ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม – ตอนที่ 97 มีชื่อเสียง

ร่างของเฝิงกงแข็งทื่อ จากนั้นเค้าก็พยักหน้าขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง “ฉันยอมจำนน ฉันยอมจำนนแล้ว!”

ตระกูลเฝิงนี้ดำเนินธุรกิจมาหลายปีแล้ว พวกเค้าอาศัยการบีบบังคับมาโดยตลอด

ทรัพยากรทางการเงินของพวกเค้าก็น่ากลัวพอๆกัน ด้วยอิทธิพลของเฝิงกง หลายปีมานี้ก็ไม่รู้เลยว่าพวกเค้ากลืนกินทรัพย์สินไปเท่าไหร่แล้ว

แม้ว่าเค้าจะรู้สึกเจ็บใจ แต่ตอนนี้มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

ฉินเฉิงเหลือบมองเขาแล้วแตะนิ้วเบาๆ จากนั้นมันก็มีเครื่องหมายปรากฎขึ้นมาที่คิ้วของเฝิงกง

“ถ้าแกกล้าไม่ฟังคำสั่งของฉัน ฉันจะทำให้แกกลายเป็นเหมือนกับลูกชายของแก” ฉินเฉิงพูดขึ้นมาเบาๆ

เฝิงกงดูทุกข์ใจมาก เดิมทีก่อนหน้านี้เค้าก็คิดว่าหลังจากออกมาแล้ว เค้าจะสามารถคุมโลกใบนี้ได้ แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่ออกมา เค้าก็จะถูกฉินเฉิงจัดการ

เจ้าแห่งพลังปราณหูที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อกี้เค้ากำลังคิดว่าเค้าจะรับฉินเฉิงเข้ามาเป็นลูกศิษย์ของตัวเอง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเค้าจะไม่มีคุณสมบัตินั้นแล้ว?

“ยินดีด้วย คุณฉิน!” ไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนแรกที่ตะโกนขึ้นมา จากนั้นผู้คนที่อยู่ที่นั่นต่างก็ชื่นชมเค้าไม่หยุด

แม้ว่าฉินเฉิงจะรู้ดีว่าคนเหล่านี้เป็นแค่คนรากหญ้าแล้วก็ไม่ได้เป็นมิตรแท้อะไรมาก แต่การเผชิญหน้ากับแบบนี้มันก็มักจะต้องผ่านไปเสมอ

ดังนั้นฉินเฉิงก็เลยพยักหน้าแล้วทักทาย

ส่วนเฝิงกงก็ดูราวกับสุนัขที่กำลังคร่ำครวญ เค้าคุกเข่าอยู่ที่นั่นและไม่กล้าพูดอะไรเลย

ไฮไลท์ของงานเลี้ยงนี้ก็คือฉินเฉิงกับเฝิงกง ตอนนี้ผลมันก็ออกมาแล้วและงานเลี้ยงมันก็จบลง

“พรุ่งนี้ส่งโสมไปที่คฤหาสน์” ฉินเฉิงมองไปที่เฝิงกงแล้วพูดเบา ๆ

เฝิงกงรีบพยักหน้าแล้วพูดว่า “ครับ ได้ครับ!”

หลังจากเดินออกจากที่นี่ มันก็เป็นอย่างที่คิดเอาไว้เลย ฉูเป่ยชวนยังคงรออยู่ที่ด้านนอกประตู

หลังจากเห็นฉินเฉิงแล้ว ฉูเป่ยชวนก็รีบเข้าไปแล้วพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้นว่า: “ผมรู้อยู่แล้วว่าคุณจะต้องมีชีวิตรอดออกมาอย่างแน่นอน!”

ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า “ทำไมนายยังไม่ไปอีก?”

“ฉัน…อยากที่จะคำนับคุณในฐานะอาจารย์!” ฉูเป่ยชวนพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง

ฉินเฉิงมองไปที่ฉูเป่ยชวน ความสามารถของชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่เลวเลย แต่ฉินเฉิงไม่ได้อยากที่จะมีลูกศิษย์ ดังนั้นเค้าจึงโบกมือแล้วพูดว่า “ถ้านายสามารถก้าวไปสู่จุดสูงสุดของพลังปราณระดับปรมาจาย์ได้ภายในสิ้นปีนี้ ฉันจะรับนายเป็นลูกศิษย์”

“จริงเหรอ?” ฉูเป่ยชวนพูดอย่างตื่นเต้น

ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “ฉันพูดจริงทำจริง”

“ได้ครับ!” ฉูเป่ยชวนก็พยักหน้าอย่างแรง เค้าไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป เค้าวิ่งออกได้วยความดีใจ

เมื่อมองตามหลังฉูเป่ยชวนไป เค้าก็อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวขึ้นมา

ยากจนอาจได้ร่ำเรียนภาษา ทว่ามีแต่คนรวยเท่านั้นจึงจะได้ฝึกฝนวิชายุทธ์

สภาพแวดล้อมของครอบครัวฉูเป่ยชวนก็ไม่ได้ดีอะไรมาก มันเหลือเวลาอีกแค่สามเดือนเท่านั้นก่อนจะถึงปีใหม่ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุดของพลังปราณระดับปรมาจารย์ได้

“คุณฉิน” ในตอนนี้เอง เจ้าแห่งพลังปราณหูก็เดินเข้ามา

ฉินเฉิงโค้งคำนับและพูดว่า “เจ้าแห่งพลังปราณหู คุณมีเรื่องอะไรเหรอครับ?”

เจ้าแห่งพลังปราณหูก็ยิ้มแล้วพูดว่า “สัปดาห์หน้าจะมีการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งใหญ่ของเมืองหยางของพวกเรา ฉันอยากจะเชิญคุณไปเข้าร่วม”

ฉินเฉิงก็พูดขึ้นมาว่า “ฉันเองก็วางแผนไว้ว่าจะเข้าร่วมเหมือนกัน”

เจ้าแห่งพลังปราณหูก็พูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น: “อย่างงั้นก็ดีเลย ถ้าอย่างนั้นฉันจะให้คุณเป็นหัวหน้ากรรมการตัดสิน!”

“กรรมการตัดสิน?” ฉินเฉิงตกตะลึง “เจ้าแห่งพลังปราณหู คุณคงจะเข้าใจผิดแล้ว ผมอยากที่จะเข้าร่วมการแข่งขัน…”

“เข้าร่วมการแข่งขัน?” เจ้าแห่งพลังปราณหูก็ไม่รู้ว่าจะร้องไห้หรือหัวเราะออกมาดี “คุณฉินอย่าล้อเล่นกับฉัน ด้วยความสามารถของคุณแล้ว มันแตกต่างอะไรจากผู้ชนะ?”

ฉินเฉิงนิ่งเงียบ นี่มันเป็นเรื่องจริง แต่เหตุผลที่ฉินเฉิงต้องการเข้าร่วมการแข่งขันก็คือการได้โสมมา!

“อย่ากังวลไป ผมจะไม่ให้คุณช่วยเฉยๆหรอก” เจ้าแห่งพลังปราณดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของฉินเฉิง “เมื่อถึงเวลาฉันจะเอาราชาแห่งยาออกมาให้เป็นของรางวัล ”

แววตาของฉินเฉิงก็เป็นประกายขึ้นมา เค้าพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า “ตกลง!”

ที่บ้านตระกูลเฉิน เฉินจงก็นั่งอยูที่โซฟา สีหน้าของเค้ามันเต็มไปด้วยความโกรธ

“ไม่มีใครกล้าทำกับฉัน เฉินจง แบบนี้!” เค้าพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

พวกสาวๆที่อยู่ข้างๆก็รีบปลอบเค้า: “คุณชายเฉิน คุณจะไปโกรธอะไรกับคนแค่คนเดียวหละค่ะ?”

ดูเหมือนเฉินจงจะถูกเตือนให้นึกได้ขึ้นมา เค้าเหลือบมองไปที่นาฬิกาบนผนังแล้วพูดเสียงเบาขึ้นมาว่า: “ตอนนี้ ฉินเฉิงมันน่าจะตายไปแล้ว”

ทันทีที่เสียงของเค้าหายไป เฉินคุนพ่อของเฉินจงก็วิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น

“จงเอ๋อ ทำไมเธอถึงยังอยู่บ้านอีก? เธอไม่ได้ไปงานเลี้ยงของเฝิงกงหรอกเหรอ?” เฉินคุนขมวดคิ้วขึ้นมา

เฉินจงก็อายที่จะพูดความจริง เขาเลยโกหกว่า: “โอ้ ผมไปมาก่อนแล้ว”

เฉินคุนพูดอย่างไม่พอใจ: “ไปมาก่อนแล้ว? โถ่เอร้ย พลาดโอกาสดีๆที่จะได้สานสัมพันธ์จริงๆ!”

“สานสัมพันธ์?” เฉินจงก็ประหลาดใจขึ้นมา “สานสัมพันธ์กับใคร?”

“ฉินเฉิงไง! เธอไม่รู้เหรอ? ฉินเฉิงเอาชนะเฝิงกงในงานเลี้ยงวันนี้แล้วตระกูลเฝิงก็ยอมแพ้แล้ว!” เฉินคุนพูดอย่างตื่นเต้น “เธอกับฉินเฉิงก็อายุพอๆกัน น่าจะพอคุยกันรู้เรื่อง โอกาสดีๆแบบนี้พวกเราไม่น่าพลาดมันเลย!”

เมื่อเฉินจงได้ยินแบบนี้ สีหน้าของเค้าก็กลายเป็นขี้เถ้าแล้วเค้าก็พูดเบาๆขึ้นมาว่า: “นี่… มันเป็นไปได้ยังไงกัน! เฝิงกงจะไปแพ้ไอ่ฉินเฉิงนั่นได้ยังไง!”

เฉินคุนเป็นคนฉลาด เมื่อได้ยินสิ่งที่เฉินจงพูด เค้าก็สัมผัสได้ถึงเรื่องไม่ดีในทันที

“แกไม่ได้ทำให้ฉินเฉิงไม่พอใจอะไรใช่ไหม?” เฉินคุนพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา

เฉินจงหดตัวลง เค้าไม่พูดอะไรเลย

“ไอ่***!” เฉินคุนตบหน้าเฉินจง “ฉันไม่ได้บอกแกไปแล้วเหรอว่าให้เก็บอาการบ้าง?”

“ผม… ผมไม่รู้ว่าฉินเฉิงจะชนะหนินา… ” เฉินจงพูดอย่างไม่พอใจ

เฉินคุนกัดฟันแล้วพูดว่า: “ฉันมีลูกอย่างแกได้ยังไงกัน! จองหอง หยิ่งทะนง คิดว่าตัวเองเหนือว่าคนอื่นอยู่เสมอ ใครสอนแกมา?”

เฉินจงไม่กล้าพูดอะไร เค้าทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เฉินคุนบ่นไป

เฉินคุนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า: “เอายาอายุวัฒนะของตระกูลเฉินออกมาแกจะต้องเอามันไปขอโทษเค้ากับฉัน!”

ระหว่างทางกลับบ้านตระกูลซู สีหน้าของฉินเฉิงมันก็เรียกได้ว่าดีมาก นายท่านซูเองก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข

“ทักษะนี้มันทำให้ตระกูลซูกลับมามีหน้ามีตาอีกครั้ง!” นายท่านซูก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา “วานเอ๋อ รีบๆหาเวลาแต่งงานกับฉินเฉิงซะสิ!”

“คุณปู่!” ใบหน้าของวานเอ๋อก็แดงขึ้นมาอีกครั้ง

ฉินเฉิงเองก็ดูกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

ฉินเฉิงเองก็กลัวว่านายท่านซูจะอยู่ได้ไม่ถึงปีใหม่

เค้ารักซูวานมาก เค้าเองก็อยากที่จะเห็นซูวานได้แต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝา

“เห้อ” เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฉินเฉิงก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา

นี่เค้าเองก็ไม่รู้เลยว่าเมื่อถึงเวลานั้น มันจะมีวิธียืดอายุของนายท่านซูไหม

ที่เมืองจิงตู ในสวนของตระกูลซู

ผู้หญิงคนหนึ่งเธอก็กำลังนั่งอยู่ในห้องหนังสือ

ห้องหนังสือนี่มันมีความหรูหรามาก ตู้หนังสือชุดหนึ่งมันก็มีราคาหลายล้านหยวน

และห้องหนังสือนี้มันเป็นของคุณนายรองตระกูลซู เสียวหยู่เชี้ยน

เสียวหยู่เชี้ยนเธออายุมากกว่า 40 ปีแล้ว แต่เธอก็ดูไม่แก่เลย ว่ากันว่าเพื่อที่จะคงความอ่อนเยาว์ของเธอเอาไว้ เสียวหยู่เชี้ยนได้เชิญอาจารย์ใหญ่จากฮ่องกงมาทำมันให้เธอโดยเฉพาะ ดังนั้นเธอจึงดูเหมือนเด็กสาวในวัยยี่สิบปี ถึงแม้ว่าเธอจะมีอายุมากถึงสี่สิบปีแล้วก็ตาม

“คุณนายรอง คุณชายซู” ผู้ชายคนหนึ่งที่ท่าทีเหมือนพ่อบ้านก็เดินเข้ามา

ซูหยู่ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา เค้าพูดว่า: “พูดมา”

พ่อบ้านก็รีบพูดขึ้นมาว่า: “ตระกูลเฝิงกับฉินเฉิงเกิดเรื่องขึ้นแล้ว”

ซูหยู่ก็เยาะเย้ยแล้วพูดว่า “เรื่องนี้ยังต้องรายงานอีกหรือ เฝิงกงอยู่ในจุดสูงสุดของปรมาจารย์แห่งพลังปราณแล้วไม่ใช่หรือ? มันก็น่าจะเดาผลได้อยู่แล้ว”

“จุดสูงสุดของปรมาจารย์แห่งพลังปราณอาจจะไม่ได้มีอะไรมาก แต่ในเมืองเจียงหรือแม้แต่ปีนัง มันบอกได้ว่าเค้าเป็นสุดยอดนักศิลปะการต่อสู้” เสียวหยู่เชี้ยนพยักหน้าขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อได้ยินแบบ พ่อบ้านก็ดูกระอักกระอ่วมเป็นอย่างยิ่ง

“ทำไม ยังมีเรื่องอะไรอีก” ซูหยู่พูดขึ้นมาด้วยความสับสน

พ่อบ้านปาดเหงื่อออกจากหน้าผากของเค้าแล้วพูดอย่างกล้าๆกลัวๆขึ้นมา “คุณ…คุณนายรอง คุณชายซู เฝิงกงเค้าแพ้แล้ว…”

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม

หลังจากที่เผชิญหน้ากับการดูถูก ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นสู้ เพื่อคว้าในสิ่งที่ไม่เคยได้ครอบครองมาก่อน นิยายเล่มนี้เป็นนิยายที่สนุกสนาน ไม่รุนแรงจนเกินไป สนุกครบทุกอารมณ์

Comment

Options

not work with dark mode
Reset