ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 138 ถือกำเนิดของเจ้าแห่งโอรส

ชายชราทั้งสองเงียบไปพักหนึ่งจากนั้นพูดออกมาว่า “นายน้อยซู พวกเราได้ยินมาว่าการถือกำเนิดของเจ้าแห่งโอรสในครั้งนี้ ฉินเฉิงเองก็สนใจด้วย พวกเราไม่สู้รอให้ถึงเวลานั้นแล้วค่อยลงมือจะไม่ดีกว่าเหรอ!

ซูอี้ซิ่วได้ยินแบบนั้นก็เงียบไปพักหนึ่ง “ได้ งั้นฉันจะให้มันได้มีชีวิตอยู่ต่อไปอีกสามวัน หลังจากสามวันฉันจะต้องเอาหัวของมันกลับไปให้พี่หยู่ให้ได้”

….

บนภูเขาหลงไห่ ฉินเฉิงยืนอยู่บนอาณาเขตรวบรวมวิญญาณ

“นายปล่อยหมัดออกมาให้ฉันดูหมัดหนึ่ง” ฉินเฉิงพูดกับฉูเป่ยชวน

ฉูเป่ยชวนพยักหน้าทันที เขาสูดหายใจเข้า จากนั้นก็ปล่อยหมัดของเขาไปด้วยหน้า

“ปัง!” เสียงดังสนั่น ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหน้าแยกออกจากกันทันที!

ฉินเฉิงพยักหน้าเพื่อชมเชย “ไม่เลว ดูแล้วเก่งกว่าที่ฉันคิดเอาไว้เยอะเลย”

ความก้าวหน้าของฉูเป่ยชวนนั้นเร็วมากและรากฐานของเขามั่นคงมาก จากมุมมองนี้ เขาเป็นพรสวรรค์ที่หายากจริงๆ

“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับอาจารย์!” ฉูเป่ยชวนยิ้มและพูดออกมาด้วยความดีใจ

หลังจากนั้นเขาก็เอนตัวเข้ามาใกล้หูของฉินเฉิง ชี้ไปทางปรมาจารย์ทั้งสามคนและพูดออกมาว่า “พวกเขาเป็นใคร? วันๆไม่ได้ทำอะไร ราวกับว่าเป็นคนท้วงหนี้อย่างนั้นแหละ!”

“คนของตระกูลเซียง” ฉินเฉิงตอบกลับไป

“ผมไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน แต่ว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตาไม่เลวเลยครับ….” ฉูเป่ยชวนขยี้จมูกตัวเอง หรี่ตาและพูดออกมา

ฉินเฉิงมองไปที่เขา “นายรีบฝึกฝนเข้าเถอะ อย่าไปคิดเรื่องอื่นเลย”

“ครับ! ท่านอาจารย์!”

ด้วยนิสัยของฉูเป่ยชวนแตกต่างกับฉินเฉิงอย่างสิ้นเชิง

เนื่องจากหลายปีที่ผ่านมาเขาถูกกดดันมาโดยตลอด ทำให้เขาไม่มีความรู้สึกสดชื่นเมื่อได้เจอสาวสวยๆหรือสิ่งล่อตาล่อใจ พูดง่ายๆเป็นคนที่ค่อนข้างเก็บตัว

ส่วนทางด้านของฉูเป่ยชวน เขาเป็นคนที่มีชีวิตชีวาเป็นอย่างมาก

“เป็นหนุ่มนี่มันดีจริงๆ” เมื่อเห็นท่าทางของฉูเป่ยชวน ฉินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

ในตอนกลางคืนบนโต๊ะอาหาร

เซียงเหม่ยเอ๋อเป็นทำอาหารด้วยตัวเอง

ท่าทางของฉูเป่ยชวนเหมือนกับเสือที่หิวโหยไม่ได้กินอะไรมานาน

“ไม่ได้เรื่อง วางตัวไม่ได้เรื่องจริงๆ” อารองของเซียงเหม่ยเอ๋อ เซียงเฉิงหรุขมวดคิ้วออกมา

ฉูเป่ยชวนชี้ไปที่จมูกของตัวเองและพูดออกไปว่า “หมายถึงฉันเหรอ?”

“นอกจากนายแล้วยังจะมีใครอีกหละ?” เซียงเฉิงหรุพูดออกมา

ฉูเป่ยชวนยิ้มและพูดออกไปว่า “บ้านเกิดของของฉันมีคำโบราณกล่าวเอาไว้ว่า เป็นผู้ชายก็ต้องกินให้เหมือนกับผู้ชาย อย่าไปทำตัวเหมือนกับพวกผู้หญิง เวลากินก็ควรจะกินไวๆ ไม่อย่างนั้นจะทำอะไรไม่ทันคนอื่น นายน้อยเซียง คุณไม่กินเหรอ?”

สีหน้าของเซียงเฉิงหรุเคร่งขรึมขึ้นมาทันที เขาพูดออกมาว่า “กินอย่างกับหมา นายไปอดอยากที่ไหนมา?”

“ไม่ๆ ผมแค่จะสื่อว่าคุณหนูเซียงทำอาหารได้อร่อยมากจริงๆ จะเอาไปเปรียบกับของที่หมากินได้อย่างไร?” ฉูเป่ยชวนพูดออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ” นายน้อยเซียง คุณไม่ต้องกังวล ถึงผมจะเป็นคนที่กินมูมมาม แต่ผมรับประกันว่าผมไม่มีทางแย่งของคุณกินแน่นอน!”

“นี่แก!” เซียงเฉิงหรุโกรธ เขากำหมัดและทุบลงบนโต๊ะอาหาร

โต๊ะอาหารแตกเป็นเสี่ยงๆ

“5 แสนหยวน อย่างลืมจ่ายให้ฉันด้วย” ฉินเฉิงพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์

เซียงเฉิงหรุกัดฟันแน่น “ก็แค่ 5 แสนเท่านั้น ต่อให้ฉันพังบ้านของนายทั้งหลังฉันก็มีปัญญาจ่าย!”

“นายน้อยเซียงทำไมคุณต้องโกรธด้วย ผมก็แค่ล้อเล่นกับคุณนิดหน่อยเอง ไม่เห็นต้องโกรธขนาดนั้นเลย” ฉูเป่ยชวนถอนหายใจและส่ายหน้า “ความอดทนเหมือนกับบเด็กผู้หญิง”

“นายกำลังพูดถึงใคร!” เซียงเฉิงหรุอารมณ์ร้อนขึ้นมามากกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเขาจะมีรูปร่างที่นุ่มนวลและอ่อนโยน แต่เขาก็ไม่ชอบให้ใครมาบอกว่าเขาเป็นเหมือนเด็กผู้หญิง!

“ผมไม่ได้บอกว่าเป็นคุณ ผมพูดถึงหมา” ฉูเป่ยชวนกล่าวอย่างไร้ความปรานี

เซียงเฉิงหรุกัดฟันแน่น เขารู้ว่าตนเองไม่สามารถเถียงเอาชนะฉูเป่ยชวนได้ เขาจึงพูดออกมาว่า “ปากดีนักนะเจ้าหนุ่ม นายไม่รู้หรือไงว่านายมีความสามารถพอที่จะพูดแบบนั้นกับฉันหรือเปล่า…”

เมื่อเสียงของเขาเงียบลง พลังภายในของเขาก็แปรปรวนทันที

เมื่อฉินเฉิงเห็นแบบนั้น เขาก็เตรียมใช้พลังปราณของเขาทันที เพื่อเตรียมตัวรับมือ

“ผมไม่มีความสามารถขนาดนั้น ผมเอาชนะคุณไม่ได้ ผมขอโทษ ได้โปรดให้อภัยผมด้วย” ฉูเป่ยชวนเปลี่ยนรูปลักษณ์ที่น่าสมเพชของเขาทันที

ถึงแม้ว่าเซียงเฉิงหรุจะโกรธมาก แต่เขาก็ไม่ได้ลงมือ

ตัวของเขาเกิดในตระกูลที่มีชื่อเสียง คนรอบข้างของเขามีแต่คนดีๆ ไม่เคยเจอคนแบบฉูเป่ยชวนมาก่อน!

เมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับคนที่นิสัยอย่างฉูเป่ยชวน เขาเองก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก

“ฉันไม่กินแล้ว!” เซียงเฉิงหรุพูดออกมา เขาสูดลมหายใจเขาและเดินออกไป

ฉินเฉิงที่นั่งอยู่ข้างๆก็ยิ้มออกมาแต่ไม่ได้พูดอะไร

……

ในตอนกลางคืน ฉินเฉิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนยอดเขา

ตอนนี้เขากำลังฝึกวิชาใหม่อยู่ เขาควบคุมแสงสีทองออกมาทั่วร่างกายของเขา เขารวบรวมพลังแห่งจิตศิกดิ์สิทธิ์

วิชานี้คือการรวบรวมแสงเอาไว้ มันเป็นวิชาที่สง่างาม เป็นที่รู้จักกันในทั้งโลกสวรรค์และโลกมนุษย์

วิชาที่ฉินเฉิงฝึกนี้มีชื่อว่า หมัดของนักปราชญ์ มันเป็นวิชาที่พื้นฐานที่สุดของคนโบราณ

เหตุผลที่เขาเลือกฝึกวิชานี้เพราะว่าเขารู้สึกว่ามันเข้ากับร่างกายของเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบและไม่มีข้อกำหนดพิเศษใดๆ

ยิ่งไปกว่านั้นถึงมันจะเป็นระดับพื้นฐานที่สุดของคนโบราณ แต่การมีอยู่ของมันในโลกปัจจุบันนี้มันไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน

หลังจากที่ผ่านการฝึกฝนไปหนึ่งคืน หมัดของนักปราชญ์ของเขาก็ถูกฝึกเสร็จเรียบร้อย แค่เขารวบรวมดวงจิต แสงสีทองมันก็จะปรากฎขึ้นมาทันที

แม้ว่ามันจะเป็นแค่แสงจางๆ แต่ก็สามารถใช้ร่วมกับพลังปราณได้ พลังของมันนั้นยิ่งใหญ่ไม่แพ้ท่าใดๆ

ทันทีที่ฉินเฉิงใช้หมัดของนักปราชญ์ของเขา เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่ไหลอยู่ในร่างกายของเขาอย่างล้นหลาม มองเห็นเส้นกระแสของพลังที่เคลื่อนไหวอยู่ในร่างกายของเขา

ทันทีที่ฉินเฉิงปล่อยหมัดออกไปด้านหน้า เสียงที่ดังสนั่นก็เกิดขึ้นทันที ราวกับว่าเขาได้ทำลายห้วงอากาศที่ว่างเปล่า

“นี่ขนาดปล่อยไปกับอากาศยังเกิดพลังถึงขนาดนี้ แล้วนี่จะเป็นพลังขั้นพื้นฐานที่ต่ำสุดได้อย่างไร?” ฉินเฉิงลูบหมัดของตัวเอง ในตอนนั้นตัวเขาเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ

ถ้าหากเอาหมัดนี้ไปต่อยเข้ากับร่างกายของคนที่เป็นปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นสอง ไม่แน่ว่าเขาก็อาจจะต้านทานไม่ไหว

ด้วยพรจากหมัดของนักปราชญ์ มันก็ทำให้ฉินเฉิงมีความมั่นใจมากขึ้นทันที

แค่พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปสามวัน

ในเช้าตรู่ของวันนี้ ฟ้าร้องและแลบไม่หยุด สภาพอากาศที่มืดมนและเมฆที่มืดครึ้มทำให้ผู้คนเกือบจะหายใจไม่ออก

เซียงเฉิงหรุพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย “เคยได้ยินมาว่าเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้วตอนที่เจ้าแห่งโอสถกำเนิดขึ้น มันสามารถกระตุ้นนิมิตของสวรรค์และโลกได้ พอมาได้เห็นกับตาของตัวเองในวันนี้ มันสมกับคำร่ำลือจริงๆ”

ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่อีกสองคนก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น และลุกโชนในดวงตาของพวกเขาไม่สามารถปกปิดได้

“อย่ามัวเสียเวลาอยู่เลย ออกเดินทางกันเถอะ” ฉินเฉิงพูดออกมา

เซียงเฉิงหรุหันมามองฉินเฉิง พูดออกมาว่า “เป็นแค่เจ้าแห่งพลังปราณ ไปถึงที่นั่นก็คงเป็นได้แค่อาหารสัตว์”

ทั้งหมดเดินทางไปที่ที่กำเนิดเจ้าแห่งโอสถ

จุดหมายปลายทางอยู่ไกลในภูเขาและป่าไม้เก่าแก่ที่ถูกทิ้งร้างไปเมื่อหลายปีก่อน

หลายปีก่อน นักพัฒนาต้องการพัฒนาโครงการท่องเที่ยวอีกครั้ง แต่ภายในไม่กี่วันของโครงการ คนงานเป็นลมหมดสติไปทีละคน และโครงการก็ถูกละทิ้งโดยสิ้นเชิง

ยิ่งคุณเข้าใกล้จุดหมายปลายทางมากเท่าไหร่ ออร่าในอากาศก็จะยิ่งหนาแน่นมากขึ้นเท่านั้น

ฉินเฉิงหลับตาลง เขาตั้งสมาธิและสังเกตออร่ารอบๆตัวเขา

เมื่อมาถึงที่หมายก็มีรถจอดอยู่แล้วหลายคัน และสิ่งที่อาจจะดูเกินไปหน่อยก็คือตรงที่ไม่ไกลจากตรงนั้นมีเฮลิคอปเตอร์จอด

“ถึงแล้ว” เซียงเหม่ยเอ๋อตะโกนออกมา

ฉินเฉิงค่อยๆลืมตาขึ้น และเดินตามพวกของเซียงเหม่ยเอ๋อลงจากรถ

ทันทีที่เขาลงจากรถ ออร่าสังหารก็แผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าของเขา

“นายคือฉินเฉิงใช่ไหม? หลังจากนั้นก็เห็นชายสามคนวิ่งเข้ามาหาฉินเฉิง

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset