พ่ายหัวใจคุณซุปตาร์ ตอนที่ 2-2

2.2

Chapter 2.2

 

 

 

 

 

เกือบชั่วโมงผ่านไปรถยนต์สัญชาติอิตาลีของฐาปนัทก็แล่นเข้ามาจอดในบ้านหรูทรงตึกฝรั่งแบบโบราณแถวชานเมือง บ้านที่มักถูกใช้ถ่ายละครแนวพีเรียตหลายต่อหลายเรื่องและก็เป็นโลเกชั่นหลักของละครพีเรียตเรื่องล่าสุดที่จิรัฎฐ์รับเล่นเช่นกัน ด้วยความที่มีโอกาสมาสถานที่แห่งนี้บ่อยครั้งทำให้เขาพอจะรู้คร่าวๆ ว่าจุดหลักๆ ที่ผู้กำกับเลือกใช้ถ่ายทำคือส่วนไหนบ้าง บวกกับระหว่างทางที่เดินเข้ามามีทีมงานหลายคนเข้ามาทักทายแล้วบอกว่าด้านในกำลังถ่ายทำฉากสำคัญกันอยู่ เขาจึงเดินทะลุมายังหน้าเซตที่มีอุปกรณ์กล้องไฟครบครันด้วยความเงียบเชียบที่สุด เพราะไม่อยากให้มีเสียงอะไรขึ้นมารบกวนสมาธิของนักแสดงกับทีมงานที่กำลังตั้งใจทำงานกัน

 

“ยินดีด้วยนะคะคุณมิล กับตำแหน่งเอกอัครราชทูตประจำประเทศฝรั่งเศสด้วยวัยเพียงแค่นี้ คุณเก่งมากๆ เลยค่ะ” หญิงสาวร่างอรชรเอ่ยด้วยใบหน้าประดับรอยยิ้มบาง ก่อนเจ้าของร่างสูงใหญ่ที่เดินเคียงข้างกันจะหันมายิ้มให้เธอเช่นกัน

 

“ขอบคุณครับ ว่าแต่คุณไม่มีของขวัญให้ผมบ้างเหรอ”

 

“ฮืม~ คนเพียบพร้อมอย่างคุณมาร้องขอของขวัญอะไรจากฉันละคะ แล้วอีกอย่างฉันก็เป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงตัวเล็กๆ ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังขนาดจะซื้อของแพงๆ สมหน้าสมตาให้คุณได้นะ”

 

“ผมก็ไม่ได้ต้องการข้าวของราคาแพงอะไรจากคุณนี่ครับ เพราะสิ่งที่ผมต้องการคุณไม่ต้องเสียสตางค์ซื้อสักบาท”

 

“แล้วคุณต้องการอะไรคะ” หญิงสาวเอียงหน้าถามอย่างใคร่รู้ ส่วนชายหนุ่มก็เลือกจะหยุดการก้าวเดินแล้วหันมาสบตาเธอตรงๆ

 

“ตามปกติแล้วนักการทูตสามารถพาผู้ช่วยและครอบครัวบินไปใช้ชีวิตด้วยกันที่ต่างประเทศได้ ไม่ทราบว่าคุณแพรยินดีจะไปฝรั่งเศสด้วยกันกับผมไหมครับ”

 

“คุณจะให้ฉันเป็นผู้ช่วยคุณเหรอคะ” หญิงสาวกล่าวอย่างดีใจ ก่อนจะนิ่งค้างไปหลังชายหนุ่มเอ่ยประโยคสำคัญจบ

 

“เปล่าครับ ผมจะให้คุณไปในฐานะภรรยาผมต่างหาก ไม่ทราบว่าคุณแพรพรรณรายณ์ยินดีจะแต่งงานเป็นภรรยาผมไหมครับ”

 

ภาพของหนุ่มหล่อสาวสวยในชุดออกงานหรูหราตามยุคสมัยของปีสองพันห้าร้อยต้นๆ กับบรรยากาศสวนหลังบ้านที่ถูกประดับประดาด้วยแสงไฟสวยงาม แถมยังมีฉากหลังที่เห็นผ่านจอมอร์นิเตอร์เลือนรางเป็นตัวบ้านตึกฝรั่งตามสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียล ผู้จัดการคนดังก็คาดว่านี่คงเป็นฉากต่อเนื่องจากงานเลี้ยงภายในบ้าน ที่จัดขึ้นเพื่อให้ทุกคนมาแสดงความยินดีกับชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวผู้ได้รับตำแหน่งใหม่แน่นอน แต่ตัวเอกของงานกลับไม่สนใจงานเลี้ยงหรูหราและผู้คนมากมายสักนิด แถมเลือกจะพาสาวในดวงใจออกมาชื่นชมบรรยากาศแสนโรแมนติกยามค่ำคืนแทนอีกต่างหาก

 

ฐาปนัทได้อ่านบทละครเรื่องกลิ่นรักล้อมใจตั้งแต่ต้นจนจบแล้ว และรู้ด้วยว่าหลังจากหญิงสาวตอบตกลงชายหนุ่มตรงหน้าด้วยท่าทางเอียงอายมันจะเกิดอะไรขึ้นต่อ แต่เมื่อได้เห็นผู้สวมบทหนุ่มนักการทูตรูปหล่อช้อนใบหน้าเธอขึ้นมาแล้วค่อยๆ จรดริมฝีปากตัวเองลงไปช้าๆ จนในที่สุดริมฝีปากได้รูปก็แนบชิดกับริมฝีปากที่เคลือบลิปสติกสีหวาน สารพัดความรู้สึกก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวเขาทันที

 

หนึ่งคือความภาคภูมิใจเมื่อได้เห็นจิรัฎฐ์พัฒนาตัวเองจนเป็นนักแสดงมืออาชีพอย่างเต็มตัวแบบนี้ เพราะไม่ว่าสีหน้าท่าทางและการแสดงออกทุกอย่างเจ้าตัวถ่ายทอดมันออกมาได้ดีจนเขาเชื่อสนิทว่าคนตรงหน้าคือ ‘รามิล’ พระเอกหนุ่มมาดสุขุมในละครเรื่องนี้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะสายตาแสนรักกับท่าทีอ่อนโยนที่มีให้แก่หญิงสาวเพียงหนึ่งเดียวในซีน เขาก็ฟังธงได้เลยว่าถ้าละครออกอากาศไปฉากนี้ต้องกลายเป็นฉากจำและถูกพูดถึงมากที่สุดอีกฉากหนึ่งแน่นอน

 

ส่วนอีกหนึ่งความรู้สึกที่ตีคู่กันมาก็คืออาการวูบโหวงแปลกๆ เมื่อฉากแสนหวานตรงหน้าดันคล้ายคลึงกับเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปของเขาแบบสุดๆ จะต่างกันแค่พระเอกนางเอกของเรื่องได้ครองคู่กันสมหวังตามเรื่องราว ผิดกับเขาที่เป็นฝ่ายหักอกผู้สวมบทพระเอกในละครเข้าอย่างจัง

 

“คัท!! ดีมากจูบสวยมากเทคเดียวผ่านสมเป็นฝุ่นจริงๆ เดี๋ยวยังไงฝุ่นกับณิรินไปพักก่อนนะ ถ้าพี่จัดไฟเซตต่อไปเสร็จค่อยมาบล็อกกิ้งกัน”

 

“ครับ/ค่ะ” พระเอกนางเอกรับคำผู้กำกับอย่างพร้อมเพรียง ก่อนฝ่ายสวัสดิการกองจะรีบเอาน้ำเอาผ้าเย็นเข้าไปบริการ

 

ฐาปนัทยืนดูการถ่ายทำฉากเมื่อกี้ด้วยอาการนิ่งงันอยู่นาน จนเห็นว่าพระเอกในสังกัดกำลังเดินเข้ามาหาเขาก็รีบเปลี่ยนสีหน้าของตัวเองให้มีรอยยิ้มสดใสทันที แถมยังปรบมืออวยความสามารถชายหนุ่มอีกชุดใหญ่ด้วย “ละมุนมากเลยครับคุณรามิล เล่นดีขนาดนี้ละครออนแอร์เรตติ้งต้องดีแน่ๆ”

 

“ขอบคุณครับ มีนมานานแล้วเหรอ”

 

จิรัฎฐ์รับคำด้วยสีหน้าเรียบสนิท ก่อนจะเดินนำผู้จัดการที่ตัวเล็กกว่าพอสมควรไปยังรถมอร์เตอร์โฮมส่วนตัวด้วยกัน แม้ทางกองละครจะจัดเตรียมที่ทางให้ได้พักผ่อนกับเหล่านักแสดงอยู่แล้ว แต่เขาก็ชอบเข้ามาอ่านบททำสมาธิในรถคันนี้มากกว่า เมื่อมันค่อนข้างสงบและเป็นส่วนตัวมากๆ แถมยังมีที่ให้เอนหลังสบายๆ ไม่ต้องกลัวจะถูกแอบถ่ายรูปหลุดๆ ไปทำสกู๊ปละครอีก โดยเฉพาะเวลาออกกองไปต่างจังหวัดรถคันนี้จะอำนวยความสะดวกได้ดีมากจริงๆ เพราะมีอุปกรณ์ของใช้จำเป็นต่างๆ ให้หยิบใช้ได้อย่างครบครัน

 

“สักพักแล้วล่ะ เลยทันดูฉากเมื่อกี้ตั้งแต่แรก” คนโตกว่าตอบยิ้มๆ แต่เมื่อมองซ้ายมองขวาแล้วไม่เห็นผู้ช่วยส่วนตัวของพระเอกหนุ่มตามมาด้วยจึงอดถามถึงไม่ได้

 

“หวายไปไหนล่ะ ไม่เห็นมาดูแล”

 

“ผมวานให้ออกไปซื้อของครับ อีกสักพักน่าจะกลับมา” พระเอกหนุ่มตอบเสียงเรียบแล้วหยิบบทขึ้นมาอ่าน แม้หูจะได้ยินเสียงอุทานแหววๆ ของคนข้างๆ แต่เขาก็ไม่ได้ละสายตาไปมอง

 

“อ้าว! อยากได้อะไรทำไมไม่บอกพี่ล่ะ ยังไงพี่ก็ต้องแวะเข้ามาอยู่แล้ว” ฐาปนัทถามอย่างไม่เข้าใจ จนได้ฟังคำตอบของคนที่กำลังนั่งทำหน้ามู่ทู่หัวคิ้วเขาก็มุ่นเข้าหากันทันที

 

“ก็ผมไม่มั่นใจว่ามีนจะเข้ามาจริงๆ นี่ครับ เห็นกำลังใช้เวลาพักผ่อนกับเพื่อนสนิทไปตั้งครึ่งค่อนวัน”

 

“ฮืม~ ฝุ่นรู้ได้ยังไงว่าพี่อยู่กับดลใครบอก!”

 

“ไม่เห็นต้องมีใครบอกนี่ครับแค่ไถสตอรี่ดูก็รู้แล้ว เพราะเพื่อนมีนลงถี่จนจะเป็นจุดไข่ปลาขนาดนั้น” ชายหนุ่มตอบ ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองคนข้างๆ นิดๆ แล้วกลับมาสนใจบทในมือต่อ

 

“จริงๆ ถ้าคุยกันติดพันอยู่บอกหวายไว้ก็ได้นะครับว่าจะไม่เข้ามา นานๆ มีนจะมีเวลาได้อยู่กับเพื่อนสนิทบ้างน่าจะใช้ให้คุ้ม”

 

ท่าทีแง่งอนที่เห็นได้ชัดทำให้ผู้จัดการที่ทำงานด้วยกันมานานรู้ทันทีว่าพระเอกหนุ่มกำลังไม่พอใจ ซึ่งมันก็เป็นอย่างนี้มาตลอดเวลาเขากับดลรวีไปไหนมาไหนด้วยกัน แถมเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเจ้าตัวถึงดูไม่ชอบเพื่อนเขาขนาดนั้นทั้งที่ก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน แม้ทั้งสองจะมีโอกาสได้เจอกันตามงานต่างๆ บ้างหรือเวลาที่เพื่อนเขามาหา แต่ทุกครั้งจะเป็นจิรัฎฐ์ที่แสดงอาการหน้าบูดหน้างอไม่สบอารมณ์ให้เห็นอยู่เสมอ ส่วนเพื่อนของเขาก็มีอาการเขม่นไม่ชอบขี้หน้าคนเด็กกว่าเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นผู้กำกับชื่อดังก็ยังติดต่อมาขอร่วมงานกับเด็กในความดูแลของเขาอยู่ดี ทั้งที่เขายังไม่มั่นใจสักนิดว่าโปรเจกต์หนังเรื่องใหม่ที่มีแพลนถ่ายทำในปลายปีนี้จะผ่านไปได้อย่างราบรื่นดีหรือเปล่า เมื่อพระเอกกับผู้กำกับดูไม่ถูกชะตากันขนาดนั้น

 

“ฝุ่น พี่ไปคุยโปรเจกต์หนังเรื่องใหม่ของดลที่บอกนายวันก่อนไง หนังบู๊แอคชั่นที่มีแพลนฉายกลางปีหน้าน่ะ พี่ถามนายแล้วว่าโอเคจะทำงานกับดลรึเปล่านายก็บอกว่าได้ พี่เลยต้องไปคุยรายละเอียดต่างๆ ต่อไง”

 

“แล้วทำไมต้องไปคุยที่คาเฟ่ด้วยทำไมไม่คุยงานที่บริษัท แล้วโปรเจกต์ใหญ่อะไรทำไมนัดคุยกันแค่สองคน” จิรัฎฐ์หยุดสิ่งที่ทำอยู่แล้วหันมาถามคนโตกว่าด้วยสีหน้าบึ้งตึงตรงๆ จนคนเป็นผู้จัดการได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงๆ ก่อนจะอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเพราะไม่อยากให้เจ้าตัวอารมณ์เสียไปมากกว่าเดิม

 

“ก็ไม่ได้คุยเครียดขนาดนั้นเลยหาที่สบายๆ คุยกันไง เดี๋ยวรายละเอียดอื่นๆ ดลจะส่งตามมาให้พร้อมตารางเวิร์กชอปกับตารางเรียนการต่อสู้อยู่ดี ส่วนเรื่องบทถ้าไฟนอลแล้วดลก็จะนัดวันให้นายเข้าไปอ่านพร้อมนักแสดงคนอื่นๆ อีกที”

 

คำตอบที่ได้ฟังไม่ได้ทำให้อารมณ์พระเอกหนุ่มดีขึ้นเท่าไหร่นัก แต่เขาก็พยายามกดข่มอารมณ์ขุ่นๆ ของตัวเองเอาไว้เพราะไม่อยากแสดงอาการเอาแต่ใจมากเกินไป เมื่อมันอาจทำให้อีกฝ่ายหงุดหงิดและไม่พอใจเขาได้เหมือนกัน แต่พอนั่งทำหน้านิ่วคิ้วขมวดได้สักพักเขาก็รู้สึกว่าหว่างคิ้วกำลังถูกมือขาวสะอาดของอีกคนนวดคลึงช้าๆ มันทำให้ความหงุดหงิดในใจคลายลงทันตา และถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าแทน

 

“อย่าขมวดคิ้วบ่อยสิ เดี๋ยวริ้วรอยถามหาเร็วหรอก”

 

จิรัฎฐ์มองคนโตกว่าด้วยดวงตาเป็นประกาย เมื่อความห่วงใยและใส่ใจของอีกฝ่ายกำลังทำให้เขานิสัยเสียมากขึ้นทุกวัน “ไม่ขมวดคิ้วแล้วก็ได้ครับ แต่ว่า… มีนจูบผมหน่อยสิ”

 

“ฮะ!” ฐาปนัทอุทานเสียงหลงทันทีส่วนมือที่สัมผัสคนเด็กกว่าก็หยุดชะงักไปเช่นกัน

 

“ทำไม…” 

 

“ก็เพิ่งถ่ายฉากจูบมามีนก็เห็น ลบสัมผัสให้หน่อยสิครับ”

 

ผู้จัดการคนดังมองเด็กในสังกัดด้วยจังหวะหัวใจที่สั่นสะท้าน โดยเฉพาะสายตาแพรวพราวที่มองจ้องมามันทำให้หัวสมองที่เคยผ่องใสปลอดโปร่งของเขากลายเป็นมึนเบลอประมวลผลอะไรไม่ถูกทันที

 

“นะมีนไม่อย่างนั้นผมถ่ายฉากต่อไปไม่ได้นะ”

 

วิญญาณหมาโกลเด้นตัวใหญ่เข้าสิงพระเอกหนุ่มอีกครั้ง ทั้งที่เพิ่งได้จูบสาวสวยระดับนางเอกดังมาแท้ๆ แต่จิรัฎฐ์กลับเรียกร้องให้เขาลบสัมผัสนั้นออกไป ซึ่งตัวเขาที่ทำอาชีพผู้จัดการดารานักแสดงมาเกือบสิบปีก็ไม่เคยต้องทำอะไรที่ ‘เปลืองตัว’ ขนาดนี้กับใครมาก่อน

 

แต่เมื่อสามปีก่อนที่ตัดสินใจตามตื๊อเด็กหนุ่มตรงหน้าให้เข้ามาอยู่ในสังกัด เหตุการณ์แบบนี้ก็เกิดขึ้นกับเขาบ่อยครั้ง เพราะคุณพระเอกดังมักอ้างว่าไม่ชอบให้ใครทิ้งสัมผัสไว้จึงขอให้เขาช่วยลบมันออกให้ทุกครั้ง แม้จะรู้สึกเหนื่อยหน่ายและลำบากใจมากๆ แต่คนที่ไม่สามารถปฏิเสธอะไรได้อย่างเขาก็ต้องทำมันอยู่ดี สองมือจึงยื่นออกไปรั้งใบหน้าหล่อเหลาให้เข้ามาเพื่อสัมผัสแนบชิดกับริมฝีปากตัวเองทันที และมันก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่อีกฝ่ายมีถ่ายฉากเลิฟซีน

 

ถ้าถามว่าทำไมนายฐาปนัทคนนี้ถึงยอมง่ายๆ ก็เพราะเคยลองแข็งขืนไม่ทำตามแล้วแต่ไอ้เด็กร้ายกาจดันแผลงฤทธิ์จนถ่ายละครต่อแทบไม่ได้ เขาจึงต้องเป็นฝ่ายจูบลบสัมผัสให้มันอย่างเลี่ยงไม่ได้ทุกครั้งเช่นกันเพราะไม่อยากให้ทีมงานและนักแสดงคนอื่นๆ ต้องเสียงานเสียการไปด้วย ซึ่งการดูแลที่เกินหน้าที่มากๆ อย่างที่ทำอยู่ตอนนี้ก็มีแต่เขากับเจ้าตัวที่รู้กันสองคน เมื่อความสัมพันธ์แปลกๆ ที่ไม่ได้มีสถานะอะไรกันแต่สามารถสัมผัสแนบชิดถึงขั้นแลกเปลี่ยนลมหายใจเขาจะกล้าเอาไปบอกใครที่ไหนได้ล่ะ

 

ริมฝีปากสีอ่อนขยับบดคลึงกับริมฝีปากได้รูปของพระเอกสุดฮอตซ้ำไปซ้ำมา แม้จะไม่ได้สัมผัสดูดดื่มลึกซึ้งเกินกว่าที่ควรต้องทำ แต่มันก็ทำให้คนที่เรียกร้องขอสัมผัสพึงพอใจกับสิ่งที่ได้รับอยู่ดี เมื่อตอนนี้วงแขนแข็งแรงของชายหนุ่มตวัดโอบรอบช่วงเอวเขาเอาไว้ แถมมืออีกข้างยังตรึงปลายคางเขาที่กำลังจะถอยห่างไม่ให้หนีไปไหน เพื่อเจ้าตัวจะได้บดเบียดแลกเปลี่ยนลมหายใจกับเขาได้อย่างถนัดถนี่จนกว่าจะพอใจ

 

ถ้าแปลกใจว่าผู้จัดการกับดาราในสังกัดจูบสัมผัสกันเป็นปกติแบบนี้ได้ยังไง ก็ต้องบอกว่าเขาเสียท่าถูกจิรัฎฐ์ขโมยจูบไปตั้งแต่ช่วงที่อีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กฝึกหัดแล้วน่ะสิ แถมตลอดเวลาที่เขารับบทแอคติ้งโค้ชจำเป็น เจ้าตัวก็มักจะยกเหตุผลร้อยแปดมาอ้างว่าแสดงนั่นแสดงนี่ไม่ได้จนเขาต้องเป็นคนสอนให้แทบทุกอย่าง ซึ่งก็รวมถึงฉากจูบฉากเลิฟซีนต่างๆ ที่เขาต้องใช้ตัวเองไม่ต่างจากตุ๊กตาให้ชายหนุ่มได้ทดลองจูบสารพัดรูปแบบจนช่ำชองเหมือนกัน และการที่อีกฝ่ายได้รับเสียงชื่นชมว่าเป็นพระเอกที่จูบได้สวยและเป็นธรรมชาติมากๆ ก็ต้องยกความดีความชอบทั้งหมดให้เขาที่ยอมเปลืองตัวมาหลายปีนั่นเอง

 

 

 

 

 

————————–

 

#พ่ายหัวใจคุณซุปตาร์

 

#ไต้ฝุ่นมีน

พ่ายหัวใจคุณซุปตาร์

พ่ายหัวใจคุณซุปตาร์

พ่ายหัวใจคุณซุปตาร์
Status: Ongoing
อ่านเรื่องพ่ายหัวใจคุณซุปตาร์ เรื่องย่อ เมื่อความรักระหว่าง ‘ผู้จัดการดารา’ กับ ‘พระเอกในสังกัด’ เป็นเรื่องไม่เหมาะสม… แล้วคนที่พ่ายแพ้ให้กับความรู้สึกตัวเองไปแล้วจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset