ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 115 เรื่องราวมากมาย

สายตาที่เฮยฉานมองไปที่หลินชิงชือ ทำให้หลินชิงชือถอยหลังไปสองสามเก้าโดยไม่รู้ตัว

เธอพูดออกมาอย่างไม่สบายใจ “ที่แท้ก็เป็นแค่ขอทานคนหนึ่ง”

ฉินเฉิงเงยหน้าขึ้นไปมองหลินชิงชือโดยไม่รู้ตัว ทำไมเขาไม่เคยถึงมาก่อนเลยว่าร่างของหยางที่บริสุทธิ์นั้นจะเป็นหลินชิงชือ

“ฉินเฉิง ฉันไม่รบกวนนายแล้ว เพราะว่าฉันหาร่างของหยางที่บริสุทธิ์พบแล้ว” เฮยฉานพูดออกมาด้วยรอยยิ้มแปลกๆ

หลังจากนั้นเขาก็ยกมือขึ้น หนอนกู่จำนวนมากหล่นลงมาจากร่างกายของเขา

หนอนกู่ทั้งหมดหันหน้าไปทางหลินชิงชือ พุ่งเข้าไปหาเธอราวกับว่าจะกลืนกินเธอเข้าไป

“อ๊ายยยย!” หลินชิงชือเอามือปิดตาและร้องออกมาด้วยความกลัว

และในตอนนั้นฉินเฉิงก็ยกนิ้วขึ้นมา หนอนกู่ทั้งหมดก็ถูกเผาเป็นผงทันที

เฮยฉานขมวดคิ้ว พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า “ฉินเฉิง ถ้านายไม่ช่วยฉัน นายก็ไม่จำเป็นต้องมาขวางทางฉันใช่ไหม?”

สีหน้าของฉินเฉิงไร้ความรู้สึก “ฉันไม่สามารถชินกับวิธีการที่น่าขยะแขยงของ เมืองซวนหมิงได้ และฉันอยากจะเตือนนายเอาไว้อย่างหนึ่ง ตราบใดที่ฉันยังอยู่ที่ปินโจว ตนของ เมืองซวนหมิงก็อย่าได้หวังว่าจะได้เข้ามาเหยียบแม้แต่ก้าวเดียว”

เฮยฉานรู้สึกโกรธขึ้นมา เขาพูดออกมาอย่างเยือกเย็น “พูดอย่างนี้ก็แสดงว่านายต้องการเป็นศัตรูกับ เมืองซวนหมิง”

“มันก็ไม่ใช่เสียทีเดียว” ฉินเฉิงยิ้ม “ถ้าหากตอนนี้คนของ เมืองซวนหมิงรู้จักเจียมตัวเสียบ้าง บางที่ฉันอาจจะไว้ชีวิตพวกเขา”

เฮยฉานหัวเราะขึ้นมาทันที “เจ้าหนุ่ม นายนี่มันเป็นชายหนุ่มๆฟแรงเสียจริง หวังว่านายคงจะไม่เสียใจภายหลัง”

พูดจบเฮยฉานก็เดินจากไป

“ฉันให้นายไปแล้วเหรอ?” ในตอนนั้นฉินเฉิงก็พูดออกมาอย่างเยือกเย็น

เฮยฉานขมวดคิ้วขึ้นมาทันที เขาหันมามองฉินเฉิง “นายจะเอาตอนนี้เลยงั้นเหรอ?”

“หนอนเน่าๆอย่างพวกนายมันไม่ควรมีชีวิตอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว” พูดจบฉินเฉิงก็ยกมือขึ้นและตบไปที่ฝาครอบวิญญาณของเฮยฉาน

“ตู้มมม!” เมื่อเสียงดังขึ้นหัวของเฮยฉานก็ระเบิดออกมาเหมือนลูกแตงโม

ในตอนนั้นทุกคนต่างร้องออกมาด้วยความตกใจ รวมถึงจินฮู่ที่ทั้งตัวชุ่มไปด้วยเลือดยังอดไม่ได้ที่จะตัวสั่น

“คุณ…คุณฉิน นี่มันอะไรกันเนี่ย?” จินฮู่ลุกขึ้นจากพื้นและถามด้วยความกลัว

ฉินเฉิงไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เขาจ้องไปที่ศพของหลินชิงชือ

“ฟู้วววว!”

ควันสีดำลอยคลุ้งไปทั่ว จากนั้นก็มีภาพของวิญญาณลอยขึ้นมาจากคอของเฮยฉาน

“เจ้าหนุ่มนายก็รู้ว่านี่มันไม่ใช่ร่างจริงของฉัน แล้วนายจะทำให้เปลืองแรงของนายทำไม?” เสียงของเฮยฉานดังมาจากทุกทิศทุกทางทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกหวาดกลัวมาก

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปถือว่านายเป็นศัตรูกับ เมืองซวนหมิง” เฮยฉานหัวเราะออกมา จากนั้นดวงวิญญาณของเขาก็บินออกไป

“มาแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้กลับ” เสียงของฉินเฉิงดังขึ้น มีแสงสีทองเปล่งออกมาจากหว่างคิ้วของเขา ราวกับว่าเป็นคมมีดที่พุ่งไปหาวิญญาณของเฮยฉาน!

ในตอนนั้นเฮยฉานตื่นตระหนกขึ้นมาทันที เขาตะโกนออกมาว่า “นี่แก แกกล้าทำอย่างนั้นเหรอ!”

“ทำไมฉันจะไม่กล้า!” ฉินเฉิงตะโกนตอบกลับไป พลังแห่งจิตศิกดิ์สิทธิ์ของเขาพุ่งเข้าไปหาร่างวิญญาณของเฮยฉาน ทำให้ร่างวิญญาณของเฮยฉานขาดเป็นสองท่อนทันที!

เสียงร้องแห่งความหวาดกลัวดังขึ้นทั่วภัตตาคารหยุนหลง ร่างวิญญาณของเฮยฉานหายไปทันที

ทุกคนตะลึง นี่มันอะไรกันเนี่ย? มันเหมือนกับการสร้างภาพยนตร์!

“คุณ…คุณฉิน ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ? คุณนี่สุดยอดไม่มีใครเทียบเลยจริงๆ เมื่อสักครู่ผมยังแอบกังวลอยู่เลย….” จินฮู่เช็ดเลือดที่อยู่บนใบหน้าของเขา จากนั้นก็พูดออกมาด้วยความประจบ

ฉินเฉิงมองไปที่เขาและพูดออกมาว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ฉันจะจำเอาไว้”

จินฮู่ดีใจมากและกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณมากครับ คุณฉิน!

และในห้องนี้ยังมีคนอีกมากมายที่สีหน้าของพวกเขายังคงดูไม่ได้ พวกเขาปล่อยให้โอกาสดีๆหลุดไปกับมือ

ส่วนหลินชิงชือที่อยู่ข้างๆรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยในใจ ในสายตาของเธอ ที่ฉินเฉิงฆ่าขอทานคนั้นไป ทั้งหมดมันก็เพื่อเธอ!

“ฉินเฉิง ขอบคุณนายมาก” หลินชิงชือกล่าวออกมา

ฉินเฉิงมองไปที่เธอ จากนั้นพูดออกมาด้วยใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก “ฉันแค่ไม่ชอบวิธีการของ เมืองซวนหมิงเท่านั้น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลย”

เมื่อพูดจบฉินเฉิงก็ไม่ได้อยู่ทานอะไร เขาหันหลังและเดินออกไปทันที

แน่นอนว่าหลินชิงชือไม่เชื่อ เธอเดินตามฉินเฉิงไปอย่างตะลึงงัน พูดพล่ามอยู่ในปากของเธออย่างไม่รู้จบ

ฉินเฉิงรำคาญเธอจนทนไม่ไหว จึงหันมาพูดกับเธอว่า “ถ้าเธอยังไม่หยุดตามฉัน เชื่อไหม ฉันจะจับเธอโยนลงไปด้านล่าง?”

“ฉันไม่เชื่อ นายจะต้องเป็นห่วงฉันแน่ๆ ใช่ไหม?” หลินชิงชือพูดออกมาอย่างไร้ยางอาย

“คนตระกูลหลินของพวกเธอมีแค่พวกหน้าไม่อายแบบนี้เหรอ?” ฉินเฉิงพูดออกไปด้วยสีหน้าที่เยือกเย็น จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความหงุดหงิด เรียกจินฮู่และพูดว่า “ขับรถไปส่งฉันหน่อย”

“คุณจะไม่ทานอะไรหน่อยเหรอ?” จินฮู่ถามออกมา

ฉินเฉิงไม่ได้พูดอะไร เขาแค่โบกมือเท่านั้น

หลินชิงชือเองก็อยากจะตามไปขึ้นรถ แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ หลังจากที่ฉินเฉิงขึ้นรถไปแล้วเขาก็ล็อคประตูทันที

“นายเปิดประตูให้ฉันหน่อย!” หลินชิงชือพูดออกมาอย่างงอแง

ฉินเฉิงพูดออกมาด้วยใบหน้าที่เยือกเย็น “รีบออกรถได้แล้ว!”

หลินชิงชือกระทืบเท้า “ฉันไม่เชื่อหรอกว่านายจะไม่ห่วงชีวิตของฉัน!”

พูดจบเธอก็วิ่งไปที่รถที่กำลังวิ่งอยู่

เสียงเบรกที่รุนแรงดังก้องไปทั่วโลก

รถอยู่ห่างจากหลินชิงชือเพียงครึ่งเซนติเมตร

“ถ้าเธออยากตายนักก็ไปตายที่อื่น! อย่ามาทำให้คนอื่นเขาเดือดร้อนไปด้วย!” คนขับรถเปิดกระจกและด่าออกมา

หลินชิงชือไม่ได้สนใจ เธอรีบหันไปมองทิศทางที่ฉินเฉิงอยู่

แต่ในตอนนั้นฉินเฉิงไม่ได้แม้แต่จะมองเธอ จินฮู่ได้ขับรถออกไปหลายร้อยเมตรแล้ว

“นายนะนาย!” หลินชิงชือกระทืบเท้าด้วยความไม่พอใจ

ระหว่างทางที่กำลังกลับบ้านฉินเฉิงก็คิดถึงปัญหาหนึ่งอยู่ตลอดเวลา

ทำไม เมืองซวนหมิงถึงได้สนใจกับร่างของหยางที่บริสุทธิ์? ร่างของหยางที่บริสุทธิ์ มันเอาไปทำอะไรได้กันแน่?

“วุ่นวายจริงๆ” ฉินเฉิงขยับหัวของเขา ดูท่าแล้ว เมืองซวนหมิงจะต้องไม่ยอมแพ้อย่างแน่นอน ดูแล้วพวกเขาสนใจร่างของหยางที่บริสุทธิ์มาก ยังไงพวกเขาจะต้องหาวิธีมาเอามันไปจนได้

….

เมืองซวนหมิง ที่ถ้ำลึกลับแห่งหนึ่ง

ชายชราคนหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิ

“หึ!”

ในขณะนั้น ดวงตาของเขาก็เปิดขึ้นทันที และใบหน้าที่แก่ชราของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ

“ฉินเฉิง นายทำลายร่างวิญญาณของฉัน ฉันไม่มีวันปล่อยนายไปแน่!” คนที่พูดออกมานั้นก็คือเฮยฉานแห่ง เมืองซวนหมิง เขาเงยหน้าขึ้นและคำรามด้วยความโกรธ

กว่าเขาจะสร้างร่างวิญญาณของเขาออกมาได้ต้องใช้เวลาหลายสิบปี แต่กลับมาถูกฉินเฉิงทำลายลงไปแบบนี้ จะไม่ให้เขาโกรธได้อย่างไร

บ้านตระกูลซู ฉินเฉิงกำลังกินยาจิงหยวนที่เฮยฉานวางเอาไว้สิบกว่าเม็ดนั้น

“น้อยเกินไป ถ้าหากมีสัก 5000 เม็ด ไม่แน่ว่าอาจจะก้าวข้ามขั้นพื้นฐานนี้ไปเลยก็ได้” ดวงตาของฉินเฉิงเป็นประกาย

แต่ด้วยพลังของฉินเฉิงในตอนนี้เขายังไม่กล้าที่จะบุกเข้าไปในพื้นที่ทางทางตะวันตกเฉียงใต้ ถ้าคิดจะเข้าไปขโมยมันคงไม่ใช่เรื่องดี

ยิ่งเขาฝึกฝนมามากขึ้นเท่าไหร่ ความกังวลของเขาก็มากขึ้นเท่านั้น

ไม่มีใครรู้ว่าบนโบกนี้จะมีปรมาจารย์หรือยอดฝีมือที่เก่งกาจมากมายขนาดไหน และก็ไม่รู้ว่าจะมีคนที่ฝึกวิชาประเภทเดียวกับฉินเฉิงอยู่หรือเปล่า

เพราะว่าพ่อของเขาเคยบอกเอาไว้ ถ้าหากยังไม่แข็งแกร่งมากพอก็ห้ามไปที่จิงตูเป็นอันขาด แต่ก็ไม่รู้ว่าความหมายของคำว่าแข็งแกร่งที่เคยบอกเอาไว้นั้นมันจะต้องแข็งแกร่งถึงขนาดไหน

วันรุ่งขึ้นฉินเฉิงขัยรถไปที่บ้านริมเขาเฟิงชื่อ

บ้านพักริมน้ำตกกำลังถูกรื้อถอน เหยาเจียเป็นคนมาคุมงานด้วยตัวเอง

“ประธานฉิน ตามที่คุณได้สั่งการเอาไว้ พรุ่งนี้ก็น่าจะเรียบร้อยแล้วคะ” เหยาเจียพูดออกมา

จากนั้นเธอก็กระซิบออกมาว่า “คุณอยากจะสร้างอะไรขึ้นตรงนี้ไหม?”

“ตอนนี้ยังไม่ต้องการ” ฉินเฉิงโบกมือ ตอนนี้อยู่ในช่วยเวลาสำคัญของเขา เขาอยากจะเลื่อนขั้นให้เร็วที่สุด

หลังจากที่เลื่อนขั้นหรือฝึกวิชาเสร็จแล้ว ค่อยมาคิดอีกทีว่าจะสร้างอะไรขึ้นตรงนี้

“ฉันจะต้องก้าวขั้นไปให้เร็วที่สุด” ฉินเฉิงรู้สึกกังวลเล็กน้อยเมื่ออากาศเริ่มเย็นลง

เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองเดือนก็จะถึงวันขึ้นปีใหม่แล้ว ไม่ว่าอย่างไรเขาจะต้องข้ามขั้น ฝึกวิชาให้สำเร็จก่อนถึงเวลานั้น เนื่องจากดูร่างกายของปู่ซูคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน

การที่เข้าจะเข้าไปฝึกครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน ดังนั้นก่อนที่ฉินเฉิงจะเข้าไปฝึก เขาจะต้องดูแลความปลอดภัยของซูวานเอาไว้เป็นอย่างดี

ภายใต้โลกใบนี้ว่ากันว่าสำนักงานความมั่นคงเป็นที่ที่ปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าจะแข็งแกร่งสักแค่ไหน หรือจะใช้วิธีใดก็ตาม ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปท้าทายกับสำนักงานความมั่นคง

ดังนั้นช่วงเวลาดังกล่าวเขาคิดจะเอาซูวานไปฝากเอาไว้ที่นั่น

ดังนั้นเขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรไปหาฟางจิ้งเหยา

หลังจากที่รับสาย ฟางจิ้งเหยาก็พูดออกมาด้วยความตกใจเล็กน้อย “ฉินเฉิง ทำไมจู่ๆนายถึงโทรมาหาฉัน?”

ฉินเฉิงหัวเราะ “ผู้นำฟาง ฉันมีเรื่องอยากจะมารบกวนคุณหน่อย”

ฟางจิ้งเหยาหัวเราะออกมา “คนอยากนายจะมีเรื่องอะไรที่ให้ฉันช่วย? ไหนลองบอกมาสิ!”

ฉินเฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง “ฉันอยากจะของเอาซูวานไปฝากไว้ที่สำนักงานความมั่นคงสักสองเดือน”

ฟางจิ้งเหยาผงะ ขมวดคิ้วและพูดออกมาว่า “ทำไมหละ?”

ฉินเฉิงไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไม เขาแค่ขอร้องออกไปอีกสามครั้ง

ฟางจิ้งเหยาเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดออกมาว่า “ได้ แต่ฉันมีเงื่อนไขข้อหนึ่ง”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset