ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 33 ไม่มีใครปกป้องแกได้

เมื่อตี๋เชาได้ยินแบบนั้น ท่าทีการแสดงออกของเค้ามันก็เปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ

เค้าเองก็บ่นขึ้นมาเบา: “แครอท? ไอ่เวร แกรู้ไหมว่าไอ่บัวหิมะเทียนซานที่มันมีมูลค่าเท่าไหร่กัน?”

“ฉันไม่รู้หรอกนะว่ามันมีราคาเท่าไหร่กัน แต่ฉันรู้ว่าผลลัพธ์ของบัวหิมะเทียนซานนี่มันแทบจะเป็นศูนย์” ฉินเฉิงก็สูดลมหายใจของเค้าเข้าไปอย่างเย็นชา: “แต่เม็ดยาที่อยู่ในมือของฉันนี่ นายรู้ไหมว่ามันมีมูลค่าเท่าไหร่กัน”

ชายชราซูที่อยู่ที่ด้านข้างก็อยู่อย่างเงียบๆ เค้าเองก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไร

แม้ว่าสีหน้าของเค้าจะสงบ แต่ในใจของเค้ามันก็เต็มไปด้วยความสุข

นี่คือสิ่งที่เค้าอยากจะเห็น มันก็คือการกระตุ้นความเกลียดชังระหว่างหนุ่มทั้งสองเพื่อเลือกลูกเขยของตระกูลซู

“คุณท่านครับ อาหารพร้อมแล้ว” ในตอนนี้เองพ่อบ้านก็เดินเข้ามาบอก

ชายชราซูก็ยืนขึ้นแล้วยิ้ม: “เอาหละ ไปทานอาหารกับเถอะ”

พวกเค้าก็มาถึงที่โต๊ะอาหาร ตี๋เชาก็นั่งที่ด้านขวาของซูหวาน ฉินเฉิงก็นั่งอยู่ที่ด้านซ้าย

ซูหวานดูเหมือนว่าเธอจะไม่ค่อยพอใจซะเท่าไหร่ เธอคอยขมวดคิ้วของเธอขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา

ในตอนที่ทานข้าวกันนี่เอง ตี๋เชาก็ตักอาหารให้กับซูหวานอยู่หลายครั้ง แต่เค้าก็ถูกเธอปฎิเสธ

หลังจากมื้ออาหารแล้ว ชายชราซูก็ลุกขึ้นมาแล้วหัวเราะ: “ฉันเองก็แก่แล้ว ฉันง่วง คงจะต้องไปพักก่อน พวกเธอก็พูดคุยกันดีๆ ก็แล้วกัน”

หลังจากที่พูดจบ เค้าก็มองไปที่ชายหวงหลงแล้วกระซิบขึ้นมาว่า: “อย่าปล่อยให้พวกเค้าเกินเลยกันเกินไปหละ”

“ครับ” หวงหลงก็พยักหน้าของเค้าขึ้นมาเล็กน้อย

“คุณซู ผมมีเรื่องที่อยากจะพูดกับคุณเป็นการส่วนตัว” ตี๋เชาก็ลุกขึ้นมาแล้วพูด

ซูหวานก็ขมวดคิ้วของเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า: “นายมีเรื่องอะไรก็บอกฉันที่นี่เลยสิ”

ตี๋เชาก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า: “การที่มีคนอื่นอยู่แบบนี้มันก็ไม่ค่อยดีซะเท่าไหร่ พวกเราเลี่ยงเค้าน่าจะดีกว่านะ”

ซูหวานก็กลัวว่าเค้าจะทำตัวเลอะเทอะ ดังนั้นเธอก็เลยพาตี๋เชาไปที่อีกห้องหนึ่ง

ทันทีที่เ้ามา ตี๋เชาก็รีบปิดประตู

เค้าดูค่อนข้างที่จะกังวลใจเล็กน้อย: “ซูหวาน ฉันไม่เข้าใจจริงๆ เลยว่าปู่ของเธอเค้าหมายความว่ายังไงกัน ใช่ คนๆ นั้นช่วยชีวิตปู่ของเธอเอาไว้ แต่ก็ให้เงินเค้าแล้วปล่อยเค้าไปก็จบแล้วไม่ใช่เหรอ? คนอย่างมันอะ นี่มันคางคกขึ้นวอชัดๆ เลยนะ!”

ซูหวานก็ขมวดคิ้วของเธอขึ้นมาแล้วพูดว่า: “คนแบบนี้? เค้าเป็นคนแบบไหนกัน?”

ตี๋เชาก็บ่นขึ้นมาเบาๆ : “คนรากหญ้า พวกรากหญ้าชั้นล่าง”

สีหน้าของซูหวานก็ดูไม่ได้เลย เธอพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “นายรู้ไหมว่าสิ่งที่ฉันเกลียดมากที่สุดคืออะไร? ก็คือคนที่มั่นใจในความเหนือกว่าคนอื่นของตัวเองอย่างนายไง”

“หึหึ นั่นก็มีส่วน” ตี๋เชาพูดขึ้นมาอย่างภาคภูมิ “ฉันเองก็ได้ตรวจสอบเค้ามาแล้ว เค้าเป็นพวกคนไร้ประโยชน์ที่ไม่เอาไหน เค้าไม่คู่ควรที่จะมาเปรียบเทียบกับฉันเลยด้วยซ้ำ”

ซูหวานพูดขึ้นมาอย่างรำคาน: “เอาหละ พูดจบแล้วยัง? ฉันจะออกไปละ”

ตี๋เชาก็รีบคว้าเข้าไปที่แขนของซูหวานแล้วแนะนำขึ้นมาอย่างมั่นใจ: “ซูหวานลองคิดดูนะ แม้ว่าเค้าจะมีความสามารถ แต่ภูมิหลังของเค้ามันเทียบอะไรกับตระกูลตี๋ได้อย่างงั้นเหรอ? ของบางอย่างที่มันคู่ควรมาตั้งแต่ต้นนะ!”

“และฉันก็ไม่เหมือนกัน ฉันกับพวกเธอมันก็เสมอกัน เพียงแค่เธอยินยอม ฉันจะให้ตระกูลตี๋มาสู่ของเธอเมื่อไหร่ก็ได้! เมื่อถึงเวลานั้นคุณปู่ซูเองก็คงจะไม่ปฎิเสธตระกูลตี๋เพราะคนรากหญ้านั่นหรอก?” ตี๋เชาก็พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง

ซูหวานก็พูดออกมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา: “หุบปากของนายได้ยัง? สิ่งของที่นายภาคภูมิใจในสายตาของนาย บางทีในสายตาคนอื่นมันก็อาจจะไร้ค่าก็ได้”

“เห่อเห่อ เค้ามีอะไรน่าภาคภูมิใจอย่างงั้นเหรอ? ภูมิใจที่เป็นแมงดา? ภูมิใจที่เป็นแมงวันหัวเขียว?” ยิ่งตี๋เชาพูดเค้าก็ยิ่งดูตื่นเต้น ในตอนท้ายเค้าก็พูดจาว่าติโดยตรง

ในตอนนี้เอง ประตูมันก็ถูกเปิดออก

หลังจากนั้น ก็มองเห็นสีหน้าที่มืดมนของฉินเฉิงที่เดินก้าวเข้ามาทีละก้าว

“แกคิดว่าฉันจะไม่ได้ยินคำพูดพวกนี้อย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงถามขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เย็นชา

ตี๋เชาก็เยาะเย้ยแล้วพูดขึ้นมาว่า: “แกได้ยินมันแล้วจะยังไงเหรอ? ฮ่าๆ ต่อให้ฉันจะว่าแกยังไง แกก็ต้องยอมรับมันอยู่ดี!”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เค้าก็ปล่อยซูหวานแล้วเดินเข้าไปหาฉินเฉิงแล้วพูดออกมาด้วยท่าทีที่ดูห่างเหินว่า: “แกกับฉันมันไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกัน ฉันสามารถที่จะทำยังไงกับแกก็ได้!”

เมื่อได้ยินคำพูดที่เย็นชาแบบนี้ บรรยากาศมันก็เย็นเยือกลงในทันที

แต่ในใจของฉินเฉิง มันก็ดูสงบนิ่งราวกับสายน้ำ

ส่วนฉินเฉิงที่ใช้ชีวิตอย่างอัปยศมาตั้งแต่เด็ก การพูดถากถางเค้าด้วยวาจาแบบนี้มันจะทำอะไรเค้าได้?

“ฉันต้องการให้แกไสหัวออกไปซะ” ตี๋เชาก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ไม่อย่างงั้นอย่ามาหาว่าฉันหยาบคายนะ”

ฉินเฉิงก็หัวเราะเยาะขึ้นมา เค้ายกมือตบเข้าไปที่ไหล่ของตี๋เชาแล้วพูดว่า: “แกไม่กลัวว่าฉันจะต่อยแกอย่างงั้นเหรอ?”

“ต่อยฉันเหรอ?” ตี๋เชาชี้เข้าไปที่หน้าของฉินเฉิง จากนั้นเค้าก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา: “ฉันรู้ว่าแกเก่ง แต่กังฟูแมวนั่นมันไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน!”

“ฉันฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งแต่อายุแปดขวบแล้วฉันก็สามารถที่จะเอาชนะผู้ใหญ่ได้ตั้งแต่ตอนที่ฉันอายุสิบสองขอบก็เท่านั้น ตอนนี้คนที่เชี่ยวชาญการต่อสู้ในมณฑลเองก็ยังไม่กล้าหาเรื่องฉันเลย แล้วพวกรากหญ้าอย่างแกหนะเหรอ?” ตี๋เชาก็ขยับแขนของเค้าแล้วนิ้วแค่ละนิ้วของเค้ามันก็ส่งเสียงแกร็กดังขึ้นมา

“ใช่เหรอ?” ฉินเฉิงก็หรี่ตาของเค้าลง ทันใดนั้นเองในมือของเค้ามันก็เริ่มที่จะออกแรง

ตี๋เชาเองก็รู้สึกเพียงแค่ว่าไหล่ของเค้ามันถูกหนีบด้วยคีบเหล็กยังไงยังงั้น ความเจ็บปวดนี่มันเจ็บเป็นอย่างมาก

“รนหาที่ตาย!” ตี๋เชาก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธแล้วรีบซัดหมัดเข้าไปที่หน้าของฉินเฉิงโดยตรง

ฉินเฉิงเองก็ยกมืออีกข้างหนึ่งของเค้าขึ้นมาอย่างเร็วแล้วคว้าเข้าไปที่หมัดนั่นอย่างง่ายดาย ด้วยพลังที่รุนแรง เค้าก็บีบกำเข้าไปที่หมัดนั่น

“แก!” แววตาของตี๋เชาก็ฉายแววชั่วร้ายออกมา เค้าใช้เท้าของเค้าเตะเข้าไปที่เป้าของฉินเฉิงอย่างแรง

สีหน้าของฉินเฉิงเย็นชาลง เค้าออกแรงแล้วทุ่มโยนตี๋เต้าออกไปในทันที

“ร้ายกาจจริง” ฉินเฉิงเดินเข้าไปหาตี๋เชาทีละก้าว ในตอนนี้เองหวงหลงก็ตะโกนขึ้นมาว่า: “หยุด!”

เค้าเข้ามาขวางตรงหน้าของฉินเฉิงเอาไว้ เค้าส่ายหัวขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ฉินเฉิง อย่าทำแบบนี้ นี่มันเป็นเรื่องปกติที่คนหนุ่มสาวจะเรียนรู้จากันและกัน แต่การทำแบบนี้ต้องหยุด”

“การทำแบบนี้ต้องหยุด?” ฉินเฉิงก็เหลือบมองไปที่หวงหลง “ไอ่นี่มันมายั่วยุฉัน หรือว่าคุณดูไม่ออกอย่างงั้นเหรอ?”

“นี่…” หวงหลงก็เงียบไปซักพัก เค้าไม่รู้ว่าจะตอบยังไง

อย่างที่ฉินเฉิงพูดออกมา ตี๋เชาเค้าเป็นคนนิสัยไม่ดี เค้าไม่ยอมที่จะเลิกลาอย่างแน่นอน

“คุณหวง นี่คุณกำลังลำเอียงอย่างงั้นเหรอ?” ฉินเฉิงก็ถามขึ้นมา

หวงหลงก็พูดขึ้นมาอย่างกระอักกระอ่วม: “เอาหละ เอาหละ ฉันจะชดใช้ให้เธอเอง โอเคไหม?”

ในตอนนี้เอง ตี๋เชาก็ลุกขึ้นมาจากพื้น เค้ากัดฟันแล้วพูดว่า: “ทักษะดีหนิ แต่ก็เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ต่อให้แกจะเก่งมากแค่ไหนกัน แกก็เป็นแค่กังฟูธรรมดา ยังไงฉันก็สามารถที่จะฆ่าแกได้ทุกเมื่อ!”

หลังจากที่พูดจบ เค้าก็พูดกับหวงหลงด้วยรอยยิ้มว่า: “ลุงหวง ถ้าหากว่ามีเวลาก็ไปที่บ้านฉัน พ่อของฉันเค้าเอาแต่พูดถึงลุงอยู่เสมอเลย”

หวงหลงก็ยิ้มขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ถ้าฉันมีเวลาฉันไปแน่ ฉันเองก็ไม่ได้เจอพ่อของเธอมานานมากแล้ว”

ตี๋เชาก็หันหน้าแล้วมองไปที่ฉินเฉิงอย่างมีชัย เค้าไม่ปกปิดการยั่วยุของเค้าเลย

สีหน้าของฉินเฉิงเย็นชา เค้าก็เข้ามาในทันที ในเวลาเพียงแค่ชั่วพริบตาเค้าก็มาอยู่ที่ตรงหน้าของตี๋เชา

หวงหลงเองก็รู้สึกไม่ดีขึ้นมาในทันที แต่มันก็สายเกินไปที่จะหยุดแล้ว ดังนั้นเค้าก็เลยรีบตะโกนออกมาว่า: “หยุด!”

ก่อนที่ตี๋เชาดจะรู้สึกตัว เค้าก็รู้สึกเจ็บที่แขนของเค้าอย่างรุนแรง ในวินาทีต่อมานี้เอง น่องของเค้ามันก็โค้งเป็นมุมแปลกๆ

“โอ้ยยย!!” ตี๋เชาคุกเข้าไปที่พื้นด้วยความเจ็บปวด ใบหน้าของเค้ามันเต็มไปด้วยเหงื่อ

สีหน้าของหวงหลงก็ดูหวาดกลัว เค้าจะโกนขึ้นมาอย่างโกรธเคือง: “ฉินเฉิง เธอทำอะไรของเธอ!”

ฉินเฉิงก็ไม่สนใจอะไรหวงหลง แต่เค้าจ้องมองไปที่ตี๋เชาอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “ถ้าหากว่าฉันต้องการที่จะฆ่าแก ก็ไม่มีใครสามารถที่จะปกป้องแกได้”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset