ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 14 ที่เธอพูดมาแล้วก็แล้วกันไป?

คำพูดของฉินเฉิงทำให้กงเหยาเป็นกังวลมากยิ่งขึ้น

เธอเองก็ไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉินเฉิงพูดออกมา ในห้องนี้มีเพียงเธอคนเดียวเท่านั้นที่มีความรู้สึกกังวลให้กับฉินเฉิง ส่วนคนอื่นๆต่างมองมาที่ฉินเฉิงดวงแววตาที่รอคอยฉากต่อไปที่จะเกิดขึ้น

“ไอ้โง่ นายคงไม่รู้สินะว่าหยางฮู่น่ากลัวขนาดไหน?” สวีเซี่ยวเซี่ยว ที่ยืนอยู่ข้างๆหัวเราะเยาะออกมา

“อาจารย์สวี คุณก็เป็นอาจารย์ที่เคยสอนพวกเรามา มันมีความจำเป็นอะไรที่ต้องมาหัวเราะเยาะแบบนี้ด้วย? งานรวมรุ่นดีๆทำไมต้องทำให้มันกลายเป็นแบบนี้ด้วย?” กงเหยาถามออกไปด้วยอารมณ์โกรธเล็กน้อย

สวีเซี่ยวเซี่ยว ไม่ได้สนใจ หัวเราะแล้วตอบกลับมาว่า “คนแบบนี้มันไร้ประโยชน์ ไม่มีความสามารถ แค่ตัวเองยังดูแลไม่ได้ มันก็ไม่สมควรจะอยู่ต่อไปแล้ว!”

เมื่อได้ยินแบบนั้นสายตาของฉินเฉิงก็จับจ้องไปที่สวีเซี่ยวเซี่ยว ทันที

“เป็นถึงครูบาอาจารย์แต่ทำไมถึงพูดแบบนี้ออกมา ทำให้คำว่าอาจารย์ต้องเสื่อมเสียจริงๆ” ฉินเฉิงพูดออกมานิ่งๆ “ก็เพราะว่ามีคนแบบคุณอยู่ไง ทุกวันนี้ถึงได้มีการแบ่งชนชั้น”

“นายพูดให้มันน้อยๆหน่อย! ไร้สาระ” จากนั้นสวีเซี่ยวเซี่ยว ก็พูดออกมาอย่างได้ใจว่า “คนอย่างนายมันสมควรถูกซ้อมจนตาย!”

กงเหยายังอยากจะพูดอะไรออกมา แต่ฉินเฉิงจับไปที่แขนของเธอจากนั้นก็ส่ายหน้า

ในตอนนั้นประตูห้องก็ถูกถีบเข้ามาอีกครั้ง จากนั้นก็เห็นจางหัวพาชายร่างใหญ่เข้ามาด้วยสี่ห้าคน

“พี่ นั่นไงมัน! จัดการมันให้ที่!” จางหัวกัดฟันและพูดออกมา

ลูกพี่ลูกน้องของจางหัวมองไปที่ฉินเฉิง เมื่อเห็นการแต่งกายที่ซอมซ่อของฉินเฉิง เขาก็ถอนหายใจออกมาทันที

เมื่อมั่นใจแล้วว่าฉินเฉิงคงไม่มีแบล็ค เขาก็รีบวิ่งเข้ามาตรงหน้าฉินเฉิงและพูดออกมาว่า “เจ้าหนุ่ม รู้ไหมที่นี่ที่ไหน?”

“รู้สิ” ฉินเฉิงพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก “ที่ของหยางฮู่ ใช่ไหม?”

“แม่งเอ้ย พี่ฮู่เขารุ่นไหน แกมีสิทธิอะไรไปเรียกชื่อเขาแบบนั้น?” ลูกพี่ลูกน้องของจางหัวตะหวาดออกมา

ฉินเฉิงเคาะโต๊ะและพูดว่า “ฉันแนะนำให้นายไปเรียกหยางฮู่มาที่นี่ บางสิ่งบางอย่างที่มันพลาดไป บางทีนายอาจจะเอามันกลับมาไม่ได้”

“เหอะกล้ามาขู่ฉันเหรอ จางหัว เพื่อนร่วมชั้นของแกนี่มันปากดีจริงๆ!” ลูกพี่ลูกน้องของจางหัวกลั้นขำไม่อยู่ “พี่ฮู่ใช่คนที่นายอยากจะเจอเมื่อไหร่แล้วจะเจอก็ได้อย่างนั้นเหรอ? ทางที่ดีนายคุกเข่าขอโทษฉันเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน!”

ฉินเฉิงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ดูแล้ววันนี้คงจะต้องลงมือจริงๆ

และในตอนนั้นจู่ๆโทรศัพท์ของฉินเฉิงก็ดังขึ้น

เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา คนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใคร เขาก็คือหยางฮู่

ตอนนี้หยางฮู่รออยู่ในห้องต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาอยากจะโทรมาถามฉินเฉิงตั้งหลายครั้งแต่ก็กลัวว่าถ้าโทรมาแล้วอาจจะทำให้ฉินเฉิงไม่พอใจ

แต่ในตอนนี้มันก็ผ่านมาชั่วโมงกว่าแล้ว หยางฮู่เองก็ทนไม่ไหว

หลังจากที่รับโทรศัพท์ ก็ได้ยินเสียงเล็กของหยางฮู่ดังขึ้นมาว่า “คุณฉิน คุณมาแล้วหรือยัง? ต้องการให้ฉันส่งคนไปรับไหม?”

“ตอนนี้ฉันอยู่ที่หวงกง” จากนั้นฉินเฉิงก็พูดออกไปอย่างเย็นชาว่า “ลูกน้องของนายกำลังมาหาเรื่องฉันอยู่”

เมื่อหยางฮู่ได้ยินแบบนั้นสีหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจ ลุกขึ้นมาทันทีถามออกมาด้วยความกังวลว่า “คุณ..คุณฉิน คุณหมายความว่าอย่างไร?”

ฉินเฉิงตอบไปอย่างเย็นชา “ผู้จัดการใหญ่ของนายบอกว่า ให้ฉันคุกเข่าขอโทษเขา ดูแล้วฉันไม่เหมาะกับที่นี่”

หลังจากพูดประโยคนี้จบฉินเฉิงก็วางสายโทรศัพท์ไปทันที

หยางฮู่ตกใจจนทนไม่ไหว เขารีบวิ่งออกมาที่ห้องโถงพร้อมตะโกนออกมาว่า “ผู้จัดการใหญ่อยู่ที่ไหน มาหาฉันเดี๋ยวนี้!”

…..

ในห้องส่วนตัว ลูกพี่ลูกน้องของจางหัวกำลังหัวเราะเยาะให้ฉินเฉิง

“เจ้าหนุ่ม แสดงได้เนียนมาก” เขายิ้มและพูดออกมาว่า “ฉันทำงานที่หวงกงมานาน เพื่อนของพี่ฮู่ฉันเคยเห็นหมดทุกคน แต่ทำไมฉันถึงไม่เคยเห็นแกกันนะ!”

“อาจจะเพิ่งจะมารู้จักกันก็ได้นะ” ฉินเฉิงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

“โอ้ว พี่อย่าไปฟังมันโม้อยู่เลย เจ้านี่เป็นแค่ลูกเขยที่เฝ้าประตูบ้าน และตอนนี้ก็ถูกไล่ออกมาแล้ว” จางหัวที่อยู่ข้างพูดออกมา

“ใช่ๆ ฉันคืออาจารย์ของเขา ถ้าเขารู้จักกับหยางฮู่จริง ฉันยอมกินโต๊ะนี้เข้าไปเลย!” สวีเซี่ยวเซี่ยว ยิ้มอย่างสะใจแล้วพูดออกมา

ในตอนนั้นกงเหยาลุกขึ้นและเดินเข้าไป พูดออกมาเสียงเบาๆว่า “จางหัว พวกเราทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน ฉันว่าแค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว…..”

“พอแล้ว? พอบ้านป้าเธอสิ!” จากนั้นจางหัวก็ยื่นมือออกไปบีบที่หน้าของกงเหยา “วันนี้ใครกล้าเป็นปากเป็นเสียงให้ฉินเฉิง ถือว่าเป็นศัตรูกับฉัน!”

เมื่อเห็นกงเหยาถูกทำร้าย สีหน้าของฉินเฉิงก็เปลี่ยนไปทันที

เขาลุกขึ้นและพุ่งเข้าไปหาจางหัว พูดด้วยเสียงที่เยือกเย็นว่า “คนเลวๆอย่างนายนี่มันสมควรตายจริงๆ!”

จางหัวตกใจจนต้องถอยออกไปสองสามก้าว จากนั้นก็พูดตะกุกตะกักออกมา “พะ…พี่ รีบจัดการมันเร็ว!”

“ฉันจัดการเอง!” ลูกพี่ลูกน้องของฉินเฉิงยกมือขึ้น จากนั้นลูกน้องของเขาก็พุ่งเข้าหาฉินเฉิง

“พวกแกทั้งหมดหยุดเดี๋ยวนี้นะ!” ในตอนนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาจากด้านหน้าของประตู เมื่อมองไปก็เห็นชายวัยกลางคนกำลังยืนอารมณ์ไม่ดีอยู่ตรงนั้น

“แกเป็นใครวะ?” จางหัวถามออกไปด้วยความไม่พอใจ

ใบหน้าของหยางฮู่มืดมน จากนั้นก็ตบไปที่หน้าของจางหัวพร้อมกับพูดว่า “กูเป็นพ่อมึงมั้ง!”

“พี่…พี่ฮู่ พี่มาที่นี่ได้อย่างไร?” สีหน้าของลูกพี่ลูกน้องของจางหัวเปลี่ยนไป จากนั้นก็รีบเดินเข้ามาหาหยางฮู่

หยางฮู่ชี้ไปที่หน้าของเขาแ “นายรอฉันก่อน เดี๋ยวฉันจะมาจัดการนายทีหลัง!”

พูดจบเขาก็รีบเดินเข้ามาหาฉินเฉิง พูดออกมาด้วยความเคารพ “คุณฉิน คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม….”

“ไม่เป็นไร” ฉินเฉิงยิ้มและพูดออกไปว่า “แต่เพื่อนของฉันเป็น!”

ฉินเฉิงชี้ไปที่กงเหยาและพูดออกมา

หยางฮู่รีบเดินเข้าไปหากงเหยา โค้งคำนับและพูดว่า “คุณผู้หญิง ฉันต้องขอโทษจริงๆ คุณผู้หญิงวางใจได้ ฉันจะจัดการกับเขาเอง!”

สายตาของทุกคนหยุดนิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสวีเซี่ยวเซี่ยว กรามของเธอแทบจะตกลงมาที่พื้น

เจ้าหนุ่มคนนี้รู้จักหยางฮู่จริงๆหรอ? แถมท่าทางที่หยางฮู่แสดงออกมาเหมือนกับว่ากำลังกลัวเขาอยู่ด้วย?

เพียงเพราะคำพูดของฉินเฉิงเพียงคำเดียว ทำให้ผู้ที่มีชื่อเสียงของปีนังอย่างหยางฮู่ต้องก้มหัวให้กับเด็กผู้หญิง?

“พี่…พั้ฮู่ ฉันไม่รู้ว่าเขาคือเพื่อนของพี่…” ลูกพี่ลูกน้องของจางหัวเองก็ทำอะไรไม่ถูก เขาไม่ดูตาม้าเรือเอง เขาจึงรีบเข้าไปขอโทษ

หยางฮู่ทนไม่ได้จึงสบัดมือของเขา “นายเลิกพูดไร้สาระกับฉันได้แล้ว ฉันจะตัดมือทั้งสองข้างของแก แกจะได้รู้ว่าแกทำอะไรลงไป”

ใบหน้าของลูกพี่ลูกน้องของจางหัวน่าเกลียดขึ้นไปทุกที เขาพูดออกมาสั่นๆว่า “พี่..พี่ฮู่ ได้โปรดยกโทษให้ฉันด้วย…ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่กล้า….”

เมื่อเห็นว่าหยางฮู่ไม่พูดอะไร เขาก็วิ่งเข้ามาหาฉินเฉิง คุกเข่าอ้อนวอน “ฉันผิดไปแล้ว ช่วยฉันด้วย คุณช่วยฉันพูดที….”

ฉินเฉิงไม่อยากจะยุ่งอะไรกับเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ตอบโต้อะไรกลับไปสักคำ

“ลากเขาออกไป!” หยางฮู่ออกคำสั้ง คนที่อยู่ด้านนอกรีบวิ่งเข้ามานำตัวลูกพี่ลูกน้องของจางหัวออกไปทันที

“คุณเฉิน แบบนี้โอเคแล้วหรือยัง?” จากนั้นหยางฮู่ก็หันมาถามฉินเฉิงอย่างสุภาพ

ฉินเฉิงไม่ใช่คนใจแคบอะไร แถมเรื่องที่เกิดขึ้นมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหยางฮู่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและพูดออกมาว่า “ฉันทำให้นายต้องลำบากแล้วสิ”

“คุณอย่าพูดแบนบนั้นเลย” หยางฮู่โบกไม้โบกมือ “พวกเรา…ไปงานเลี้ยงกันก่อนไหม? ตอนนี้อาหารเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว!”

ฉินเฉิงพยักหน้า หลังจากนั้นเขาก็หันไปหาสวีเซี่ยวเซี่ยว และพูดออกมาว่า “เมื่อกี้เธอบอกว่าถ้าหากฉันรู้จักกับหยางฮู่จริงๆ เธอจะกินโต๊ะตัวนี้เข้าไป ได้เวลาแล้วหรือยังหละ?”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset