มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) – ตอนที่ 48 : เริ่มต้นภารกิจ

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen)

ตอนที่ 48 : เริ่มต้นภารกิจ

ตอนที่ 48 : เริ่มต้นภารกิจ

 

เวลา 19.42 นาฬิกา – ห้างสรรพสินค้าบาคัวร์ ฝั่งทางตะวันตก, โซนขายสินค้าไอที

มาร์คและเด็กสาวอีกสามคนก็ได้กลับไปยังร้านขายสินค้าที่เรห์ยาคอยดูแลลูกสาวของเธออยู่ มาร์คและพอลลาก็ได้สวมใส่เสื้อเกราะและมีเครื่องไม้เครื่องมืออาวุธที่สมบูรณ์พร้อมกับสะพายกระเป๋ากีฬาไปด้วย

 

เมื่อพวกเขาเข้าไปยังร้านขายสินค้า เบอนาร์ดและแคลวินก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน ชายทั้งสองมองมาที่กลุ่มของมาร์คด้วยท่าทางที่เข้มงวดและเดินเข้าไปหาพวกเขา จากนั้นเบอนาร์ดก็กล่าวออกมา

“ไงเด็กๆ พวกนายจะไปหายามาให้เธองั้นหรอ?”

 

“มีแค่ฉันกับพอลลา เหมยและแองเจจะอยู่ที่”

“มีแค่นายกับพอลลา? มันไม่อันตรายไปหน่อยหรอ?”

 

“ไม่นะ ก็แค่ย่องๆไปตามทางและหลีกเลี่ยงการดึงดูดพวกฝูงซอมบี้ให้ได้มากที่สุด มันง่ายมากกว่าถ้าไปกันสองคน”

 

เบอนาร์ดพยักหน้าเมื่อได้ยินที่เขาพูดออกมาจาก จากนั้นมาร์คก็กล่าวต่อ

 

“แต่อย่างไร พวกเราก็ต้องคนสักสองคนที่มาเฝ้าดูทางบันไดให้หน่อย หลังจากที่พวกเราเคลียกับพวกซอมบี้ได้แล้ว”

 

“ถ้าอย่างนั้นเฟอร์นานและเจมส์น่าจะทําให้ได้”

 

“ไม่ ฉันอยากให้เจมส์เฝ้าดูของของฉันที่ร้านนั้นไว้ เราควรเอาคนอื่นดีกว่า”

 

“ก็ได้”

“อีกอย่างหนึ่งนะ ฉันอยากให้นายสองคนช่วยอะไรหน่อย”

แคลวินเลิกคิ้วของเขาขึ้นและถามออกไป

 

“ช่วยอะไร?”

 

“เหมยและแองเจไลน์จะอยู่ที่นี่ ถ้าเป็นไปได้หากเกิดอะไรขึ้นก็ช่วยแองเจไลน์จัดการทีนะ”

แคลวินก็เลิกคิ้วขึ้นเมื่อได้ยินสิ่งที่มาร์คพูด

 

“นายหมายความว่าไง?”

“ไม่มีอะไรหรอก ก็อย่างที่ฉันบอกไปนั่นแหละ แองเจไลน์รู้แล้วว่าเธอต้องทําอะไรและนายสองคนต้องอยู่ช่วยเธอ”

 

เมื่อมาร์คไม่อยากอธิบายอะไรมากไปกว่านี้ ชายสองคนก็เลยไม่ถามอะไรอีกและพยักหน้า

 

มาร์คเดินเข้าไปหาเรห์ยาผู้ซึ่งกําลังเช็ดตัวให้กับลูกสาวของเธอ ไข้ของซาริยายังคงมีอาการสูงอยู่ และอุนหภูมิร่างกายเธอก็กําลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่เร็วเท่าในตอนแรก พวกเขาน่าจะมีเวลาพอสมควนในการลงไปชั้นล่างเพื่อหายาและวิ่งกลับมา มาร์คให้คํามั่นสัญญากับเรห์ยาอีกครั้งก่อนที่จะจากไป

เหมยและแองเจจะอยู่ที่นี่ภายในโซนขายสินค้าไอที แต่พวกเธอก็ยังคงต่อต้านยืนกรานว่าจะไปกับมาร์คและพอลลาจนกระทั่งพวกเขาเข้าไปยังทางบันไดทางฝั่งตะวันตกของห้าง เบอนาร์ดและแคลวินก็ได้เจอกับเฟอร์นานและพนักงานอีกคนที่ซึ่งคุ้นเคยกับมาร์ค นั่นคือผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้วยกันกับเจมในตอนที่ประตูโซนขาย สินค้าไอทีนั้นโดนปิดลง เห็นได้ชัดว่าเธอนั้นคือคนที่เจมส์ไปหามา ซึ่งเธอนั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับชนิดยาที่มาร์คและพอลลาจําเป็นต้องหา พวกเขาก็ได้ตามกลุ่มของมาร์คไปด้วย

เมื่อพวกเขาออกมาจากร้านขายสินค้า มาร์คก็เห็นว่าเจมส์ก็กําลังไปตามทิศทางของพวกเขาประจวบกับที่มาร์คต้องการเจอเขาพอดี เจมส์นั้นมีอุปกรณ์คล้ายกับโทรศัพท์อยู่สองเครื่องอยู่บนสองมือเขา

“บอสครับ!”

 

“นายนี่มาได้เวลาพอดี ฉันกําลังมองหานายอยู่”

“อย่างนั้นหรอครับ? อยากให้ผมเฝ้าร้านสินค้าอีกรอบใช่มั้ยครับ?”

“ถูกต้อง”

“ไม่มีปัญหาครับเจ้านาย ผมจะดูแลมันถึงขั้นชีวิตของผมเลย!”

 

มาร์คกรอกตาใส่เขา

 

“โอ้ ใช่ บอสครับ ตรงนี้”

เจมส์ยื่นอุปกรณ์ที่คล้ายโทรศัพท์ไปให้มาร์ค มาร์คและแองเจก็เบิกตาอันสุกสะกาวขึ้นหลังจากที่รับอุปกรณ์นั้นมา จริงแล้วอุปกรณ์นี้ก็คือวิทยุพกพา!

 

มาร์ครู้จักโมเดลนี้ดี มันน่าจะเป็นวิทยุพกพารุ่น Bf F8hp ยี่ห้อ Baofeng

“บอสครับ ผมคิดออกแล้วครับว่าบอสต้องการสิ่งนี้ ผมเลยเอามาจากร้านขายสินค้าที่เปิดอยู่ก่อนหน้านั้น และผมก็ได้ตั้งค่ามันแล้วครับ มันสามารถพร้อมใช้งานได้เลย แต่แบตเตอรีก็ยังชาร์จไม่เต็มนะครับ”

 

“นายรู้วิธีตั้งค่าสิ่งนี้ด้วยหรอ?”

เจมส์เกาหัวของเขา

 

“เปล่าครับบอส ผมแค่ทําตามคู่มือน่ะ”

“ยังไงก็ขอบคุณมากนะ ฉันปล่อยร้านให้นายดูแลอีกทีนะ”

 

มาร์คและสมาชิกกลุ่มของเขาก็แยกทางกับเจมส์ผู้ซึ่งต้องกลับไปเฝ้าดูที่ร้านสินค้า มันใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็ไปถึงยังประตูใหญ่สองบาน ซึ่งนําไปยังทางบันไดซึ่งใกล้กับประตูหลังของโซนเครื่องเล่นเกมส์ ตามทางพวกเขาเห็นพนักงานบางคนทําความ สะอาดทางเดินและไม้ถูพื้นที่เปื้อนเต็มไปด้วยเลือด พวกเขาก็ยังได้ทดลองวิทยุพกพาซึ่งนั่นก็ทําให้มาร์คพอใจอย่างยิ่ง

 

มาร์คได้มอบวิทยุพกพาให้แองเจไปหนึ่งเครื่องทําให้เธอยิ้มสดใสออกมา

“จําไว้นะ อย่าติดต่อพวกเราทางวิทยุหากไม่มีอะไรฉุกเฉิน”

 

มาร์คย้ําเตือนเธออย่างเข้มงวดอีกครั้ง

 

“ฉันรู้แล้วนะ! ฉันไม่อยากให้พอลลาตกอยู่ในอันตรายเพราะฉัน

หรอก!”

 

“ก็ดี เพราะใบหน้าของเธอมันแสดงออกมาว่าเธอทนเล่นไอวิทยุ นั่นไม่ไหวแล้ว”

 

“อ้ากก!”

คนอื่นๆก็ได้ยิ้มออกมาแบบขมขึ้นเมื่อเห็นแองเจและมาร์คขัดแย้งกัน

“แองเจ เธอจําหน้าที่ของเธอได้ใช่มั้ย?”

 

พอลลาแทรกขึ้นมา

“แน่นอน! ทําเหมือนว่าเธอไม่รู้จักฉันงั้นแหละ”

“งั้นก็ดี”

 

พอลลาพยักหน้า

 

“ระวังข้างล่างนั่นด้วย”

“ฉันจะพยายาม

 

เธอทั้งสองคนก็ได้กอดกัน

 

ในขณะที่เหมยนั้นก็ได้อยู่ในอ้อมกอดของมาร์ค พวกเขาไม่ได้พูดอะไรกันออกมามากมาย พวกเขาต่างรู้ว่าแต่ละคนนั้นคิดอะไรอยู่ มาร์คก็ได้ลูบไปที่ศรีษะของเหมย

 

“ฉันเพิ่งได้กอดเธออีกครั้ง เธอก็เริ่มไม่ยอมปล่อยฉันแล้ว หะ”

 

เหมยไม่ได้ตอบกลับไปและเอาศรีษะของเธอซุกอยู่ที่หน้าอกของมาร์คโดยแนบชิดกว่าเดิม ทั้งๆที่เขาใส่เสื้อเกราะอยู่

 

“พี่คะ ระวังตัวด้วยนะ”

 

“ได้เลย เธอด้วยล่ะ”

 

เหมยพยักศรีษะพร้อมกับแยกตัวออกจากมาร์คอย่างไม่เต็มใจ

 

มาร์คมองไปที่คนอื่นๆ จากนั้นเขาก็ต้องส่ายหัวพร้อมกับยิ้มอย่างขมขื่นออกมา เป็นเพราะเห็นว่าทุกคนนั้นหันหน้าหนี้เพื่อเป็นมารยาทออกไปหมด ยกเว้นแองเจ

 

“มาร์คกับเหมยควรจะมีห้องส่วนตัวนะ”

แองเจพูดหยอก…

“อะไรนะ? เธออยากเข้ามาร่วมด้วยหรอ?”

 

แองเจถูกตอบโต้กลับไปอย่างรุนแรง

“ฉันไม่ต้องการ!”

 

“อย่างไรก็เถอะ ฉันมอบหมายงานให้เธอทํา ทํามันให้ดีด้วยล่ะ”

 

มาร์คพูดกลับอย่างจริงจังและแองเจก็พยักหน้า

 

พนักงานหลายๆคนต่างก็สับสนถึงเรื่องราวที่มาร์คและแองเจคุยกัน พวกเขาเลยยืนดูอยู่เฉยๆ

 

มาร์คได้ถือมีดยาวของเขาไว้ที่มือขวาและถือหน้าไว้ที่มือซ้าย พอลลาก็ได้ถือคันธนูของเธอ เหล่าพนักงานก็ได้เอาข้าวของที่ขวางประตูออกและเปิดประตูออกอย่างช้าๆ

 

ภายใต้การถูกชําเลืองมองจากผู้คนที่อยู่ตามทางเดิน มาร์คและพอลลาก็ได้เดินไปอย่างเงียบๆผ่านประตูเข้าไป เหล่าพนักงานปิดประตูและไม่ส่งเสียงใดๆออกไป

 

หลังจากที่เขาทั้งสองคนนั้นเข้าไปยังทางเดินบันได มาร์คนั้นก็ได้ มองขึ้นมองบนไปที่ราวบันไดทันที เขาจรวจสอบว่ามีซอมบี้ซุ่มอยู่ หรือไม่และพบว่ามีหลายตัวที่ซุ่นซ่อนอยู่ที่บันไดด้านล่าง เขาเห็นว่ามีร่างกายแหลกเหลวอยู่ด้านล่างซึ่งไม่สามารถรู้ได้ว่าเพศอะไร และมีเลือดสาดกระเซ็นนองเต็มพื้นอยู่ด้านล่าง

คนนั้นจะต้องล่วงตกจากราวบันไดจนเสียชีวิต ใครจะไปรู้ว่าคนนั้นขณะที่มีชีวิตอยู่นั้นเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย

 

มาร์คสังเกตุดูซอมบี้ที่เดินโซซัดโซเซไปมาอย่างฉลาดหลักแหลม เขาเล็งหน้าไม้ของเขาไปที่มัน เขารู้ตัวว่าเขาไม่ใช่นักยิงสไนเปอร์ที่เก่งกาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากสลักเกลียวหน้าไม้และลูกศรที่อยู่สูงและได้รับผลกระทบอย่างมากจากแรงโน้มถ่วงจากระยะที่เขายืนอยู่ แต่เขายังสามารถมั่นใจได้ว่าเขานั้นเล็งได้อย่างแม่นยําในระยะนี้

 

ชุปปป!

เขาเหนี่ยวไกออกไป ลูกศรบินลงไปในแนวทแยงและเจาเข้าไปที่ด้านขวาของกระดูดข้างขม่อมของซอมบี้ ซอมบี้ตัวนั้นเอนล้มไปกับผนังและค่อยๆร่วงไปกับพื้น

เขาโหลดลูกศรใส่หน้าไม้อีกครั้งและเล็งไปที่ซอมบี้อีกตัวด้วยสมาธิที่สูงมากขึ้น ลูกศรอันที่สองแทงทะลุไปยังหน้าผากของซอมบี้อีกตัว มันได้ถลาถอยเอนทิ้งไปกับกําแพงก่อนที่จะล้มลงไป

 

จากนั้นมาร์คและพอลลาก็ค่อยๆเคลื่อนย้ายไปอยู่ข้างล่างบันไดมากขึ้นก่อนที่จะยิงซอมบี้ไปหลายตัว ถ้าหากพวกฝูงซอมบี้เข้ามาใกล้มาร์คก็จะฟันหัวของมันด้วยมีดยาวของเขา

 

มาร์คทําซ้ําแบบนั้นมากกว่าสองสามครั้ง ในขณะที่พอลลามองเขาตาใสอยู่จากข้างหลัง เธอเห็นว่าจริงแล้วมาร์คนั้นทําอะไรได้บ้าง มาร์คยิงหน้าไม้ไปที่ซอมบี้นักกัดโดยใช้เวลาสั้นๆจึงทําให้มันติดแหงกอยู่กับกําแพงก่อนที่จะล่วงล้มลงไป วิธีนี้ช่วยลดความดังเสียงของร่างกายมันที่ล้มลงไปได้มาก

มาร์คมองไปรอบๆอีกครั้งจากนั้นก็ยกแขนขึ้นและโบกไปข้างหน้าสองครั้ง พวกเขาทั้งสองคนก็เคลื่อนไปข้างหน้า และมาร์คก็ได้ ฟาดฟันซอมบี้ที่เหลือยู่ตามทางเดินไปด้วย

พอลลาตามมาร์คอยู่ข้างหลังและมองดูด้วยความอึ้งทึ่งกับฝีมือของเขา ซอมบี้ทุกตัวที่เขาใช้มีดยาวฆ่าฟันนั้นทุกตัวล้วนเป็นซอมบี้นักกระหายที่ยังเหลืออยู่ตามทางบันได

 

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์

เรื่องย่อ เป็นเช้าอีกวันที่คล้ายจะปกติธรรมดาเหมือนในทุกๆวัน แต่ใครจะรู้ล่ะ วันนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของหายนะ จุดกำเนิดเริ่มต้นของหายนะนั้นไม่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ แต่หารู้ไม่ เชื้อหายนะนั้นเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่เกิดจักรวาลแห่งนี้ แต่นั่นก็แค่เกิดขึ้นบริเวณนอกบรรยากาศของโลกเพียงเท่านั้นเอง ผู้คนและสัตว์ต่างๆกลับฆ่าฟันและกินกันเอง จากนั้นค่อยๆกลายพันธุ์เป็นสัตว์ประหลาดที่ใครๆต่างก็รู้จักชื่อนี้ดี ‘ซอมบี้’ ในขณะที่บางคนนั้นโชคดีได้รับพลังและทักษะความสามารถที่จะต่อสู้กับมัน ทุกๆชีวิตในตอนนี้ที่ไม่ได้ ‘กลายร่าง’ ก็เริ่มพัฒนาหาวิธีทำลายล้างและหยุดเรื่องราวทั้งหมดนี้ในขณะที่โลกทั้งใบนี้กำลังติดเชื้อโดยสารก่อการกลายพันธุ์บางอย่าง มาร์ค ชายผู้เป็นโอตาคุ เกมเมอร์ และไม่ชอบออกไปสู่โลกภายนอก กลับติดแหงกอยู่ใจกลางแห่งความหายนะซึ่งดูเหนือธรรมชาติ การใช้ความคิด ความรู้ และความสามารถที่ไม่เหมือนใครและไม่เป็นไปตามแบบแผนของสังคมของเขานั้น จะทำให้เขามีชีวิตรอดไปอีกนานแค่ไหนกับหายนะที่เต็มไปด้วยสัตว์ประหลาดซอมบี้ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ และผู้คนชั่วร้ายสารเลวในฐานะผู้ที่ยังรอดชีวิตอยู่ในประเทศบ้านเมืองที่มีประชากรล้นเหลือแบบนี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset