ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 5 ความสะเพร่าของตระกูลซู

หลังจากที่ออกจากบ้านตระกูลซูมาแล้ว ฉินเฉิงก็มาบังเอิญมาเจอเข้ากับโรงแรมแห่งหนึ่งแล้วเค้าก็เลือกที่จะพักอยู่ที่นี่

โชคยังดีที่มีบัตรธนาคารที่ตระกูลซูให้ไว้ก่อนหน้านี้ ไม่อย่างงั้นฉินเฉิงเองก็ไม่มีที่จะไปแล้วจริงๆ

หลังจากที่เสร็จขั้นตอนการจัดการห้องพัก ฉินเฉิงก็แทบทนรอไม่ไหวที่จะกระโดดขึ้นไปบนเตียงแล้วหลับตาลง

เค้าเองก็ต้องการที่จะค้นหาโดยเร็วที่สุดว่าในมรดกที่พ่อมอบให้ไว้นั้นมันมีอะไรบ้างแล้วอะไรที่เค้าจะต้องทำ

ทันทีที่เค้าหลับตาลงนี้เอง แสงสีทองในใจิตมันก็ปรากฎขึ้นมาอีกครั้งแล้วคัมภีทุกเล่มมันก็ปรากฎขึ้นมาในความคิดของเค้า

สำหรับฉินเฉิงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการช่วยชีวิตของชายชราซู ดังนั้นเค้าก็เลยเริ่มอ่าคัมภีศักดิ์สิทธิ์ทางด้านการแพทย์ก่อน

หลังจากที่อ่านๆ แล้ว ฉินเฉิงก็พบว่าทักษะทางการแพท์เหล่านี้มันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถทำได้และแต่ละอย่างมันก็เกี่ยวกับออร่าในร่างกายของเค้า

หลังจากไปถึงจุดสูงสุดแล้ว นี่มันก็ไม่ต้องพูดถึงเรื่องของการรักษาโรคแล้ว แม้แต่การชุบชีวิตคนตายมันก็เป็นไปได้!

ตัวอย่างเช่น ยาคืนชีพ ยาคงกระพัน ยาพักผ่อนและอื่นๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้มันสามารถที่จะรักษาชายชราซูได้อย่างง่ายดาย

เพียงแต่ว่า…..วัตถุดิบที่จำเป็นสำหรับยาเหล่านี้มันเป็นราชาแห่งยาอันล้ำค่าและมันก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับฉินเฉิง

“มันสามารถที่จะไปหาได้จากร้านขายยาใหญ่ๆ เท่านั้น” ฉินเฉิงก็คิดกับตัวเองขึ้นมา

ทันใดนั้นเอง ฉินเฉิงก็เริ่มอ่านเทคนิคลับของการปลูกฝังความเป็นอมตะ

มรดกที่สำคัญที่พ่อทิ้งไว้ให้เค้าก็คือการบ่มเพาะความเป็นอมตะ

พลังปราณ มันคือขั้นแรกในการบ่มเพาะความเป็นอมตะ มันมีขั้นตอนของการบ่นถึงสิบสองขั้นตอน พื้นฐานของมันคือการตรัสรู้ จิตวิญญาณและพลังปราณ

และระยะยเวลาในการกลั่นลมปราณมันก็เป็นเพียงแค่ก้าวแรกก็เท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นโลกในทุกวันนี้มันก็ไม่ถูกขัดขวางอะไรแล้ว!

เมื่อสามารถที่จะเข้าถึงแก่นพื้นฐานนี้ได้ มันก็เรียกได้เลยว่าคือการอยู่ยงคงกระพัน นี่สามารถที่จะมีอายุขัยอยู่บนโลกได้อีกหลายร้อยปีเลยทีเดียว!

ในหนังสือที่เขียนไว้ ครั้งหนึ่งเคยมีปรมาจารย์ในยุคสร้างเมืองปีนัง เค้าเป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากคนหลายพันคนและชื่อของเค้าก็เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย

เมื่อเห็นสิ่งนี้เอง ฉินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา ในแววตาของเค้าความตื่นเต้นมันก็ปรากฎขึ้นมา

“ถ้าหากว่าฉันเริ่มต้นจากการฝึกฝนความเป็นอมตะ อย่างงั้นในโลกนี้มันก็จะไม่มีใครสามารถรังแกฉันได้อีก!” ฉินเฉิงก็กำหมัดของเค้า สีหน้าของเค้ามันเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

เค้าเองก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพที่เค้าถูกสองพี่น้องหลินรังแก หมัดของจ้าวซานและการเยาะเย้ยของทุกคน

“รอก่อนเถอะ” ฉินเฉิงก็กำหมัดของเค้าจนแน่น สีหน้าที่เย็นชามันก็ค่อยๆ ปรากฎขึ้นมาบนใบหน้าของเค้าอย่างช้าๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น ฉินเฉิงก็เดินออกมาจากโรงแรมและตรงไปที่ร้ายขายยาร้านใหญ่

น่าเสียดายที่ร้ายขายยานี่ มันเป็นร้านที่ขายยาทั่วไป นี่มันไม่ต้องพูดถึงวัตถุดิบที่มีอายุหลักร้อยปีเลย แม้แต่ของที่มีอายุมากกว่าสิบปีมันก็ยังหาได้ยาก

“พ่อหนุ่ม ยาหายากแบบนี้พวกเราจะยังมีไหม?” หมอในร้านขายยาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา

ที่เค้าพูดก็ถูก ยาที่ดีแบบนี้มันต้องตกไปอยู่มือของคนรวยเท่านั้น มันจะมาอยู่ในตลาดทั่วไปแบบนี้ได้ยังไงกัน

นี่มันทำอะไรไม่ได้เลย ฉินเฉิงก็ยังคงซื้อยาทั่วไปแล้วเอามันกลับมาที่บ้านก่อน

ในตอนที่กลับมา ท้องฟ้ามันก็กำลังมืดลงแล้ว

ในตอนนี้เอง ซูหวานก็โทรเข้ามา

ในสายเธอก็ยิ้มไปและพูดว่า: “หมอใหญ่ฉิน คืนนี้นายสะดวกไหม?”

ฉินเฉิงก็ถามขึ้นมาอย่างรวดเร็ว: “คุณซู มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

ซูหวานก็พูดว่า: “คุณปู่ของฉันเค้าเชิญหมอที่มีชื่อเสียงมากมาจากจิงตู ฉันอยากให้นายมาด้วย ได้ไหมอะ?”

“นี่…” ฉินเฉิงเองก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วของเค้าขึ้นมา เค้าพึ่งจะซื้อยามาและเค้าเองก็จำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าจะต้องปรุงมันยังไงแล้วเค้าจะไปรักษาอาการป่วยของชายชราซูได้ยังไงกัน?

“อย่างงั้นก็ตกลงละนะ นายอยู่ไหนอะ ตอนนี้ฉันจะไปรับนายมา” ก่อนที่ฉินเฉิงจะตอบอะไร ซูหวานก็จับเค้ามัดมือชก

ฉินเฉิงเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากตอบตกลง

“ฉันเองก็อยากที่จะยืมหม้อจากตระกูลซูอยู่พอดี” ฉินเฉิงคิดขึ้นมาอย่างลับๆ พลางจับยาที่เค้าถืออยู่ในมือ

จากนั้นไม่นาน รถเบ้นซ์สีดำมันก็มาหยุดอยู่ที่ตรงหน้าฉินเฉิง

ทันทีที่รถจอด เค้าก็มองเห็นเรียวขายาวที่ลงมาจากรถ

วันนี้ซูหวานเธอเปลี่ยนชุดแล้ว เธอสวมชุดกีฬาพร้อมกับมัดผมหางม้า เธอดูสะอาดสะอ้านและเรียบร้อยเป็นอย่างมาก

“ขึ้นรถมาเถอะ” ซูหวานก็หัวเราะขึ้นมา

จากนั้นไม่นาน รถมันก็มาถึงที่ลานกว้างหน้าบ้านตระกูลซู

หลังจากที่ลงรถมา ซูหวานก็มองไปที่กระเป๋าที่ฉินเฉิงถือเอาไว้ในมือ จากนั้นเธอก็ถามขึ้นมาอย่างเป็นกันเองว่า: “นั่นอะไรเหรอ?”

“ยาที่จะเอามารักษาอาการป่วยของนายท่านซู” ฉินเฉิงรีบตอบขึ้นมาอย่างเร็ว

เมื่อได้ยินแบบนี้ ซูหวานก็เริ่มที่จะสนใจ

เธอเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อยและพูดว่า: “ยาพวกนี้มันสามารถรักษาอาการป่วยของปู่ฉันได้อย่างงั้นเหรอ?”

“ฉันเองก็ไม่รู้” ฉินเฉิงก็เกาหัวของเค้าแล้วพูดว่า “มันต้องลอง”

เมื่อซูหวานได้ยินแบบนั้น เธอก็เงียบไป

หลายปีที่ผ่านมา ตระกูลซูก็ไม่รู้ว่าพวกเค้าพาหมอมาที่นี่แล้วกี่คน ทุกคนล้วนแล้วแต่ทำไม่สำเร็จ การรักษานี่มันจะง่ายดายอย่างั้นเชียวเหรอ?

“บางทีหมอที่มีชื่อเสียงในจิงตูเองก็อาจจะพอทำอะไรได้บ้าง” ฉินเฉิงก็พูดปลอบเธอขึ้นมา

ซูหวานก็ยิ้มและพูดว่า: “บางทีก็อาจจะ”

ที่ด้านในคฤหาสน์ คนสองสามคนกำลังนั่งคุยกันอยู่บนโซฟาขนาดใหญ่

“หมอซุน คราวนี้ต้องรบกวนคุณแล้ว” ชายชราซูก็พูดขึ้นมาด้วยท่าทีที่ดูเหนื่อยเล็กน้อย

ชายที่ชื่อคุณหมอซุนก็พยักหน้าขึ้นมา จากนั้นเค้าก็พูดออกมาอย่างสุภาพ: “คุณซูไม่ต้องกังวลไป ผมจะทำให้ดีที่สุด”

“คุณปู่ ฉินเฉิงมาแล้ว!” ในตอนนี้เอง ซูหวานก็จับมือของฉินเฉิงแล้วลากเค้าเดินเข้ามา

ชายชราซูก็เหลือบมองไปที่ฉินเฉิงแล้วพยักหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทาย

ทันทีหลังจากนั้น ชายชราซูก็ลืมตาของเค้าขึ้นมาแล้วจ้องมองไปที่หมอซุนอีกครั้งแล้วพูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้มว่า: “หมอซุน เราขึ้นไปข้างบนกันเลยดีไหม?”

หมอซุนเองก็เหลือบมองไปที่ฉินเฉิง เค้าพยักหน้าเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า: “ตกลง”

เมื่อซูหวานเห็นแบบนี้ เธอก็แสดงท่าทีไม่พอใจออกมา: “แล้วฉินเฉิงหละ?”

ชายชราซูก็ปัดมือของเค้าขึ้นมาแล้วพูดว่า: “งั้นเธอก็พาเค้าไปเดินเล่นที่สนามก่อน”

“คุณปู่! เขามาที่นี่ก็เพื่อช่วยคุณนะคะ!” ซูหวานพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ

เมื่อได้ยินแบบนี้ สีหน้าของชายชราซูก็เปลี่ยนไปในทันทีและเค้าก็พูดขึ้นมาอย่างไม่พอใจเล็กน้อยว่า: “ซูหวาน อย่าพูดเหลวไหล! คุณหมอซูเองก็อยู่ที่นี่แล้ว ยังจะต้องการใครอีก!”

หลังจากที่พูดประโยคนี้จบ ชายชราซูก็เดินขึ้นไปในทันที

เมื่อฉินเฉิงเห็นแบบนี้ เค้าเองก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น

แน่นอนว่าผู้คนยังคงต้องพึ่งพาตัวเอง การไม่มีความสามารถ ไม่ว่าจะไปที่ไหนมันก็จะไม่มีใครเคารพ

“ฉินเฉิง ไม่เป็นไร ฉันจะไปพูดกับปู่ด้วยเหตุผลเอง!” ซูหวานก็พูดขึ้นมาอย่างโกรธเคือง

ฉินเฉิงเองก็รีบคว้าตัวซูหวานไว้ เค้าส่ายหัวขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ไม่ ไม่ต้องหรอก…..”

ซูหวานเองก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เธอกระซิบขึ้นมาเล็กน้อย: “หมอซุนเป็นหมอที่มีชื่อเสียงมากในจิงตู ปู่ของฉันเองก็ใช้เส้นสายตั้งมากมาย ดังนั้น….”

“ฉันรู้ เธอไม่ต้องอธิบายให้ฉันฟังหรอก” ฉินเฉิงก็โบกมือของเค้าขึ้นมาแล้วขัดจังหวะซูหวาน

ทันใดนั้นเองเค้าก็มองไปที่ซูหวานแล้วพูดว่า: “บ้านเธอมีหม้อไหม ฉันต้องใช้มัน”

“หม้อ? อ่อ มีสิ” ซูหวานก็ตอบกลับมาอย่างไว

หลังจากนั้นเธอก็พาฉินเฉิงเข้าไปที่ห้องครัว

ต้องบอกเลยว่าห้องครัวของคนรวยนั้นบรรยากาศดีมาก ห้องครัวทั้งหมดนี่มันมีพื้นที่กว่าร้อยตารางเมตรและก็เต็มไปด้วยหม้อและกระทะทุกรูปแบบ

“คุณซู เธอออกไปก่อนได้ไหม” ฉินเฉิงยืนอยู่ในห้องครัวจากนั้นเค้าก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม

ซูหวานเองก็เหลือบมองด้วยความสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้อะไรมาก เธอเพียงแค่พยักหน้าแล้วก็เดินออกไป

หลังจากที่ซูหวานออกไปแล้ว ฉินเฉิงก็รีบหยิบหม้อและโยนยาทั้งหมดลงไปตามวิธีการที่อธิบายไว้ในคัมภีแพทย์นั่น

หลังจากนั้น เค้าก็ระดมพลังปราณในร่างกายของเค้าออกมาทางนิ้วแล้วปล่อยมันให้แพร่กระจายไปทั่วหม้อ

ราวๆ สิบนาทีต่อมา มันก็มีเสียง “ปัง” จากในหม้อแล้วหม้อนั่นมันก็ระเบิดออกในทันที

เม็ดยาสีดำมันก็ตกลงมาท่ามกลางเศษซากหม้อ มันมีกลิ่นเหม็นที่กระจายไปทั่วทั้งห้องครัว

ฉินเฉิงเองก็ดมมัน จากนั้นเค้าก็ขมวดคิ้วของเค้าขึ้นมา: “ฉันเองก็ไม่รู้ว่านายท่านซูเค้าจะยอมรับรูปร่างที่น่าเกลียดของมันแบบนี้ได้หรือไม่…….”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset