ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 5 กล้าเทไหม

พนักงานสาวที่ถูกจับตัวไว้หวาดกลัว เธอตะโกนขอความช่วยเหลือด้วยน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม “ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วยค่ะ! ฉันไม่อยากเสียโฉม ทนายโม่…”  

 

 

เพื่อนร่วมงานที่อยู่รอบๆ แทบไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แม้แต่ญาติคนอื่นๆ ของผู้เสียชีวิตที่ยืนอยู่ด้านหลังก็ยังมองไปที่เขาอย่างตกใจ พวกเขาไม่รู้ว่าเขาไปได้กรดกำมะถันนั้นมาอย่างไร ทุกคนมองไปที่เขาอย่างตื่นตระหนกและหวาดกลัวเกินกว่ารับรู้อะไรได้  

 

 

เมื่อเขาเปิดฝาขวดแก้ว ทุกคนในบริเวณนั้นแทบหยุดหายใจ พนักงานสาวหลายคนตกใจกลัวจนร้องไห้ออกมา เขาพูดพึมพำกับตัวเองและหัวเราะออกมาราวกับคนบ้า “ฉันจะเทมันลงตรงไหนดีนะ ตา? ปาก? เอาตรงไหนดีทนายโม่ แกเก่งนักไม่ใช่เหรอ”  

 

 

ทันทีที่ได้ยินเขาพูด หญิงสาวที่ถูกจับตัวก็ร้องไห้คร่ำครวญออกมา เธอพยายามดิ้นและร้องขอความเมตตา “ไม่…ได้โปรด ช่วยฉันด้วยนะคะ…ทนายโม่!”  

 

 

ชายร่างอ้วนรัดคอเธอแน่นขึ้นและหัวเราะออกมาราวกับคนไม่มีสติ “อย่าขยับ แม่สาวน้อย! ฉันไม่สนใจหรอกว่าหน้าของแกจะเละขนาดไหน!”  

 

 

โม่หันพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง เขายืนขึ้นและเริ่มเจรจากับชายที่กำลังคลุ้มคลั่ง “คุณไม่ได้มาที่นี่เพื่อเอาคืนให้น้องชายของคุณหรอกเหรอ เอาล่ะ นั่งลงแล้วมาคุยกันดีๆ เถอะ ผมสัญญาว่าจะช่วยคุณหาตัวฆาตกร แต่ขอร้องล่ะ เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพนักงานของผมเลย ปล่อยเธอไปเถอะ”  

 

 

หลังจากคิดได้อีกเรื่อง เขาจึงพูดเสริม “ถ้าคุณยังไม่ไว้ใจละก็คุณเอาตัวผมไปแทนเธอก็ได้ ผมจะเป็นตัวประกันให้แทน”  

 

 

ชายคนเดิมหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งและจ้องไปที่โม่หันด้วยใบหน้าวิปริต “ทนายโม่! แกเก่งนักไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงได้ดูอ่อนน้อมกับฉันขนาดนี้ล่ะ! ไม่เหมือนตอนอยู่ในศาลเมื่อเช้าเลยสักนิด!”  

 

 

บรรยากาศตึงเครียดยังคงดำเนินต่อไป ทุกคนต่างมองไปที่ทนายหนุ่มและชายร่างอ้วน กลัวว่าน้ำกรดจะหกโดนหญิงสาว ทันใดนั้นน้ำเสียงอ่อนแรงของหญิงสาวอีกคนก็ดังขึ้นจากด้านหลัง  

 

 

“คุณคะ ที่คุณถืออยู่น่ะไม่ใช่น้ำกรดหรอกค่ะ” เธอพูดขึ้นอย่างนุ่มนวลด้วยน้ำเสียงยิ้มแย้ม  

 

 

ทุกคนหันไปมองเด็กสาวผิวซีดท่าทางอิดโรยในชุดคนไข้ ตั้งแต่เธอเข้ามานั่งในห้องรับรอง เธอก็ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไรออกมามากนัก แต่ดูเหมือนเธอจะพูดความจริง เสียงของเธอดูหนักแน่นและชัดเจนอย่างแปลกประหลาด  

 

 

ชายร่างอ้วนระเบิดเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งออกมา “แม่สาวน้อย ครูของแกไม่ได้สอนเรื่องกรดกำมะถันเหรอ ถ้าแกไม่รู้อะไรก็หุบปากไปซะ!”  

 

 

เธอเดินตรงไปหาเขาและจ้องหน้าอย่างเหนือกว่า จากนั้นก็เหลือบมองด้านข้างไปที่หญิงสาวซึ่งน้ำตาไหลเต็มหน้า เด็กสาวถามชายคนนั้น “คุณกล้าเทไหมละคะ”  

 

 

ทุกคนหวาดกลัวในสิ่งที่เธอพูดออกมา คนที่เหมือนปีศาจในร่างมนุษย์อย่างเขาทำได้ทุกอย่าง สำนักงานต้องสู้คดีกับเขาในศาลมาตลอดเดือนที่ผ่านมา พวกเขารู้ว่าชายคนนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มมิจฉาชีพและได้ยินชื่อเสียงเล่ห์เหลี่ยมของพวกเขามานาน แต่ในตอนนี้สาวน้อยคนนี้กำลังท้าทายเขา ถ้ามันเป็นขวดน้ำกรดจริงๆ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเทมันใส่เธอ  

 

 

โม่หันตกใจพอๆ กับคนอื่น ทว่าเขายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม  

 

 

ชายร่างอ้วนหัวเราะแล้วพูดออกมา “แกคงไม่รู้ว่าฉันเป็นใครสินะ! แต่ถ้ารู้แล้วก็หลบไปซะ! อย่ามาขวางทางฉัน! เดี๋ยวก็สาดน้ำกรดนี่ใส่แกซะหรอก แล้วแกจะต้องตกใจจนกรีดร้องออกมา”  

 

 

“แต่ว่านี่มันไม่ใช่น้ำกรดนี่คะ” เด็กสาวไม่ได้กลัวจนถอยหลังไปเลยสักนิด ตรงกันข้ามเธอกลับกล้าเดินเข้าไปหาแล้วหยิบขวดแก้วในมือของเขา  

 

 

ชายหนุ่มโมโหมาก ไม่เคยมีใครกล้าทำกับเขาแบบนี้มาก่อน เขาปล่อยหญิงสาวที่จับไว้และผลักเด็กสาวท่าทางไม่เกรงกลัวลงกับพื้น “นังสวะนี่! แกอยากตายนักใช่ไหม! ฉันจะทำให้แกสมหวังเอง!”  

 

 

ของเหลวในขวดแก้วถูกเทลงบนร่างของเธอ ทุกคนในสำนักงานกรีดร้องโวยวาย บางคนเป็นลมล้มลงไป พนักงานหนุ่มพยายามดึงเธอออกมาให้เร็วที่สุดแต่ก็สายเกินไปแล้ว พวกเขามองเธอที่ถูกน้ำกรดสาดไปทั่วร่าง ในจังหวะที่โม่หันได้เห็นภาพนั้น เขาก็แทบหยุดหายใจไปเช่นเดียวกับที่หัวใจของเขาก็แทบหยุดเต้นเช่นกัน  

 

 

และเขาไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มานานมากแล้ว  

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับพบว่าเธออยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสและจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ชื่อ ที่อยู่ ครอบครัวและประวัติความเป็นมาล้วนถูกซัดหายไปจากความทรงจำทั้งหมด เบาะแสเดียวที่หลงเหลืออยู่มีเพียงชื่อ โม่หัน ทนายหนุ่มจากสำนักงานกฎหมายที่ลงท้ายไว้บนใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น เขาเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมถึงดูแลค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างแต่ไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง เมื่อถูกครอบงำด้วยความสงสัย เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วออกตามหากุญแจสุดท้ายที่จะไขความลับให้กับเธอ ทว่าเมื่อตามหาตัวโม่หันจนพบ เขากลับบอกเธอว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้จักคุณ” เป็นไปได้ยังไงกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เธอต้องไขปริศนาเรื่องนี้และเรียกคืนความทรงจำทั้งหมดที่หายไปกลับมาให้ได้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset