ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 8 เธอเป็นขโมย!

เธอไม่รู้ว่าเธอทำงานอะไรก่อนจะสูญเสียความทรงจำไป อย่างไรก็ตามเธอสามารถผ่านด่านรปภ.มาได้อย่างง่ายดาย เธอเจอห้องเปลี่ยนชุดที่มีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ อยู่ข้างใน มีเสียงน้ำหยดและเสียงหัวเราะของคนลอยออกมาให้ได้ยิน ไอน้ำฟุ้งลอยไปทั่วในอากาศ กลางห้องมีม้านั่งยาวกับตู้ล็อกเกอร์ที่ตั้งขนาบอยู่ทั้งสองข้าง บนม้านั่งมีเสื้อผ้าที่กองทิ้งไว้อยู่ ดูเหมือนเจ้าของจะเพิ่งเข้าไปอาบน้ำ  

 

 

เธอก้าวเข้ามาในห้องก่อนทิ้งตัวนั่งลงบนม้านั่ง จากนั้นจึงเปิดผ้าพันแผลและตรวจดูแผล ในห้องมีกระจกบานหนึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอ เมื่อมองเข้าไปในนั้น สภาพตัวเองที่เธอเห็นก็ทำให้เธอนิ่งค้างไปในทันที  

 

 

ตอนที่ฟื้นขึ้นมาในห้องผ่าตัด เธอรู้เพียงแต่ว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ มีผ้าพันแผลหนาพันรอบหน้าท้อง แต่ภาพที่สะท้อนให้เห็นในกระจกก็ทำให้รู้ว่ายังมีบาดแผลอื่นๆ บนร่างกายอีก  

 

 

บาดแผลที่หน้าท้องปริออก ผ้าพันแผลชุ่มโชกไปด้วยเลือด บริเวณหน้าอกมีแผลลึกคล้ายโดนมีดแทงปรากฏอยู่ แผลนั้นยังคงมีเลือดคั่งอยู่เล็กน้อย แขนข้างซ้ายก็ถูกผ้าพันแผลพันอยู่เช่นกัน  

 

 

รอยเขียวฟกช้ำกระจายอยู่ทั่วร่างของเธอ นอกจากนี้ยังมีรอยแผลเล็กน้อยที่ยังหลงเหลืออยู่ด้วย เธอจ้องใบหน้าตัวเองในกระจกอย่างละเอียดและพบว่ามันช่างซีดเผือด ไร้สีสัน ดวงตาเลื่อนลอย เบ้าตาลึกโบ๋ สภาพของเธอไม่ต่างจากซากศพ  

 

 

เธอเป็นใครกันแน่ เกิดอะไรขึ้นก่อนที่เธอจะความจำเสื่อม ทำไมถึงไม่มีเบาะแสอะไรเลย  

 

 

บาดแผลบนตัวเธอมาได้อย่างไร ทำไมตลอดเวลาที่เธอรักษาตัวถึงไม่มีใครตามหาเธอเลยล่ะ  

 

 

มีคำถามที่เธอต้องการคำตอบผุดขึ้นเต็มไปหมด  

 

 

เสียงคนขยับตัวในห้องน้ำดึงเธอออกจากห้วงความคิด เสียงเท้าดังสะท้อนเป็นจังหวะ เธอเหลือบมองแล้วรีบหยิบเสื้อตัวหลวมและเสื้อคลุมที่คว้าได้ระหว่างทางมาใส่ ถือชุดคนไข้เอาไว้ก่อนรีบออกไปจากห้อง  

 

 

…  

 

 

ครั้งสุดท้ายที่โม่หันเห็นเด็กสาวคนนั้นคือเมื่อสองวันก่อน  

 

 

วันนั้นเขาออกจากสำนักงานและขับรถกลับบ้านราวๆ สี่ทุ่ม ระหว่างทางอยู่ๆ ความต้องการนิโคตินก็พุ่งเข้าจู่โจม เขาเปิดช่องเก็บของและพบว่ากล่องบุหรี่ไม่ได้อยู่ในนั้นจึงจอดรถข้างทาง หยิบกระเป๋าตังค์ก่อนเดินไปซื้อบุหรี่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้ที่สุด  

 

 

ที่บริเวณประตูซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นเอง เขาเห็นเธอยืนอยู่ตรงนั้น  

 

 

เธออยู่ในชุดที่ต่างจากตอนแรกที่เจอ แต่ยังคงซีดเซียวและอิดโรยเหมือนเมื่อสองวันก่อน ท่าทางดูอ่อนเพลียมาก ในตอนนั้นเองที่พนักงานคิดเงินกำลังตะโกนด่าใส่หน้าเธอ  

 

 

เธอไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ไม่แม้แต่จะก้มหัวขอโทษ ทำเพียงยืนเงียบๆ และพิงตัวเข้ากับโต๊ะคิดเงิน มือวางบนหน้าผาก เนื่องจากดึกมากแล้วจึงไม่มีคนอื่นอยู่ในร้านค้าสักคน พนักงานส่งเสียงดังขึ้นขณะออกแรงกระชากตัวเธอ  

 

 

โม่หันไม่รู้ว่าทำไมถึงเดินไปหาพวกเธอ ปกติแล้วเขาไม่ใช่คนที่ชอบยุ่งเรื่องของใคร แต่คืนนั้นเขากลับเดินเข้าไปหาและถามขึ้น “เกิดอะไรขึ้นครับ”  

 

 

เธอหันมา เมื่อเห็นว่าเป็นเขาก็ตกใจเล็กน้อยก่อนหันกลับไปอย่างเดิม เธอพิงตัวเข้ากับโต๊ะ มือข้างหนึ่งวางบนหน้าท้อง ดูท่าทางไม่ค่อยดีเท่าไหร่  

 

 

“เธอขโมยของไป” พนักงานพูดขึ้น  

 

 

เด็กสาวกลอกตาไปรอบๆ อย่างจนปัญญาโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา  

 

 

โม่หันมองไปที่เธอ “คุณขโมยของไปจริงๆ หรือเปล่า”  

 

 

“ฉันแค่หยิบบางอย่างแล้วถามเธอว่าขอยืมก่อนได้ไหมน่ะค่ะ แต่เธอปฏิเสธ”  

 

 

ทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น พนักงานสาวก็พูดขึ้นอย่างโมโห พร้อมชี้หน้าเธอ “แม่สาวน้อย เธอบ้าหรือเปล่า! ไม่มีเงินแล้วยังจะมาพูดแบบนี้กับฉันอีกเหรอ มาซื้อของทั้งๆ ที่ไม่มีเงินเนี่ยนะ  

 

 

“ประเด็นคือเธอยืนยันที่จะเอาของไปให้ได้ อย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่าขโมยแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ถ้าเธอยังพูดจาไม่รู้เรื่อง ฉันจะเรียกตำรวจแล้วนะ ทำตามที่ฉันบอกซะดีๆ น่า!” เธอเท้าเอวที่สะโพกอย่างหงุดหงิด  

 

 

โม่หันมองไปที่ของบนเคาน์เตอร์คิดเงิน ทั้งหมดเป็นอาหาร ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป มันฝรั่งทอด น้ำสองขวด เขาหันไปหาพนักงานสาวก่อนพูดขึ้นเหมือนคนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ “ขอบุหรี่ S กล่องหนึ่งครับ”  

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับพบว่าเธออยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสและจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ชื่อ ที่อยู่ ครอบครัวและประวัติความเป็นมาล้วนถูกซัดหายไปจากความทรงจำทั้งหมด เบาะแสเดียวที่หลงเหลืออยู่มีเพียงชื่อ โม่หัน ทนายหนุ่มจากสำนักงานกฎหมายที่ลงท้ายไว้บนใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น เขาเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมถึงดูแลค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างแต่ไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง เมื่อถูกครอบงำด้วยความสงสัย เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วออกตามหากุญแจสุดท้ายที่จะไขความลับให้กับเธอ ทว่าเมื่อตามหาตัวโม่หันจนพบ เขากลับบอกเธอว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้จักคุณ” เป็นไปได้ยังไงกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร เธอต้องไขปริศนาเรื่องนี้และเรียกคืนความทรงจำทั้งหมดที่หายไปกลับมาให้ได้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset