ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 92 คนไหนคือฉินเฉิง?

จี้เซียงส่ายหัวและไม่พูดอะไร

แม้ว่าเขาจะเชื่อในความแข็งแกร่งของฉินเฉิงเป็นอย่างมาก แต่ชื่อเสียงของเฝิงกงนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ และตำนานที่ทิ้งไว้ในตอนนั้นก็ยังชัดเจน

ทุกคนกังวลเกี่ยวกับฉินเฉิง แต่ตัวของฉินเฉิงเองไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย ไม่แม้แต่จะเห็นเฝิงกงอยู่ในสายตา

เนื่องจากในใจของเขาในตอนนี้มีแค่ตระกูลซูที่อยู่ที่จิงตู

งานเลี้ยงที่จัดโดยตระกูลเฝิงมาถึงตามกำหนด และสถานที่ก็ได้รับเลือกในสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกลในแถบชานเมือง

ในตอนเช้าผู้คนจำนวนมากมาที่นี่เพื่อรอล่วงหน้า

ฉินเฉิง ซูวานรวมถึงคุณปู่ซู ทั้งสามกำลังขับรถไปที่งานเลี้ยง

“ฉินเฉิง วันนี้อย่าหุนหันพลันแล่นเด็ดขาด” คุณปู่ซูเตือนออกมา “ฉันจะพยายามช่วยนายจัดการเรื่องนี้อย่างสุดความสามารถ และทำให้มันยุติธรรมที่สุด”

ฉินเฉิงยิ้มและพูดออกมาว่า “คุณปู่ซู ผมไปทำร้ายเฝิงหลิน คุณคิดว่าเฝิงกงจะยังใจดีกับผมได้อีกเหรอ?”

คุณปู่ซูพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “ฉันเชื่อว่านายมีวิธีที่จะสามารถช่วยเฝิงหลินได้”

ฉินเฉิงยิ้มออกมาและไม่ได้พูดอะไร

แน่นอนว่าเขามีวิธีรักษาจุดตันเถียนของเฝิงหลิน แต่เขาไม่คิดที่จะทำแบบนั้น

“ขอแค่สามารถรักษาเฝิงหลินได้ ฉันเชื่อว่าเฝิงกงจะต้องเห็นแก่หน้าฉันบ้าง” คุณปู่ซูพูดออกมา

ฉินเฉิงพยักหน้า “ก็ได้ครับ ผมจะทำตามที่คุณพูด”

ไม่นานรถก็ขับมาถึงสถานที่จัดงานเลี้ยง ตรงหน้าประตูทางเข้า มีบอดี้การ์ดยืนอยู่มากมาย พวกเขากำลังตรวจสอบบัตรเชิญ

“ตระกูลเฝิงนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ ขนาดบอดี้การ์ดยังมีพลังภายในอยู่ในขั้นที่พอใช้ได้เลย” ฉินเฉิงพูดออกมา

คุณปู่ซูยิ้ม “นี่แหละเป็นหนึ่งเหตุผลที่ไม่มีใครอยากจะไปมีเรื่องกับคนของตระกูลเฝิง”

“ถ้าหากนายเป็นแค่นักต่อสู้ธรรมดาๆ ยังไงก็ไม่มีทางเข้างานนี้ได้อย่างแน่นอน” และในตอนนั้นชายหนุ่มที่พยายามที่จะเข้าไปในงานเลี้ยงก็ดูต่อยจนกระเด็นออกมา

ชายหนุ่มคนนั้นเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากปากของเขา ลุกขึ้นมาจากพื้นและตะโกนออกไปว่า “ไม่ให้เข้าก็คือไม่ให้เขา ทำไมพวกนายจะต้องมาทำร้ายฉันด้วย?”

“ตระกูลเฝิงทำร้ายผู้ที่อ่อนแอ มันไม่จำเป็นต้องมีเหตุผล” บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดออกมา

ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย และพูดออกมาว่า “แม้แต่สุนัขรับใช้ของตระกูลเฝิงก็ยังหยิ่งผยองขนาดนี้ แล้วคนของตระกูลเฝิงจริงๆจะหยิ่งแค่ไหน?”

บอดี้การ์ดทั้งสองกำลังจะโกรธ และเมื่อเขาเห็นใบหน้าของฉินเฉิงอย่างชัดเจน พวกเขาก็กลืนน้ำลายทันที

“คุณฉิน เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคุณ นี่มันเป็นกฎของตระกูลเฝิงของพวกเรา” บอดี้การ์ดพูดออกมาอย่างเย็นชา

ฉินเฉิงไม่ได้สนใจ เขาเดินไปที่ชายหนุ่มคนนั้นและพยุงเขาขึ้นมา

ชายหนุ่มคนนั้นพูดออกมาอย่างตื่นเต้น “คุณคือคุณฉิน? คนที่ทำให้เฝิงหลินไม่สามารถใช้กำลังภายในได้?”

ฉินเฉิงพยักหน้า “คนของตระกูลเฝิงไม่ให้นายเข้างาน งั้นนายก็ไปเสียเถอะ”

ชายหนุ่มคนนั้นพูดออกมาอย่างกระตือรือร้น “คุณฉิน ผมเป็นแฟนคลับของคุณ! ได้โปรดรับผมเป็นลูกศิษย์ได้ไหม?”

ฉินเฉิงส่ายหน้า “ขอโทษที ฉันไม่รับลูกศิษย์”

“จะขอให้เขาเป็นอาจารย์? เกรงว่าเขาคงจะไม่มีชีวิตรอดกลับไปจากคืนนี้” และในตอนนั้นเองก็มีเสียงของชายหนุ่มอีกคนดังขึ้นมา

ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ในตอนที่เขากำลังจะพูดอะไร ซูวานที่อยู่ข้างๆก็พูดกับเขาว่า “ชายคนนี้คือเฉินจง เขาเป็นหนึ่งในสามของพรสวรรค์รุ่นใหม่ของเมืองหลวงเช่นเดียวกับปี้เสี่ยวเหยาและเฝิงหลิน”

“เฉินจง?” ฉินเฉิงขมวดคิ้ว “เหมือนว่าฉันไม่เคยไปมีเรื่องอะไรกับเขานะ”

“นายไม่เคยไปมีเรื่องอะไรกับเขาก็จริง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะไม่มาหาเรื่องนายก่อนนี่” ซูวานยิ้มและพูดออกมา

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” ฉินเฉิงพยักหน้าและไม่ได้พูดอะไร

และในตอนที่ฉินเฉิงกำลังยกเท้าขึ้นเพื่อเดินเข้าไปในงาน ชายหนุ่มคนนั่นก็วิ่งเข้ามาอีกครั้ง

เขาพูดออกมาด้วยความกระตือรือร้น “คุณฉิน ผมชื่อฉูเป่ยชวน ผมจะรอคุณอยู่ตรงนี้ ผมเชื่อว่าคุณจะสามารถรอดชีวิตกลับมาได้!”

ฉินเฉิงตบไปที่ไหล่ของเขา ไม่ได้พูดอะไรและเดินเข้าไปในงาน

ในเวลานี้ ในรถธุรกิจสีดำ มีคนกำลังดูฉากนี้อย่างเงียบๆ

“ท่านเจ้าแห่งลมปราณหู คนคนนั้นก็คือฉินเฉิง” ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดออกมา

ผู้ชายที่ถูกเรียกว่าท่านเจ้าแห่งลมปราณหูพยักหน้า “ด้วยท่าทางที่สง่าผ่าเผย ไม่ถ่อมตัวหรือเอาแต่ใจ สร้างแรงบันดาลใจและช่วยผู้ที่อ่อนแอให้เข้มแข็งได้ เขาเป็นชายหนุ่มที่ดีอย่างแท้จริง”

ในตอนนั้น ชายอีกคนหนึ่งก็พูดขึ้นมาว่า “อาจารย์ ทำไมผมถึงมองไม่เห็นอะไรในตัวของเขาเลย?”

คนคนนั้นก็คือลูกศิษของเจ้าแห่งลมปราณหู เขามีชื่อว่า เหลียนจี้เทียน เขาก็เป็นผู้ฝึกพลังปราณระดับปรมาจารย์ขั้นเก้า พลังของเขานั้นเหนือกว่าปี้เสี่ยวเหยาอยู่มาก

เจ้าแห่งลมปราณหูยิ้มออกมาและพูดว่า “จี้เทียน ถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากยอมรับ แต่ว่าความสามารถของเขานั้นเหนือกว่านายจริงๆ”

เหลียนจี้เทียนพูดออกมาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย “แล้วมันจะยังไง ยังไงวันนี้เขาก็ต้องตายลงด้วยน้ำมือของเฝิงกงอยู่ดี”

เจ้าแห่งลมปราณหูไม่พูดอะไร ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

และในตอนนั้น ฉินเฉิงเดินเข้าไปในงาน ผู้คนมากมายต่างให้ความสนใจในตัวเขา

นอกจากผู้มีอิทธิพลในเมืองหลวงแล้ว ก็ยังมียอดฝีมือจากทุกมุมโลก

“คนคนนั้นก็คือฉินเฉิง? มองดูแล้วก็ไม่เห็นจะเก่งอะไรตรงไหน”

“อ่า น่าเสียดาย ถ้าหายไม่ไปยั่วยุตระกูลเฝิง ฉันเองก็อยากจะเป็นเพื่อนกับเขาสักน่อย”

“เอ้ย พูดอะไรออกมา ฉันได้ยินมาว่าฉินเฉิงคนนี้เป็นอสูรร้าย”

ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นออกมา แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้เพราะกลัวว่าจะเอาตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ไปด้วย

ฉินเฉิงนั่งที่โต๊ะกิน ดื่ม และสนุกสนาน และเขาก็มีความสุขและผ่อนคลาย

“คนพวกนี้หลบซ่อนจากนายเหมือนกับว่านายเป็นโรคระบาด” ซูวานพึมพำออกมา

“มันก็เป็นเรื่องปกติ” ฉินเฉิงยิ้มออกมา “ถ้าหากวันนี้ฉันสามารถเอาชนะเฝิงกงได้ พวกเขาก็จะเข้ามาหาฉันทันที”

“เอาชนะเฝิงกง?” ซูวานจ้องมาที่ฉินเฉิงด้วยความตกใจ “นายก็จะอวดดีเกินไปแล้ว”

ขณะที่เขากำลังพูดอยู่ ชายวัยกลางคนก็เดินมาทางนี้

“แม่งเอ้ย นั่นใครวะ เวลาหัวเลี้ยวหัวต่อแบบนี้ยังจะกล้าเข้าไปคุยกับฉินเฉิงอีกเหรอ?”

“คนคนนั้นคือท่านเจ้าแห่งลมปราณหูแห่งเมืองหยาง เขาเป็นคนที่ไม่กลัวเฝิงกง”

“…..”

เจ้าแห่งลมปราณหูเดินเข้ามา เขาผสานมือและกล่าวทักทายคุณปู่ซู “คุณปู่ซู ไม่ได้พบกันนาน ร่างกายของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?”

คุณปู่ซูยิ้มและตอบกลับไปว่า “ฉันแก่แล้ว มันไม่มีอะไรดีหรอก คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน”

“คุณปู่ซูพูดอะไรออกมา ฉันยังเห็นว่าร่างกายของคุณยังแข็งแรงเหมือนกับเด็กหนุ่มอายุ 20 กว่าอยู่เลย” เจ้าแห่งลมปราณหูพูดพร้อมกับหัวเราะออกมา

หลังจากที่ทั้งสองคนทักทายกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าแห่งลมปราณหูก็มองไปที่ฉินเฉิง

“คนคนนี้ใช่ฉินเฉิงที่ร่ำลือกันไหม?” ดวงตาของเขาดูร้อนแรงเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ฉินเฉิง ซึ่งนั่นทำให้ฉินเฉิงรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ

“สวัสดีครับเจ้าแห่งลมปราณหู” ฉินเฉิงลุกขึ้นเอนตัวและกล่าวทักทาย

เจ้าแห่งลมปราณหูยิ้มออกมาและพูดว่า “เป็นคนที่มีพรสวรรค์จริงๆ! คุณปู่ซู คุณนี่โชคดีมากเลย!”

คุณปู่ซูถอนหายใจและพูดออกมา “เจ้าแห่งลมปราณหู เกรงว่าอีกเดี๋ยวเฝิงกงคงจะออกมาฆ่าเขาอย่างแน่นอน ถึงเวลานั้นคงจะต้องพึ่งพาคุณให้ช่วยดูแลเขาหน่อยแล้ว”

“ไม่มีปัญหา!” เจ้าแห่งลมปราณหูพูดออกมาด้วยความมั่นใจ “เมื่อถึงเวลาสำคัญ ฉันจะออกไปขวางเฝิงกงเอาไว้เอง”

“ขอบคุณมาก!” สีหน้าของคุณปู่ซูดูดีกว่าเดิมมาก คำพูดของเจ้าแห่งลมปราณหูประโยคนั้นทำให้รู้สึกปลอดภัยมากพอสมควร

และในตอนนั้นก็เกิดความวุ่นวายขึ้นที่หน้าประตู

ต่อมาก็เห็นชายร่างสูงสง่าเดินเข้ามา

ด้านหลังของเขามีคนเดินตามมามากมาย รวมถึงเฝิงเฉินและเฝิงเสี่ยวคาย

และก็มีคนที่เข็นรถเข็นเข้ามา คนที่นั่งอยู่บนรถเข็นก็คือเฝิงหลินที่ถูกจัดการโดยฉินเฉิง

“สวัสดีครับเฝิงกง!” ทุกคนลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและกล่าวทักทายเฝิงกง

“เฝิงกง ครั้งนี้คุณออกมาจากการฝึกวิชา คุณน่าจะต้องก้าวข้ามจุดสุดยอดไปแล้วใช่ไหม?” มีคนถามออกมา

เฝิงกงตอบกลับไปว่า “อืม โชคดีที่ฉันสามารถไปถึงจุดสูงสุดของเจ้าแห่งพลังปราณได้”

ทุกคนต่างตื่นตกใจออกมา

จุดสูงสุดของเจ้าแห่งพลังปราณ? ทั้งมณฑลปินโจวซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด มีคนที่สามารถไปถึงขั้นนี้ได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น!

เย่อชิงยุนก็เป็นหนึ่งคนนั้น! และวันนี้ที่จิงตู ก็มีบุคคลแบบนั้นเกิดขึ้นมาอีกแล้ว!

แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือตอนที่เย่อชิงยุนข้ามไปถึงขั้นนั้นได้เขาอายุเพียงแต่ 30 ปี แต่สำหรับเฝิงกงทุกคนก็รู้ชื่อเสียงและอายุของเขาเป็นอย่างดี

“ยินดีด้วยครับเฝิงกง!” ทุกคนต่างส่งเสียงยินดีออกมา ความเคารพในสายตาของพวกเขาดูชัดเจนเป็นอย่างมาก

รวมถึงสีหน้าของเจ้าแห่งลมปราณหูเองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เจ้านั่นคือฉินเฉิงใช่ไหม?” ในตอนนั้นจู่ๆเฝิงกงก็พูดออกมา

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset