี้แน่นอน
ยิ่งไปกว่านั้นคือ เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่ทำลายองค์กรนี้ แต่อยากจะจับนิรุตติ์และฆาตกรที่ฆ่าพ่อแม่ของพงศกร
ดังนั้นเรื่องนี้ ก็ทำได้แต่วางแผนระยะยาว ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
พอนึกถึงจุดนี้ วารุณีถอนหายใจ “พอแล้วปาจรีย์ เธออย่ารีบ ต้องมีวิธีแน่นอน”

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ

5ปีก่อน พ่อแม่หย่าร้าง พ่อสุดเหี้ยมไล่พวกเขาออกจากบ้าน เพื่อรักษาโรคหัวใจของน้องชาย วารุณีแอบแฝงเข้าไปในห้องนัทธีขึ้นแสดง 'ใช้กายแลกเงิน' 5ปีต่อมา เธอพาเด็กน้อยน่ารักสองคนกลับประเทศ เพื่อที่จะเอาทุกอย่างที่เป็นของเธอคืนมา กลับบังเอิญเจอชายผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในจังหวัดจันทร์อีกครั้ง เขาคือ นัทธี นั่นเอง "ลูกชายคุณทำไมหน้าเหมือนฉันจัง?" นัทธีถามเสียงต่ำ วารุณี:"…" เด็กน้อยน่ารัก: "แด๊ดดี้ รีบมีลูกกับหม่ามี๊อีกคนสิครับ!"

Options

not work with dark mode
Reset