ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 29 อย่าเข้มงวดกับเธอนักเลย

“คุณจาง ผมขอเอกสารที่ประธานจางส่งมาเมื่อวานหน่อยครับ” โม่หันก้าวไปยังโต๊ะรับรองด้านหน้า แต่ก่อนที่เขาจะเดินผ่านไป จู่ๆ เขาก็หันหลังกลับมา  

 

 

จางลี่ที่นึกไม่ถึงว่าทนายโม่จะเดินมารีบลุกขึ้นและหาเอกสารบนโต๊ะให้อย่างลุกลี้ลุกลน  

 

 

เมื่อซย่าชิงอีเห็นโม่หันกำลังจะเดินจากไป เธอจึงร้องเรียกเขาสุดเสียง “พี่คะ!”  

 

 

โม่หันและจางลี่หันหน้ามามองเธอ ในขณะที่คนแรกรู้สึกงุนงง คนหลังกลับอยู่ในอาการตกใจไปเสียแล้ว  

 

 

“เธอมาทำอะไรที่นี่เนี่ย” โม่หันจำเธอไม่ได้ไปชั่วขณะ ก่อนหน้านี้เธอสวมแต่ชุดคนไข้กับเสื้อตัวหลวมของเขา เขาเลยไม่เคยเห็นเธอใส่เสื้อผ้าปกติเลยสักครั้ง  

 

 

โม่หันเพิ่งสังเกตว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นคนสวยคนหนึ่ง ผิวของเธอขาว และผมสั้นที่ล้อมกรอบหน้าเรียวเล็กนั้นอย่างพอดี ดวงตาส่งประกายวิบวับเหมือนดวงดาวให้คนต้องหันไปมองเธอ  

 

 

“ฉันจำทางกลับบ้านไม่ได้น่ะค่ะ” เธอกล่าวขึ้น  

 

 

ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ขึ้นว่าทิ้งเธอไว้ที่โรงพยาบาลและบอกให้เธอโทรหาเขาให้มารับ เพราะพวกเขามีประชุมที่สำนักงานเกี่ยวกับคดีของประธานจางทั้งวันทำให้เขาลืมไปรับเธอเสียสนิท จนมาตอนนี้ถึงเพิ่งนึกขึ้นได้  

 

 

“ทำไมไม่โทรหาพี่ล่ะ”  

 

 

“ฉันไม่มีเบอร์พี่นี่คะ” เธอตอบกลับ  

 

 

โม่หันถอนหายใจออกมา เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะลืมเรื่องสำคัญแบบนี้ เขาก้าวไปหาซย่าชิงอีพลางมองถุงที่อยู่บนพื้นก่อนมุ่นคิ้วถาม “เธอถือถุงพวกนี้มาคนเดียวเลยเหรอ”  

 

 

“ฉันเรียกแท็กซี่มาค่ะ แต่ว่าถือถุงพวกนี้มาที่นี่เอง” เธอตอบ  

 

 

เมื่อพนักงานต้อนรับเห็นทั้งคู่คุยกัน เธอก็อึ้งเงียบไป  ทนายโม่ไปมีน้องสาวตอนไหนกัน ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย  

 

 

“แล้วทำไมไม่เข้ามาด้านในล่ะ รออยู่ที่นี่มานานเท่าไหร่แล้ว” เขาถามกลับ  

 

 

“ประมาณชั่วโมงหนึ่งได้ ไม่นานเท่าไรหรอกค่ะ พนักงานต้อนรับบอกว่าพี่มีประชุมอยู่เลยให้ฉันรออยู่ที่นี่น่ะค่ะ”  

 

 

เขามองไปที่จางลี่อย่างเย็นชาแล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบที่ทำให้เธอรู้สึกกลัว “ทำไมคุณบอกให้เธอรอข้างนอกล่ะครับ”  

 

 

จางลี่ก้มหัวขอโทษทันทีก่อนตอบเสียงสั่น “ฉันขอโทษค่ะ… ฉันไม่ทราบ… ฉันไม่ทราบว่าเธอเป็นน้องสาวของคุณน่ะค่ะ”  

 

 

“คุณบอกอย่างนี้กับทุกคนที่มาหาผมหรือครับ” เขาจ้องไปที่เธอ แม้จะไม่ได้ขึ้นเสียงแต่มันก็ดังก้องไปทั่วห้อง กลบเสียงอื่นให้เงียบสนิท  

 

 

“ฉันขอโทษค่ะ… ฉันคิดว่า…” เสียงของเธอยังคงสั่นเหมือนจะร้องไห้ ขณะที่ตัวก็สั่นระริกตามไปด้วยพร้อมก้มหน้าขอโทษ  

 

 

“ครั้งหน้าผมไม่อยากให้คุณตัดสินใจอะไรเองนะครับ ไปเขียนรายงานแล้วมาส่งที่ห้องทำงานของผมพรุ่งนี้”  

 

 

ขณะที่ซย่าชิงอีมองไปที่จางลี่ที่เกือบจะร้องไห้ออกมา เธอก็รู้สึกผิดขึ้นมา เด็กสาวดึงแขนเสื้อของโม่หัน “เธอไม่ได้ตั้งใจหรอก อย่าเข้มงวดกับเธอมากขนาดนั้นเลยค่ะ”  

 

 

เขาหันมามองมือเล็กๆ ที่จับแขนเสื้ออยู่ ค่อยๆ ใจอ่อนลง เดินนำเธอเข้าไปในสำนักงานอย่างเงียบๆ “เธอซื้อของทุกอย่างแล้วใช่ไหม” เขาถามขึ้น  

 

 

“เรียบร้อยแล้วค่ะ ตอนนี้ฉันแค่หิวนิดๆ น่ะ”  

 

 

“ทำไมเธอไม่กินจากข้างนอกมาล่ะ”  

 

 

“ฉันมัวแต่ซื้อของอยู่ก็เลย…ลืมค่ะ” ซย่าชิงอีเห็นว่าทุกคนมองมาที่เธอตั้งแต่ที่เดินเข้ามา สายตาของพวกเขาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดจึงเอาแต่เดินตามหลังโม่หันไปติดๆ พยายามซ่อนตัวไม่ให้ใครเห็น  

 

 

เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาไม่เคยพาใครมาที่นี่ แม้เขาจะไม่ชอบพูดเรื่องส่วนตัวที่ที่ทำงานแต่ท่าทีของเขาก็ดูไม่พอใจนัก ทุกคนจึงต่างอดแอบสงสัยไม่ได้ว่าเด็กสาวคนนี้เป็นใครกัน  

 

 

หลิวจื้อหย่วนสังเกตเห็นซย่าชิงอีตั้งแต่เธอก้าวเข้ามา เขารู้สึกคุ้นเคยกับเด็กสาวคนนี้แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอเธอที่ไหน  

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับพบว่าเธออยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสและจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ชื่อ ที่อยู่ ครอบครัวและประวัติความเป็นมาล้วนถูกซัดหายไปจากความทรงจำทั้งหมด เบาะแสเดียวที่หลงเหลืออยู่มีเพียงชื่อ โม่หัน ทนายหนุ่มจากสำนักงานกฎหมายที่ลงท้ายไว้บนใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น เขาเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมถึงดูแลค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างแต่ไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง เมื่อถูกครอบงำด้วยความสงสัย เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วออกตามหากุญแจสุดท้ายที่จะไขความลับให้กับเธอ ทว่าเมื่อตามหาตัวโม่หันจนพบ เขากลับบอกเธอว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้จักคุณ” เป็นไปได้ยังไงกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เธอต้องไขปริศนาเรื่องนี้และเรียกคืนความทรงจำทั้งหมดที่หายไปกลับมาให้ได้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset